Helmoltz Resonator..............(หลักพื้นฐานการDesignอะคูสติคกีต้าร์)
การออกแบบกีต้าร์โปร่งที่ตั้งอยู่บนส่วนสัณฐานที่เป็นหลักการนับตั้งแต่ ประวัติความเป็นมา, การวิวัฒนาการและโครงสร้างของ อะคูสติคกีต้าร์ที่อยู่ในหลักการกำธรHelmoltz, ลายไม้และ จำนวนแผ่นไม้หน้า-หลัง, โครงสร้างBodyและทางเลือกวัสดุ และความแตกต่างด้านการออกแบบโครงสร้าง, ความหลายหลากของขนาดและรูปแบบกีต้าร์และประสิทธิภาพอะคูสติค และทิศทางใหม่ของการออกแบบกีต้าร์
Sound hole กับVolumeของมวลอากาสที่ประจุภายในBody อาการกำธรของความถี่ย่านตํ่าอย่างนุ่มนวล และการขยายBassของกีต้าร์ ทางวิทยาศาตร์รูปแบบการกำธรอ้างถึงหลักHelmoltz Resonance เป็นชื่อนักฟิสิคส์ชาวเยอรมัน ร่วมกับ Herman Ludwig Ferdinal von Helmoltz(1824-1894) ด้วยรูปแบบบริสุทธิ์ของHelmoltz Resonance คือ โพรงกลมกลวงที่เปิด ปกติจะมีลักษณะของTubeภายในอากาศจะไหล หรือOsillateผ่านตรงไปยังการเปิดTubeด้วยความถี่จากการกำธร ซึ่งถูกกำหนดด้วยค่าอากาศที่อยู่ภายในทรงกลมที่มีขนาด และเส้นผ่าศูนย์กลาง Helmoltzใช้Setsของการกำธร, แรงการปั่นจากBass และความถี่คลื่นเสียงในรูปแบบการวิเคราะห์รายละเอียดเชิงซ้อน
The Helmoltz Effects ช่วยการกำธรสูงๆที่เป็นเสียงกลางของSound Board และขยายการตอบสนองของ Bass ถ้าปราศจากการกำธรหลักของตัวSound Board จะทำให้เกิดเสียงแปล่งไม่พึงปรารถนา หรือปราศจากการตอบสนองของBass เป็นที่ประจักษ์ว่าปี
1803 Body Volume และ Sound Holeจะต้องเลือกให้ได้ขนาดจำเพาะ เพราะประสบการณ์การทดลองมาแล้วว่าApplicationของการกำธรHelmoltzไม่ได้ทำให้นักสร้างกีต้าร์(Luthiers)เข้าใจเสมอ!!!
สูตรการกำธรความถี่.........f=c/(2 pyle) [square root{ S/VL}]
f=frequency of resonance หน่วยวัดใช้เฮิร์ท(Hz) ,c=ความเร็วเสียงในอากาศ(343m/s), S=พื้นที่ของTube, V=อากาศในโถงกีต้าร์
L=ความยาวTube
สำหรับกีต้าร์ความยาว L ของการกำธรของTube จะเสมือนถูกทำให้ย่อขนาด หรือ 3 ม.ม.ของSoundboard อย่างไรก็ตาม
ทีคุณลักษณะอากาสเมือนเป็นก๊าซที่เรียกว่า " End Effect "ที่จะต้องให้เป็นไป ผลจากความยาวTube โดยประมาณ1.6เท่าของรัศมีSound holeบวกด้วยความยาวของtop