อะคูสติกไทยเวปบอร์ด
Acoustic Webboard => ห้องพูดคุย Acoustic Guitars and Accessories และทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: apinan14 ที่ ตุลาคม 08, 2012, 11:15:31
-
เพื่อให้มีการสั่นสะเทือน บนหน้าไม้ ช่วยให้เสียงมีพัฒนาการดีขึ้น (รึเปล่า) ไม่ทราบว่า ยังมี น้าๆ ใช้วิธีนี้ อยู่รึเปล่า พอดีผมเพิ่งได้กีต้าร์ มาเลยลองใช้วิธีนี้ดู เปิดทิ้งไว้เมื่อเช้า กลับไปบ้านจะลองดู เพราะก่อนหน้านี้เห็นมีน้าๆใช้วิธีนี้อยู่ หลังๆไม่เห็นเลย
-
ระวังกีต้าร์เป็นรอยนะครับ... ผมเคยเห็นพี่คนนึงทำ ได้รอยไม่อยากได้มา
ส่วนเรื่องเสียง มันจะเหมือนว่าเราคิดเอาเองว่าดีขึ้น
-
เอาไปตั้งหน้าตู้ Sub ซิครับ ไม้หน้า สะเทือนดี
-
ขอความรู้น้องใหม่หัดเล่นหน่อยครับน้า ว่าทำเพื่ออะไรครับ ???
-
ไม่แนะนำให้ใช้ คิดว่า ไม่มีทางช่วยได้ นอกจาก เราต้องเล่น ต้องเบิร์น เอง ด้วยมือ ของเรา ครับ
และหาก ตัวปั๊ม ออกซิเจน มันร้อน หรือเจออากาศร้อน อบอ้าว หรือเจอเครื่องที่ หลุด QC ขึ้นมา
แล้วเกิดลุกเป็นเปลวไฟ บนตัวกีต้าร์ ในขณะที่เราไม่อยู่ หรือเผลอไป ก็ตัวใคร ตัวมัน แหล่ววว...
-
เห็นด้วยกะน้ากวางครับ แต่เคยได้ยินเรื่องเปิดเพลงให้กับกีตาร์ฟังน่ะครับผม น่าสนใจ แต่ไม่รู้ต้องดังเบาแค่ไหนครับ น้าท่านไหนมีความรู้รบกวนหน่อยนะครับผม
-
ไม่แนะนำให้ใช้ คิดว่า ไม่มีทางช่วยได้ นอกจาก เราต้องเล่น ต้องเบิร์น เอง ด้วยมือ ของเรา ครับ
และหาก ตัวปั๊ม ออกซิเจน มันร้อน หรือเจออากาศร้อน อบอ้าว หรือเจอเครื่องที่ หลุด QC ขึ้นมา
แล้วเกิดลุกเป็นเปลวไฟ บนตัวกีต้าร์ ในขณะที่เราไม่อยู่ หรือเผลอไป ก็ตัวใคร ตัวมัน แหล่ววว...
อ้าวๆๆๆ เดี๋ยวต้องรีบกลับไปปิด เดี๋ยวเสร็จ ทั้งบ้าน ทั้งกีต้าร์ หลาวววว
-
ต้องลองดูแล้วจะรู้น้าapinan14 ถ้าถามจะใด้นานาทัศนะเลยครับ คนที่ตอบว่าไม่ใด้ผล
ส่วนใหญ่ยังไม่เคยลองด้วยตัวเองใช้หลักการคิดแล้วนึกเอาเองว่าใช้ไม่ใด้ น้าๆที่ลองแล้ว
ใด้ผลเท่าที่ผมใด้คุยด้วยหลังๆเขาก็เบื่อจะตอบ เพราะต้องมายกเหตุผลโต้แย้งกัน เอาเท่าที่
ผมใด้ลองมาบ้างก็แล้วกันครับมา ใด้ผลครับแต่ไม่ใด้ผลมากเท่ากันในกีต้าร์ทุกตัว อยู่ที่กีต้าร์
นั้นๆตัวไม้ผ่านการพัฒนาด้วยการเล่นมาเท่าไหร่ เสียงเปิดหรือยังเป็นลามิเนตหรือโซลิต เวลาใช้
จริงๆยังมีเทคนิคการวางเครื่องอีกว่าจะให้เสียงย่านไหนเปิด แต่มันก็มีระดับในการพัฒนาสู้คนเล่นเอง
จริงๆไม่ใด้ครับ วิธีที่ดีที่สุดยังไงผมก็ยอมรับว่าเบิร์นด้วยคนเล่นดีกว่าแต่เราส่วนใหญ่ไม่ใช่นักดนตรี
อาชีพครับบางวันไม่มีเวลาจับเลยด้วยซ้ำ หลักการทำงานมาจากเจ้า toneriteเครื่องนี้ครับตามไป
ดูฝรั่งมั่งค่าเขาเถียงกันก็มันดีครับ
http://tonerite.com/ (http://tonerite.com/)
http://www.stewmac.com/shop/Accessories/ToneRite/ToneRite.html (http://www.stewmac.com/shop/Accessories/ToneRite/ToneRite.html)
-
ผมว่าปั๊มตู้ปลามันสั่นสะเทือนจริง แต่สั่นสะเทือนที่ไม่ใช่ความถี่เสียงดนตรี
ควรวางกีตาร์ที่ต้องการเบิร์นไว้ใกล้ ชุดเครื่องเสียง ทีวี โฮมเธียเตอร์ (วางระวัง ๆ ด้วยเดี๋ยวล้มจะไม่คุ้ม) น่าจะดีกว่า
เพราะเราเปิดฟังทุกวันอยู่แล้ว
-
ผมว่าปั๊มตู้ปลามันสั่นสะเทือนจริง แต่สั่นสะเทือนที่ไม่ใช่ความถี่เสียงดนตรี
