Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากร้อง+เล่นตามร้านอาหารต้องฝึกแบบไหน และต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้างครับ  (อ่าน 11406 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Near Dawn

  • member
  • ***
  • กระทู้: 324
  • เพศ: ชาย
อยากร้อง+เล่นตามร้านอาหารต้องฝึกแบบไหน และต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้างครับ เช่น ไมค์ แอมป์ เอฟเฟคอะไรแบบเนียอ่ะครับ
ไ่ม่มีความร้เรือ่งนี้เลย พอตีคอร์ดร้องเพลงได้ ตอนนี้กำลังฝึกแบบฟิงเกอร์สไตล์อย่ แต่เปนความใฝ่ฝันตั้งแต่วัยเยาว์ครับ อยากเล่นร้านอาหาร
ขอคำแนะนำน้าๆ ด้วยครับ เผื่อฝันผมจะเป็นจริง
ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก...

Near Dawn

  • member
  • ***
  • กระทู้: 324
  • เพศ: ชาย
ช่วยหน่อยครับ น้าๆ
ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก...

FOTOBEER

  • member
  • ***
  • กระทู้: 5,404
  • เพศ: ชาย
  • fotobeer2516แอ๊ดgmail.com
เล่นร้านอาหารแบบ หาตังค์ง่ายๆ  ก็ต้องมีเนื้อเสียงที่ดี ร้องเพลงเพราะ  ร้องเพลงตามสมัยนิยมได้(เพลงฮิตๆ)  เล่นกีตาร์พอประมาณนึง ก็ โอเคแล้วครับ เอนเตอร์เทรน ลูกค้าเก่งๆ หน่อย ก็หากินได้สบายแล้ว คนดูส่วนใหญ่ เค้าต้องการแค่นี้   แต่ถ้าคนที่เล่นกีตาร์เป็น ไปนั่งดู เค้าต้องการอะไรมากกว่านี้ เช่น ดัดแปลงเพลงได้ ลูกเล่นหวือหวา มีเพลงโชว์  มีความเป็นตัวของตัวเอง อะไรประมาณนี้แหละครับ

ปล. เล่นใหม่ อุปกรณ์ไม่ต้องเยอะหล่อกครับ หากีตาร์ ที่เสียบออกแอมป์ได้ ก็ลุยได้แล้ว พอเล่นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะรู้ความต้องการของตัวเองเองครับ

คนที่เล่นกลางคืนจะมี
1. คนที่เล่นเป็นอาชีพ   กับคนที่เล่นเป็น อาชีพเสริม

2. ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แค่อยากเล่นหาประสบการณ์ เล่นแต่เพลงที่ตัวเองชอบ

3. เดือดร้อนเรื่องเงิน ต้องเล่นตามใจเจ้าของร้าน เพลงที่ตัวเองไม่ชอบ ก็ต้องเล่น

4. แล้วความสุขของผู้เล่นนั้นมันอยู่ตรงไหน ก็เลือกเอา

Aip studio

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,114
  • เพศ: ชาย
  • ไม่เก่ง แต่ห่วย
เล่นร้านอาหารแบบ หาตังค์ง่ายๆ  ก็ต้องมีเนื้อเสียงที่ดี ร้องเพลงเพราะ  ร้องเพลงตามสมัยนิยมได้(เพลงฮิตๆ)  เล่นกีตาร์พอประมาณนึง ก็ โอเคแล้วครับ เอนเตอร์เทรน ลูกค้าเก่งๆ หน่อย ก็หากินได้สบายแล้ว คนดูส่วนใหญ่ เค้าต้องการแค่นี้   แต่ถ้าคนที่เล่นกีตาร์เป็น ไปนั่งดู เค้าต้องการอะไรมากกว่านี้ เช่น ดัดแปลงเพลงได้ ลูกเล่นหวือหวา มีเพลงโชว์  มีความเป็นตัวของตัวเอง อะไรประมาณนี้แหละครับ

