อะคูสติกไทยเวปบอร์ด
Acoustic Webboard => ห้องพูดคุย Acoustic Guitars and Accessories และทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: Evie ที่ มีนาคม 27, 2020, 19:31:45
-
มีคำถามหลายข้อเลยครับอยากขอความเมตตาจากน้าช่วยไขข้อสงสัยครับ ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบครับผม
คำถามมีดังนี้ครับ ถามเกี่ยวกับรุ่น Standard ครับ
-Gibson J45 custom shop (ป้ายสีส้ม) เสียงดีกว่ารุ่น Standard ใช่มั้ยครับ
-J45 ปีเก่าๆ ถือว่าดีกว่าปีใหม่ๆมั้ยครับ. ยุค ค.ศ. ไหนถึงเรียกว่าเก่าแล้วครับ
-ถ้าให้เลือก std. ควรซื้อปีผลิตปีไหนดีครับ
- รุ่น True vintage มีอะไรพิเศษบ้างครับคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเพิ่มจากรุ่น STD มั้ยครับ
-ระหว่าง J45 กับ J185 น้าๆชอบอันไหนครับ แล้วอันไหนที่น้าๆชอบครับ
-ถ้าให้เลือก ปี 2004.หรือเก่ากว่านี้ กับ ปี 2013 ขึ้นไปตัวไหนดีครับ
-J45 ที่เคยเล่นเป็นรุ่น STD รู้สึกว่าฟิงเกอร์ เสียงสายล่างค่อนข้างเบาๆครับ มีรุ่นไหนของJ45 ที่เพิ่มเสียงกลางแหลมที่มากกว่ารุ่น STD มั๊ยครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณพื้นที่ครับ
-
ขอเวลารวบรวมข้อมูลแป้ปนึง เดี๋ยวคืนนี้มาตอบครับ
-
ขอเวลารวบรวมข้อมูลแป้ปนึง เดี๋ยวคืนนี้มาตอบครับ
มารออ่านแล้วครับ น้ากฤษณ์ ^^
-
ขอเวลารวบรวมข้อมูลแป้ปนึง เดี๋ยวคืนนี้มาตอบครับ
ปูเสื่อรอเลยครับน้า ขอบคุณมากๆครับ
-
ขอเวลารวบรวมข้อมูลแป้ปนึง เดี๋ยวคืนนี้มาตอบครับ
ปูเสื่อรอน้ากฤษณ์เลยครับ อยากให้มีการรวบรวมการตอบคำถามให้ความรู้ของน้ากฤษณ์ไว้ซักที่นึง ได้ความรู้+เพลินดีครับ
-
รอด้วยคนครับ
-
Gibson J-45 "the Workhorse"
J-45 เป็น Gibson โปร่งรุ่นเดียวที่มีการผลิตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1942 จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นก่อนที่ก่อนที่จะพูดถึงแต่ละรุ่นที่เจ้าของกระทู้ถามมาผมขอเล่าความเป็นมาและการเปลี่ยนแปลงสเป็คของ J-45 ในแต่ละยุคให้ฟังก่อนครับ
ฉายา "The Workhorse" นั้นสำหรับคนอเมริกันเขาหมายถึง "ม้ากรรมกร" ที่เอามาใช้งานลากจูงและพรวนดินเพราะฝรั่งเขาไม่ใช้วัวควายเหมือนคนไทย ม้าประเภทนี้เป็นม้าที่ทนถึกแต่หน้าตาไม่ใด้สวยงามหรื่อวิ่งเร็ว ถ้าเป็นกีตาร์ก็คือกีตาร์ที่สู้งานทั้งหนักและเบาแบบเต็มที่แต่หน้าตาไม่ใด้สวยงามและเสียงก็ไม่ใด้นุ่มนวลชวนฝันเหมือนรุ่นแพงๆอย่าง Gibson J-200 หรือ Martin D-45
(https://i.ibb.co/vhkJ3Q1/5b4e2d39fe2906735099867832d42c46.jpg)
หลังจากอเมริกาเข้าร่วมสงครามอย่างเต็มตัวเพราะโดนถล่มที่ Pearl Harbor ในเดือนธันวาคม 1941 Gibson ก็เลยออกรุ่น J-45 ที่มีราคาขายเพียง $45 มาแข่งกับ Martin ทรง D ซึ่งในปีนั้นรุ่น D-18 ราคา $80 ในตอนนั้นช่างทำกีตาร์โดนเกณท์ไปทำยานพาหนะที่ใช้ในสงครามจนหมดโรงงาน Gibson เลยต้องจ้างผู้หญิงมาทำงานแทนที่โรงงานในเมือง Kalamazoo
(https://i.ibb.co/7K61s2L/1944-workforce.jpg)
ผลงานของสาวๆในยุคนั้นก็ค่อนข้างเรียบง่าย Top bracing ยัง scallop ด้วยมือแต่งานไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่นัก
(https://i.ibb.co/qWZbMzf/1942hum.jpg)
ในช่วงสงครามนั้นไม้ค่อนข้างหายากโดยเฉพาะไม้ spruce สวยๆก็โดนเอาไปทำชิ้นส่วนเครื่องบินหมด J-45 จึงมีแต่สี sunburst เท่านั้นเพราะสีเข้มๆจะปกปิดตำหนิของไม้ใด้ดีกว่า
(https://i.ibb.co/zVZSry9/DSC-0001-42.jpg)
เมื่อสงครามสิ้นสุดลงในปี 1945 และไม้สวยสามารถหาใด้ Gibson จึงออกรุ่น J-50 ในราคา $50 (แพงกว่า J-45 ห้าเหรียญ) ซึ่งต่างกับ J-45 แค่สีของไม้หน้าเท่านั้น J-50 ใด้รับความนิยมในอเมริกาและกลายเป็นกีตาร์ที่ศิลปินใช้กันหลายคนแต่กลับไม่ใด้รับความนิยมในบ้านเราครับ
(https://i.ibb.co/R9Pcm6h/j50.jpg)
เล่ามาตั้งนานเพิ่งถึงปี 1945 เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าต่อ ตอนนี้ลองฟังเสียงห้าวๆดิบๆของ J-50 ยุค '70s ไปก่อนจะใด้รู้ว่า "ความดิบ = ความมัน" ใครที่กำลังมองหากีตาร์เสียงหวานๆเพราะๆใว้เกาเล่นก็ผ่านกระทู้นี้ไปใด้เลยครับ
