Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: Music City หยุดประจำปี 2 วัน 31-1 เปิดร้านวันอาทิตย์ที่ 2 กพ 57 ครับ  (อ่าน 1713968 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 11 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Walden Guitar

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,176
CG2000CEQ มีเข้ามา 5 ตัวครับ มีคนจอง 1 หรือ 2 คนครับ จำยอดแน่นอนไม่ได้ครับ เดี๋ยวต้องเช็คในสมุดรับก่อนครับ
ซาวด์จะสดใสต่างจาก G3000 ครับ G3000 จะออกนวลๆครับ

วันนี้ขอเพิ่ม CG570CETB ได้ 2 ตัวครับ ตกลงเดือนหน้าจะมา 4 ตัวครับ

rivulatus

  • member
  • ***
  • กระทู้: 137

รบกวนน้าๆ ช่วยแปล (ต้องขอโทษด้วยนะครับถ้ามีข้อมูลอยู่แล้ว) อยากรู้มันต่างกันอย่างไร

TUSQ: Definitely our premium material, both in performance and market presence. TUSQ is typically used on higher end instruments like Taylor, Martin, Gibson etc.  TUSQ produces more harmonics in the mid and upper range of the guitars.

Nubone: Nubone is a derivative of TUSQ.  It has a lot of the same tonal characteristics as TUSQ. Like all our materials it is completely consistent from piece to piece and within each piece. NuBone amplifies lower fundamental tones and overall volume of stringed instruments. Nubone is used for lower end instruments typically, like Jay Turser, Mahalo Ukulele, Valencia etc.

Fossalite : Fossalite is our newest material. It is extremely hard and it resistant to UV. Fossalite amplifies the lower and mid harmonics of a guitar and other stringed instruments. Fossalite is the same price as TUSQ and another premium material, just a different sound. Fossalite is used on Larrivee Guitars and Walden Guitars.

Walden Guitar

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,176
จะลองอธิบายตามที่ผมได้รับข้อมูลมา บวกกับเนื้อหาด้านบนละกันนะครับ

TUSQ เป็นวัสดุเกรดเอของ Graphtech จะให้เสียงกลางและเสียงสูงสดใสคล้ายกระดูก และมีมาตรฐานเหมือนกันทุกชิ้น ต่างจากกระดูกซึ่งคุณภาพแต่ละชิ้น ไม่เหมือนกัน

NuBone เป็นวัสดุเกรดสองของ Graphtech เนื้อวัสดุมีส่วนคล้าย TUSQ แต่ราคาไม่ถึงครึ่งนึงของ TUSQ
ให้เสียงย่านโลว์เด่น และให้ความดังสูง มักใช้กับกีตาร์รุ่นถูกๆ

Fossalite เป็นวัสดุแบบใหม่ ที่ทาง Walden กับ Graphtech ร่วมกันคิดค้น ราคาจะเท่ากับ TUSQ แต่ให้เสียงที่ต่างจาก TUSQ คือจะเน้นโทนเบสและกลาง ต่างกับ TUSQ ที่เน้นโทนกลางและไฮ
Fossalite เท่าที่ทราบเป็นลิขสิทธิ์ร่วมกัน ถ้า Graphtech จะขายให้ใคร จะต้องแจ้งทาง Walden ก่อน

ก็น่าจะประมาณนี้ครับ :D

rivulatus

  • member
  • ***
  • กระทู้: 137
น้าต๋อง Tusq มาเร็วๆ แล้วกัน อยากลอง (ขายถูกๆ ด้วยนะ จะเก็บตังค์ไว้ซื้อกีตาร์ตัวต่อไป 555)

Sert

  • member
  • ***
  • กระทู้: 259
อ้อ อ้อ มันเป็นฉะนี้นี่เองครับน้าต๋อง  รปภ. ถึงได้ดุดัน(เหมือน รปภ.ประจำตัวบุคคลสำคัญเลย)

