ผมเป็นคนนึงที่เล่นกลางคืนเป็นอาชีพเสริม(แต่รายได้เยอะกว่างานหลักตอนกลางวัน เอิ้กๆ) ผมมีกีตาร์หนึ่งตัว สายแจ๊คหนึ่งเส้น
ไมค์ Shure SM58 หนึ่งตัว สายไมค์หนึ่งเส้น แค่นั้นแหละครับ (ไมค์ความจริงไม่จำเป็นเท่าไร เพราะทุกร้านมีให้อยู่แล้วแต่ที่ซื้อเพราะว่า
ไมค์บางร้านสภาพค่อนข้างแย่มาก ๆ ไม่ใช่ทางด้านเสียงนะครับ แต่เป็นด้านความสกปรก ซึ่งกลัวจะเป็นอันตรายต่อร่างกายเพราะผมเป็นคนที่ร้องปากติดไมค์พอสมควร)
อย่างที่น้าเบียร์ว่าถ้าเล่นให้ลูกค้าฟังก็เล่นไป+เอนเตอร์เทนบ้าง(เด๋วผมจะแยกคำว่าเอนเตอร์เทนในตอนท้าย) แต่ถ้าลูกค้าเป็นนักดนตรี
ควรจะมีการพลิกแพลง หรือแปลงสัดส่วน มีลูกเล่นอะไรที่น่าติดตามเล็กน้อย โดยตามความคิดของผม พื้นฐานแบบคลาสสิก ๆ (สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองเล่นไม่เก่ง)เลยคือ..
1. เพลงธรรมดาร๊อก ๆ เนี่ยแหละแปลงเป็นจังหวะอื่น ที่ง่าย ๆ จะมี โซล บอสซ่า เรกเก้ ธรรมดา ๆ เนี่ยแหละไม่ต้องลึกมาก..
2. เอาเพลงเศร้ามาทำคอร์ด+จังหวะให้ไม่เศร้า เอาเพลงสนุกมาทำคอร์ด+จังหวะให้อึมครึม(ส่วนมากจะเน้นสายเปิด Openstring พวกคีย์ E D A)
3. ติดฟิงเกอร์สไตล์ง่าย ๆ ไม่ต้องลึกมาก แบบประมาณฟิงเกอร์สไตล์ในรูปคอร์ดเช่น Wonderful Tonight , Eternal Frame , Right Here Waiting หรือเพลงไทยก็ได้ สัก 3-4 เพลง เอาไว้เล่นเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินบางประการ(ซึ่งจะได้เจอบนเวทีแน่นอน)
4. ก่อนขึ้นอินโทรเดินคอร์ดเกา ๆ ให้เหมือนคนฟังเกือบจะเดาทางได้ว่านี่น่าจะเป็นเพลงอะไร แล้วค่อยเริ่มเข้าอินโทร ถ้าอยากให้คนปรบมือก็แกะให้เหมือน ๆ ถ้าอยากให้ดูเท่ ๆ ก็หาลูกอื่นใส่เอาครับ(ถ้าเป็นช่วงนี้อินโทรที่คนปรบมือให้ผมตลอดจะมี หน่วง และ ทุ้มอยู่ในใจ)
5. ควรหาเพลงที่มีกรุ๊ฟมีจังหวะคล้าย ๆ กันไว้เป็นเซ็ต ๆ เวลาต่อเพลงจะเกิดความลื่นไหล ไม่ใช่เพลงนึงหยุด เพลงนึงหยุด เพลงนึงหยุด
6. เพลงสำคัญที่ห้ามลืมสำหรับเล่นดนตรีอาชีพคือ Happy Birthday ไม่ว่าจะแกะมาในจังหวะไหน ขอให้มีติดไว้
มาต่อเรื่องของการเอนเตอร์เทน จากที่ผมสังเกตมาจะเจอเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่..
1. เอนเตอร์เทนสุภาพ - จะออกแนวพูดเพราะ ๆ ไม่พาดพิงอะไรถึงลูกค้ามากนัก พูดนิด ๆ หน่อย ๆ เน้นเล่นเพลงมากกว่า
2. เอนเตอร์เทนจอยแขก - จะเล่นกับลูกค้าคุยกับลูกค้า ขำ ๆ แต่ไม่หยาบคายกับลูกค้า จะหยาบคายกันเองภายในทีมนิด ๆ หน่อย ๆ
3. เอนเตอร์เทนเละเทะ - จะไม่เหมือนมาเล่นดนตรี เหมือนมาเล่นตลก มีคำหยาบทั้งกับคนในทีมและกับลูกค้า แต่เป็นหยาบแบบทะลึ่งตึงตังเพื่อเอาฮา แต่ไม่เกินขอบเขตจนถึงขั้นลามปาม
**การเอนเตอร์เทนทั้ง 3 อย่างนี้ไม่มีอันไหนดีหรือไม่ดี ใช้ได้หมด ขึ้นอยู่กับร้านครับ ว่าร้านไหนควรจอยแบบไหน ที่เค้าเรียกว่า"กาละเทศะ" หน่ะครับผม
**ก่อนขึ้นเล่นดนตรีควรบิ้วอารมณ์ตัวเองให้ไม่กังวล หรือมีเรื่องอะไรเครียดทิ้งไว้ก่อน ผมเคยเจอนักดนตรีที่อกหัก แล้วขึ้นไปเล่นแต่เพลงเศร้า ๆ น้ำตาไหลบนเวทีก็มี ซึ่งผมคิดว่ามันไร้สาระ และไม่มืออาชีพ
**ไอแพดมีไว้ก็ดีมากครับ ผมก็ซื้อมา แล้วหา app ที่สามารถทำหนังสือเพลงแบบค้นหาได้ซึ่งผมใช้ app Good Reader และเวลาลูกค้าขอเพลงที่ไม่มีในลิสแต่เราจำส่วนจำท่อนมันได้ก็ Search Google สดๆด้วย 3G กันบนนั้นเลยครับ สะดวกมาก ไม่ต้องแบกหนังสือเพลงให้หนัก
**เรื่องค่าตัวอย่างที่น้า guitarhaha ว่าเลยครับ อย่างต่ำสมัยนี้ชั่วโมงครึ่ง 500 ส่วนมากราคานี้น่าจะฝั่งธนนะ แต่ถ้าในเมือง 600-800 ได้อยู่(ต่อคนนะครับ) เวลาไปออดิชั่นทำยังไงก็ได้ให้เราดูเป็นมืออาชีพมากที่สุด อ่อนน้อมไปก็ไม่ดี แข็งเกินไปก็ไม่น่ารัก
..ประมาณนี้หละครับ พิมพ์ซะเยอะ ผมก็ไม่รู้อะไรมากแค่เอามาแชร์ครับ เพิ่งเริ่มเล่นดนตรีเป็นอาชีพเสริมได้แค่ 1 ปี 8 เดือนเองครับ