http://youtu.be/UeHD2pY_cR4 (http://youtu.be/UeHD2pY_cR4)
ถ้าเอา J-50 หรือ J-45 มาเล่นเพลงช้าๆก็ใด้เสียงแบบนี้ครับ
http://youtu.be/JOIo4lEpsPY (http://youtu.be/JOIo4lEpsPY)
-
ขอบคุณครับน้ากฤษ รอติดตามตอนต่อไปครับ
-
การเปลี่ยนแปลงของ Gibson J-45 ตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันด้านโครงสร้าง
1942-1954 Scalloped X Bracing ตามรูปที่ลงใว้ข้างบน
1955-1964 เลิกทำ scallop ทำให้กีตาร์แข็งแรงขึ้นและเสียค่าแรงน้อยลงด้วย
(https://i.ibb.co/xCm3pN9/1962hum.jpg)
1965-1969 ใช้ bridge plate ใหญ่ขึ้นทำให้เสียงเบาลงแต่ท้องป่องยากขึ้นด้วย
(https://i.ibb.co/qrRphbx/1962-70hum.jpg)
1962-1969 ใช้ bridge แบบปรับความสูงของ saddle ใด้
(https://i.ibb.co/nDQpNQc/09.jpg)
1970-1983 ยุคสุดท้ายของโรงงาน Kalamazoo ยุคนี้มีการเปลี่ยนโครงสร้างใหม่หมดโดยใช้แบบ double-X bracing กีตาร์ยุคนี้ทนทานยังกับรถถังแต่เสียงเบากว่ายุคอื่นเพราะเขาสร้างแบบที่ไม่ต้องการให้ลูกค้ามีปัญหาเรื่องโครงสร้าง (จะใด้ไม่ต้องมาเสียเวลาซ่อมฟรี)
(https://i.ibb.co/9ghsnTv/5275179345-707cde535a-b.jpg)
1984-1989 (Nashville plant) 1990-1996 (Bozeman plant) หลังจากปิดโรงงาน Kalamazoo Gibson ก็ย้ายมาผลิตกีตาร์โปร่งแบบเสียไม่ใด้ที่โรงงานเดียวกับกีตาร์ไฟฟ้าที่เมือง Nashville, Tennessee โรงงานนี้ช่างไม่ค่อยมีประสพการณ์ในการผลิตกีตาร์โปร่งเขาก็เลยกลับไปใช้ X-bracing แบบง่ายๆแทน เมื่อเปิดโรงงานใหม่ที่ Bozeman, Montana โดยมี Ren Ferguson เป็นคนดูแลและเขาก็ไม่ใด้เปลี่ยนโครงสร้างในช่วงแรกๆที่เข้ามารับงาน
(https://i.ibb.co/vZ2zgK6/DSC00937.jpg)
ในปี 1997 Ren Ferguson ก็เอา J-45 มาออกแบบใหม่โดยเปลี่ยนไปใช้ scalloped X-bracing อีกครั้งซึ่งก็ใช้มาถึงทุกวันนี้ครับ
(https://i.ibb.co/mtLkqjH/j45top.jpg)
การเปลี่ยนแปลงหน้าตาของ J-45
ในยุค '60s นั้นกีตาร์โปร่งทั้ง Gibson และ Martin ขายดิบขายดีจนผลิตไม่ทัน ปัญหาใหญ่สุดของทั้งสองยี่ห้อก็คือเรื่องการเคลมประกันที่ช่างต้องมาเสียเวลาซ่อมกีตาร์เก่าให้ลูกค้าแทนที่จะเอาเวลาไปทำกีตาร์ขาย Gibson ก็เลยต้องสร้างกีตาร์ให้แข็งแรงขึ้นโดยใช้ bracing และ bridge plate ขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งทำให้กีตาร์เสียงเบาลงซึ่งเขาก็แก้ไขด้วยการใช้ body ทรงเดียวกับ Dove และ Hummingbird แบบ square shoulder ที่มีส่วนเว้าส่วนโค่งน้อยกว่าและมีปริมาตรมากขึ้นในปี 1969 บอดี้นี้ใช้มาจนถึงปี 1983 ลองเทียบขนาดกับ body ของ original J-45 และ Martin ทรง D ในรูปด้านล่างครับ
(https://i.ibb.co/gM1Pmw3/DSC07296.jpg)
(https://i.ibb.co/vqLjGYs/DSC05518.jpg)
Gibson J-45 ตอนนี้ยังไม่ขึ้นอยู่ในทำเนียบกีตาร์สะสมเพราะมันเป็นกีตาร์ที่ขายดีและทนถึกเลยหามือสองใด้ง่ายดาย ราคามือสองในอเมริกาตามปีที่ผลิตดูใด้ในตารางด้านล่างครับ
(https://i.ibb.co/NxdpRNX/img092.jpg)
สำหรับคนที่ชอบกีตาร์ vintage ที่เอาไปลุยใด้ผมอยากแนะนำ J-45 Square shoulder ยุค '70s เพราะเป็นกีตาร์ที่ทนทานและในบ้านเรามือสองราคาถูกมาก (ไม่ใด้แพงกว่า Yamaha L10) อย่างสองตัวนี้ผมซื้อมาและขายไปพร้อมกล่องในราคาไม่ถึงสี่หมื่นบาทครับ
http://youtu.be/fp_mUO1r83g (http://youtu.be/fp_mUO1r83g)
http://youtu.be/fMfzx2GaidY (http://youtu.be/fMfzx2GaidY)
เขียนมาคั้งนานยังไม่ใด้ตอบคำถามเลยซักข้อ เดี๋ยวมาตอบครับ
-
กำลังเพลินเลยครับน้ากฤษ น้ากฤษเล่าจบน่จะเคลียทุกข้อสงสัยแล้วล่ะครับ ระเอียดยิบเลยครับ ขอบคุณข้อมูลดีๆมากๆครับ
-
ถึงเวลาตอบคำถามทีละข้อแล้วครับ
Gibson J45 custom shop (ป้ายสีส้ม) เสียงดีกว่ารุ่น Standard ใช่มั้ยครับ