เมื่อวานผมไปรถไฟใต้ดินไปติดต่องาน ถือโอกาสแว๊บไปเยี่ยมแบบสั้นๆ ครับน้าต๋อง  เนื่องจากมี walden อยู่สองตัวแล้ว ยังไม่ได้เล็งตัวไหนเพื่อเพิ่มปริมาณ

ขอเล่าถึงกีตาร์ทั้งสองตัวของผมหน่อยนะครับ  ถ้าได้มาโดยไม่ปรับแต่งใดๆ ระยะห่างสาย 6 ที่เฟร็ต 12 ประมาณ 3 มิลบวกนิดๆ ครับ  ใครเคยใช้คราฟเตอร์ที่
ออกจากร้านใหม่ๆ ทัชชิ่งพอๆ กันเลยครับ
ผมลองใส่กับสายมาสามรุ่น D'Ad EXP26    Martin Lifespan SP 80/20  และ Elixir Nanoweb Phosphor bronze  ลองโดยใส่แล้วลองเล่นประมาณ
สองอาทิตย์ต่อรุ่น  สำหรับตัวผมชอบแนวของ Martin ทุ้มๆ นุ่มๆ หวานๆ ไม่แหลมบาดหูมากครับ  Elixir รุ่นที่ผมใส่บาดหูเกิน รองลงมาก็ D'Ad  แต่ผมชอบมาร์ติน
รุ่นที่ว่าครับ   ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่หูของแต่ละท่านครับ  มาร์ตินรุ่นนี้ถ้าตีคอร์ดแรงๆ เสียงจะยานๆ ไปบ้างครับ เล่นฟิงเกอร์จะนุ่มๆ มือติดนิ้วใช้ได้ครับ

ผมลองเอากีตาร์สองตัวนี้เทียบกับกีตาร์ที่ราคาแพงกว่าเท่าตัว สู้กันได้ครับ ผมกำลังรอเวลาถ้าระยะเวลานานๆ เข้า เสียงจะดีกว่านี้อีกมากไม๊  อันนี้เวลาจะพิสูจน์ได้ครับ
ถ้าออกมาใหม่ๆ แบบออกจากร้านแล้วเล่นเลย เทียบกับกีตาร์ที่ไลน์ผลิตมาจากประเทศเดียวกัน Wanden หลายๆ รุ่นจะเสียงดีกว่าในสเป็คไม้และราคาเดียวกัน
ขออนุญาตไม่เอ่ยถึงอีกสองสามยี่ห้อที่ว่านะครับ(ผมซื้อมาไว้ในสต็อคด้วยเลยเปรียบเทียบได้ครับ) เพื่อไม่เป็นการกระทบกับยี่ห้ออื่นๆ ครับ

ทั้งนี้แล้วแต่หูคนครับ ตัวผมชอบ น้าๆ ท่านอื่นอาจไม่ชอบเสียง  แต่ตัวที่น้าๆ ชอบและเชียร์กันนักผมเล่นแล้วกลับไม่ชอบก็มีครับ  อาจเล่นไม่ถนัด อาจไม่ชอบเสียงก็เป็นได้
สำหรับผมได้ลองแล้วสำหรับ Walden เลยมีเก็บสองตัวก่อน  เล่นสองตัวนี้ให้หนำใจก่อนครับ  อีกอย่างรออุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่น้าต๋องจะนำมาขาย จะได้ไปซื้อมาลองครับ
ลองแล้วชอบไม่ชอบก็แล้วแต่หูคนแต่ละคนครับ