ควรวางกีตาร์ที่ต้องการเบิร์นไว้ใกล้ ชุดเครื่องเสียง ทีวี โฮมเธียเตอร์ (วางระวัง ๆ ด้วยเดี๋ยวล้มจะไม่คุ้ม) น่าจะดีกว่า
เพราะเราเปิดฟังทุกวันอยู่แล้ว
จะสั่นมาในย่านความถี่เสียงของโน๊ตตัว G ครับระดับการการสั่นจะปรับใด้บ้างถ้าใช้เป็นครับ ;D ;D ;D
-
ผมว่าปั๊มตู้ปลามันสั่นสะเทือนจริง แต่สั่นสะเทือนที่ไม่ใช่ความถี่เสียงดนตรี
ควรวางกีตาร์ที่ต้องการเบิร์นไว้ใกล้ ชุดเครื่องเสียง ทีวี โฮมเธียเตอร์ (วางระวัง ๆ ด้วยเดี๋ยวล้มจะไม่คุ้ม) น่าจะดีกว่า
เพราะเราเปิดฟังทุกวันอยู่แล้ว
จะสั่นมาในย่านความถี่ของโน๊ตตัว G ครับระดับการการสั่นจะปรับใด้บ้างถ้าใช้เป็นครับ ;D ;D ;D
นึกไปนึกมา เห็นร้านทุกอย่าง 20 บาท มีเครื่องนวดแบบสั่นสะเทือน ต่อ usb ได้ด้วย
ว่าจะมาลองนวดกีตาร์บ้าง นวดคนสบาย นวดกีตาร์คงจะแจ่ม อิ ๆ ๆ
-
ผมก็ใช้เครื่องสั่นเหมือนกัน ;D ;D ;D
กีต้าร์ไม่รู้ แต่คนสั่นตาม ;D ;D ;D
(http://image.free.in.th/z/id/rb1008.jpg) (http://pic.free.in.th/id/c72e5a15d912d5db41fca550ab38a9b7)
(ปล. แซวเล่นนะครับ)
-
ผมก็ใช้เครื่องสั่นเหมือนกัน ;D ;D ;D
กีต้าร์ไม่รู้ แต่คนสั่นตาม ;D ;D ;D
(http://image.free.in.th/z/id/rb1008.jpg) (http://pic.free.in.th/id/c72e5a15d912d5db41fca550ab38a9b7)
(ปล. แซวเล่นนะครับ)
:o :o :o :o
-
ผมเคยใช้ครับ ได้ผลครับ แต่ต้องเป็นกีต้าร์ใหม่ ไฟไม่ใหม้หรอกครับ ผมเลี้ยงปลามา ยังไม่เคยได้ยินว่า
ปั๊มอีอกซิเจนไฟไหม้เลย มันถูกออกแบบมาให้เปิดได้นานๆ ผมเลี้ยงปลา เปิดไว้เป็นเดือนเลยครับ
ผมตั้งทิ้งไว้ เจ็ดวัน ทำกับ ColeClark ผลที่ได้
คือ เสียงเบสมาเยอะขึ้นครับ แต่ผมไม่ได้เอาอ๊อกซิเจนปลาวางลงไปตรงๆนะครับ ต้องมีฐานรองใต้อ๊อซิเจนปลาอีกที ไม้หน้ามันจะสั่น เหมือนเราตีคอร์ด เมืองนอกเขาทำและเห็นผลมาแล้วครับ ผมเลยทำตาม ก็ได้ผลเหมือนกัน มันเป็นวิทยาศาสตร์ครับ วัดผลได้
(http://image.ohozaa.com/i/8f9/DPAzJ8.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wbE2Ev9o7toPC09T)
ภาพตัวอย่างที่ผมทำครับ ตัวนี้ Veelah V1 ครับ ตัวนี้ไม่ได้เบิร์นนะครับ ทำเป็นตัวอย่าง ถ้าให้ดีเอาผ้ารองไว้ก็ได้ครับ เพื่อความอุ่นใจ
-
V1-DCE ของผมถ้าทำมันจะเห็นผลกับเขาไหมครับ หรือต้องกีต้าร์แพงๆ Class สูงๆ
-
เคยลองกับอูคูเลเล่ ออลโซลิดครับ ผลที่ได้ต่างกันมากๆ ครับ แต่ต้องมีเทคนิคการวางนะครับไม่งั้นได้รอยมาแทน ชัวร์
-
มันต้องหาอะไรมาลองก่อนแล้วค่อยวางครับ (เพื่อป้องกันความร้อนจากตัวปั๊มมาที่สายกีตาร์) ผมใช่ผ้ามาพับไว้แล้ววางลงบนสาย แล้วค่อยวางปั๊มอีกทีนึง เอาคาโป้คาด ไล่ไปตั้งแต่ช่อง1 เลื่อนคาโป้ไปวันละ 1 ช่อง เพื่อให้ได้โน๊ตและ ความตึงที่เปลี่ยนไป
ปล...ส่วนเรื่องไฟไหม้ที่เครื่อง ผมเลี้ยงปลามา20 ปี ไม่เคยเจอไฟไหม้ ตัวปั้มพวกนี้ เวลามันพัง หรือ เจ๊ง มันก็จะดับไปเลย (เพราะวงจรมันขาดไปแล้ว เสียบคาไว้ ไฟมันก็จะไม่วิ่งเข้ามา เพราะ มันไม่ครบวงจรครับ) ควรละวังตัวปลํ๊กที่ใช้ต่อมากกว่า เหตุที่เครื่องใชไฟฟ้าไฟไหม้ ส่วนใหญ่มากจาก หัวปลั๊กที่หลวมไปมา ทำให้เกิดการ สป๊าคแล้วเกิด สเก็ดไฟ กระเด็นออกมาครับ
