Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: ใครมีประสบการณ์ กีต้าร์ top solid หรือ all solid ที่ทนสภาพอากาศชื้นเมืองไทยได้ดี  (อ่าน 1536 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Orpheus

  • member
  • ***
  • กระทู้: 98
หน้าฝนเห็นกีต้าร์หลายรุ่นเอาไปซ่อม bridge ยกหรือหลุดกันเยอะ หรือปัญหาท้องป่อง

ส่วน ผมมี K-Yairi Ny-0021 มือแรกสิบกว่าปีแล้ว
เสียงก็งั้นๆ ไม่ได้ถูกใจอะไร (คิดว่า คงเล่นๆไปเสียงจะดีขึ้น )
และมีความอยากได้กีต้าร์ตัวเล็ก หัวแบบ slot
 
ราคาถือว่าไม่ถูกเลย แต่ไม่เมีเคสให้
ซื้อมาก็เลยวางบน stand อย่างเดียว
ไม่เคยใส่กล่องหรือ soft case ใดๆทั้งสิ้น
อากาศชื้นๆหน้าฝนแบบนี้ คอยังตรงดี องศาคอไม่ยก
ท้องมองดูก็เหมือนไม่ป่อง หรือป่องก็คงน้อยมาก
โดยบริจด์นี่กระดาษบางๆ มิสามารถสอดใส่ รุกล้ำได้เลยสักมุม
วัด action สายหก ได้ 2.7 ซึ่งโอเคสำหรับผม เล่นได้สบาย
ถือว่าทนทานดีมากครับ ยกนิ้วให้เลย
หน้าฝนอยากเล่นก็เล่น ไม่ต้องเก็บถนอมในกล่องเหมือนบางยี่ห้อ ต้องใส่ตัวดูดความชื้นวุ่นวาย

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,162
K. Yairi เขายอมเสียเวลา เสียเงินและเสียพื้นที่โรงงานเพื่อตากแห้งไม้เป็นเวลา 5 ปีก่อนจะเอามาทำกีตาร์ซึ่งไม่มีใครทำ (ยกเว้น Asturias)  แถมยังเก็บกีตาร์ที่สร้างเสร็จแล้วใว้อีก 3 เดือนและเปิดเพลงคลาสสิคให้ฟังก่อนจะเอาออกมาขาย เรื่อง dimensional stability หรือความทนคงไม่มียี่ห้อไหนสู้ใด้หรอกครับ




หมายเหตุ: เพิ่งเช็คในเว็บล่าสุดว่าเขาเลิกเปิดเพลงให้กีตาร์ฟังแล้ว คงจะต้องการลดต้นทุน

Orpheus

  • member
  • ***
  • กระทู้: 98
ขั้นตอนผลิต พิถีพิถันขนาดนี้
ทำให้อยากลอง all solid อีกสักตัวเลยครับ 8)
รู้สึกราคาเทียบกับสิบปีที่แล้ว ยังไม่ขึ้นมากเหมือนกีต้าร์เมกันด้วย

Pppp

  • member
  • ***
  • กระทู้: 28
มีครอบครองอยู่ 2 ตัว เสียงดี และ คุณภาพตามที่แจ้งครับ
เสียงดี สวย ทน

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,162

"รู้สึกราคาเทียบกับสิบปีที่แล้ว ยังไม่ขึ้นมากเหมือนกีต้าร์เมกันด้วย"

กีตาร์ "Made in The USA" ราคาแพงขึ้นอย่างโหดในระยะสิบปีที่ผ่านมาเป็นเรื่องจริงเพราะมันเป็นนโยบายทางการตลาดที่ชาญฉลาดครับ

เมื่อ 50 ปีก่อน สินค้าอเมริกันเป็นสินค้าที่คุณภาพดีที่สุดในโลกซะเป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่นพวกเครื่องเสียงในยุคต้น '70s นี่ทุกคนเสาะหาแอมป์และลำโพงที่ผลิตในอเมริกากันทั้งนั้น

1972 Most Popular Receivers and Speakers




หลังจากยุคนั้นผู้ผลิตจากเอเขียและยุโรปก็เริ่มไล่ตามทันและแซงหน้าไปแทบทุกรายการจนเหลือสินค้าอยู่ไม่กี่อย่างที่อเมริกายังเป็นผู้นำอยู่ในยุค 2000 คือเครื่องบินและกีตาร์แต่ยอดขายเครื่องบินพานิชย์ก็โดนยุโรปแซงไปเรียบร้อยแล้วหลังจาก Boeing 737 MAX ถูกห้ามบินในปี 2019 และตามมาด้วยสถานการณ์โควิดในปี 2020