แหะ แหะ เล่นกีตาร์ไม่ค่อยเก่งครับ แต่ชอบซื้อมาลองเป็นความสุขของชีวิตครับ

SoundCard

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณพี่ sert ที่มาแบ่งปันประสบการณ์ตรงให้ได้อ่านกันครับ ^^  สำหรับผม Walden เป็นอะไรที่เกินคุ้มครับ ผมก็เช่นเดียวกับพี่คือลองกีต้าร์ต้นกำเนิดเดียวกันในราคาเดียวกัน แต่ก็ถูกใจเสียงและงานของ Walden มากกว่า  หลายๆยี่ห้อในเกรดเดียวกันที่ไปลองแล้วออกทึบๆมึนๆ เขาบอกว่าต้องเล่นไปซักพักเสียงถึงจะเปิด แต่..ไม่รู้เมื่อไหร่กัน  เลยเลือกอะไรที่มองเห็นได้เดี๋ยวนั้นเลยดีกว่า แบบรู้ว่าดีในปัจจุบันและจะดีมากขึ้นในอนาคต ดีกว่าฝากความหวังลมๆ ไว้กับสิ่งที่คาดเดาไม่ได้และมองไม่เห็น ^^

เล่นไม่เก่งเหมือนกันแต่เลือกเยอะเลือกมาก :) เยอะ!! ^^

kangaroo

  • member
  • ***
  • กระทู้: 458
http://www.staffordguitar.com/images/ergorest.jpg
เฮียต๋องมี guitar rest แบบในรูปขายมั้ยครับ  ราคาเท่าไหร่

Walden Guitar

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,176
nut และ saddle น่าจะมาช่วงปลายเดือนนี้ครับพี่ rivulatus
เรื่องราคาก็จะพยายามทำให้พี่ๆสบายใจครับ พี่ๆก็น่าจะรู้ว่าผมบ้า ;D

ขอบคุณมากๆอีกครั้งนะครับพี่ Sert
เรื่อง รปภ บางครั้งก็สงสารเขานะครับ บางครั้งเขาใจดีอะลุ้มอล่วยให้เรา แต่โดน supervisor เรียกไปเอ็ดก็มี บอกว่าไม่ใช่หน้าที่รปภ ก็เคยรับรู้มาครับ ก็เข้าใจเขาครับ

เรื่องสายกีตาร์ก็เป็นดังพี่ Sert แนะนำเลยครับ ลองไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอสายที่ชอบ กับกีตาร์รุ่นนั้นๆ
กีตาร์แต่ละตัว อาจจะชอบสายไม่เหมือนกันครับ สายบางยี่ห้อใส่กีตาร์ตัวนึงไม่เอาอ่าวเลย แต่พอเปลี่ยนไปใส่กีตาร์อีกตัว เพราะสุดยอดเลยก็มี ก็อยากให้ลองดูครับ ยังไงให้เวลากับสายสัก 2-3 วันก่อนตัดสินใจว่าดีไม่ดีนะครับ เพราะสายเองก็มีระยะเวลาเบรินเหมือนกัน แกะกล่องใส่ครั้งแรกดีดกิ้งเลยอาจจะไม่เข้าหู แต่เล่นไปสักสองสามวันก่อน พอสายเข้าที่อาจจะเพราะก็ได้ ถ้าไม่เข้าหูอีก ก็ลองเปลี่ยนไปใส่กีตาร์ตัวอื่นถ้ามีครับ ลองไปเรื่อยๆ ทุกยี่ห้อ จะได้รู้ว่ากีตาร์ของเราตัวไหน เหมาะกับสายยี่ห้ออะไรมากที่สุดครับ




Walden Guitar

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,176
เรื่องแหล่งผลิตกีตาร์ เข้าใจว่าพี่คงหมายถึงกีตาร์ที่ผลิตในประเทศจีนใช่ไหมครับ
โรงงานที่ผลิตกีตาร์ในประเทศจีน มีหลายประเภทครับ