- มันเป็นวิทยาศาสตร์ สามารถพิสูตรได้ กีตาร์โปร่งเสียงมันดัง เพราะสายมันสั่น แล้ว ไปทำให้ไม้หน้าสั่น จึงเกิดเสียง เพราะฉนั้น ถ้าเราทำให้ไม้หน้าสั่น จะด้วยวิธีการใดก้ตาม มันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่มาก ก็น้อย จะตอบว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย คงไม่ใช่ครับ (เมื่อมวลเปลี่ยน การสั่นสะเทือนก็จะเปลี่ยน และ เสียงก็จะเปลี่ยนไปด้วย)
- ความเห็นส่วนตัวนะครับ ควรจะลองด้วยตัวเองดีที่สุด ไม่ต้องเชื่อผม มันจะได้ผล หรือ ไม่ได้ผล เราควรจะลองด้วยตัวเองครับ แล้วคุณจะได้คำตอบเอง
- การใช้ของพวกนี้ มันเป็นแค่ตัวช่วย อย่า ไปคาดหวังกับมันมากจนเกินไป ยังไงเสีย มันก็สู้เราสับคอร์ดแรงๆ ไม่ได้หล่อกครับ ถ้าไม่อยากใช้ตัวช่วยผม แนะนำ ให้จับคอร์ดทาบ แล้ว กระหน่ำ สับคอร์ด แรงๆ ( ไม่ต้องกลัวกีตาร์พังครับ ถ้าตีคอร์ดแรงๆ แล้ว บริจช์หลุดกระเด็นออกมา มันก้ไม่สมควรที่จะเป็นกีตาร์อีกต่อไป) แล้วเลื่อนมือ ที่จับคอร์ดมาทีละเฟร็ท จนถึงเฟร็ท 12 แล้วไล่กลับ ทำอย่างนี้ ซัก 2 -3 รอบ ก่อนและหลังเล่นกีตาร์ทุกครั้ง เสียงเปิดไวกว่า จะมานั่ง เกาๆ กะนุ๋งกะนิ๋ง เพียงอย่างเดียวครับ
-
มันต้องหาอะไรมาลองก่อนแล้วค่อยวางครับ (เพื่อป้องกันความร้อนจากตัวปั๊มมาที่สายกีตาร์) ผมใช่ผ้ามาพับไว้แล้ววางลงบนสาย แล้วค่อยวางปั๊มอีกทีนึง เอาคาโป้คาด ไล่ไปตั้งแต่ช่อง1 เลื่อนคาโป้ไปวันละ 1 ช่อง เพื่อให้ได้โน๊ตและ ความตึงที่เปลี่ยนไป
ปล...ส่วนเรื่องไฟไหม้ที่เครื่อง ผมเลี้ยงปลามา20 ปี ไม่เคยเจอไฟไหม้ ตัวปั้มพวกนี้ เวลามันพัง หรือ เจ๊ง มันก็จะดับไปเลย (เพราะวงจรมันขาดไปแล้ว เสียบคาไว้ ไฟมันก็จะไม่วิ่งเข้ามา เพราะ มันไม่ครบวงจรครับ) ควรละวังตัวปลํ๊กที่ใช้ต่อมากกว่า เหตุที่เครื่องใชไฟฟ้าไฟไหม้ ส่วนใหญ่มากจาก หัวปลั๊กที่หลวมไปมา ทำให้เกิดการ สป๊าคแล้วเกิด สเก็ดไฟ กระเด็นออกมาครับ
- มันเป็นวิทยาศาสตร์ สามารถพิสูตรได้ กีตาร์โปร่งเสียงมันดัง เพราะสายมันสั่น แล้ว ไปทำให้ไม้หน้าสั่น จึงเกิดเสียง เพราะฉนั้น ถ้าเราทำให้ไม้หน้าสั่น จะด้วยวิธีการใดก้ตาม มันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่มาก ก็น้อย จะตอบว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย คงไม่ใช่ครับ (เมื่อมวลเปลี่ยน การสั่นสะเทือนก็จะเปลี่ยน และ เสียงก็จะเปลี่ยนไปด้วย)
- ความเห็นส่วนตัวนะครับ ควรจะลองด้วยตัวเองดีที่สุด ไม่ต้องเชื่อผม มันจะได้ผล หรือ ไม่ได้ผล เราควรจะลองด้วยตัวเองครับ แล้วคุณจะได้คำตอบเอง
- การใช้ของพวกนี้ มันเป็นแค่ตัวช่วย อย่า ไปคาดหวังกับมันมากจนเกินไป ยังไงเสีย มันก็สู้เราสับคอร์ดแรงๆ ไม่ได้หล่อกครับ ถ้าไม่อยากใช้ตัวช่วยผม แนะนำ ให้จับคอร์ดทาบ แล้ว กระหน่ำ สับคอร์ด แรงๆ ( ไม่ต้องกลัวกีตาร์พังครับ ถ้าตีคอร์ดแรงๆ แล้ว บริจช์หลุดกระเด็นออกมา มันก้ไม่สมควรที่จะเป็นกีตาร์อีกต่อไป) แล้วเลื่อนมือ ที่จับคอร์ดมาทีละเฟร็ท จนถึงเฟร็ท 12 แล้วไล่กลับ ทำอย่างนี้ ซัก 2 -3 รอบ ก่อนและหลังเล่นกีตาร์ทุกครั้ง เสียงเปิดไวกว่า จะมานั่ง เกาๆ กะนุ๋งกะนิ๋ง เพียงอย่างเดียวครับ
สุดยอดเลยน้าเบียร์ อิงหลักความจริงทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย อ่านเพลินดีจริงๆครับ ท่านsir.น้าเบียร์ ณ พิจิตร อิอิ ;D ;D
-
ต้องลองดูแล้วจะรู้น้าapinan14 ถ้าถามจะใด้นานาทัศนะเลยครับ คนที่ตอบว่าไม่ใด้ผล
