หัวข้อ: สอบถามเรื่องกีตาร์ Gibson ครับ

[Evie]

มีคำถามหลายข้อเลยครับอยากขอความเมตตาจากน้าช่วยไขข้อสงสัยครับ ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบครับผม
คำถามมีดังนี้ครับ ถามเกี่ยวกับรุ่น Standard ครับ

-Gibson J45 custom shop (ป้ายสีส้ม) เสียงดีกว่ารุ่น Standard ใช่มั้ยครับ
-J45 ปีเก่าๆ ถือว่าดีกว่าปีใหม่ๆมั้ยครับ. ยุค ค.ศ. ไหนถึงเรียกว่าเก่าแล้วครับ
-ถ้าให้เลือก std. ควรซื้อปีผลิตปีไหนดีครับ
- รุ่น True vintage มีอะไรพิเศษบ้างครับคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเพิ่มจากรุ่น STD มั้ยครับ
-ระหว่าง J45 กับ J185 น้าๆชอบอันไหนครับ แล้วอันไหนที่น้าๆชอบครับ
-ถ้าให้เลือก ปี 2004.หรือเก่ากว่านี้ กับ ปี 2013 ขึ้นไปตัวไหนดีครับ
-J45 ที่เคยเล่นเป็นรุ่น STD รู้สึกว่าฟิงเกอร์ เสียงสายล่างค่อนข้างเบาๆครับ มีรุ่นไหนของJ45 ที่เพิ่มเสียงกลางแหลมที่มากกว่ารุ่น STD มั๊ยครับ

ขอบคุณครับ ขอบคุณพื้นที่ครับ

[กฤษณ์]

ขอเวลารวบรวมข้อมูลแป้ปนึง เดี๋ยวคืนนี้มาตอบครับ

[society2]

ขอเวลารวบรวมข้อมูลแป้ปนึง เดี๋ยวคืนนี้มาตอบครับ

มารออ่านแล้วครับ น้ากฤษณ์ ^^

[Evie]

ขอเวลารวบรวมข้อมูลแป้ปนึง เดี๋ยวคืนนี้มาตอบครับ

ปูเสื่อรอเลยครับน้า ขอบคุณมากๆครับ

[Treerat004]

ขอเวลารวบรวมข้อมูลแป้ปนึง เดี๋ยวคืนนี้มาตอบครับ

ปูเสื่อรอน้ากฤษณ์เลยครับ อยากให้มีการรวบรวมการตอบคำถามให้ความรู้ของน้ากฤษณ์ไว้ซักที่นึง ได้ความรู้+เพลินดีครับ

[Artragorn]

รอด้วยคนครับ

[กฤษณ์]

Gibson J-45 "the Workhorse"

J-45 เป็น Gibson โปร่งรุ่นเดียวที่มีการผลิตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1942 จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นก่อนที่ก่อนที่จะพูดถึงแต่ละรุ่นที่เจ้าของกระทู้ถามมาผมขอเล่าความเป็นมาและการเปลี่ยนแปลงสเป็คของ J-45 ในแต่ละยุคให้ฟังก่อนครับ

ฉายา "The Workhorse" นั้นสำหรับคนอเมริกันเขาหมายถึง "ม้ากรรมกร" ที่เอามาใช้งานลากจูงและพรวนดินเพราะฝรั่งเขาไม่ใช้วัวควายเหมือนคนไทย ม้าประเภทนี้เป็นม้าที่ทนถึกแต่หน้าตาไม่ใด้สวยงามหรื่อวิ่งเร็ว ถ้าเป็นกีตาร์ก็คือกีตาร์ที่สู้งานทั้งหนักและเบาแบบเต็มที่แต่หน้าตาไม่ใด้สวยงามและเสียงก็ไม่ใด้นุ่มนวลชวนฝันเหมือนรุ่นแพงๆอย่าง Gibson J-200 หรือ Martin D-45




หลังจากอเมริกาเข้าร่วมสงครามอย่างเต็มตัวเพราะโดนถล่มที่ Pearl Harbor ในเดือนธันวาคม 1941 Gibson ก็เลยออกรุ่น J-45 ที่มีราคาขายเพียง $45 มาแข่งกับ Martin ทรง D ซึ่งในปีนั้นรุ่น D-18 ราคา $80 ในตอนนั้นช่างทำกีตาร์โดนเกณท์ไปทำยานพาหนะที่ใช้ในสงครามจนหมดโรงงาน Gibson เลยต้องจ้างผู้หญิงมาทำงานแทนที่โรงงานในเมือง Kalamazoo