กลุ่มแรก จะเป็นโรงงานใหญ่ มาตรฐานสูง มีเครื่องมือ และเทคโนโลยีเหมือนเช่นโรงงานกีตาร์ดีๆทั่วโลก มีพนักงานทำกีตาร์หลายร้อยคน โรงงานกลุ่มนี้มีไม่เยอะ และจะรับงานจากบริษัทกีตาร์แบรนด์ดังๆที่รู้จักกันทั่วโลกเป็นส่วนใหญ่ คุณภาพจะค่อนข้างสูง แต่ราคาก็จะแพงกว่าโรงงานเล็กๆพอสมควร ส่วนใหญ่จะอยู่แถบเซี่ยงไฮ้ หรือปักกิ่ง

กลุ่มที่สอง จะเป็นโรงงานเล็ก พนักงานไม่กี่สิบคน การลงทุนเครื่องมือทันสมัยมีไม่เยอะ จะอาศัยแรงงานเป็นหลัก และแข่งกันด้านราคา กีตาร์ส่วนใหญ่ที่ขายกันพันกว่า สองพันบาทจะมาจากโรงงานประเภทนี้ โรงงานแบบนี้มีเป็นร้อยๆโรงงานเลยครับ ส่วนใหญ่อยู่แถบกวางเจา
กีตาร์แบรนด์ดังๆจะไม่ค่อยใช้งานโรงงานพวกนี้ เพราะคุณภาพยังไม่มาตรฐาน แต่กีตาร์แบรนด์ใหม่ๆที่ร้านค้าแต่ละประเทศสั่งทำกันเอง ส่วนใหญ่จะมาจากโรงงานพวกนี้
บางครั้งราคาถูกจนงง หน้าไม้ Solid Top เอามาขายกันสองพันต้นๆก็ยังมี แต่อย่าถามถึงคุณภาพนะ ;D

กลุ่มที่สาม จะเป็นบริษัทกีตาร์มาเปิดโรงงานเองครับ พวกนี้มีไม่มาก อย่างเช่น Walden, Fender, Gibson, Yamaha กลุ่มนี้กระบวนการผลิตจะถูกดีไซน์มาเฉพาะยี่ห้อเขาเอง และการควบคุมคุณภาพจะค่อนข้างสูง เพราะบริษัททำเอง และ QC เอง เรื่องคุณภาพจึงค่อนข้างโอเคครับ

ตัว กีตาร์เรสท์ ตอนนี้ยังไม่มีครับพี่ kangaroo
เดี๋ยวจะลองจัดหามาให้นะครับ อีกสักสองสามเดือนถ้ามีเข้ามา จะแจ้งให้ทราบครับ

Sert

  • member
  • ***
  • กระทู้: 259
ครับผมหมายถึงจีนจริงๆ ครับ  ผมก็เอาหลายๆ ยี่ห้อที่ราคาสเป็คใกล้เคียง Walden มาลองโดยแต่ละตัวเลือกสายที่ชอบที่สุดของตัวนั้นแล้วครับ ถ้าออกมาใหม่ๆ แบบไม่ตบแต่งอะไรเลย
ผมว่า Walden กินได้หลายๆ รุ่นที่มาในช่วงนี้ครับ  (ทั้งนี้หูผมอาจไม่ค่อยได้เรื่องครับ)  ยิ่งถ้าผ่านมือช่างดีๆ จะยิ่งแจ่มครับ ส่วนตัวของผมยังไม่ผ่านช่าง เพียงแต่ผมมี saddle กระดูก
และอื่นๆ อยู่ก็ลองเอามาใส่ ใส่แล้วไม่ชอบก็เอาของเดิมใส่ ใส่ไปมาจนสายขาด(บ่อยๆ เหอเหอ) 

คนจะซื้อแนะนำเหมือนน้าต๋องและน้า F  ควรจะไปลองเลือกตัวที่ชอบด้วยครับ

อย่างน้า F ว่าครับบางตัวรอมาตั้งนานยังไม่แผลงฤทธิ์ซักที แต่ Walden เห็นแนวทางตั้งแต่เริ่มซื้อครับ  เหลืออีกนิดคือรอซักปีสองปี ดูความทนทานด้านอื่นๆ ครับ  แต่ดูจากงานเนียนๆแล้วคาดว่าคงทนมือทนไม้  เอ๊ย ทนแต่มือไปนานพอดูครับ อันนี้เวลาจะบอกได้เอง