โลโก้หรือป้าย "Custom Shop" ของ Fender USA นั้นรับประกันใด้เลยว่าเสียงดีกว่ารุ่น standard แน่นอนเพราะเขาเริ่มต้นด้วยการคัดไม้ที่สวยและ tap tone ก้องกังวาลจากไลน์การผลิตปกติเอาไปทำเป็นกีตาร์ custom shop แต่ถ้าเป็น Gibson นั้น "Custom Shop" มีความหมายแค่เพียงว่ามันมีบางอย่างที่ไม่เหมือน standard แต่ไม่ใด้รับประกันว่าเสียงจะต้องดีกว่า (บางรุ่นเสียงห่วยกว่าด้วยซ้ำ)
Gibson Acoustic เขาแบ่งกีตาร์ Custom Shop เป็นสองไลน์คือ "Modern" สำหรับกีตาร์ที่มีสเป็คต่างจากรุ่น standard โดยทั่วไปและ "Historic" สำหรับรุ่นที่ลอกสเป็คจากกีตาร์ vintage ในอดีต
Gibson J-45/50 เป็นรุ่นที่มีคนรู้จักมากที่สุด ดังนั้นก็เลยมีรุ่น Custom Shop ออกมาเยอะสุดเหมือนกัน ในยุคต้น 2000 นั้นในคาตาล้อกจะมี J-45/50 เพียงไม่กี่รุ่นอย่างในปี 2003 มี Custom Shop เพียงรุ่นเดียวคือ J-45 Vine
(https://i.ibb.co/s1LGXfy/j45-1.jpg)
แต่ในยุคหลังๆ J-45/50 นี่มีขายเป็นสิบรุ่นครับ
(https://i.ibb.co/8j1m8PY/j45.jpg)
(https://i.ibb.co/crLvxrY/j45-2.jpg)
J-45 Vine ของผมเป็นกีตาร์ปี 2006 ป้ายใน Soundhole ไม่ใช่ป้าย Custom Shop แต่โลโก้หลังคอเป็น Custom Shop
(https://i.ibb.co/Qmm1dt9/DSC04903.jpg)
(https://i.ibb.co/xLc2qZ7/DSC04910.jpg)
J-45 Macassar ปี 2002 ของผมนั้นป้ายเขียนว่า "Custom Built" แต่โลโก้หลังคอเขียนว่า "Custom Shop"
(https://i.ibb.co/vxPnwxD/DSC04950.jpg)
(https://i.ibb.co/Lrzrk1b/DSC04954.jpg)
J-45 VCS นั้นมาแบบ "Custom Shop" เต็มยศทั้งป้ายและโลโก้แต่มันก็เป็นแค่ J-45 Standard ที่ทำสีพิเศษและผลิตแค่สามสิบตัว
(https://i.ibb.co/qmZgb4h/DSC04885.jpg)
(https://i.ibb.co/txbw1SY/DSC04887.jpg)
J-45 สามตัวข้างบนเป็น Modern Custom Shop ที่ไม่อ้างอิงเสป็คของรุ่น vintage แต่ Custom Shop ตัวสุดท้ายนี่เป็นรุ่น Historic ที่ใช้สเป็คของปี 1955 ที่เป็น adirondack spruce top, non-scalloped bracing ปิกการ์คใหญ่และไม่มีป้ายรุ่นใน soundhole
(https://i.ibb.co/G3KcgpV/DSC07297.jpg)
(https://i.ibb.co/k6TMjsC/DSC07301.jpg)
ลองมาฟังเสียงกันครับ (ตัว J-45 Macassar ผมขายไปนานแล้วเลยไม่มีคลิปเสียง) ตัวแรกคือ J-45 VCS ปี 2011 ที่สเป็คและเสียงเหมือนรุ่น standard 100%
http://youtu.be/Nb6rdUTGcXI (http://youtu.be/Nb6rdUTGcXI)
ลองเทียบเสียงกับ 1950's J-45 Red Spruce ปี 2016 ที่สเป็คแตกต่างกับ standard ทั้ง bracing และไม้หน้า
http://youtu.be/DhWNNoc6_LE (http://youtu.be/DhWNNoc6_LE)
ส่วน J-45 Vine นั้นคงเทียบเสียงกับสองตัวข้างบนไม่ใด้เพราะใช้ไม้ rosewood ซึ่งคุณ Evie ไม่ใด้สนใจ
http://youtu.be/tzz9qat_v8g (http://youtu.be/tzz9qat_v8g)
ต้องขออภัยที่ตอบแบบช้าๆเพราะต้องหาทั้งรูปเก่าและถ่ายรูปใหม่ เดี๋ยวมาต่อครับ
-
J45 ปีเก่าๆ ถือว่าดีกว่าปีใหม่ๆมั้ยครับ-ถ้าให้เลือก std. ควรซื้อปีผลิตปีไหนดีครับ
J-45 เป็นกีตาร์ที่เกิดในยุคสงครามที่วัสดุขาดแคลน รุ่นแรกๆจึงทำกันตามมีตามเกิด บางตัวก็ใช้ไม้หน้าสี่ชิ้นมาประกบกัน พอหลังสงครามเขาก็เอาไม้สวยๆไปใช้กับรุ่น J-50 ที่ราคาสูงกว่า ดังนั้น J-45 จึงไม่มียุคทองหรือ Golden Era เหมือนกับ Martin ครับ J-45 ปีเก่าๆนั้นราคามือสองสูงกว่าปีใหม่ๆก็เพราะหาสภาพสวยๆใด้ยากกว่าเนื่องจากมันเป็นกีตาร์ที่คนซื้อไปใช้งานแต่ถ้าไม่นับเรื่องเสียงเปิดเพราะอายุแล้วก็ไม่ใด้ดีกว่ารุ่นใหม่ๆครับ
J-45 Standard นั้นเป็นชื่อที่ Gibson ตั้งให้กับ J-45 ที่ไม่ใช่รุ่นพิเศษเริ่มต้นจากปี 2008 ที่เปลี่ยนป้ายจากสีส้มมาเป็นสีขาวในรุ่นที่ไม่ใช่ Historic หรือ Custom Shop ความจริงแล้ว J-45 ปกติทุกรุ่นในรูปข้างล่างก็สเป็คเหมือนกับ J-45 Standard 100% อาจมีความแตกต่างบ้างตรงรูปร่างของ pick guard และระบบไฟฟ้าเท่านั้นเอง
(https://i.ibb.co/02Th3Vv/label4.jpg)
ดังนั้นเรื่องเสียงนี่ถ้าเป็นปี 1997 ขึ้นก็ไม่ใด้มีความแตกต่างกันระหว่างปีเป็นนัยสำคัญ ถ้ามีโอกาสลองก็ควรลองเสียงเป็นตัวๆไปเพราะ Gibson รุ่นเดียวกันเสียงต่างกันมากกว่า Martin หรือ Taylor