ปล. เล่นใหม่ อุปกรณ์ไม่ต้องเยอะหล่อกครับ หากีตาร์ ที่เสียบออกแอมป์ได้ ก็ลุยได้แล้ว พอเล่นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะรู้ความต้องการของตัวเองเองครับ

คนที่เล่นกลางคืนจะมี
1. คนที่เล่นเป็นอาชีพ   กับคนที่เล่นเป็น อาชีพเสริม

2. ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แค่อยากเล่นหาประสบการณ์ เล่นแต่เพลงที่ตัวเองชอบ

3. เดือดร้อนเรื่องเงิน ต้องเล่นตามใจเจ้าของร้าน เพลงที่ตัวเองไม่ชอบ ก็ต้องเล่น

4. แล้วความสุขของผู้เล่นนั้นมันอยู่ตรงไหน ก็เลือกเอา

เห็นด้วยอย่างที่สุดครับ บางทีอาชีพที่ใครๆเห็นว่าสวยหรู อย่างนักดนตรี เบื้องหลังก็ต้องแลกกับอะไรๆหลายๆอย่าง ต้องลองและใช้ความตั้งใจอย่างสูงเหมือนกันนะครับ ^^
ชีวตเหมือนกระดาษ............มี 2 ด้านเสมอ

thezerot

  • member
  • ***
  • กระทู้: 234
  • เพศ: ชาย
เล่นร้านอาหารแบบ หาตังค์ง่ายๆ  ก็ต้องมีเนื้อเสียงที่ดี ร้องเพลงเพราะ  ร้องเพลงตามสมัยนิยมได้(เพลงฮิตๆ)  เล่นกีตาร์พอประมาณนึง ก็ โอเคแล้วครับ เอนเตอร์เทรน ลูกค้าเก่งๆ หน่อย ก็หากินได้สบายแล้ว คนดูส่วนใหญ่ เค้าต้องการแค่นี้   แต่ถ้าคนที่เล่นกีตาร์เป็น ไปนั่งดู เค้าต้องการอะไรมากกว่านี้ เช่น ดัดแปลงเพลงได้ ลูกเล่นหวือหวา มีเพลงโชว์  มีความเป็นตัวของตัวเอง อะไรประมาณนี้แหละครับ

ปล. เล่นใหม่ อุปกรณ์ไม่ต้องเยอะหล่อกครับ หากีตาร์ ที่เสียบออกแอมป์ได้ ก็ลุยได้แล้ว พอเล่นไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะรู้ความต้องการของตัวเองเองครับ

คนที่เล่นกลางคืนจะมี
1. คนที่เล่นเป็นอาชีพ   กับคนที่เล่นเป็น อาชีพเสริม

2. ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แค่อยากเล่นหาประสบการณ์ เล่นแต่เพลงที่ตัวเองชอบ

3. เดือดร้อนเรื่องเงิน ต้องเล่นตามใจเจ้าของร้าน เพลงที่ตัวเองไม่ชอบ ก็ต้องเล่น

4. แล้วความสุขของผู้เล่นนั้นมันอยู่ตรงไหน ก็เลือกเอา

+1 เลยครับ

จบภายในหนึ่งกระบวนท่า
++กระบี่อยู่ที่ใจ++

Near Dawn

  • member
  • ***
  • กระทู้: 324
  • เพศ: ชาย
ขอบคุณน้าๆครับ
ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก...