ผลงานของสาวๆในยุคนั้นก็ค่อนข้างเรียบง่าย Top bracing ยัง scallop ด้วยมือแต่งานไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่นัก




ในช่วงสงครามนั้นไม้ค่อนข้างหายากโดยเฉพาะไม้ spruce สวยๆก็โดนเอาไปทำชิ้นส่วนเครื่องบินหมด J-45 จึงมีแต่สี sunburst เท่านั้นเพราะสีเข้มๆจะปกปิดตำหนิของไม้ใด้ดีกว่า




เมื่อสงครามสิ้นสุดลงในปี 1945 และไม้สวยสามารถหาใด้ Gibson จึงออกรุ่น J-50 ในราคา $50 (แพงกว่า J-45 ห้าเหรียญ) ซึ่งต่างกับ J-45 แค่สีของไม้หน้าเท่านั้น J-50 ใด้รับความนิยมในอเมริกาและกลายเป็นกีตาร์ที่ศิลปินใช้กันหลายคนแต่กลับไม่ใด้รับความนิยมในบ้านเราครับ




เล่ามาตั้งนานเพิ่งถึงปี 1945 เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าต่อ ตอนนี้ลองฟังเสียงห้าวๆดิบๆของ J-50 ยุค '70s ไปก่อนจะใด้รู้ว่า "ความดิบ = ความมัน" ใครที่กำลังมองหากีตาร์เสียงหวานๆเพราะๆใว้เกาเล่นก็ผ่านกระทู้นี้ไปใด้เลยครับ

<a href="http://youtu.be/UeHD2pY_cR4" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/UeHD2pY_cR4</a>

ถ้าเอา J-50 หรือ J-45 มาเล่นเพลงช้าๆก็ใด้เสียงแบบนี้ครับ

<a href="http://youtu.be/JOIo4lEpsPY" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/JOIo4lEpsPY</a>

[Evie]

ขอบคุณครับน้ากฤษ รอติดตามตอนต่อไปครับ

[กฤษณ์]

การเปลี่ยนแปลงของ Gibson J-45 ตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันด้านโครงสร้าง

1942-1954 Scalloped X Bracing ตามรูปที่ลงใว้ข้างบน

1955-1964 เลิกทำ scallop ทำให้กีตาร์แข็งแรงขึ้นและเสียค่าแรงน้อยลงด้วย




1965-1969 ใช้ bridge plate ใหญ่ขึ้นทำให้เสียงเบาลงแต่ท้องป่องยากขึ้นด้วย




1962-1969 ใช้ bridge แบบปรับความสูงของ saddle ใด้




1970-1983 ยุคสุดท้ายของโรงงาน Kalamazoo ยุคนี้มีการเปลี่ยนโครงสร้างใหม่หมดโดยใช้แบบ double-X bracing กีตาร์ยุคนี้ทนทานยังกับรถถังแต่เสียงเบากว่ายุคอื่นเพราะเขาสร้างแบบที่ไม่ต้องการให้ลูกค้ามีปัญหาเรื่องโครงสร้าง (จะใด้ไม่ต้องมาเสียเวลาซ่อมฟรี)




1984-1989 (Nashville plant) 1990-1996 (Bozeman plant) หลังจากปิดโรงงาน Kalamazoo Gibson ก็ย้ายมาผลิตกีตาร์โปร่งแบบเสียไม่ใด้ที่โรงงานเดียวกับกีตาร์ไฟฟ้าที่เมือง Nashville, Tennessee โรงงานนี้ช่างไม่ค่อยมีประสพการณ์ในการผลิตกีตาร์โปร่งเขาก็เลยกลับไปใช้ X-bracing แบบง่ายๆแทน เมื่อเปิดโรงงานใหม่ที่ Bozeman, Montana โดยมี Ren Ferguson เป็นคนดูแลและเขาก็ไม่ใด้เปลี่ยนโครงสร้างในช่วงแรกๆที่เข้ามารับงาน