ส่วนใหญ่ยังไม่เคยลองด้วยตัวเองใช้หลักการคิดแล้วนึกเอาเองว่าใช้ไม่ใด้ น้าๆที่ลองแล้ว
ใด้ผลเท่าที่ผมใด้คุยด้วยหลังๆเขาก็เบื่อจะตอบ เพราะต้องมายกเหตุผลโต้แย้งกัน เอาเท่าที่
ผมใด้ลองมาบ้างก็แล้วกันครับมา ใด้ผลครับแต่ไม่ใด้ผลมากเท่ากันในกีต้าร์ทุกตัว อยู่ที่กีต้าร์
นั้นๆตัวไม้ผ่านการพัฒนาด้วยการเล่นมาเท่าไหร่ เสียงเปิดหรือยังเป็นลามิเนตหรือโซลิต เวลาใช้
จริงๆยังมีเทคนิคการวางเครื่องอีกว่าจะให้เสียงย่านไหนเปิด แต่มันก็มีระดับในการพัฒนาสู้คนเล่นเอง
จริงๆไม่ใด้ครับ วิธีที่ดีที่สุดยังไงผมก็ยอมรับว่าเบิร์นด้วยคนเล่นดีกว่าแต่เราส่วนใหญ่ไม่ใช่นักดนตรี
อาชีพครับบางวันไม่มีเวลาจับเลยด้วยซ้ำ หลักการทำงานมาจากเจ้า toneriteเครื่องนี้ครับตามไป
ดูฝรั่งมั่งค่าเขาเถียงกันก็มันดีครับ
http://tonerite.com/ (http://tonerite.com/)
http://www.stewmac.com/shop/Accessories/ToneRite/ToneRite.html (http://www.stewmac.com/shop/Accessories/ToneRite/ToneRite.html)
กดไลท์..............ให้ 10000 ครับ
ปล......แล้วผมจะไม่เข้ามาตอบเรื่องนี้อีกแล้ว ขอครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายครับ
ปล......แตกต่างทางความคิด แต่ไม่แตกแยกครับ.......ยังเคารพ พี่ป้า น้า อา ทุกท่านเสมอครับ
-
ผมเคยลองเองครับ ผมเอาผ้ารองก่อนแล้วจะเปลี่ยนตำแหน่งวางปั้มทุก2ชั่วโมงครับเพราะว่ามันร้อนจะได้ไม่ร้อนมาก สำหรับผมคิดว่ามันช่วยได้นะครับ ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกันคงต้องลองเองส่วนตัวผมว่าได้ผลครับ อยากรู้ก็ลองเองเลยครับ ลองหาตำแหน่งวางที่จะทำให้มีการสั่นสะเทือนมากที่สุดอะครับ ลองๆดูจะได้รู้ด้วยตัวเองเลย (ถ้าปั้มตัวใหญ่น้ำหนักมากอาจจะมีปัญหากับไม้หน้าได้นะครับ) ลองเองเลยครับ โชคดีครับ
-
ผมเอาลวดมาดัดติดไม้หนีบผ้า(เป็นไม้แบบแบนๆ)กับตัวอ๊อกแล้วก็เอามาคีบสายกีต้าร์ครับ
ปกติถ้าเป็นไวโอลินมันต้องหนีบที่หย่องพอมาใช้กับกีต้าร์บ้างเลยหนีบที่สายดูบริเวณใกล้ๆ
บริจด์ ของมันไม่ร้อนมากนะครับ เหมือนตัวมันเล็กเพราะใช้กับไวโอลินด้วย
ผลของเสียงจากไม้กีต้าร์ผมยังสังเกตไม่ได้ครับ
แต่สายใหม่ที่ซื้อมา (newtone) ตอนวันแรกๆเบสยังไม่มา ผมเปิดสั่นโดยคีบสายบนๆไว้คืนเดียว
มาเล่นตอนเช้าอันนี้เบสมาชัดเจนมากๆครับ สายเซ็ตตัวแล้ว
ปล.เท่าที่ผมศึกษาโทนไรท์(ที่สั่นๆหน่ะครับ) เขาแนะนำให้ใช้เปิดติดต่อกัน
อย่างน้อย 72 ชม ครับ(กรณีไวโอลินนะครับ) แต่ของกีต้าร์ไม่ทราบแน่ชัดครับ
บางท่านเปิดสั่นแล้วเอาลำโพงเปิดเพลงขนาบสองข้างด้วยครับ เห็นบอกเสียงแตกต่างเยอะนะครับ
แต่มันเป็นไวโอลินที่ตัวเล็กกว่ากีต้าร์ แล้วก็เป็นไม้แท้ทั้งคันอยู่แล้ว แล้วยังพักไม้จนแห้งนานกว่ากีต้าร์
เสียงเลยอาจเปลี่ยนไวกว่าครับ
น้าๆอาจจะเห็นไม่ตรงกับผมก็ได้นะครับ ผมแค่เคยอ่านๆพวกนี้แล้วก็ลองๆ
เลยอยากมาแชร์ด้วยคนครับ
-
ลองใช้การสั่นโทรศัพท์มือถือไหม
เลือกเอาโปรแกรมหนึ่งจาก http://www.mobiles24.com/downloads/tag/Vibrator/free-mobile-software (http://www.mobiles24.com/downloads/tag/Vibrator/free-mobile-software)
แนะนำ purring_kitty_vibrator ตัวนี้ฟรีและปรับระดับการสั่นได้ ตัวที่เสียเงินอย่าไปโหลดครับ