ตั้งแต่ยุค 2000 เป็นต้นมากีตาร์จากเอเชียก็คุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆและราคาก็ถูกลงทำให้มีคนซื้อกีตาร์มากขึ้นทุกปีซึ่งดูใด้จากยอดขายกีตาร์ในอเมริกาจากปี 2005-2021 (มีสะดุดอยู่ปี 2009 เพราะ subprime crisis)




เมื่อสิบปีที่แล้วกีตาร์เอเชียเข้ามายึดครองตลาดล่างและตลาดกลาง Gibson เป็นเจ้าแรกที่เล็งเห็นว่ากีตาร์อเมริกันสู้เรื่องราคาไม่ใด้แน่นอน (Gibson ไม่มีโรงงานนอกอเมริกา) ก็เลยแก้ปัญหาด้วยการขึ้นราคากีตาร์ Gibson 27% ในปี 2012 โดยมีเหตุผลดังนี้

1. ตอนนั้น Gibson มีกีตาร์ค้างสต็อคเยอะมาก การประกาศขึ้นราคาทำให้คนแย่งกันซื้อกีตาร์เก่าในสต็อคจนหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว

2. การขึ้นราคาอาจทำให้ยอดขายน้อยลงแต่กำไรยังเท่าเดิมหรือมากขึ้นและทำให้กีตาร์ Gibson ถูกมองว่าเป็นสินค้าไฮเอ็นด์ระดับสะสมในอนาคต

อีกสองเดือนต่อมา Fender ก็ประกาศขึ้นราคา 27% เหมือนกันสำหรับกีตาร์  made in USA ทั้งๆที่เขาไม่มีกีตาร์ค้างสต็อค ในปีต่อๆมากีตาร์อเมริกันเกือบทุกยี่ห้อก็ขึ้นราคากันหมดเพราะฐานลูกค้ากว้างขึ้นเมื่อคนที่ไปซื้อกีตาร์เอเชียมาหัดเล่นอยากอัพเกรดมาเล่นกีตาร์อเมริกัน

ในปี 2020 สถานการณ์โควิดทำให้คนอยู่บ้านและมีเงินเหลือมากขึ้น กีตาร์เลยขายดีมากแต่ยอดขายไม่ใด้พุ่งเพราะโรงงานในอเมริกาผลิตไม่ทันเลยมีผลให้ราคากีตาร์อเมริกันมือสองราคาสูงขึ้นเกิน 25%

กีตาร์ญี่ปุ่นนั้นราคาไม่ขยับเร็วก็เพราะ demand ยังไม่เคยสูงกว่า supply ในเวลาสิบปีที่ผ่านมา เหตุผลน่าจะเป็นเพราะเรื่องการตลาดมากกว่าเรื่องเสียงและคุณภาพครับ


Tonies

  • member
  • ***
  • กระทู้: 205
เมื่อปีที่แล้วผมปล่อย Gibson ไปตัวนึง..

ตอนนี้เห็นราคาที่เค้าขายกันแล้ว ตาโต! เลยทีเดียว.. :o

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,162
ราคามือสองกีตาร์อเมริกันขึ้นแบบไม่มีใครคาดเดาใด้เนื่องจากสถานการณ์โควิด ผมจะลองยกตัวอย่างรุ่นยอดนิยมอย่าง Martin HD-28 ซึ่งสามารถเช็คราคาขายจริงใด้ใน Reverb (สำหรับสมาชิกเท่านั้น) ลองดูตัวอย่างราคา 4 ปีจาก 2019-2022 ครับ



ราคามือสองกีตาร์ Martin USA กระโดดขึ้นอย่างแรงถึง 37.9% ในช่วงกลางปี 2020 ที่โดวิดระบาดหนักและโรงงาน Martin ต้องปิดไปหลายเดือนทำให้ไม่มีกีตาร์ใหม่ขาย ในปีต่อมาเมื่อโรงงานผลิตใด้เต็มที่ราคามือสองก็ลดลงแต่ก็ยังสูงกว่าปี 2019 เกือบ 30% อยู่ดี

