Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: สอบถาม Yamaha L-Series  (อ่าน 984 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Liverpool28

  • member
  • ***
  • กระทู้: 57
สอบถาม Yamaha L-Series
« เมื่อ: มิถุนายน 01, 2022, 09:19:12 »
พอดีได้ดูคลิป เปิดกรุกีตาร์ของพลวงแคลช แล้วสะดุดหูกับ Yamaha LL10D ปีเก่า ในคลิปบอกไว้ไม้หลังเป็นบาซิลเลี่ยนโร้สวู้ด
อยากรู้ว่าปัจจุบัน Yamaha L-Series ถ้าหาซื้อมาสองมาเล่นจะคุ้มมั้ย ทั้งเรื่องเสียง+คุณภาพ = ราคามือสอง
ปัจจุบันตอนนี้ผมใช้ Yamaha FS820

TOM1869

  • member
  • ***
  • กระทู้: 19,247
Re: สอบถาม Yamaha L-Series
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 01, 2022, 13:51:22 »
ัyamaha L ซีรีย์ จัดเป็น กีต้าร์ สะสมไป แล้ว สภาพดีๆ ก็หายาก หาเจอตัวที่สภาพ ดี ควร
ซื้อไว้ครับ
Line id: 081-8718003

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,166
Re: สอบถาม Yamaha L-Series
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2022, 17:25:45 »
ดูคลิปแล้วก็เลยใด้ความรู้ใหม่ว่าคนเล่นกีตาร์โปร่งยุคนี้มีประสพการณ์กับกีตาร์โปร่ง Yamaha รุ่นสูงๆน้อยมาก ผมเองสมัยก่อนก็ไม่เคยคิดว่ากีตาร์ญี่ปุ่นจะเสียงดีเท่ากีตาร์อเมริกันใด้จนเมื่อยี่สิบปีก่อนใด้รู้จักกับนักสะสมกีตาร์ Yamaha ท่านหนึ่งและใด้มีโอกาสลองรุ่นแพงๆหลายตัวถึงใด้รู้ว่าเสียงเขาไม่ใด้เป็นรองกีตาร์โรงงานใหญ่ของอเมริกาและงานยังปราณีตกว่าด้วย ตั้งแต่นั้นมาผมก็เลยศึกษาหาข้อมูลของกีตาร์ญี่ปุ่นและเสาะหามาสะสมจากแหล่งต้นตอเท่าที่จะหาใด้

Yamaha รุ่นสูงซีรี่ย์แรกก็คือ L-Series ที่ผลิตขายทั่วโลกในปี 1975 ซีรี่ย์นี้ใด้แรงบันดาลใจมาจาก Martin ทรง D ที่ฮิตสุดๆในญี่ปุ่นตอนนั้น ตอนนี้ตั้งแต่รุ่น L-10 ขึ้นไปราคามือสองสูงมากและหาสภาพสวยๆในตลาดยากแล้วครับ




Yamaha เรียกทรงนี้ว่าทรง Western มีขนาด lower bout 15 5/8" เท่า Martin ทรง D เป๊ะ เรื่องราวของ L-Series อ่านใด้ในกระทู้นี้ครับ

http://acousticthai.net/webboard/index.php?topic=60918.0

ในยุค '80s กีตาร์ทรง slope shoulder อย่าง Ovation เริ่มใด้รับความนิยมมากกว่าทรง square shoulder ของ Martin ในปี 1985 Yamaha จึงออก LL-Series ที่เป็นทรง slope shoulder มี lower bout กว้าง 16 5/16" และตั้งชื่อว่าทรง Jumbo ออกมาขาย ส่วนทรง L นั้นเหลือแค่รุ่น L-10S และ T ที่ผลิตเป็นปีสุดท้าย รุ่น LL-10D ก็เกิดปีนี้ครับ





ส่วนเรื่องเสียงนั้นลองเทียบระหว่าง L-10 กับ LL-23J (ที่สเป็คเดียวกับ LL-10D แต่ราคาสูงกว่า) ผมว่า LL เสียงอลังการกว่าเพราะตัวใหญ่กว่าแต่ L เสียงบาลานซ์กว่า

<a href="http://youtu.be/GnsruXlmZ_Y" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/GnsruXlmZ_Y</a>


<a href="http://youtu.be/yUjWO9ISqmo" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/yUjWO9ISqmo</a>


LL-10D ขายราคาเท่ากับ L-10 คือ 100,000 เยน สเป็คก็เหมือนกันคือไม้หน้าใช้ solid ezo spruce ไม้ข้างและไม้หลังเป็น solid indian rosewood

เหตุผลที่มีคนคิดว่าไม้เป็น brazilian rosewood ก็เพราะตั้งแต่ปี 1985 Yamaha เริ่มใช้ส่วนผสม tint ใสสี natural แทน tint สีเข้มที่ตามปกติเขาใช้กับ rosewood เพราะโดยธรรมชาตินั้นไม้ rosewood เกรดต่ำ shade ของสีจะไม่เหมือนกันทั้งแผ่นจึงต้องใช้ tint สีเข้มเพื่อปิดรอยด่าง ลองดูไม้หลังของ LL-10D เทียบกับ LL-23J ที่เป็น indian rosewood เหมือนกันครับ




ไม้ข้าง



Liverpool28

  • member
  • ***
  • กระทู้: 57
Re: สอบถาม Yamaha L-Series
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2022, 12:09:18 »
ขอบคุณ สำหรับคำตอบของทั้ง2ท่านมากนะครับ ปกติผมไม่ค่อยสนใจ Yamaha เลย เนื่องจากวัยเด็กผมคุ้นเคยกับแค่ F210 F310 ผมว่า เสียงมันงั้นๆ เลยไม่ได้สนใจยี่ห้อนี้ เพราะราคาพอๆกันยี่ห้ออื่นดีกว่า จนได้ลองจับ FS820 ก็เปิดโลกทันที มันดีจริงๆ ยิ่งได้ฟังเสียง LL10D ยิ่งชอบ ยิ่งทำให้รู้จักกับ Yamaha มากขึ้น