ในปี 1997 Ren Ferguson ก็เอา J-45 มาออกแบบใหม่โดยเปลี่ยนไปใช้ scalloped X-bracing อีกครั้งซึ่งก็ใช้มาถึงทุกวันนี้ครับ




การเปลี่ยนแปลงหน้าตาของ J-45

ในยุค '60s นั้นกีตาร์โปร่งทั้ง Gibson และ Martin ขายดิบขายดีจนผลิตไม่ทัน ปัญหาใหญ่สุดของทั้งสองยี่ห้อก็คือเรื่องการเคลมประกันที่ช่างต้องมาเสียเวลาซ่อมกีตาร์เก่าให้ลูกค้าแทนที่จะเอาเวลาไปทำกีตาร์ขาย Gibson ก็เลยต้องสร้างกีตาร์ให้แข็งแรงขึ้นโดยใช้ bracing และ bridge plate ขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งทำให้กีตาร์เสียงเบาลงซึ่งเขาก็แก้ไขด้วยการใช้ body ทรงเดียวกับ Dove และ Hummingbird แบบ square shoulder ที่มีส่วนเว้าส่วนโค่งน้อยกว่าและมีปริมาตรมากขึ้นในปี 1969 บอดี้นี้ใช้มาจนถึงปี 1983  ลองเทียบขนาดกับ body ของ original J-45 และ Martin ทรง D ในรูปด้านล่างครับ







Gibson J-45 ตอนนี้ยังไม่ขึ้นอยู่ในทำเนียบกีตาร์สะสมเพราะมันเป็นกีตาร์ที่ขายดีและทนถึกเลยหามือสองใด้ง่ายดาย ราคามือสองในอเมริกาตามปีที่ผลิตดูใด้ในตารางด้านล่างครับ




สำหรับคนที่ชอบกีตาร์ vintage ที่เอาไปลุยใด้ผมอยากแนะนำ J-45 Square shoulder ยุค '70s เพราะเป็นกีตาร์ที่ทนทานและในบ้านเรามือสองราคาถูกมาก (ไม่ใด้แพงกว่า Yamaha L10) อย่างสองตัวนี้ผมซื้อมาและขายไปพร้อมกล่องในราคาไม่ถึงสี่หมื่นบาทครับ

<a href="http://youtu.be/fp_mUO1r83g" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/fp_mUO1r83g</a>

<a href="http://youtu.be/fMfzx2GaidY" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/fMfzx2GaidY</a>

เขียนมาคั้งนานยังไม่ใด้ตอบคำถามเลยซักข้อ เดี๋ยวมาตอบครับ

[Evie]

กำลังเพลินเลยครับน้ากฤษ น้ากฤษเล่าจบน่จะเคลียทุกข้อสงสัยแล้วล่ะครับ ระเอียดยิบเลยครับ  ขอบคุณข้อมูลดีๆมากๆครับ

[กฤษณ์]

ถึงเวลาตอบคำถามทีละข้อแล้วครับ

Gibson J45 custom shop (ป้ายสีส้ม) เสียงดีกว่ารุ่น Standard ใช่มั้ยครับ

โลโก้หรือป้าย "Custom Shop" ของ Fender USA นั้นรับประกันใด้เลยว่าเสียงดีกว่ารุ่น standard แน่นอนเพราะเขาเริ่มต้นด้วยการคัดไม้ที่สวยและ tap tone ก้องกังวาลจากไลน์การผลิตปกติเอาไปทำเป็นกีตาร์ custom shop แต่ถ้าเป็น Gibson นั้น "Custom Shop" มีความหมายแค่เพียงว่ามันมีบางอย่างที่ไม่เหมือน standard แต่ไม่ใด้รับประกันว่าเสียงจะต้องดีกว่า (บางรุ่นเสียงห่วยกว่าด้วยซ้ำ)

Gibson Acoustic เขาแบ่งกีตาร์ Custom Shop เป็นสองไลน์คือ "Modern" สำหรับกีตาร์ที่มีสเป็คต่างจากรุ่น standard โดยทั่วไปและ "Historic" สำหรับรุ่นที่ลอกสเป็คจากกีตาร์ vintage ในอดีต