โรงงาน Gibson อยู่บ้านนอกที่โดวิดไม่ระบาดรุนแรงก็เลยไม่ต้องหยุดการผลิตแต่ความต้องการที่มากขึ้นก็ทำให้รุ่นยอดนิยมอย่าง J-45 ราคามือสองขึ้นไป 27% เหมือนกัน




ผมคิดว่าตอนนี้ในเมืองไทยมีคนหาซื้อกีตาร์อเมริกันเยอะกว่าสมัยก่อนโควิดหลายเท่าตัวแต่กีตาร์ญี่ปุ่นราคายังไม่เปลี่ยนแปลงเพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีพ่อค้าขนใส่ตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาขายกันจนล้นตลาด ผมว่าต้องรออีกปีสองปีราคาถึงจะขึ้นเพราะตลาดบ้านเรามันเล็กมากครับ

Orpheus

  • member
  • ***
  • กระทู้: 98
ตัวทอปๆ ผลิต USA รุ่นมีชื่อของแต่ค่าย แพงแต่คุ้ม ได้คุณภาพเสียงที่เยี่ยม ฟิลลิ่งการเล่นดี รื่นรมย์ตลอดการใช้งาน
น่าเสียดายผมไม่สนใจซื้อเก็บไว้ พวกนี้ราคาดีมากครับ
ยิ่งซื้อทีหลัง ยิ่งแพง นี่มีภาวะเงินเฟ้ออีก ก็ทยอยปรับขึ้นได้เรื่อยๆ
ดีกว่าไปซื้อเริ่มต้นหรือรุ่นกลางๆ ที่มีคุ๋แข่งผลิตจีน ราคาจะไม่ค่อยขึ้นเท่าไรนัก

lovie479

  • member
  • ***
  • กระทู้: 81
ผมมีกีต้าร์ all solid ของ Alhambra ตัวนึง เป็นปีเก่าที่ bridge ทำทรงเลียนแบบ Lowden ซึ่งโรงงานเค้าใช้น๊อต 2 ตัวยึดระหว่าง bridge กับ bridge plate ความเพี้ยนและความสูงของสายเปลี่ยนแปลงน้อยมากๆแม้ไม่ได้เก็บใส่กล่อง คอต่อแบบ Spanish heel ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพอเอามาทำกีต้าร์สายเหล็กแล้วจะทนกว่า dovetail รึปล่าว แต่ตั้งแต่อยู่กันมาก็ไม่ต้องดูแลอะไรเลย

อีกยี่ห้อที่น่าจะทนอากาศชื้นคือ Breedlove รุ่นที่มี JLD Bridge System ผมยกให้ญาติไปซึ่งเค้าก็ไม่ได้ดูแลดีเท่าไหร่ เจอแค่มีฝ้าขึ้น แต่อย่างอื่นก็ปกติดี

ถ้าจะให้ผมซื้อ all solid แพงๆโดยหวังจะให้ทนอากาศบ้านเราผมคงดูยี่ห้อที่ made in UK เพราะไม่ว่าจะฤดูไหนบ้านเค้าก็ฝนตกตลอด เดาว่าก็น่าจะทนอากาศแบบบ้านเราได้เหมือนกัน ส่วน spec ถ้าไม่ใช่ Swiss moon spruce ก็ขอ torrefied spruce น่าจะช่วยให้ทนสภาพอากาศได้อีกหน่อย

Orpheus

  • member
  • ***
  • กระทู้: 98
ผมมีกีต้าร์ all solid ของ Alhambra ตัวนึง เป็นปีเก่าที่ bridge ทำทรงเลียนแบบ Lowden ซึ่งโรงงานเค้าใช้น๊อต 2 ตัวยึดระหว่าง bridge กับ bridge plate ความเพี้ยนและความสูงของสายเปลี่ยนแปลงน้อยมากๆแม้ไม่ได้เก็บใส่กล่อง คอต่อแบบ Spanish heel ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพอเอามาทำกีต้าร์สายเหล็กแล้วจะทนกว่า dovetail รึปล่าว แต่ตั้งแต่อยู่กันมาก็ไม่ต้องดูแลอะไรเลย

อีกยี่ห้อที่น่าจะทนอากาศชื้นคือ Breedlove รุ่นที่มี JLD Bridge System ผมยกให้ญาติไปซึ่งเค้าก็ไม่ได้ดูแลดีเท่าไหร่ เจอแค่มีฝ้าขึ้น แต่อย่างอื่นก็ปกติดี