MUI

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,637
ต้องศึกษาระบบขยายเสียงของร้านให้ดีดีนะครับ

ควรไปสมัครตอนกลางวัน แล้วขออนุญาตเจ้าของร้านตรวจตราดูเครื่องเคราในร้าน...ที่สำคัญมากคือระบบมอนิเตอร์ครับ

หรือไม่ก็ขอลองเครื่องก่อน (ยังไม่ใช่ออดิชั่น) ถึงวันออจริง จะได้เสียงที่ไพเราะบาล้านซ์

เพราะเจอมาแล้วหลายร้าน บางร้านเสียงเราแหลมเป็นไม้เสียบผีไปเลย บางร้านไม่ได้ยินเสียงตัวเองเลย ร้องจนคอแห้ง เจอร้านที่มอนิเตอร์ดี..เพลินไปเลยครับ

กรุณา Login

  • member
  • ***
  • กระทู้: 86
ฝึกแกะเพลง เก็บเพลงเยอะๆด้วยครับเผื่อลูกค้าขอ บางทีเราก้อไม่ต้องเล่นเพลงที่ลูกค้าขอทุกเพลงครับ แต่มีเพลงแกะเก็บไว้ก้อดีครับ และต้องดูเพลงที่ตลาดนิยมในช่วงนั้นๆด้วยครับ ดูตลาดของร้านว่าลูกค้าเป็นแนวๆไหน และต้องเอนเตอร์เทนเก่ง ถ้าเจ้าของร้านหรือลูกค้าชอบ โอกาสได้งานเล่นต่อเรื่อยๆก้อมีครับ

ถ้าหานักร้องหญิงมาร่วมด้วยสักคนเสียงเพราะๆ ร้องดีเอนเตอร์เทนดี น่ารัก โอกาสได้งานก้อมากขึ้น (จริงๆนะ)

นี่เป็นมุมมองที่ตลาดต้องการครับ อาจจะขัดใจเราแต่ถ้าอยากทำเป็นงานก้อต้องทำครับ

slashdot

  • member
  • ***
  • กระทู้: 679
    • http://www.facebook.com/pthongyotee

เสริมอีกหน่อย
ipad 3g+wifi ช่วยคุณได้ เวลาหาเพลงไม่เจอ ค้นเอาในเน็ทแม่มโลด คอร์ดก็มีให้เริ่มเล่นไปแล้วค่อยดำน้ำไป เนื้อเพลงส่วนใหญ่น่าจะถูกแล้ว
กีตาร์ที่เสียงดี มีอยู่เยอะ แต่ที่ใช่คือกีตาร์ที่คุณเล่นแล้วรู้สึกถึงมัน มีส่วนร่วมกับมันได้

guitarhaha

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,573
ตามน้าๆ ด้านบนครับ และถ้าตัวพร้อม ใจพร้อม ก็ลุยเลยครับ ที่สำคัญ เรื่องค่าตัว ห้ามบอกว่ามาเล่นเอาประสบการณ์นะครับ
บอกไปตามเรตปกติเลย 1.30 ชม. ไม่น่าจะต่ำกว่า 500 นะครับ นักดนตรีก็ต้องกินต้องใช้ ไหนจะค่าน้ำมันรถอีก จิปาถะ

Aum_GuitarNoob

  • member
  • ***
  • กระทู้: 297
  • เพศ: ชาย
ผมเป็นคนนึงที่เล่นกลางคืนเป็นอาชีพเสริม(แต่รายได้เยอะกว่างานหลักตอนกลางวัน เอิ้กๆ) ผมมีกีตาร์หนึ่งตัว สายแจ๊คหนึ่งเส้น

ไมค์ Shure SM58 หนึ่งตัว สายไมค์หนึ่งเส้น แค่นั้นแหละครับ (ไมค์ความจริงไม่จำเป็นเท่าไร เพราะทุกร้านมีให้อยู่แล้วแต่ที่ซื้อเพราะว่า

ไมค์บางร้านสภาพค่อนข้างแย่มาก ๆ ไม่ใช่ทางด้านเสียงนะครับ แต่เป็นด้านความสกปรก ซึ่งกลัวจะเป็นอันตรายต่อร่างกายเพราะผมเป็นคนที่ร้องปากติดไมค์พอสมควร)

อย่างที่น้าเบียร์ว่าถ้าเล่นให้ลูกค้าฟังก็เล่นไป+เอนเตอร์เทนบ้าง(เด๋วผมจะแยกคำว่าเอนเตอร์เทนในตอนท้าย) แต่ถ้าลูกค้าเป็นนักดนตรี

ควรจะมีการพลิกแพลง หรือแปลงสัดส่วน มีลูกเล่นอะไรที่น่าติดตามเล็กน้อย โดยตามความคิดของผม พื้นฐานแบบคลาสสิก ๆ (สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองเล่นไม่เก่ง)เลยคือ..