เมื่อเร็วๆนี้มีคนโวยวายว่าทำไม J-45 Standard รุ่นเดียวกันสองตัวถึงใช้ back bracing หน้าตาต่างกัน ผมเลยลองดูในคลิปการผลิตก็เห็นว่าเขาใช้เครื่องอัตโนมัติลบมุมไม้ brace ซึ่งดูการปาดมุมของปี 2016 แล้วน่าจะใช้เครื่อง "Nibbler" ทำแต่ในปี 2018 เครื่องที่ใช้มาเป็นสิบปีน่าจะพังแล้วเพราะดูจากส่วนโค้งน่าจะเป็นการใช้สิ่วปาดด้วยมือมากกว่า
(https://i.ibb.co/kMpkgxk/j45std.jpg)
(ชมคลิปที่ https://youtu.be/hJB4JYlSvVs (https://youtu.be/hJB4JYlSvVs))
ถ้าเน้นระบบไฟฟ้า J-45 ปี 1997-2004 ใช้ Fishman Acoustic Matrix Pickup ปี 2005 และพวก Historic ไม่มีระบบไฟฟ้า ปี 2006-2016 ใช้ LR Baggs Element VC ปี 2017 เป็นต้นมาใช้ LR Baggs Element VTC
ถ้าเน้นเล่นง่ายตั้งแต้ปี 2012 Gibson ใช้ Plek Machine เซ็ทอัพทุกตัวครับ
รุ่น True vintage มีอะไรพิเศษบ้างครับคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเพิ่มจากรุ่น STD มั้ยครับ
Gibson J-45 รุ่น True Vintage เสียงดีกว่ารุ่น standard แบบฟังออก สมัยที่ยังผลิตอยู่ขายราคาแพงกว่ารุ่น Standard 27,000 บาทแต่ตัวแทนจำหน่ายบอกผมว่าขายหมดเร็วกว่าทั้งๆที่ไม่ใด้เป็นกีตาร์ Custom Shop ครับ
โครงสร้างของ TV หลังปี 2008 ต่างกับ STD เยอะครับ
(https://i.ibb.co/c8xQZhH/j-45-brace.jpg)
ถ้าดูจาก bracing ของ TV ที่เปิดกว่าก็น่าจะให้ dynamic ที่เหนือกว่าแต่จะแข็งแรงน้อยกว่าซึ่งไม้หน้า adirondack spruce ที่แข็งกว่า sitka spruce น่าจะ compensate ใด้ (J-35 ที่ใช้ bracing pattern เหมือน J-45 TV เขาใส่สายเบอร์ 11 มาจากโรงงาน)
เรื่องนี้ยังเป็นความลับอยู่เพราะ J-45 TV ปี 2007-8 ก็ไม่ใด้ใช้ adirondack spruce แต่เสียงก็ดีเหมือนปีหลังๆครับ
2008 J-45 TV Sitka Spruce Top.
http://youtu.be/GL3MrkIB7Nw (http://youtu.be/GL3MrkIB7Nw)
2012 J-45 TV Adirondack Spruce Top.
http://youtu.be/POMZMRPglIs (http://youtu.be/POMZMRPglIs)
-
สำหรับรุ่น J-185 รอน้าท่านอื่นมาตอบนะครับเพราะผมไม่ใด้สนใจรุ่นนี้
มีรุ่นไหนของJ45 ที่เพิ่มเสียงกลางแหลมที่มากกว่ารุ่น STD มั๊ยครับ
ถ้าคิดว่าสามสายล่างของ J-45 Standard เสียงเบาไปก็ต้องลองเปลี่ยนเบอร์สายให้สาย 1, 2, 3 มีขนาดใหญ่ขึ้นแต่สาย 4, 5, 6 ขนาดเท่าเดิม ถ้าใช้ Custom Light ก็เปลี่ยนเป็น Light ถ้าใช้ Light อยู่ก็เปลี่ยนเป็น HD Light
(https://i.ibb.co/xjTBqQw/string.jpg)
ถ้าหากีตาร์ใหม่ก็หารุ่นที่ใช้ non-scalloped braces เพราะเสียงกลางแหลมชัดเจนกว่าแน่นอนครับ
http://youtu.be/mPTcmTNpfL0 (http://youtu.be/mPTcmTNpfL0)
-
ขอบคุณสำหรับความรู้มากๆครับน้ากฤษครับ
ผมชอบเสียงของ J45 1950’s ครับมันพอดีครับเหมือนอยู่เสียงอยู่กึ่งกลางระหว่างตัวแรกกับตัว J45 vine ครับ. แต่ J45 Vine เสียงกลางแหลมจะค่อนข้างน้อยกว่าสองตัวแรกแต่มีความฉ่ำมากกว่าสองตัวแรกครับ ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ขออนุญาตถามอีกครับน้ากฤษครับยิ่งอ่านคำถามก็ยิ่งเยอะครับ 55
ตัวที่ เป็น red spruce บ้านเรายังมีขายอยู่มั้ยครับ แล้วราคามือสองแพงกว่ารุ่นstandardมากมั้ยครับ
ขอบคุณครับถึงเวลาตอบคำถามทีละข้อแล้วครับ
Gibson J45 custom shop (ป้ายสีส้ม) เสียงดีกว่ารุ่น Standard ใช่มั้ยครับ
โลโก้หรือป้าย "Custom Shop" ของ Fender USA นั้นรับประกันใด้เลยว่าเสียงดีกว่ารุ่น standard แน่นอนเพราะเขาเริ่มต้นด้วยการคัดไม้ที่สวยและ tap tone ก้องกังวาลจากไลน์การผลิตปกติเอาไปทำเป็นกีตาร์ custom shop แต่ถ้าเป็น Gibson นั้น "Custom Shop" มีความหมายแค่เพียงว่ามันมีบางอย่างที่ไม่เหมือน standard แต่ไม่ใด้รับประกันว่าเสียงจะต้องดีกว่า (บางรุ่นเสียงห่วยกว่าด้วยซ้ำ)
Gibson Acoustic เขาแบ่งกีตาร์ Custom Shop เป็นสองไลน์คือ "Modern" สำหรับกีตาร์ที่มีสเป็คต่างจากรุ่น standard โดยทั่วไปและ "Historic" สำหรับรุ่นที่ลอกสเป็คจากกีตาร์ vintage ในอดีต
Gibson J-45/50 เป็นรุ่นที่มีคนรู้จักมากที่สุด ดังนั้นก็เลยมีรุ่น Custom Shop ออกมาเยอะสุดเหมือนกัน ในยุคต้น 2000 นั้นในคาตาล้อกจะมี J-45/50 เพียงไม่กี่รุ่นอย่างในปี 2003 มี Custom Shop เพียงรุ่นเดียวคือ J-45 Vine