Gibson J-45/50 เป็นรุ่นที่มีคนรู้จักมากที่สุด ดังนั้นก็เลยมีรุ่น Custom Shop ออกมาเยอะสุดเหมือนกัน ในยุคต้น 2000 นั้นในคาตาล้อกจะมี J-45/50 เพียงไม่กี่รุ่นอย่างในปี 2003 มี Custom Shop เพียงรุ่นเดียวคือ J-45 Vine




แต่ในยุคหลังๆ J-45/50 นี่มีขายเป็นสิบรุ่นครับ







J-45 Vine ของผมเป็นกีตาร์ปี 2006 ป้ายใน Soundhole ไม่ใช่ป้าย Custom Shop แต่โลโก้หลังคอเป็น Custom Shop







J-45 Macassar ปี 2002 ของผมนั้นป้ายเขียนว่า "Custom Built" แต่โลโก้หลังคอเขียนว่า "Custom Shop"







J-45 VCS นั้นมาแบบ "Custom Shop" เต็มยศทั้งป้ายและโลโก้แต่มันก็เป็นแค่ J-45 Standard ที่ทำสีพิเศษและผลิตแค่สามสิบตัว







J-45 สามตัวข้างบนเป็น Modern Custom Shop ที่ไม่อ้างอิงเสป็คของรุ่น vintage แต่ Custom Shop ตัวสุดท้ายนี่เป็นรุ่น Historic ที่ใช้สเป็คของปี 1955 ที่เป็น adirondack spruce top, non-scalloped bracing ปิกการ์คใหญ่และไม่มีป้ายรุ่นใน soundhole







ลองมาฟังเสียงกันครับ (ตัว J-45 Macassar ผมขายไปนานแล้วเลยไม่มีคลิปเสียง) ตัวแรกคือ J-45 VCS ปี 2011 ที่สเป็คและเสียงเหมือนรุ่น standard 100%

<a href="http://youtu.be/Nb6rdUTGcXI" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/Nb6rdUTGcXI</a>

ลองเทียบเสียงกับ 1950's J-45 Red Spruce ปี 2016 ที่สเป็คแตกต่างกับ standard ทั้ง bracing และไม้หน้า

<a href="http://youtu.be/DhWNNoc6_LE" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/DhWNNoc6_LE</a>

ส่วน J-45 Vine นั้นคงเทียบเสียงกับสองตัวข้างบนไม่ใด้เพราะใช้ไม้ rosewood ซึ่งคุณ Evie ไม่ใด้สนใจ

<a href="http://youtu.be/tzz9qat_v8g" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/tzz9qat_v8g</a>

ต้องขออภัยที่ตอบแบบช้าๆเพราะต้องหาทั้งรูปเก่าและถ่ายรูปใหม่ เดี๋ยวมาต่อครับ

[กฤษณ์]

J45 ปีเก่าๆ ถือว่าดีกว่าปีใหม่ๆมั้ยครับ-ถ้าให้เลือก std. ควรซื้อปีผลิตปีไหนดีครับ

J-45 เป็นกีตาร์ที่เกิดในยุคสงครามที่วัสดุขาดแคลน รุ่นแรกๆจึงทำกันตามมีตามเกิด บางตัวก็ใช้ไม้หน้าสี่ชิ้นมาประกบกัน พอหลังสงครามเขาก็เอาไม้สวยๆไปใช้กับรุ่น J-50 ที่ราคาสูงกว่า ดังนั้น J-45 จึงไม่มียุคทองหรือ Golden Era เหมือนกับ Martin ครับ J-45 ปีเก่าๆนั้นราคามือสองสูงกว่าปีใหม่ๆก็เพราะหาสภาพสวยๆใด้ยากกว่าเนื่องจากมันเป็นกีตาร์ที่คนซื้อไปใช้งานแต่ถ้าไม่นับเรื่องเสียงเปิดเพราะอายุแล้วก็ไม่ใด้ดีกว่ารุ่นใหม่ๆครับ

J-45 Standard นั้นเป็นชื่อที่ Gibson ตั้งให้กับ J-45 ที่ไม่ใช่รุ่นพิเศษเริ่มต้นจากปี 2008 ที่เปลี่ยนป้ายจากสีส้มมาเป็นสีขาวในรุ่นที่ไม่ใช่ Historic หรือ Custom Shop ความจริงแล้ว J-45 ปกติทุกรุ่นในรูปข้างล่างก็สเป็คเหมือนกับ J-45 Standard 100% อาจมีความแตกต่างบ้างตรงรูปร่างของ pick guard และระบบไฟฟ้าเท่านั้นเอง