วันที่ผมเข้าไปในร้าน ตัวที่ราคาไม่แพงสำหรับเริ่มต้น ก็น่าใช้นะครับ แบบเอามาปู้ยี่ปู้ยำฝึกทักษะ คงจะเหมาะนักแลครับ

ขอบคุณเฮียต๋องเช่นกันนะครับ ที่นำของใหม่ๆ มานำเสนอเพิ่มทางเลือกให้น้าๆ ท่านอื่นๆ ได้ลิ้มลองครับ  ผมก็ไปหลงเสน่ห์วินเทจอยู่(ตอนนี้ก็ยังหลง) แต่ก็ไม่วายจะเสาะหากีตาร์ใหม่ๆ ปีใหม่ๆ มาเล่นครับ  ใจมันรักครับ เล่นไม่เก่ง แต่เร้าใจ  555 จริงนะ

SoundCard

  • บุคคลทั่วไป
คุณต๋องครับ ปลายเดือนหน้ามี CG2000CEQ มากี่ตัวครับ มาคนจองยังครับ
spec เหมือน G3000 แต่เป็น Gloss finish/Cutaway/Electric ด้วยจะเปลี่ยนเป้าหมายดีไหมนา
คงต้องไปลองหลายรอบ ก่อนของจะมาเดือนหน่า
ยิ่งหาข้อมูล ยิ่งทำให้เขว
555+ เริ่มหลอนตามคุณ F แล้วครับ :) T T

ลองเองเลยครับอย่าเชื่อผม^^ CG2000CEQ มี spec ไม้แบบ G3000 ก็จริง แต่ fingerboard ของ CG2000CEQ เป็น Rosewood แต่ G3000 เป็น ebony และไบดิ้งก็ยังต่างกันอีกครับ G3000 เป็น maple ขาวๆ ส่วน CG2000CEQเป็น Rosewood ขรึมๆ ดู CG2000CEQ ออกไปทางเงียบๆขรึมๆไม้ๆครับ ส่วน G3000 ออกทางหรูสะอาดสะอ้านหมดจดเหมือนผ้าขาว ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น Top ของ Pure Acoustic ที่ไม่มีภาคไฟฟ้า    แต่ส่วนประกอบพวกนี้ผมว่าสำคัญที่ใจชอบไม่ชอบอีกเรื่องเพราะราคาก็ต่างกันพอสมควร  เลยเชียร์ G3000 ว่าคุ้มกว่าครับถ้าจะหาสุดทาง All solid ไม่มีภาคไฟฟ้า งานสวยเสียงดี  ก็จัดเลยเห็นล็อตนี้มา10 เดี๋ยว จะไม่ทันได้เห็นกันอีก อิอิ (เหมือนสองล็อตแรกมาแว้บหายวับ)

Vee m bank

  • member
  • ***
  • กระทู้: 146
คุณต๋องครับ ปลายเดือนหน้ามี CG2000CEQ มากี่ตัวครับ มาคนจองยังครับ
spec เหมือน G3000 แต่เป็น Gloss finish/Cutaway/Electric ด้วยจะเปลี่ยนเป้าหมายดีไหมนา
คงต้องไปลองหลายรอบ ก่อนของจะมาเดือนหน่า
ยิ่งหาข้อมูล ยิ่งทำให้เขว
555+ เริ่มหลอนตามคุณ F แล้วครับ :) T T