ถ้าจะให้ผมซื้อ all solid แพงๆโดยหวังจะให้ทนอากาศบ้านเราผมคงดูยี่ห้อที่ made in UK เพราะไม่ว่าจะฤดูไหนบ้านเค้าก็ฝนตกตลอด เดาว่าก็น่าจะทนอากาศแบบบ้านเราได้เหมือนกัน ส่วน spec ถ้าไม่ใช่ Swiss moon spruce ก็ขอ terrified spruce น่าจะช่วยให้ทนสภาพอากาศได้อีกหน่อย
น่าสนใจทีเดียวครับ ขอบคุณครับ
สมัยผมซื้อกีต้าร์คลาสสิค ชอบเสียง alhambra มาก แต่ไปซื้อ yamaha เพราะเข้าใจว่าทนชื่นสู้ไม่ได้ซะอีก เฮ้อ

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,162

ถ้าจะให้ผมซื้อ all solid แพงๆโดยหวังจะให้ทนอากาศบ้านเราผมคงดูยี่ห้อที่ made in UK เพราะไม่ว่าจะฤดูไหนบ้านเค้าก็ฝนตกตลอด เดาว่าก็น่าจะทนอากาศแบบบ้านเราได้เหมือนกัน ส่วน spec ถ้าไม่ใช่ Swiss moon spruce ก็ขอ terrified spruce น่าจะช่วยให้ทนสภาพอากาศได้อีกหน่อย

ผมเคยทำงานบ.ร่วมทุน ไทย+UK อยู่หลายปีเลยมีโอกาสใด้ลองกีตาร์ made in UK เกือบทุกยี่ห้อ เท่าที่ชอบมีอยู่สี่โรงงานครับ







1. Lowden ผลิตมาตั้งแต่ปี 1978

<a href="http://youtu.be/z-Ei5eGHU6Y" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/z-Ei5eGHU6Y</a>


2. ซื้อลิขสิทธิ์มาจาก George Lowden และเริ่มผลิตทั้ง Lowden และ Avalon มาตั้งแต่ปี 2002

<a href="http://youtu.be/-hF3h7xuvyg" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/-hF3h7xuvyg</a>


3. Patrick James Eggle ผลิตกีตาร์ให้ศิลปินดังๆหลายคนอย่าง Albert Lee และ Rory Gallagher กีตาร์โปร่งของเขาผลิตแค่ปีละ ประมาณ 30 ตัว

<a href="http://youtu.be/dLztuKjc8Yw" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/dLztuKjc8Yw</a>


4. S brothers ผลิตกีตาร์ carbon fiber อย่างเดียว

<a href="http://youtu.be/mLSj-DrLtbs" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/mLSj-DrLtbs</a>


เรื่องความทนทานนั้นผมเจอปัญหาอยู่ตัวเดียวคือ Patrick James Eggle ที่เจอ split center seam เพราะเก็บใว้ห้องแอร์ที่ความชื้นอาจต่ำเกินไป ตัวที่ทนแน่ๆทุกสภาพอากาศคือตัว carbon fiber ครับ

Orpheus

  • member
  • ***
  • กระทู้: 98
S brother เสียงดีมากครับ ดีกว่าคาร์บอนจีน คนละเรื่องเลย
แต่ราคาเป็นแสนเหรอเปล่าครับ 555

กีต้าร์หน้าฝน ผมไปลอง HPL Johnny Cash เสียงใช้ได้เลย ถูกกว่าคาร์บอนหลายขุม
https://www.youtube.com/watch?v=Q6uF1uB5Egw

กีต้าร์ blue lava HPL กล้าบอกว่า ทนชื้น 10-90%
แต่ของ Martin ไม่ระบุอะไรเลยแหะ

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,162
HPL = High Pressure Laminate ของ Martin ทำจากผงไม้ผสม resin บีบอัดโดยใช้ความดันสูง HPL ไมีปฏิกริยากับความชื้นและทนความร้อนใด้ถึง 180 องศา C แต่มันเปราะกว่า carbon fiber เยอะจึงไม่ควรทำหล่นครับ

ตอนที่ Martin เริ่มขายกีตาร์ HPL ในปี 2000 ผมไปอเมริกาพอดี พอใด้ลองเสียงก็หิ้วกลับมาเลย รุ่นนี้ผลิตอยู่ล็อตเดียวครับ

<a href="http://youtu.be/1h61sAZRBAY" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/1h61sAZRBAY</a>


กีตาร์ Martin HPL เสียงเบากว่ากีตาร์ carbon fiber พอสมควรครับ