 


ดังนั้นเรื่องเสียงนี่ถ้าเป็นปี 1997 ขึ้นก็ไม่ใด้มีความแตกต่างกันระหว่างปีเป็นนัยสำคัญ ถ้ามีโอกาสลองก็ควรลองเสียงเป็นตัวๆไปเพราะ Gibson รุ่นเดียวกันเสียงต่างกันมากกว่า Martin หรือ Taylor

เมื่อเร็วๆนี้มีคนโวยวายว่าทำไม J-45 Standard รุ่นเดียวกันสองตัวถึงใช้ back bracing หน้าตาต่างกัน ผมเลยลองดูในคลิปการผลิตก็เห็นว่าเขาใช้เครื่องอัตโนมัติลบมุมไม้ brace ซึ่งดูการปาดมุมของปี 2016 แล้วน่าจะใช้เครื่อง "Nibbler" ทำแต่ในปี 2018 เครื่องที่ใช้มาเป็นสิบปีน่าจะพังแล้วเพราะดูจากส่วนโค้งน่าจะเป็นการใช้สิ่วปาดด้วยมือมากกว่า



(ชมคลิปที่ https://youtu.be/hJB4JYlSvVs)

ถ้าเน้นระบบไฟฟ้า J-45 ปี 1997-2004 ใช้ Fishman Acoustic Matrix Pickup ปี 2005 และพวก Historic ไม่มีระบบไฟฟ้า ปี 2006-2016 ใช้ LR Baggs Element VC ปี 2017 เป็นต้นมาใช้ LR Baggs Element VTC

ถ้าเน้นเล่นง่ายตั้งแต้ปี 2012 Gibson ใช้ Plek Machine เซ็ทอัพทุกตัวครับ


รุ่น True vintage มีอะไรพิเศษบ้างครับคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเพิ่มจากรุ่น STD มั้ยครับ

Gibson J-45 รุ่น True Vintage เสียงดีกว่ารุ่น standard แบบฟังออก สมัยที่ยังผลิตอยู่ขายราคาแพงกว่ารุ่น Standard 27,000 บาทแต่ตัวแทนจำหน่ายบอกผมว่าขายหมดเร็วกว่าทั้งๆที่ไม่ใด้เป็นกีตาร์ Custom Shop ครับ

โครงสร้างของ TV หลังปี 2008 ต่างกับ STD เยอะครับ




ถ้าดูจาก bracing ของ TV ที่เปิดกว่าก็น่าจะให้ dynamic ที่เหนือกว่าแต่จะแข็งแรงน้อยกว่าซึ่งไม้หน้า adirondack spruce ที่แข็งกว่า sitka spruce น่าจะ compensate ใด้ (J-35 ที่ใช้ bracing pattern เหมือน J-45 TV เขาใส่สายเบอร์ 11 มาจากโรงงาน)

เรื่องนี้ยังเป็นความลับอยู่เพราะ J-45 TV ปี 2007-8 ก็ไม่ใด้ใช้ adirondack spruce แต่เสียงก็ดีเหมือนปีหลังๆครับ

2008 J-45 TV Sitka Spruce Top.

<a href="http://youtu.be/GL3MrkIB7Nw" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/GL3MrkIB7Nw</a>

2012 J-45 TV Adirondack Spruce Top.

<a href="http://youtu.be/POMZMRPglIs" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/POMZMRPglIs</a>

 

[กฤษณ์]

สำหรับรุ่น J-185 รอน้าท่านอื่นมาตอบนะครับเพราะผมไม่ใด้สนใจรุ่นนี้

มีรุ่นไหนของJ45 ที่เพิ่มเสียงกลางแหลมที่มากกว่ารุ่น STD มั๊ยครับ

ถ้าคิดว่าสามสายล่างของ J-45 Standard เสียงเบาไปก็ต้องลองเปลี่ยนเบอร์สายให้สาย 1, 2, 3 มีขนาดใหญ่ขึ้นแต่สาย 4, 5, 6 ขนาดเท่าเดิม ถ้าใช้ Custom Light ก็เปลี่ยนเป็น Light ถ้าใช้ Light อยู่ก็เปลี่ยนเป็น HD Light