1. เพลงธรรมดาร๊อก ๆ เนี่ยแหละแปลงเป็นจังหวะอื่น ที่ง่าย ๆ จะมี โซล บอสซ่า เรกเก้ ธรรมดา ๆ เนี่ยแหละไม่ต้องลึกมาก..

2. เอาเพลงเศร้ามาทำคอร์ด+จังหวะให้ไม่เศร้า เอาเพลงสนุกมาทำคอร์ด+จังหวะให้อึมครึม(ส่วนมากจะเน้นสายเปิด Openstring พวกคีย์ E D A)

3. ติดฟิงเกอร์สไตล์ง่าย ๆ ไม่ต้องลึกมาก แบบประมาณฟิงเกอร์สไตล์ในรูปคอร์ดเช่น Wonderful Tonight , Eternal Frame , Right Here Waiting หรือเพลงไทยก็ได้ สัก 3-4 เพลง เอาไว้เล่นเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินบางประการ(ซึ่งจะได้เจอบนเวทีแน่นอน)

4. ก่อนขึ้นอินโทรเดินคอร์ดเกา ๆ ให้เหมือนคนฟังเกือบจะเดาทางได้ว่านี่น่าจะเป็นเพลงอะไร แล้วค่อยเริ่มเข้าอินโทร ถ้าอยากให้คนปรบมือก็แกะให้เหมือน ๆ ถ้าอยากให้ดูเท่ ๆ ก็หาลูกอื่นใส่เอาครับ(ถ้าเป็นช่วงนี้อินโทรที่คนปรบมือให้ผมตลอดจะมี หน่วง และ ทุ้มอยู่ในใจ)

5. ควรหาเพลงที่มีกรุ๊ฟมีจังหวะคล้าย ๆ กันไว้เป็นเซ็ต ๆ เวลาต่อเพลงจะเกิดความลื่นไหล ไม่ใช่เพลงนึงหยุด เพลงนึงหยุด เพลงนึงหยุด

6. เพลงสำคัญที่ห้ามลืมสำหรับเล่นดนตรีอาชีพคือ Happy Birthday ไม่ว่าจะแกะมาในจังหวะไหน ขอให้มีติดไว้

มาต่อเรื่องของการเอนเตอร์เทน จากที่ผมสังเกตมาจะเจอเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่..
1. เอนเตอร์เทนสุภาพ - จะออกแนวพูดเพราะ ๆ ไม่พาดพิงอะไรถึงลูกค้ามากนัก พูดนิด ๆ หน่อย ๆ เน้นเล่นเพลงมากกว่า
2. เอนเตอร์เทนจอยแขก - จะเล่นกับลูกค้าคุยกับลูกค้า ขำ ๆ แต่ไม่หยาบคายกับลูกค้า จะหยาบคายกันเองภายในทีมนิด ๆ หน่อย ๆ
3. เอนเตอร์เทนเละเทะ - จะไม่เหมือนมาเล่นดนตรี เหมือนมาเล่นตลก มีคำหยาบทั้งกับคนในทีมและกับลูกค้า แต่เป็นหยาบแบบทะลึ่งตึงตังเพื่อเอาฮา แต่ไม่เกินขอบเขตจนถึงขั้นลามปาม

