เรื่องที่คุณถามเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมานานมาก ตัวอย่างเช่น
1.คนส่วนใหญ่ (รวมทั้งผมด้วย) สามารถฟังความแตกต่างของไม้ laminated back and side ต่างชนิดของกีตาร์ K. Yairi ออกแต่ไม่มีใครทราบเหตุผลเพราะทางบริษัทเขาไม่เปิดเผยข้อมูลเลย
2. เจ้าของบริษัท Taylor และนายช่างใหญ่ของ Martin ยืนยันว่าไม้ veneer ที่ปะหน้าหลังนั้นไม่มีผลต่อเสียงกีตาร์แน่นอนแต่ก็ยังมีหลายคนยืนยันว่าเสียงของไม้ veneer ต่างชนิดนั้นต่างกันแบบหลับตาฟังออก
ผมเองก็ตอบคำถามเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วแต่ครั้งนี้จะขอสรุปตามเหตุผลดังต่อไปนี้
1. การทำ veneer เองของโรงงานเล็กๆอย่าง K. Yairi นั้นเขาไม่มีอุปกรณ์พิเศษอะไรเลย เขามีแค่ band saw ธรรมดาที่ใช้ในการเลื่อยซึ่งค่อนข้างจะเปลืองไม้เพราะส่วนหนึ่งจะกลายเป็นขี้เลื่อย ถ้าเอาไม้ solid หนา 3 มม. มาเลื่อยเป็น veneer หนา 0.5 มม. ก็จะใด้แค่ 4 แผ่นหรือ 2/3 ส่วนอีก 1/3 นั้นกลายเป็นขี้เลื่อย
ในคลิปข้างล่างเขาแสดงวิธีเลื่อย veneer ให้บางเพียง 0.015" (0.38 มม.) แต่เสียไม้เป็นขี่เลื่อยไปประมาณ 0.010" คลิปนี้ดูสามนาทีแรกพอครับ
การเลื่อยแบบนี้ทำเองใด้ในโรงงานและทำให้สามารถ match ลายของไม้ข้าง laminated กับไม้หลัง solid ที่ Takamine ชอบใช้ใด้แต่สิ้นเปลืองทั้งวัสดุและแรงงานมากครับ
2. ส่วนการทำ veneer ของโรงงานใหญ่อย่าง Martin หรือ Taylor นั้นเขาไม่ทำเองแต่ซื้อจาก supplier ที่ใช้เครื่องปอกไม้อัตโนมัติ การปอกด้วยใบมีดนั้นสามารถปอกใด้บางถึง 0.25 มม.และไม่มีขี่เลื่อยเลย เครื่องปอกนั้นแบ่งใด้เป็น 3 ประเภทแต่สำหรับกีตาร์จะเป็นแบบ quarter slicing ครับ
เชิญชมความเร็วของเครื่องปอก
โรงงาน Taylor Mexico ใช้ veneer สำเร็จรูปจาก supplier (รูปสามรูปล่างผมดึงมาจากคลิป
https://www.youtube.com/watch?v=W7NFz_yY8qk)
เอามาอัดขึ้นรูปเป็นไม้หลังโดยใช้ไส้กลางไม้ poplar
ไม้หลังของ GS Mini ที่อัดขึ้นรูปแล้วหนากว่า 3 มม. (ไม้ข้างจะบางกว่าเยอะ)เพราะเขาดัดโค้งขึ้นรูปโดยไม่ต้องใช้ bracing ช่วยเลย
เมื่อเปรียบเทียบรูปหน้าตัดของไม้ข้างลามีเนตของ Martin, Taylor และ K. Yairi แล้วจะเห็นใด้ว่าไม้ veneer ของ K. Yairi ซึ่งเขาเลื่อยเองหนากว่าของ USA ที่ใช้วิธีปอกเกือบสองเท่าซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลที่กีตาร์ลามีเนตของยี่ห้อนี้ยังมีลักษณะเสียงของไม้ solid อยู่บ้างครับ