ถ้าหากีตาร์ใหม่ก็หารุ่นที่ใช้ non-scalloped braces เพราะเสียงกลางแหลมชัดเจนกว่าแน่นอนครับ

<a href="http://youtu.be/mPTcmTNpfL0" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/mPTcmTNpfL0</a>

[Evie]

ขอบคุณสำหรับความรู้มากๆครับน้ากฤษครับ


ผมชอบเสียงของ J45 1950’s ครับมันพอดีครับเหมือนอยู่เสียงอยู่กึ่งกลางระหว่างตัวแรกกับตัว J45 vine ครับ. แต่ J45 Vine เสียงกลางแหลมจะค่อนข้างน้อยกว่าสองตัวแรกแต่มีความฉ่ำมากกว่าสองตัวแรกครับ ความเห็นส่วนตัวนะครับ

ขออนุญาตถามอีกครับน้ากฤษครับยิ่งอ่านคำถามก็ยิ่งเยอะครับ 55
ตัวที่ เป็น red spruce บ้านเรายังมีขายอยู่มั้ยครับ แล้วราคามือสองแพงกว่ารุ่นstandardมากมั้ยครับ

ขอบคุณครับ

ถึงเวลาตอบคำถามทีละข้อแล้วครับ

Gibson J45 custom shop (ป้ายสีส้ม) เสียงดีกว่ารุ่น Standard ใช่มั้ยครับ

โลโก้หรือป้าย "Custom Shop" ของ Fender USA นั้นรับประกันใด้เลยว่าเสียงดีกว่ารุ่น standard แน่นอนเพราะเขาเริ่มต้นด้วยการคัดไม้ที่สวยและ tap tone ก้องกังวาลจากไลน์การผลิตปกติเอาไปทำเป็นกีตาร์ custom shop แต่ถ้าเป็น Gibson นั้น "Custom Shop" มีความหมายแค่เพียงว่ามันมีบางอย่างที่ไม่เหมือน standard แต่ไม่ใด้รับประกันว่าเสียงจะต้องดีกว่า (บางรุ่นเสียงห่วยกว่าด้วยซ้ำ)

Gibson Acoustic เขาแบ่งกีตาร์ Custom Shop เป็นสองไลน์คือ "Modern" สำหรับกีตาร์ที่มีสเป็คต่างจากรุ่น standard โดยทั่วไปและ "Historic" สำหรับรุ่นที่ลอกสเป็คจากกีตาร์ vintage ในอดีต

Gibson J-45/50 เป็นรุ่นที่มีคนรู้จักมากที่สุด ดังนั้นก็เลยมีรุ่น Custom Shop ออกมาเยอะสุดเหมือนกัน ในยุคต้น 2000 นั้นในคาตาล้อกจะมี J-45/50 เพียงไม่กี่รุ่นอย่างในปี 2003 มี Custom Shop เพียงรุ่นเดียวคือ J-45 Vine




แต่ในยุคหลังๆ J-45/50 นี่มีขายเป็นสิบรุ่นครับ







J-45 Vine ของผมเป็นกีตาร์ปี 2006 ป้ายใน Soundhole ไม่ใช่ป้าย Custom Shop แต่โลโก้หลังคอเป็น Custom Shop







J-45 Macassar ปี 2002 ของผมนั้นป้ายเขียนว่า "Custom Built" แต่โลโก้หลังคอเขียนว่า "Custom Shop"







J-45 VCS นั้นมาแบบ "Custom Shop" เต็มยศทั้งป้ายและโลโก้แต่มันก็เป็นแค่ J-45 Standard ที่ทำสีพิเศษและผลิตแค่สามสิบตัว







J-45 สามตัวข้างบนเป็น Modern Custom Shop ที่ไม่อ้างอิงเสป็คของรุ่น vintage แต่ Custom Shop ตัวสุดท้ายนี่เป็นรุ่น Historic ที่ใช้สเป็คของปี 1955 ที่เป็น adirondack spruce top, non-scalloped bracing ปิกการ์คใหญ่และไม่มีป้ายรุ่นใน soundhole