ลองเองเลยครับอย่าเชื่อผม^^ CG2000CEQ มี spec ไม้แบบ G3000 ก็จริง แต่ fingerboard ของ CG2000CEQ เป็น Rosewood แต่ G3000 เป็น ebony และไบดิ้งก็ยังต่างกันอีกครับ G3000 เป็น maple ขาวๆ ส่วน CG2000CEQเป็น Rosewood ขรึมๆ ดู CG2000CEQ ออกไปทางเงียบๆขรึมๆไม้ๆครับ ส่วน G3000 ออกทางหรูสะอาดสะอ้านหมดจดเหมือนผ้าขาว ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น Top ของ Pure Acoustic ที่ไม่มีภาคไฟฟ้า    แต่ส่วนประกอบพวกนี้ผมว่าสำคัญที่ใจชอบไม่ชอบอีกเรื่องเพราะราคาก็ต่างกันพอสมควร  เลยเชียร์ G3000 ว่าคุ้มกว่าครับถ้าจะหาสุดทาง All solid ไม่มีภาคไฟฟ้า งานสวยเสียงดี  ก็จัดเลยเห็นล็อตนี้มา10 เดี๋ยว จะไม่ทันได้เห็นกันอีก อิอิ (เหมือนสองล็อตแรกมาแว้บหายวับ)
1 ตัวแหละ. ผม จองไว้ อยากได้ G3000 อีกตัว แต่จริงๆ อยากลอง ทรง G แต่เป็น Top/back บ้าง. ตอนนี้ หลงเสน่ห์ตัวเต็มมากกว่า cutaway เสียงมาเต็ม กว่าเยอะ ครับ

note_456

  • member
  • ***
  • กระทู้: 10
ไม่รู้ว่ารุ่น CG2010 all solid. ที่พระราม9จะมีมั้ยน้อ...?วันนี้จะไปลองซะหน่อย

MyGuitars

  • member
  • ***
  • กระทู้: 37
คุณต๋องครับ ปลายเดือนหน้ามี CG2000CEQ มากี่ตัวครับ มาคนจองยังครับ
spec เหมือน G3000 แต่เป็น Gloss finish/Cutaway/Electric ด้วยจะเปลี่ยนเป้าหมายดีไหมนา
คงต้องไปลองหลายรอบ ก่อนของจะมาเดือนหน่า
ยิ่งหาข้อมูล ยิ่งทำให้เขว
555+ เริ่มหลอนตามคุณ F แล้วครับ :) T T

ลองเองเลยครับอย่าเชื่อผม^^ CG2000CEQ มี spec ไม้แบบ G3000 ก็จริง แต่ fingerboard ของ CG2000CEQ เป็น Rosewood แต่ G3000 เป็น ebony และไบดิ้งก็ยังต่างกันอีกครับ G3000 เป็น maple ขาวๆ ส่วน CG2000CEQเป็น Rosewood ขรึมๆ ดู CG2000CEQ ออกไปทางเงียบๆขรึมๆไม้ๆครับ ส่วน G3000 ออกทางหรูสะอาดสะอ้านหมดจดเหมือนผ้าขาว ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น Top ของ Pure Acoustic ที่ไม่มีภาคไฟฟ้า    แต่ส่วนประกอบพวกนี้ผมว่าสำคัญที่ใจชอบไม่ชอบอีกเรื่องเพราะราคาก็ต่างกันพอสมควร  เลยเชียร์ G3000 ว่าคุ้มกว่าครับถ้าจะหาสุดทาง All solid ไม่มีภาคไฟฟ้า งานสวยเสียงดี  ก็จัดเลยเห็นล็อตนี้มา10 เดี๋ยว จะไม่ทันได้เห็นกันอีก อิอิ (เหมือนสองล็อตแรกมาแว้บหายวับ)

ขอบคุณครับ คุณ F ผมยังมีใจไป G3000 อยู่ครับ จองไปแล้วครับ อยากได้แบบ GA All Solid เต็มๆเก็บไว้ครับ ส่วนรุ่นต่อไปคงรอรุ่นใหม่ปีใหม่ละครับ
เล่นที่มีอยู่ให้เต็มที่ก่อน ที่จริงมีในใจหลายรุ่นแต่ติดตรงBudgetครับ :) 