**การเอนเตอร์เทนทั้ง 3 อย่างนี้ไม่มีอันไหนดีหรือไม่ดี ใช้ได้หมด ขึ้นอยู่กับร้านครับ ว่าร้านไหนควรจอยแบบไหน ที่เค้าเรียกว่า"กาละเทศะ" หน่ะครับผม
**ก่อนขึ้นเล่นดนตรีควรบิ้วอารมณ์ตัวเองให้ไม่กังวล หรือมีเรื่องอะไรเครียดทิ้งไว้ก่อน ผมเคยเจอนักดนตรีที่อกหัก แล้วขึ้นไปเล่นแต่เพลงเศร้า ๆ น้ำตาไหลบนเวทีก็มี ซึ่งผมคิดว่ามันไร้สาระ และไม่มืออาชีพ
**ไอแพดมีไว้ก็ดีมากครับ ผมก็ซื้อมา แล้วหา app ที่สามารถทำหนังสือเพลงแบบค้นหาได้ซึ่งผมใช้ app Good Reader และเวลาลูกค้าขอเพลงที่ไม่มีในลิสแต่เราจำส่วนจำท่อนมันได้ก็ Search Google สดๆด้วย 3G กันบนนั้นเลยครับ สะดวกมาก ไม่ต้องแบกหนังสือเพลงให้หนัก
**เรื่องค่าตัวอย่างที่น้า guitarhaha ว่าเลยครับ อย่างต่ำสมัยนี้ชั่วโมงครึ่ง 500 ส่วนมากราคานี้น่าจะฝั่งธนนะ แต่ถ้าในเมือง 600-800 ได้อยู่(ต่อคนนะครับ) เวลาไปออดิชั่นทำยังไงก็ได้ให้เราดูเป็นมืออาชีพมากที่สุด อ่อนน้อมไปก็ไม่ดี แข็งเกินไปก็ไม่น่ารัก :)

..ประมาณนี้หละครับ พิมพ์ซะเยอะ ผมก็ไม่รู้อะไรมากแค่เอามาแชร์ครับ เพิ่งเริ่มเล่นดนตรีเป็นอาชีพเสริมได้แค่ 1 ปี 8 เดือนเองครับ :)

มือกระโปก

  • member
  • ***
  • กระทู้: 165
  • เพศ: ชาย
    • www.cue-byord.com
ผมเป็นคนนึงที่เล่นกลางคืนเป็นอาชีพเสริม(แต่รายได้เยอะกว่างานหลักตอนกลางวัน เอิ้กๆ) ผมมีกีตาร์หนึ่งตัว สายแจ๊คหนึ่งเส้น

ไมค์ Shure SM58 หนึ่งตัว สายไมค์หนึ่งเส้น แค่นั้นแหละครับ (ไมค์ความจริงไม่จำเป็นเท่าไร เพราะทุกร้านมีให้อยู่แล้วแต่ที่ซื้อเพราะว่า

ไมค์บางร้านสภาพค่อนข้างแย่มาก ๆ ไม่ใช่ทางด้านเสียงนะครับ แต่เป็นด้านความสกปรก ซึ่งกลัวจะเป็นอันตรายต่อร่างกายเพราะผมเป็นคนที่ร้องปากติดไมค์พอสมควร)

อย่างที่น้าเบียร์ว่าถ้าเล่นให้ลูกค้าฟังก็เล่นไป+เอนเตอร์เทนบ้าง(เด๋วผมจะแยกคำว่าเอนเตอร์เทนในตอนท้าย) แต่ถ้าลูกค้าเป็นนักดนตรี

ควรจะมีการพลิกแพลง หรือแปลงสัดส่วน มีลูกเล่นอะไรที่น่าติดตามเล็กน้อย โดยตามความคิดของผม พื้นฐานแบบคลาสสิก ๆ (สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองเล่นไม่เก่ง)เลยคือ..

1. เพลงธรรมดาร๊อก ๆ เนี่ยแหละแปลงเป็นจังหวะอื่น ที่ง่าย ๆ จะมี โซล บอสซ่า เรกเก้ ธรรมดา ๆ เนี่ยแหละไม่ต้องลึกมาก..