ลองมาฟังเสียงกันครับ (ตัว J-45 Macassar ผมขายไปนานแล้วเลยไม่มีคลิปเสียง) ตัวแรกคือ J-45 VCS ปี 2011 ที่สเป็คและเสียงเหมือนรุ่น standard 100%

<a href="http://youtu.be/Nb6rdUTGcXI" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/Nb6rdUTGcXI</a>

ลองเทียบเสียงกับ 1950's J-45 Red Spruce ปี 2016 ที่สเป็คแตกต่างกับ standard ทั้ง bracing และไม้หน้า

<a href="http://youtu.be/DhWNNoc6_LE" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/DhWNNoc6_LE</a>

ส่วน J-45 Vine นั้นคงเทียบเสียงกับสองตัวข้างบนไม่ใด้เพราะใช้ไม้ rosewood ซึ่งคุณ Evie ไม่ใด้สนใจ

http://youtu.be/tzz9qat_v8g (Embedding disabled, limit reached)

ต้องขออภัยที่ตอบแบบช้าๆเพราะต้องหาทั้งรูปเก่าและถ่ายรูปใหม่ เดี๋ยวมาต่อครับ

[Evie]

J-45  ปี2008 sitka spruce เสียงดีมากๆครับ ส่วน adirondack จะเด้งๆมากออกแข็งๆกว่าครับ
ความชอบส่วนตัวชอบเสียงตัว sitka 2008 ครับน้า

[กฤษณ์]

"ตัวที่ เป็น red spruce บ้านเรายังมีขายอยู่มั้ยครับ แล้วราคามือสองแพงกว่ารุ่นstandardมากมั้ยครับ"


พวก Custom Shop ส่วนใหญ่เป็น limited run แบบหมดแล้วหมดเลย เรื่องราคาสอบถามมาทางไลน์ (ID: krispood) หรือ 081-821-7999 ดีกว่าครับ

[fungi321]

ผมอ่านเพลินมากเลย ภาพ เสียงประกอบครบ ขอบคุณน้ากฤษณ์ที่สละเวลามาลงข้อมูลให้ และขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยครับ

[h5555]

ประทับใจข้อมูลจากน้ากฤษณ์เสมอครับ  ขอบพระคุณครับและขอขอบคุณเจ้าของคำถามมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

[กฤษณ์]

ผมอ่านเพลินมากเลย ภาพ เสียงประกอบครบ ขอบคุณน้ากฤษณ์ที่สละเวลามาลงข้อมูลให้ และขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยครับ

ประทับใจข้อมูลจากน้ากฤษณ์เสมอครับ  ขอบพระคุณครับและขอขอบคุณเจ้าของคำถามมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ขอบคุณครับ ถ้ามีคำถามอะไรก็ถามใด้เลยเพราะตอนนี้ต้องอยู่บ้านตลอดจะใด้ค้นหาข้อมูลให้ครับ

[Like-a-Rolling.Stone]

สวัสดีครับน้ากฤษณ์ ผมชื่นชอบและหลงใหลใน Gibson J45 มากเลยครับ ขอรบกวนถามน้ากฤษณ์เพื่อเป็นความรู้หน่อยนะครับ
1. Gibson J45 ในยุคปัจจุบัน มีขั้นตอนไหนบ้างที่ยังต้องใช้ทักษะของช่างที่ชำนาญของ Gibson โดยเฉพาะ โดยไม่ใช้เครื่องจักรช่วย ครับ
2. ในยุคปัจจุบัน การนำเครื่องจักรสมัยใหม่มาช่วยในขั้นตอนการสร้าง Gibson J45 จะทำให้เสียงและเอกลักษณ์ของ Gibson J45 เปลี่ยนไปจากยุคเก่าๆที่ตามผมเข้าใจคืออาศัยทักษะและความชำนาญของคนเป็นหลัก (ยุคที่สร้างจากKalamazoo) นั้นหายไปหรือไม่ครับ
3. ถ้าเปรียบเทียบจุดแข็งและจุดอ่อน ระหว่าง Gibson J45 standard ยุคปัจจุบัน และ Gibson J45 ยุคที่เป็นที่รู้จักและโด่งดัง เช่น ที่สร้างโดย Kalamazoo น้ากฤษณ์มีความเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ

ขอบคุณน้ากฤษณ์ล่วงหน้าสำหรับความรู้และข้อมูลดีๆนะครับ