(https://i.ibb.co/s1LGXfy/j45-1.jpg)
แต่ในยุคหลังๆ J-45/50 นี่มีขายเป็นสิบรุ่นครับ
(https://i.ibb.co/8j1m8PY/j45.jpg)
(https://i.ibb.co/crLvxrY/j45-2.jpg)
J-45 Vine ของผมเป็นกีตาร์ปี 2006 ป้ายใน Soundhole ไม่ใช่ป้าย Custom Shop แต่โลโก้หลังคอเป็น Custom Shop
(https://i.ibb.co/Qmm1dt9/DSC04903.jpg)
(https://i.ibb.co/xLc2qZ7/DSC04910.jpg)
J-45 Macassar ปี 2002 ของผมนั้นป้ายเขียนว่า "Custom Built" แต่โลโก้หลังคอเขียนว่า "Custom Shop"
(https://i.ibb.co/vxPnwxD/DSC04950.jpg)
(https://i.ibb.co/Lrzrk1b/DSC04954.jpg)
J-45 VCS นั้นมาแบบ "Custom Shop" เต็มยศทั้งป้ายและโลโก้แต่มันก็เป็นแค่ J-45 Standard ที่ทำสีพิเศษและผลิตแค่สามสิบตัว
(https://i.ibb.co/qmZgb4h/DSC04885.jpg)
(https://i.ibb.co/txbw1SY/DSC04887.jpg)
J-45 สามตัวข้างบนเป็น Modern Custom Shop ที่ไม่อ้างอิงเสป็คของรุ่น vintage แต่ Custom Shop ตัวสุดท้ายนี่เป็นรุ่น Historic ที่ใช้สเป็คของปี 1955 ที่เป็น adirondack spruce top, non-scalloped bracing ปิกการ์คใหญ่และไม่มีป้ายรุ่นใน soundhole
(https://i.ibb.co/G3KcgpV/DSC07297.jpg)
(https://i.ibb.co/k6TMjsC/DSC07301.jpg)
ลองมาฟังเสียงกันครับ (ตัว J-45 Macassar ผมขายไปนานแล้วเลยไม่มีคลิปเสียง) ตัวแรกคือ J-45 VCS ปี 2011 ที่สเป็คและเสียงเหมือนรุ่น standard 100%
http://youtu.be/Nb6rdUTGcXI (http://youtu.be/Nb6rdUTGcXI)
ลองเทียบเสียงกับ 1950's J-45 Red Spruce ปี 2016 ที่สเป็คแตกต่างกับ standard ทั้ง bracing และไม้หน้า
http://youtu.be/DhWNNoc6_LE (http://youtu.be/DhWNNoc6_LE)
ส่วน J-45 Vine นั้นคงเทียบเสียงกับสองตัวข้างบนไม่ใด้เพราะใช้ไม้ rosewood ซึ่งคุณ Evie ไม่ใด้สนใจ
http://youtu.be/tzz9qat_v8g (http://youtu.be/tzz9qat_v8g)
ต้องขออภัยที่ตอบแบบช้าๆเพราะต้องหาทั้งรูปเก่าและถ่ายรูปใหม่ เดี๋ยวมาต่อครับ
-
J-45 ปี2008 sitka spruce เสียงดีมากๆครับ ส่วน adirondack จะเด้งๆมากออกแข็งๆกว่าครับ
ความชอบส่วนตัวชอบเสียงตัว sitka 2008 ครับน้า
-
"ตัวที่ เป็น red spruce บ้านเรายังมีขายอยู่มั้ยครับ แล้วราคามือสองแพงกว่ารุ่นstandardมากมั้ยครับ"
พวก Custom Shop ส่วนใหญ่เป็น limited run แบบหมดแล้วหมดเลย เรื่องราคาสอบถามมาทางไลน์ (ID: krispood) หรือ 081-821-7999 ดีกว่าครับ
-
ผมอ่านเพลินมากเลย ภาพ เสียงประกอบครบ ขอบคุณน้ากฤษณ์ที่สละเวลามาลงข้อมูลให้ และขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
-
ประทับใจข้อมูลจากน้ากฤษณ์เสมอครับ ขอบพระคุณครับและขอขอบคุณเจ้าของคำถามมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
-
ผมอ่านเพลินมากเลย ภาพ เสียงประกอบครบ ขอบคุณน้ากฤษณ์ที่สละเวลามาลงข้อมูลให้ และขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
ประทับใจข้อมูลจากน้ากฤษณ์เสมอครับ ขอบพระคุณครับและขอขอบคุณเจ้าของคำถามมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขอบคุณครับ ถ้ามีคำถามอะไรก็ถามใด้เลยเพราะตอนนี้ต้องอยู่บ้านตลอดจะใด้ค้นหาข้อมูลให้ครับ
-
สวัสดีครับน้ากฤษณ์ ผมชื่นชอบและหลงใหลใน Gibson J45 มากเลยครับ ขอรบกวนถามน้ากฤษณ์เพื่อเป็นความรู้หน่อยนะครับ
1. Gibson J45 ในยุคปัจจุบัน มีขั้นตอนไหนบ้างที่ยังต้องใช้ทักษะของช่างที่ชำนาญของ Gibson โดยเฉพาะ โดยไม่ใช้เครื่องจักรช่วย ครับ
2. ในยุคปัจจุบัน การนำเครื่องจักรสมัยใหม่มาช่วยในขั้นตอนการสร้าง Gibson J45 จะทำให้เสียงและเอกลักษณ์ของ Gibson J45 เปลี่ยนไปจากยุคเก่าๆที่ตามผมเข้าใจคืออาศัยทักษะและความชำนาญของคนเป็นหลัก (ยุคที่สร้างจากKalamazoo) นั้นหายไปหรือไม่ครับ
3. ถ้าเปรียบเทียบจุดแข็งและจุดอ่อน ระหว่าง Gibson J45 standard ยุคปัจจุบัน และ Gibson J45 ยุคที่เป็นที่รู้จักและโด่งดัง เช่น ที่สร้างโดย Kalamazoo น้ากฤษณ์มีความเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ
ขอบคุณน้ากฤษณ์ล่วงหน้าสำหรับความรู้และข้อมูลดีๆนะครับ 8)
-
:)
-
สวัสดีครับน้ากฤษณ์ ผมชื่นชอบและหลงใหลใน Gibson J45 มากเลยครับ ขอรบกวนถามน้ากฤษณ์เพื่อเป็นความรู้หน่อยนะครับ
1. Gibson J45 ในยุคปัจจุบัน มีขั้นตอนไหนบ้างที่ยังต้องใช้ทักษะของช่างที่ชำนาญของ Gibson โดยเฉพาะ โดยไม่ใช้เครื่องจักรช่วย ครับ
2. ในยุคปัจจุบัน การนำเครื่องจักรสมัยใหม่มาช่วยในขั้นตอนการสร้าง Gibson J45 จะทำให้เสียงและเอกลักษณ์ของ Gibson J45 เปลี่ยนไปจากยุคเก่าๆที่ตามผมเข้าใจคืออาศัยทักษะและความชำนาญของคนเป็นหลัก (ยุคที่สร้างจากKalamazoo) นั้นหายไปหรือไม่ครับ
3. ถ้าเปรียบเทียบจุดแข็งและจุดอ่อน ระหว่าง Gibson J45 standard ยุคปัจจุบัน และ Gibson J45 ยุคที่เป็นที่รู้จักและโด่งดัง เช่น ที่สร้างโดย Kalamazoo น้ากฤษณ์มีความเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ
ขอบคุณน้ากฤษณ์ล่วงหน้าสำหรับความรู้และข้อมูลดีๆนะครับ 8)
ขอเวลาถ่ายรูปโครงสร้างด้านในกีตาร์ก่อนนะครับ เดี๋ยวมาตอบครับ
-
ได้เลยครับน้ากฤษณ์ ขอบคุณมากๆนะครับ :) :) :)
-
1. Gibson J45 ในยุคปัจจุบัน มีขั้นตอนไหนบ้างที่ยังต้องใช้ทักษะของช่างที่ชำนาญของ Gibson โดยเฉพาะ โดยไม่ใช้เครื่องจักรช่วย ครับ
Gibson Acoustic ยุคปัจจุบันก็เหมือนกับกีตาร์อเมริกันทุกยี่ห้อที่พยายามใช้เครื่องจักรมาทดแทนทักษะของช่างเพื่อลดต้นทุนการผลิตซึ่งเขาก็ทำใด้ดีระดับหนึ่งเพราะเดี๋ยวนี้กีตาร์ G Series ขายใด้ในราคาไม่ถึง $1,500 USD
ขั้นตอนในการผลิตที่ยังต้องใช้ทักษะของช่างตอนนี้มีเหลืออยู่ไม่กี่อย่าง อาทิเช่น
1. การคัดไม้...การคัดไม้ตามความแข็งและความอ่อนเพื่อนำไปทำกีตาร์ทรงต่างๆ (ไม้อ่อนทำทรงเล็ก ไม้แข็งทำทรงใหญ่) และการคัดเกรดตามความสวยงามยังเป็นขั้นตอนที่ใช้ทักษะล้วนๆ
(https://i.ibb.co/tDmyCRy/g12.jpg)
2. การวาง inlay ยังต้องอาศัยตาคนในการเลือกสีของ pearl และ abalone ให้เข้ากัน (ขั้นตอนนี้ไม่ต้องใช้กับ J-45)
(https://i.ibb.co/Wgvc1yC/g1.jpg)
3. งานพ่นสีและขัดเงา Gibson ยังใช้ทักษะช่างล้วนๆครับ
(https://i.ibb.co/mBLshhL/g16.jpg)
(https://i.ibb.co/85W3NJR/g17.jpg)
4. งาน Final setup and inspection
(https://i.ibb.co/DMRyCZD/g18.jpg)
เดี๋ยวมาต่อครับ
-
ในยุคปัจจุบัน การนำเครื่องจักรสมัยใหม่มาช่วยในขั้นตอนการสร้าง Gibson J45 จะทำให้เสียงและเอกลักษณ์ของ Gibson J45 เปลี่ยนไปจากยุคเก่าๆที่ตามผมเข้าใจคืออาศัยทักษะและความชำนาญของคนเป็นหลัก (ยุคที่สร้างจากKalamazoo) นั้นหายไปหรือไม่ครับ
งานสร้างกีตาร์สมัยนี้อาศัยหุ่นยนตร์มาช่วยทำงานทำให้ใด้ความแม่นยำสูงขึ้นและประหยัดเวลามากขึ้นเยอะ เครื่อง CDC machine ถูกนำมาใช้ขึ้นรูปคอกีตาร์โปร่งเป็นครั้งแรกโดย Bob Taylor ในปี 1989 และ Gibson ก็เริ่มใช้ในยุคกลาง 90s สมัยโรงงาน Kalamazoo (1902-1983) นั้นยังไม่มีเครื่อง computer มาช่วยทำงานแต่เครื่องกลึงแบบอัตโนมัตินั้นมีใช้มานานแล้วนะครับ
เครื่องตัด dovetail คอกีตาร์ที่โรงงาน Bozeman นั้นถูกใช้ในโรงงาน Kalamazoo มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เครื่องนี้ใช้หลักการเดียวกับเครื่องตัดดอกกุญแจที่เราเห็นตามห้างแต่ขนาดใหญ่กว่าเยอะครับ
(https://i.ibb.co/2qqWBFn/g19.jpg)
เครื่องตัด dovetail ที่บอดี้ก็ใช้ระบบ mechanical เหมือนกันแต่เป็นเครื่องใหม่เพราะเครื่องเก่าจาก Kalamazoo พังไปแล้ว
(https://i.ibb.co/jDFx1X1/g10.jpg)
เครื่อง CNC ของโรงงานกีตาร์อเมริกันทุกโรงใช้ยี่ห้อ Fadal ของคานาดา การทำคอกีตาร์นั้นใช้ CNC ทุกขั้นตอนโดยไม่มีการมาเหลาด้วยมือในขั้นตอนสุดท้ายเหมือนสมัยก่อนแล้ว
(https://i.ibb.co/vdXQt3S/g3.jpg)
(https://i.ibb.co/Wz2RPwV/g13.jpg)
(https://i.ibb.co/vPKB1FB/g4.jpg)
(https://i.ibb.co/DWNWbsB/g14.jpg)
การตัดชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดเขาก็ใช้ 2-D และ 3-D router
(https://i.ibb.co/3hcFk62/g6.jpg)
การตัด X-brace