Walden Guitar

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,176
ขอบคุณมากๆอีกครั้งนะครับพี่ Sert
ปีที่แล้วตอนคัดกีตาร์ว่าจะเอายี่ห้ออะไรเข้ามาทำตลาดดี เราได้คัดจากหลายๆยี่ห้อครับ ทั้งจากอเมริกา ยุโรป อังกฤษ ฯลฯ
แต่จุดหลักที่เราตัดสินใจนำ Walden เข้ามาก็เพราะ เขาเป็นบริษัทกีตาร์เพียงแห่งเดียว ที่เป็นผู้ผลิตเอง เรามั่นใจในหลักการดีไซน์ และคุณภาพของเขา แต่ราคาเขาเกือบจะแพงที่สุดใน 3-4 ยี่ห้อที่ตัดสินใจเลยครับ คงเป็นเพราะกรรมวิธี และอะไหล่ที่เขาใส่เข้าไป

บริษัทอื่นๆ จะจ้างตั้งแต่ 1-20 โรงงานจีนและอินโด ให้ผลิตกีตาร์ให้เขา
มีบริษัทชื่อดังแห่งนึงใช้ถึง 20 ที่จริงๆครับ ตอนแรกจะนำยี่ห้อนั้นเข้ามาก่อน Walden ด้วยซ้ำไป ตอนนี้เขาก็ยังติดต่อมาเรื่อยๆ เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ยังบินมาหาผม พี่ๆหลายคนก็ได้เห็นฝรั่งเดินเข้ามาที่ร้าน เขาอยากจะให้เราเป็นตัวแทน ตอนนี้ก็กำลังติดสินใจอยู่ครับ เพราะยังหวั่นเรื่องการควบคุมคุณภาพของเขาน่ะครับ

G3000 ซาวด์ต่างกันเหมือนคนละไม้กับ CG2010 และ CG2000CEQ เลยครับ ทั้งๆที่ไม้เป็น Spruce/Rosewood เหมือนกัน ไม่รู้ Walden เขาทำได้ไง
ปลายเดือนหน้าพี่ๆแวะมาลองดูกันนะครับ

CG2010 ตอนนี้หมดแล้วครับพี่ note_456
แต่ถ้าพี่เข้าไปวันนี้ ยังมีกีตาร์อีก 30 กว่ารุ่นให้พี่ได้ลองครับ



SoundCard

  • บุคคลทั่วไป
http://www.acousticthai.net/webboard/index.php?topic=19664.0

สุดยอดครับพี่ต๋อง นอกจากต้องคอยตอบปัญหาในห้องซื้อขายแล้ว ยังบริการสอดส่องลูกค้าอย่างทั่วถึงในห้องพูดคุยด้วย พร้อมให้บริการหลังการขายด้วย เยี่ยมครับ^^   ถ้ามีเปิดโหวตร้านในดวงใจ ผม +Like ให้ 1000 เลยครับพี่ ^^

เป็นยี่ห้อนั้นที่ได้คุยกับพี่ต๋องรึเปล่าครับ ชื่อเสียงน่าสนใจเลยครับ แต่ผมมองว่างานนี้ Walden จะครองตลาดยาวนะครับพี่ และยี่ห้อที่ต่อยอดความคุ้มขึ้นมาจาก Walden ก็คือ Seagull ซึ่งลงตัวทุกอย่าง คุ้มทั้งคู่ตามกำลังทรัพย์ ^^

maggot722

  • member
  • ***
  • กระทู้: 22
  • เพศ: ชาย
มีแต่คนพูดกันแต่ G3000 ไม่เห็นมีใครพูดถึง CO2000 บ้างเลย แอบน้อยใจ -"- ใครซื้อ CO2000 ไปบ้างขอเสียงหน่อยครับ อิอิ ผมซื้อมาเดือนกว่าแล้วครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ ยี่ห้อนี้ งานเนียบมากครับ ตอนนี้กำลังมอง CG4070E-CERT อีกซักตัว ไม่ทราบราคาเท่าไรครับ ^^