แล้วหาวิธีไปสั่นสะเทือนกีตาร์กันเอาเอง
(แก้ไขเพิ่มเติม)
ผมใช้วิธีวางกีตาร์นอนลง เอาผ้าวางคลุมแถว bridge pin (กันกีตาร์เป็นรอย)
แล้ววางมือถือที่สั่นบนผ้าเหนือ bridge pin อีกที
เลื่อนมือถือไปมาหามุมที่ทำให้หน้าไม้กีตาร์สั่นสะเทือนมากที่สุด
ส่วนผลจะเป็นอย่างไร จะแจ้งให้ทราบอีกที
-
ไม่แนะนำให้เอา ปั๊มวางบนกีต้าร์ตรงๆนะครับ มันมีความร้อน ใช้วัสดุแข็งแบบที่ผมทำ ให้มันส่งความสั่นสะเทือนมาลงที่ไม้หน้า โดยวางแท่งพลาสติก ให้แนบกับ Bridge ครับ ทำทิ้งไว้เลยครับ หนึ่งอาทิตย์ รับรองว่าเห็นผล ถ้ามีตังเหลือ
ก็ซื้อแบบที่เขาทำมาแล้วก้ได้ครับ แต่ราคาเอาเรื่องอยู่
-
ผมเอาลวดมาดัดติดไม้หนีบผ้า(เป็นไม้แบบแบนๆ)กับตัวอ๊อกแล้วก็เอามาคีบสายกีต้าร์ครับ
ปกติถ้าเป็นไวโอลินมันต้องหนีบที่หย่องพอมาใช้กับกีต้าร์บ้างเลยหนีบที่สายดูบริเวณใกล้ๆ
บริจด์ ของมันไม่ร้อนมากนะครับ เหมือนตัวมันเล็กเพราะใช้กับไวโอลินด้วย
ผลของเสียงจากไม้กีต้าร์ผมยังสังเกตไม่ได้ครับ
แต่สายใหม่ที่ซื้อมา (newtone) ตอนวันแรกๆเบสยังไม่มา ผมเปิดสั่นโดยคีบสายบนๆไว้คืนเดียว
มาเล่นตอนเช้าอันนี้เบสมาชัดเจนมากๆครับ สายเซ็ตตัวแล้ว
ปล.เท่าที่ผมศึกษาโทนไรท์(ที่สั่นๆหน่ะครับ) เขาแนะนำให้ใช้เปิดติดต่อกัน
อย่างน้อย 72 ชม ครับ(กรณีไวโอลินนะครับ) แต่ของกีต้าร์ไม่ทราบแน่ชัดครับ
บางท่านเปิดสั่นแล้วเอาลำโพงเปิดเพลงขนาบสองข้างด้วยครับ เห็นบอกเสียงแตกต่างเยอะนะครับ
แต่มันเป็นไวโอลินที่ตัวเล็กกว่ากีต้าร์ แล้วก็เป็นไม้แท้ทั้งคันอยู่แล้ว แล้วยังพักไม้จนแห้งนานกว่ากีต้าร์
เสียงเลยอาจเปลี่ยนไวกว่าครับ
น้าๆอาจจะเห็นไม่ตรงกับผมก็ได้นะครับ ผมแค่เคยอ่านๆพวกนี้แล้วก็ลองๆ
เลยอยากมาแชร์ด้วยคนครับ
คงหมายถึงคล้ายๆ แบบนี้หรือเปล่าครับ อันนี้เค้าใช้กับไวโอลิน วิธีการน่าจะคล้ายกัน..
http://www.pantown.com/board.php?id=13220&area=4&name=board11&topic=180&action=view (http://www.pantown.com/board.php?id=13220&area=4&name=board11&topic=180&action=view)
กระทู้นี้อ่านเพลิน ถึงไม่เคยทำแต่ได้ความรู้ใหม่เพิ่มเติมเยอะครับ โดยเฉพาะน้าเบียร์กับน้าหนุ่ม ทฤษฎีที่พูดผ่านการทดลองและนำมาบอกต่อต้องขอบคุณมากๆ ว่างๆ อยากจะลองดูครับ
-
ใช่ครับน้า K.lighning ผมเล่นไวโอลินกับกีต้าร์เลยสิงหลายที่หน่ะครับ
ทำครั้งเดียวใช้ตั้งแต่ไวโอลินยันกีต้าร์เลยครับ
แต่เอามาหนีบกับสายกีต้าร์ก็เอาผ้ามาลองหน่ะครับ กลัวไม้หนีบขูดไม้หน้า แล้วก็เปิดสั่น ลองลูบๆดูว่าสั่นทั่วไม้หนาไหม
แล้วก็ปล่อยไว้ประมาณวันนึงหน่ะครับ ผมทำทีละวันทีละวัน อยากลองทีนึงอทิตย์นึงแต่ฝืนความอยากเล่นไม่ได้ครับ แหะๆ
-
ไม่ลองเอา ลำโพงเล็กๆ ยัดเข้าไปข้างในกีต้าร์ดูครับ
พวกลำโพงเล็กๆ ที่ใช้ในคอม ผ่อนสายกีต้าร์ให้หมด แล้ว ก็ ยัดเข้าไป เอา ผ้ารอง แล้วเปิดเพลง คลาสสิค พวกมีโหมโรงเยอะๆ
ไม่เคยทำครับ แต่คิดว่าน่าจะดี
อย่าง ท่าน อ เบียร์ บอกจริงๆครับ เอากีต้าร์มาสตรัม เห็นผลไวสุดแล้วครับ
แล้ว การทำอะไร อย่าอุปมาไปว่า การเบิรน์ ด้วย เครื่องช่วยต่างๆนั้น มันจะช่วยได้ผล เต็มที่
อากาศและความชื้นมีผลกับเสียงกีต้าร์มากที่สุดครับ
วันทดลองใช้เครื่องช่วยต่างๆ อากาศ ชื้น
พออีกวัน อากาศ ไม่ชื้น หยิบกีต้าร์ขึ้นมาเล่น เสียงดี อุปมาไปว่า เครื่องช่วยต่างๆช่วยได้ผล