2. เอาเพลงเศร้ามาทำคอร์ด+จังหวะให้ไม่เศร้า เอาเพลงสนุกมาทำคอร์ด+จังหวะให้อึมครึม(ส่วนมากจะเน้นสายเปิด Openstring พวกคีย์ E D A)

3. ติดฟิงเกอร์สไตล์ง่าย ๆ ไม่ต้องลึกมาก แบบประมาณฟิงเกอร์สไตล์ในรูปคอร์ดเช่น Wonderful Tonight , Eternal Frame , Right Here Waiting หรือเพลงไทยก็ได้ สัก 3-4 เพลง เอาไว้เล่นเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินบางประการ(ซึ่งจะได้เจอบนเวทีแน่นอน)

4. ก่อนขึ้นอินโทรเดินคอร์ดเกา ๆ ให้เหมือนคนฟังเกือบจะเดาทางได้ว่านี่น่าจะเป็นเพลงอะไร แล้วค่อยเริ่มเข้าอินโทร ถ้าอยากให้คนปรบมือก็แกะให้เหมือน ๆ ถ้าอยากให้ดูเท่ ๆ ก็หาลูกอื่นใส่เอาครับ(ถ้าเป็นช่วงนี้อินโทรที่คนปรบมือให้ผมตลอดจะมี หน่วง และ ทุ้มอยู่ในใจ)

5. ควรหาเพลงที่มีกรุ๊ฟมีจังหวะคล้าย ๆ กันไว้เป็นเซ็ต ๆ เวลาต่อเพลงจะเกิดความลื่นไหล ไม่ใช่เพลงนึงหยุด เพลงนึงหยุด เพลงนึงหยุด

6. เพลงสำคัญที่ห้ามลืมสำหรับเล่นดนตรีอาชีพคือ Happy Birthday ไม่ว่าจะแกะมาในจังหวะไหน ขอให้มีติดไว้

มาต่อเรื่องของการเอนเตอร์เทน จากที่ผมสังเกตมาจะเจอเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่..
1. เอนเตอร์เทนสุภาพ - จะออกแนวพูดเพราะ ๆ ไม่พาดพิงอะไรถึงลูกค้ามากนัก พูดนิด ๆ หน่อย ๆ เน้นเล่นเพลงมากกว่า
2. เอนเตอร์เทนจอยแขก - จะเล่นกับลูกค้าคุยกับลูกค้า ขำ ๆ แต่ไม่หยาบคายกับลูกค้า จะหยาบคายกันเองภายในทีมนิด ๆ หน่อย ๆ
3. เอนเตอร์เทนเละเทะ - จะไม่เหมือนมาเล่นดนตรี เหมือนมาเล่นตลก มีคำหยาบทั้งกับคนในทีมและกับลูกค้า แต่เป็นหยาบแบบทะลึ่งตึงตังเพื่อเอาฮา แต่ไม่เกินขอบเขตจนถึงขั้นลามปาม

**การเอนเตอร์เทนทั้ง 3 อย่างนี้ไม่มีอันไหนดีหรือไม่ดี ใช้ได้หมด ขึ้นอยู่กับร้านครับ ว่าร้านไหนควรจอยแบบไหน ที่เค้าเรียกว่า"กาละเทศะ" หน่ะครับผม
**ก่อนขึ้นเล่นดนตรีควรบิ้วอารมณ์ตัวเองให้ไม่กังวล หรือมีเรื่องอะไรเครียดทิ้งไว้ก่อน ผมเคยเจอนักดนตรีที่อกหัก แล้วขึ้นไปเล่นแต่เพลงเศร้า ๆ น้ำตาไหลบนเวทีก็มี ซึ่งผมคิดว่ามันไร้สาระ และไม่มืออาชีพ
**ไอแพดมีไว้ก็ดีมากครับ ผมก็ซื้อมา แล้วหา app ที่สามารถทำหนังสือเพลงแบบค้นหาได้ซึ่งผมใช้ app Good Reader และเวลาลูกค้าขอเพลงที่ไม่มีในลิสแต่เราจำส่วนจำท่อนมันได้ก็ Search Google สดๆด้วย 3G กันบนนั้นเลยครับ สะดวกมาก ไม่ต้องแบกหนังสือเพลงให้หนัก
**เรื่องค่าตัวอย่างที่น้า guitarhaha ว่าเลยครับ อย่างต่ำสมัยนี้ชั่วโมงครึ่ง 500 ส่วนมากราคานี้น่าจะฝั่งธนนะ แต่ถ้าในเมือง 600-800 ได้อยู่(ต่อคนนะครับ) เวลาไปออดิชั่นทำยังไงก็ได้ให้เราดูเป็นมืออาชีพมากที่สุด อ่อนน้อมไปก็ไม่ดี แข็งเกินไปก็ไม่น่ารัก :)