(https://i.ibb.co/jk357t9/g2.jpg)
Brace ทุกชิ้นถูกตัดขึ้นรูปจาก router และไม่มีการเหลาด้วยมือเหมือนสมัยก่อน
(https://i.ibb.co/BZwkjgG/g8.jpg)
ส่วนปลายของ brace ที่ยื่นออกมาก็ถูก trim ด้วยเครื่อง nibbler
(https://i.ibb.co/6R4nndh/g9.jpg)
เรื่องความแตกต่างเรื่องเสียงและเอกลักษณ์นี่เปรียบเทียบยากหน่อยเพราะกีตาร์เก่านั้นไม้แห้งกว่าและเสียงเปิดกว่ากีตาร์ใหม่ที่ไมใด้ใช้ torrefied top แน่นอน ที่ผมสังเกตุใด้จากการมุดเข้าไปดูข้างในก็คือกีตาร์ยุคที่ทำด้วยมืองานเนียนกว่าเยอะครับ
งานใช้มือทำ (1926-1992)
(https://i.ibb.co/ngrkGpY/handcut.jpg)
งาน router (1993-2020)
(https://i.ibb.co/Y3kR8cs/1993.jpg)
ลองเทียบกับงานของช่างญี่ปุ่นครับ (ตามปกติข้างในไม่มีใครเห็นหรอกครับแต่ผมถอดสายออกแล้วใช้มือถือถ่าย)
(https://i.ibb.co/NZcQ6dn/1201-373.jpg)
-
ขอบคุณน้ากฤษณ์มากๆเลยนะครับที่สละเวลามาให้ความรู้ดีๆเกี่ยวกับกีต้าร์ Gibson J45, เมื่อคืนผมนั่งดูคลิปการสร้าง Gibson acoustic guitar ครบทั้ง 8 parts (https://www.youtube.com/watch?v=g7YdN1EE6FI (https://www.youtube.com/watch?v=g7YdN1EE6FI)) ซึ่งก็พอจะเข้าใจได้ในการสร้างกีต้าร์ระดับนึง แต่พอมาเห็นภาพถ่ายชัดๆอีกครั้งโดยน้ากฤษณ์ต้องยอมรับเลยครับ ว่างานภายในกีต้าร์อาจจะไม่เรียบร้อยเท่ายุค Kalamazoo ที่ทำด้วยมือ หรือ แม้แต่ไม่เรียบร้อยเท่างานกีต้าร์ของ Japan และยังถูก หลายๆคนโจมตีเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น งานประกอบไม่เรียบร้อย เสียงไม่ดี ไม่สมราคา หรือ อะไรก็ตามแต่
... แต่ถึงยังไงก็ตามจากที่ผมได้สัมผัส J45 มาบ้าง และ ครอบครอง J45 limited run ผมเชื่อว่า เสียงและมนต์เสน่ห์ของ Gibson J45 ที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังตั้งแต่ปี 1942 ถ้าไม่แน่จริงไม่อยู่ในมือของศิลปินใหญ่ๆในคอนเสิร์ตและผู้หลงรักใน J45 ได้อย่างแน่นอนครับ
โดยเฉพาะ Bob Dylan นี่ปลื้มสุดๆครับ ขนาดแกมี Bob Dylan SJ-200 Players Edition Acoustic-Electric Vintage Sunburst แต่ในหลายๆคอนเสิร์ตที่ผมดู แกก็ยังใช้ Gibson J45 ครับ
ขอบคุณน้ากฤษณ์อีกครั้งครับผม :) :) :)
-
สำหรับผมแล้ว Gibson J-45 ไม่ใด้เป็นและไม่เคยเป็นกีตาร์โปร่งที่เสียงเพราะที่สุดแต่มันคือ Icon ของดนตรี Rock and Roll มาตั้งแต่ยุค 1950s
http://youtu.be/gYoK-VSuvL0 (http://youtu.be/gYoK-VSuvL0)
จนถึงยุคปัจจุบัน (1966 J-45)
http://youtu.be/6m_xsrHquow (http://youtu.be/6m_xsrHquow)
ตำนานของ Gibson J-45
http://youtu.be/LRv83LKmI7s (http://youtu.be/LRv83LKmI7s)
ผมสะสมกีตาร์มาห้าสิบปีแบบสะเปะสะปะแต่กีตาร์รุ่นที่ผมเคยมีมากสุดก็คือ J-45 (และรุ่นที่เติบโตมาจากรุ่นนี้) J-45 ตัวที่ผมชอบที่สุดคือตัวที่มีสภาพเป็น workhorse จริงๆแบบที่ไม่มี custom shop ทำ relic เลียนแบบใด้
1969 Gibson J-45 Heritage Cherry Sunburst Adjustable Bridge All Original
(https://i.ibb.co/cCyfNgf/691.jpg)
(https://i.ibb.co/SdJKXBx/692.jpg)
(https://i.ibb.co/D7FyhwM/694.jpg)
(https://i.ibb.co/M6Q4dGS/695.jpg)
(https://i.ibb.co/ydbnc5N/696.jpg)
(https://i.ibb.co/Cmh9JJ4/693.jpg)
เสียงของ J-45 square shoulder จะทุ้มและลึกกว่า round shoulder J-45 แต่ย่านเบสจะไม่มี definition หรือที่เรียกกันว่า "Gibson Thump" ชัดเจนเท่า ลองฟังเสียงเปรียบเทียบดูครับ
http://youtu.be/NeLGJ1uD5No (http://youtu.be/NeLGJ1uD5No)
Early 1950's scalloped bracing (Pre 1955)
(https://i.ibb.co/qNm8dwS/2007.jpg)
http://youtu.be/YFDrDdZ-Crw (http://youtu.be/YFDrDdZ-Crw)
ดังนั้นคำถามสุดท้ายเรื่องการเปรียบเทียบเสียง J-45 ยุค Kalamazoo กับยุคปัจจุบันผมจึงตอบใด้ไม่เต็มที่เพราะผมไม่เคยมีโอกาสใด้ครอบครอง J-45 round shoulder แท้ๆระหว่างปี 1942-68 ที่ made in Kalamazoo เพราะสู้ราคาไม่ไหว ผมชอบเสียงของ square should J-45s ซึ่งเลิกผลิตหลังจากที่โรงงาน Kalamazoo ปิดแต่ก็แปลงร่างมาเป็นรุ่น J-30 ในปี 1984 รุ่น Custom Line CL-20 Standard ในปี 1997 และรุ่น Hummingbird Standard ในปี 2008