จริงๆแล้วนั้น กีต้าร์ที่เป็นไม้แท้ทั้งตัวนั้น ยิ่งนานวันเสียงขึ้นทีล๊ะนิดนั้น หรือ ดร๊อปทีล๊ะหน่อยนั้น
ยังมีเรื่องของกาวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ และเรื่องของไม้บิดตัวด้วย ไม่ใช่เรื่องไม้อย่างเดียว
กีต้าร์ถ้าวันแรกซื้อมาแล้ว สตรัมเป็นเสียงคอรท์ออกมา แล้วเสียง ไม่กระชับและเสียงไม่กังวาลเท่าที่ควร เสียงโด่ง ที่สายใดสายหนึ่ง ต่อให้ เบิรน์ไปอีก สิบชาติ เสียงก็ไม่มีวันเสียงดีขึ้นกว่าเดิมแน่ๆครับ
พื้นฐานกีต้าร์มายังไงสุดท้ายก็ได้อย่างนั้น อย่าหวังว่า เล่นกีต้าร์ตัวนี้อีก สิบปี แล้วเสียงมันจะพัฒณาจนเสียงดีสุดๆ หากกีต้าร์ที่เสียงไม่เข้าหูแต่วันแรกแล้ว ก็ไม่มทางที่จะพัฒณา จนเราชอบเสียงของมันได้
การเบิรน์กีต้าร์ที่ดีที่สุดในความคิดของผม คือการเก็บรักษากีต้าร์ให้ดีที่สุดครับ ให้ กีต้าร์คงสภาพให้ใหม่ที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ โดยปราศจาก การใช้น้ำยาต่างๆเช็ดที่ไม่จำเป็นครับ ใช้น้ำยาเช็ดเฉพาะ จุด ไม่ควรทำบ่อยครั้งด้วยครับ เพราะ มันทำให้เสียงกีต้าร์ดร็อปลง ด้วย
การใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดก่อนเล่นกีต้าร์ และหลังการเล่นกีต้าร์ การล้างมือ ทั้งแขนให้สะอาด ก่อนเล่นกีต้าร์
เสื้อผ้าที่ใส่ตอนเล่นกีต้าร์ พวกเข็มขัดต่างๆ
ตลอดจนการ ทำความสะอาดกล่องใส่กีต้าร์ด้านในไม่ให้มีฝุ่น อยู่ ผมว่า สิ่งนี้จำเป็นกว่ามากครับในความคิดของผม ตลอดจน การ หยิบกีต้าร์มาเล่นในวันที่อากาศชื้นหรือร้อนจัด ครับ
-
เรียนน้า apinan14
ผมเองเคยได้รับรู้เรื่องการเบิร์นกีต้าร์ด้วยเครื่องในลักษณะต่างๆ มานานแล้วครับ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการใช้ปั๊มอ๊อกซิเยนดังกล่าวด้วย ซึ่งผมจะไม่พูดถึงเรื่องการได้ผลหรือไม่ประการใดนะครับ
เพียงแต่อยากเรียนว่า สำหรับกีต้าร์ของผมเองทุกตัว ผมชอบที่จะให้เค้าพัฒนาไปอย่างธรรมชาติโดยการเล่นของเรามากกว่าครับ
-
สำหรับผม ผมว่าได้ผลครับ แต่สู้ดีดเองไม่ได้
-
มันต้องหาอะไรมาลองก่อนแล้วค่อยวางครับ (เพื่อป้องกันความร้อนจากตัวปั๊มมาที่สายกีตาร์) ผมใช่ผ้ามาพับไว้แล้ววางลงบนสาย แล้วค่อยวางปั๊มอีกทีนึง เอาคาโป้คาด ไล่ไปตั้งแต่ช่อง1 เลื่อนคาโป้ไปวันละ 1 ช่อง เพื่อให้ได้โน๊ตและ ความตึงที่เปลี่ยนไป
ปล...ส่วนเรื่องไฟไหม้ที่เครื่อง ผมเลี้ยงปลามา20 ปี ไม่เคยเจอไฟไหม้ ตัวปั้มพวกนี้ เวลามันพัง หรือ เจ๊ง มันก็จะดับไปเลย (เพราะวงจรมันขาดไปแล้ว เสียบคาไว้ ไฟมันก็จะไม่วิ่งเข้ามา เพราะ มันไม่ครบวงจรครับ) ควรละวังตัวปลํ๊กที่ใช้ต่อมากกว่า เหตุที่เครื่องใชไฟฟ้าไฟไหม้ ส่วนใหญ่มากจาก หัวปลั๊กที่หลวมไปมา ทำให้เกิดการ สป๊าคแล้วเกิด สเก็ดไฟ กระเด็นออกมาครับ
- มันเป็นวิทยาศาสตร์ สามารถพิสูตรได้ กีตาร์โปร่งเสียงมันดัง เพราะสายมันสั่น แล้ว ไปทำให้ไม้หน้าสั่น จึงเกิดเสียง เพราะฉนั้น ถ้าเราทำให้ไม้หน้าสั่น จะด้วยวิธีการใดก้ตาม มันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่มาก ก็น้อย จะตอบว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย คงไม่ใช่ครับ (เมื่อมวลเปลี่ยน การสั่นสะเทือนก็จะเปลี่ยน และ เสียงก็จะเปลี่ยนไปด้วย)
