ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
Matin ปีเก่าที่ Bridge plate เป็น rosewood หนาๆ
เสียงมันจะทึบ ใช่มั้ยครับ
แล้วในกรณี Bridge plate ของ K.Yairi แบบนี้
ดูจากรูปแล้วมันเป็น Maple บางๆก็จริง แต่ก็มี T-Bar ที่เป็น Ebony ค้ำอยู่
เสียงมันจะ drop หรือ อั้นๆ รึเปล่าครับ
หน้าที่ของ Bridge plate ในด้านวิศวกรรมโครงสร้างBridge Plate มีสองหน้าที่หลักคือ
1. รับแรงกดจากตัว saddle และแรงดึงจากสายเพราะไม้หน้าไม่มีทางรับไหว
2. รับแรงบิด (bending moment) ตามรูปข้างล่าง
เรื่องการรับแรงกดและแรงดีงในข้อ 1 นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ อย่าง Martin สมัยโบราณใช้ bridge plate ไม้เมเปิ้ลกว้างแค่ 1" ก็รับใด้สบายแล้ว พอมาถึงยุคหลังสงครามคนเริ่มใช้สายเบอร์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจน bridge plate ยกตัวด้านหลังและยุบตัวด้านหน้าทำให้ท้องป่องหลัง bridge และท้องยุบหน้า bridge จนทางโรงงานต้องซ่อมให้ฟรีๆเยอะมาก เพื่อแก้ปัญหานี้ Martin เลยใช้ rosewood กว้าง 3 1/4" มาเป็น bridge plate ซึ่งถ้าดูจากรูป free body diagram ด้านบนจะเห็นใด้ว่า bridge plate กว้างขึ้นสามเท่ามีแรงยกและแรงกดบนไม้หน้าน้อยลงสามเท่าเหมือนกัน (F1xL1 = F2xL2)
ระบบ Direct Coupled Bridge ของ K. Yairi นั้นตัดปัญหาเรื่อง bending moment ออกไปเพราะตัว bridge รับแต่แรงกดและส่งผ่านไปลงที่ตัว X-brace โดยตรงส่วนตัว T-bar ก็รับแต่แรงดึงจึงไม่อาการหลังป่องหน้ายุบเหมือนกีตาร์ flat top ทั่วไปครับ
การเพิ่ม mass ให้ไม้หน้าไม่ว่าจะเป็นการใส่ rosewood bridge plate ของ Martin หรือการใส่ T-bar ของ K. Yairi ไม่ใด้มีผลให้เสียงทึบขึ้นอย่างชัดเจนแต่การเพิ่มมวลทำให้ไม้หน้าเริ่มต้นสั่นน้อยลงมีผลให้เสียง fundamental เบาลงแต่ mass ที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้ไม้หน้าสั่นนานขึ้นมีผลให้ sustain นิ่งขึ้นและยาวขึ้นเหมือนกัน
ส่วน ebony T-bar นั้นผมไม่คิดว่ามันจะไปเพิ่ม mass รวมเพราะตัว bridge plate ของระบบนี้บางและแคบกว่าปกติเยอะเหมือนกันครับ