Vee m bank

  • member
  • ***
  • กระทู้: 146
มีแต่คนพูดกันแต่ G3000 ไม่เห็นมีใครพูดถึง CO2000 บ้างเลย แอบน้อยใจ -"- ใครซื้อ CO2000 ไปบ้างขอเสียงหน่อยครับ อิอิ ผมซื้อมาเดือนกว่าแล้วครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ ยี่ห้อนี้ งานเนียบมากครับ ตอนนี้กำลังมอง CG4070E-CERT อีกซักตัว ไม่ทราบราคาเท่าไรครับ ^^
CG4070 E CERT สองหมื่นสองพันครับ สนใจรีบจัดเลยครับ ขอบอกมันสุดยอดจริง เสียงเป็นธรรมชาติ มากๆ เพราะผมมีอยู่ เล่นแล้ว ไม่อยากวางเลยครับ

Walden Guitar

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,176
ขอบคุณครับคุณเอฟที่เตือน เลยได้กลับไปตอบน้องเขาอีกครั้ง

ครับคุณเอฟ เป็นยี่ห้อนั้น เขาเขียนเมล์มาถามเรื่อยๆเลยครับ ว่าเมื่อไหร่จะรับเป็นตัวแทนให้เขาสักที
ก็ขอตัดสินใจอีกสักสองสามวันครับ

ตระกูล Seagull ทั้ง Seagull, Simon&Patrick, Art&Lutherie, Norman, La Patrie, Godin  ถือเป็นกีตาร์ที่คุ้มค่า ที่ทำในทวีปอเมริกาเหนือ (อเมริกา,แคนาดา) ครับ
จริงๆแล้ว คนทั่วไปไม่รู้เลยครับ ว่า Seagull คือกีตาร์ที่มียอดขายสูงที่สุดที่ทำในทวีปอเมริกาเหนือ อันนี้เป็น Fact ที่เก็บสถิติกันมาหลายปีเลยครับ คนทั่วๆไปจะคิดว่า Martin หรือ Taylor แต่จริงๆแล้ว กีตาร์ที่ผลิตในทวีปอเมริกาเหนือ ที่ขายดีทีสุดคือกีตาร์ในเครือ Seagull นี่เองครับ

ที่เมืองไทย เราก็ขายดีแบบเรื่อยๆครับ คนมาลองก็จะติดใจกับคุณภาพและเสียง เกือบทุกคนครับ
แรกๆ ก็มีพี่ๆบางท่านที่ติดการดีไซน์หัวแบบ Trapezoid ของ Seagull ซึ่งจริงๆแล้วมีประโยชน์มากในเรื่อง sustain ของเสียงที่ดีขึ้น แต่หลังๆพี่ๆก็เข้าใจเรื่องหลักการดีไซน์ลักษณะนี้มากขึ้นครับ
กีตาร์ที่ดีไซน์หัวแบบ Trapezoid ก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ Walden ก็ใช้คอนเซปต์การดีไซน์นี้เช่นเดียวกันครับ

CO2000 เป็นกีตาร์ที่เสียงหวานใส และก็ขายดีแบบเงียบๆเลยครับ เผลอแผล็บเดียวในสต๊อกรู้สึกว่าจะเหลือ 1 หรือ 2 ตัวเองครับ
CG4070E-CERT ราคาสองหมื่นสองพันบาทดังที่พี่เอ็มกรุณาแจ้งครับพี่ maggot722

maggot722

  • member
  • ***
  • กระทู้: 22
  • เพศ: ชาย
แล้วตอนนี้ CG4070E-CERT มีของไหมครับ