- ความเห็นส่วนตัวนะครับ ควรจะลองด้วยตัวเองดีที่สุด ไม่ต้องเชื่อผม มันจะได้ผล หรือ ไม่ได้ผล เราควรจะลองด้วยตัวเองครับ แล้วคุณจะได้คำตอบเอง
- การใช้ของพวกนี้ มันเป็นแค่ตัวช่วย อย่า ไปคาดหวังกับมันมากจนเกินไป ยังไงเสีย มันก็สู้เราสับคอร์ดแรงๆ ไม่ได้หล่อกครับ ถ้าไม่อยากใช้ตัวช่วยผม แนะนำ ให้จับคอร์ดทาบ แล้ว กระหน่ำ สับคอร์ด แรงๆ ( ไม่ต้องกลัวกีตาร์พังครับ ถ้าตีคอร์ดแรงๆ แล้ว บริจช์หลุดกระเด็นออกมา มันก้ไม่สมควรที่จะเป็นกีตาร์อีกต่อไป) แล้วเลื่อนมือ ที่จับคอร์ดมาทีละเฟร็ท จนถึงเฟร็ท 12 แล้วไล่กลับ ทำอย่างนี้ ซัก 2 -3 รอบ ก่อนและหลังเล่นกีตาร์ทุกครั้ง เสียงเปิดไวกว่า จะมานั่ง เกาๆ กะนุ๋งกะนิ๋ง เพียงอย่างเดียวครับ
เห็นด้วยกับน้าเบียร์ครับ ส่วนตัวไม่เคยลองครับ เพราะผมเล่นแนวสตั๊มหนักๆอยู่แล้ว เล่นทุกวัน เดือนนึงเสียงก็ดีขึ้นครับ
-
มันต้องหาอะไรมาลองก่อนแล้วค่อยวางครับ (เพื่อป้องกันความร้อนจากตัวปั๊มมาที่สายกีตาร์) ผมใช่ผ้ามาพับไว้แล้ววางลงบนสาย แล้วค่อยวางปั๊มอีกทีนึง เอาคาโป้คาด ไล่ไปตั้งแต่ช่อง1 เลื่อนคาโป้ไปวันละ 1 ช่อง เพื่อให้ได้โน๊ตและ ความตึงที่เปลี่ยนไป
ปล...ส่วนเรื่องไฟไหม้ที่เครื่อง ผมเลี้ยงปลามา20 ปี ไม่เคยเจอไฟไหม้ ตัวปั้มพวกนี้ เวลามันพัง หรือ เจ๊ง มันก็จะดับไปเลย (เพราะวงจรมันขาดไปแล้ว เสียบคาไว้ ไฟมันก็จะไม่วิ่งเข้ามา เพราะ มันไม่ครบวงจรครับ) ควรละวังตัวปลํ๊กที่ใช้ต่อมากกว่า เหตุที่เครื่องใชไฟฟ้าไฟไหม้ ส่วนใหญ่มากจาก หัวปลั๊กที่หลวมไปมา ทำให้เกิดการ สป๊าคแล้วเกิด สเก็ดไฟ กระเด็นออกมาครับ
- มันเป็นวิทยาศาสตร์ สามารถพิสูตรได้ กีตาร์โปร่งเสียงมันดัง เพราะสายมันสั่น แล้ว ไปทำให้ไม้หน้าสั่น จึงเกิดเสียง เพราะฉนั้น ถ้าเราทำให้ไม้หน้าสั่น จะด้วยวิธีการใดก้ตาม มันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่มาก ก็น้อย จะตอบว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย คงไม่ใช่ครับ (เมื่อมวลเปลี่ยน การสั่นสะเทือนก็จะเปลี่ยน และ เสียงก็จะเปลี่ยนไปด้วย)
- ความเห็นส่วนตัวนะครับ ควรจะลองด้วยตัวเองดีที่สุด ไม่ต้องเชื่อผม มันจะได้ผล หรือ ไม่ได้ผล เราควรจะลองด้วยตัวเองครับ แล้วคุณจะได้คำตอบเอง
- การใช้ของพวกนี้ มันเป็นแค่ตัวช่วย อย่า ไปคาดหวังกับมันมากจนเกินไป ยังไงเสีย มันก็สู้เราสับคอร์ดแรงๆ ไม่ได้หล่อกครับ ถ้าไม่อยากใช้ตัวช่วยผม แนะนำ ให้จับคอร์ดทาบ แล้ว กระหน่ำ สับคอร์ด แรงๆ ( ไม่ต้องกลัวกีตาร์พังครับ ถ้าตีคอร์ดแรงๆ แล้ว บริจช์หลุดกระเด็นออกมา มันก้ไม่สมควรที่จะเป็นกีตาร์อีกต่อไป) แล้วเลื่อนมือ ที่จับคอร์ดมาทีละเฟร็ท จนถึงเฟร็ท 12 แล้วไล่กลับ ทำอย่างนี้ ซัก 2 -3 รอบ ก่อนและหลังเล่นกีตาร์ทุกครั้ง เสียงเปิดไวกว่า จะมานั่ง เกาๆ กะนุ๋งกะนิ๋ง เพียงอย่างเดียวครับ
ชอบข้อสุดท้ายของน้าเบียร์มากครับ เวลาผมซื้อกีตาร์ใหม่ๆมาก่อนจะเปลี่ยนเป็นสายชุดใหม่ ผมจะตีคอร์ทอย่างที่น้าเบียร์ว่าเนี่ยแหละครับ บางที่ไม่ได้จับคอร์ดเลยด้วยซ้ำ บางทีก็จับคอร์ทอะไรที่ไม่เป็นคอร์ทไล่เสียงไปเรื่อยๆ เอาแบบไม่ต้องกลัวพังเลยครับ ตามที่น้าเบียร์บอกถ้ากีตาร์ใหม่มันพังง่ายขนาดนั้นมันก็ไม่สมควรจะเป็นกีตาร์อีกต่อไป สิ่งที่ผมทำผมเข้าใจว่ามันส่งผล 2 อย่างคือ...