http://youtu.be/qyu06mavRDg (http://youtu.be/qyu06mavRDg)
http://youtu.be/e9BlaA0lKPg (http://youtu.be/e9BlaA0lKPg)
http://youtu.be/U3CxDnt38WI (http://youtu.be/U3CxDnt38WI)
ผมว่ากีตาร์ที่ราคาถูกกว่า J-45 แต่เสียงดีกว่าหาไม่ยากหรอกแต่คนที่ซื้อ J-45 เขาซื้อตำนานและสมบัติที่สะสมใด้เหมือนกับคนที่ซื้อนาฬิกา Rolex ราคาเป็นแสนที่บอกเวลาไม่ใด้ตรงเท่ากับ smart watch ราคาไม่กี่พันบาทครับ
-
สำหรับผมแล้ว Gibson J-45 ไม่ใด้เป็นและไม่เคยเป็นกีตาร์โปร่งที่เสียงเพราะที่สุดแต่มันคือ Icon ของดนตรี Rock and Roll มาตั้งแต่ยุค 1950s
http://youtu.be/gYoK-VSuvL0 (http://youtu.be/gYoK-VSuvL0)
จนถึงยุคปัจจุบัน (1966 J-45)
http://youtu.be/6m_xsrHquow (http://youtu.be/6m_xsrHquow)
ตำนานของ Gibson J-45
http://youtu.be/LRv83LKmI7s (http://youtu.be/LRv83LKmI7s)
ผมสะสมกีตาร์มาห้าสิบปีแบบสะเปะสะปะแต่กีตาร์รุ่นที่ผมเคยมีมากสุดก็คือ J-45 (และรุ่นที่เติบโตมาจากรุ่นนี้) J-45 ตัวที่ผมชอบที่สุดคือตัวที่มีสภาพเป็น workhorse จริงๆแบบที่ไม่มี custom shop ทำ relic เลียนแบบใด้
1969 Gibson J-45 Heritage Cherry Sunburst Adjustable Bridge All Original
(https://i.ibb.co/cCyfNgf/691.jpg)
(https://i.ibb.co/SdJKXBx/692.jpg)
(https://i.ibb.co/D7FyhwM/694.jpg)
(https://i.ibb.co/M6Q4dGS/695.jpg)
(https://i.ibb.co/ydbnc5N/696.jpg)
(https://i.ibb.co/Cmh9JJ4/693.jpg)
Large bridge plate, non-scalloped braces, adjustable bridge.
(https://i.ibb.co/YR8sTcx/1968.jpg)
เสียงของ J-45 square shoulder จะทุ้มและลึกกว่า round shoulder J-45 แต่ย่านเบสจะไม่มี definition หรือที่เรียกกันว่า "Gibson Thump" ชัดเจนเท่า ลองฟังเสียงเปรียบเทียบดูครับ
http://youtu.be/NeLGJ1uD5No (http://youtu.be/NeLGJ1uD5No)
Early 1950's scalloped bracing (Pre 1955)
(https://i.ibb.co/qNm8dwS/2007.jpg)
http://youtu.be/YFDrDdZ-Crw (http://youtu.be/YFDrDdZ-Crw)
ดังนั้นคำถามสุดท้ายเรื่องการเปรียบเทียบเสียง J-45 ยุค Kalamazoo กับยุคปัจจุบันผมจึงตอบใด้ไม่เต็มที่เพราะผมไม่เคยมีโอกาสใด้ครอบครอง J-45 round shoulder แท้ๆระหว่างปี 1942-68 ที่ made in Kalamazoo เพราะสู้ราคาไม่ไหว ผมชอบเสียงของ square should J-45s ซึ่งเลิกผลิตหลังจากที่โรงงาน Kalamazoo ปิดแต่ก็แปลงร่างมาเป็นรุ่น J-30 ในปี 1984 รุ่น Custom Line CL-20 Standard ในปี 1997 และรุ่น Hummingbird Standard ในปี 2008
http://youtu.be/qyu06mavRDg (http://youtu.be/qyu06mavRDg)
http://youtu.be/e9BlaA0lKPg (http://youtu.be/e9BlaA0lKPg)
http://youtu.be/U3CxDnt38WI (http://youtu.be/U3CxDnt38WI)
ผมว่ากีตาร์ที่ราคาถูกกว่า J-45 แต่เสียงดีกว่าหาไม่ยากหรอกแต่คนที่ซื้อ J-45 เขาซื้อตำนานและสมบัติที่สะสมใด้เหมือนกับคนที่ซื้อนาฬิกา Rolex ราคาเป็นแสนที่บอกเวลาไม่ใด้ตรงเท่ากับ smart watch ราคาไม่กี่พันบาทครับ
จริงครับผมเองเพิ่งซื้อ Gibson J45 STD มาไม่นาน เรื่องเสียงผมว่าไม่ได้ดีมาก มีตัวอื่นๆของผมที่เสียงดีกว่า แต่ปัจจุบัน J45 กลับเป็นกีตาร์ที่ผมหยิบเล่นทุกวัน มันมีสเน่ห์แบบแปลกๆ เสียงจะว่าดีก็ไม่ใช่ จะว่าแย่ก็ไม่ มันมีเอกลักษณ์ในแบบของมันมากกว่า แต่ที่สำคัญผมชอบสี SB ของมันมากๆ มันดูธรรมดา แต่กลับสวยทุกครั้งที่มองเลย ครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องกีตาร์ดีๆนะครับ ผมติดตามน้ากฤษณ์ ตั้งแต่ประวัติ Guild แล้วครับ หลอน D55 ไปพักใหญ่ๆเลยครับ แต่งบไม่ถึงเลยพักไว้ก่อน
-
ประวัติที่คู่ควรกับการศึกษาในเรื่องกีต้าร์ไม่น่าเบื่อเลย ดีกว่าไปสนใจอ่านพวกกระทู้นรก ประเทศชาติจะเสียหายเพราะคนไม่มีศีลธรรม มาหาความสุขกับการได้อ่านเรื่องราวๆดีๆที่ท่านน้าๆพี่ๆเสียเวลารวบรวมมาไว้ให้อย่างไม่ย่อท้อเลย ดีแน่ๆ
-
:) :) :) :) :)