1.ทำให้ไม้หน้าสั่นได้เต็มที่ เร่งให้เสียงเปิดเร็วขึ้น
2.ช่วยให้สายที่ใส่ใหม่ๆที่ยังยืดตัวอยู่เข้าที่ได้เร็วขึ้นครับ
-
หลังจากใช้มือถือสั่นเบิร์นกีตาร์
ผลที่ได้คือ เสียงกีตาร์ดังขึ้น เหมือนจะได้เสียงจากหน้าไม้มากขึ้น (ของผมไม้ซีดาร์)
ที่เห็นชัด ๆ คือ เล่น hammer-on จากเดิมไม่ค่อยมีเสียง แต่หลังเบิร์นได้เสียงชัดเจนขึ้นแบบไม่ออกแรงมาก
-
ผมซื้อกีต้าร์คลาสิค all solid จากฟอร์จูนมา 1 ตัว
ผมเล่นกีต้าร์วันละ1ชั่วโมง เป็นเพลงบ้างไม่เป็นเพลงบ้าง
ผมเล่นมาซัก 1 เดือน แฟนเริ่มบ่น ว่าทำไมเดี๋ยวนี้เล่นดังขึ้น ทั้งๆผมก็ใช่น้ำหนักมือเท่าเดิม
จนถึงบางอ้อ กีต้าร์เสียงเปิด เป็นแบบนี้เอง ไม่ต้องออกแรงมาก เสียงก็ดัง พุ่ง กังวาล
อาจจะยังไม่เปิดเต็มที่ แต่ต่างจากตอนซื้อมาแน่นอนครับ
คราวนี้ ได้กีตาร์ hamdmade มาลอง นั่งเล่นมาประมาณ 1 เดือน โดยเล่นวันละ 1-2 ชม เหมือนเดิม
เป็นเหมือนเดิมเลยครับ รู้สึกดังขึ้น โดยไม่ต้องออกแรงมาก
สรุป ถ้าไม่ต้องการใช้เครื่องเบิร์น เราตั้งใจเล่นมันวันละ 1 ชม เป็นเพลงบ้างไม่เป็นเพลงบ้าง
เสียงเปิดแน่นอนครับ ;D ;D ;D
-
คือผมไม่ทราบว่ากีต้าร์ไม้หน้า solid นี่ถ้าเล่นไปเรื่อยๆเสียงมันจะพัฒนาขึ้นหรือเปล่า
(เพราะผมมีแค่ All Laminate หุหุ)
แต่ฟังตามที่ให้ความเห็นมา ไม่ได้นับเฉพาะในกระทู้นี้
แทบทุกคนยอมรับว่าเสียงจะพัฒนาขึ้นถ้าเล่นไปเรื่อย ยิ่งบ่อยยิ่งพัฒนาเร็ว ยิ่งดีขึ้น
ถ้ายอมรับได้ตามย่อหน้าแรก ใช้กลไกมาทำให้สายกีต้าร์สั่นแทนเราดีดตอนเวลาไม่ได้เล่น มันก็น่าจะดีนะครับ
ที่ผมเข้าใจก็คือ ไม่ได้เอาการสั่นของเครื่องปั๊มหรือเครื่องสั่นไปลงกีต้าร์โดยตรง
แต่เอาไปเคาะสายกีต้าร์ ให้สายกีต้าร์ส่งเสียงสั่นตามความถี่ที่ได้ตั้งสายไว้
(เช่น E A D G B E หรือใช้คาโป้เพิ่ม เป็นต้น)
ความถี่ในการสั่นของเครื่อง ก็คือความถี่ในการเคาะสายกีต้าร์
ให้สายกีต้าร์ส่งเสียง ให้บอดี้กีต้าร์สั่นตามที่ตั้งสายไว้
แต่ที่ผมแน่ใจจะบอกก็คือ
ในกรณีเมืองไทย ที่ใช้ไฟฟ้า 50 Hz เครื่องมันจะสั่น ใน1วินาที 50หรือ100 ครั้ง (ตามแบบของเครื่อง)
แปลว่ามันจะเคาะสายวินาทีละ 50หรือ100ครั้ง-เปลี่ยนแปลงไม่ได้ สั่นตามไฟฟ้าที่ส่งมาเท่านั้น ผิดไปบ้างก็ไม่น่าเกิน 5% ตามความถี่ของไฟฟ้าที่ส่งมาสู่บ้าน อาจมีการสั่นความถี่อื่น ๆ บ้างตามโครงสร้างของเครื่องปั๊ม (resonant ของตัวเครื่อง - ไม่เกียวกับอ็อคเตฟในทางดนตรีซักเท่าไหร่นะครับ) แต่มันน้อยจนไม่น่าจะต้องนำมาคิด
ตรงนี้ถ้าอธิบายมันจะยาว ผมพอเข้าใจเรื่องไฟฟ้าอยู่บ้าง และไอ้เครื่องปั๊มลมนี่ผมมองเข้าใจทะลุปรุโปร่งครับ
ถ้ามีอุปกรณ์สาธิต ผมสามารถอธิบายได้ในไม่เกินสิบนาทีให้แทบทุกคนเข้าใจได้ว่า ทำไมมันสั่น 50หรือ100ครั้งในวินาทีนึง
ถ้าผมจะออกแบบเครื่องให้ไม่ต้องมีมุมมองขัดแย้งกัน (อันนี้ต้องยอมรับย่อหน้าแรกก่อนนะครับ)
เอาเป็นใช้มอร์เตอร์รอบช้า ออกแบบติดปิ๊กให้ดีดสายทีละเส้น ไป-กลับ หรือหมุนทางเดียวก็แล้วแต่
ที่วางกีต้าร์เลียนแบบขาวางกีต้าร์ ตัวกีต้าร์สัมผัสแต่ขาวางนี้เท่านั้น อาจมีตัวล็อกหุ้มฟองน้ำบ้างเล็กน้อย
เพื่อให้กีต้าร์สั่นได้ทั้งตัวแทนที่จะวางกีต้าร์หงาย เลียนแบบการเล่นจริงที่ไม้สะเทือนได้แทบทั้งตัว
ตัวสั่นหรือมอเตอร์ติดปิ๊กดีดนี้ ทำโครงติดกับขาวาง ให้ไม่สัมผัสกับกีต้าร์เลย
ที่สัมผัสกีต้าร์มีแค่ขาวาง กับปิ๊กที่ดีดสาย/หรือวัสดุอื่นที่ต่อจากเครื่ืองสั่นไปกระทบสาย เท่านั้น
ต้นทุนดูแล้วเต็มที่ไม่เกินสามพัน อาจจะแค่ไม่เกินสองพันเท่านั้น (ไม่คิดค่าแรงนะครับ)
ขายห้าพันจะมีคนซื้อบ้างไหม ?
55 ได้แค่คิดเล่น ๆ แหละครับ ผมคงไม่ได้ทำ ภาระอื่นยังเยอะ ตลาดไม่น่าจะกว้าง
แต่ใครจะคิดจะทำตามนี้ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ จะยินดี
-
primeVibe
เบิร์นกีตาร์โดยทำให้ไม้หน้ากีตาร์เป็นเหมือนลำโพง
น่าสนใจน่าลองไปอีกแนว
Have you noticed that the more you play your instrument the better it sounds?Music by Austin Weyand. (http://www.youtube.com/watch?v=FpLFqY5nTDA#)