..ประมาณนี้หละครับ พิมพ์ซะเยอะ ผมก็ไม่รู้อะไรมากแค่เอามาแชร์ครับ เพิ่งเริ่มเล่นดนตรีเป็นอาชีพเสริมได้แค่ 1 ปี 8 เดือนเองครับ :)

ครบถ้วน..สุโค้ยครับ...

หำน้อย_นะ_สกลนคร

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,055
ผมเป็นคนนึงที่เล่นกลางคืนเป็นอาชีพเสริม(แต่รายได้เยอะกว่างานหลักตอนกลางวัน เอิ้กๆ) ผมมีกีตาร์หนึ่งตัว สายแจ๊คหนึ่งเส้น

ไมค์ Shure SM58 หนึ่งตัว สายไมค์หนึ่งเส้น แค่นั้นแหละครับ (ไมค์ความจริงไม่จำเป็นเท่าไร เพราะทุกร้านมีให้อยู่แล้วแต่ที่ซื้อเพราะว่า

ไมค์บางร้านสภาพค่อนข้างแย่มาก ๆ ไม่ใช่ทางด้านเสียงนะครับ แต่เป็นด้านความสกปรก ซึ่งกลัวจะเป็นอันตรายต่อร่างกายเพราะผมเป็นคนที่ร้องปากติดไมค์พอสมควร)

อย่างที่น้าเบียร์ว่าถ้าเล่นให้ลูกค้าฟังก็เล่นไป+เอนเตอร์เทนบ้าง(เด๋วผมจะแยกคำว่าเอนเตอร์เทนในตอนท้าย) แต่ถ้าลูกค้าเป็นนักดนตรี

ควรจะมีการพลิกแพลง หรือแปลงสัดส่วน มีลูกเล่นอะไรที่น่าติดตามเล็กน้อย โดยตามความคิดของผม พื้นฐานแบบคลาสสิก ๆ (สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองเล่นไม่เก่ง)เลยคือ..

1. เพลงธรรมดาร๊อก ๆ เนี่ยแหละแปลงเป็นจังหวะอื่น ที่ง่าย ๆ จะมี โซล บอสซ่า เรกเก้ ธรรมดา ๆ เนี่ยแหละไม่ต้องลึกมาก..

2. เอาเพลงเศร้ามาทำคอร์ด+จังหวะให้ไม่เศร้า เอาเพลงสนุกมาทำคอร์ด+จังหวะให้อึมครึม(ส่วนมากจะเน้นสายเปิด Openstring พวกคีย์ E D A)

3. ติดฟิงเกอร์สไตล์ง่าย ๆ ไม่ต้องลึกมาก แบบประมาณฟิงเกอร์สไตล์ในรูปคอร์ดเช่น Wonderful Tonight , Eternal Frame , Right Here Waiting หรือเพลงไทยก็ได้ สัก 3-4 เพลง เอาไว้เล่นเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินบางประการ(ซึ่งจะได้เจอบนเวทีแน่นอน)

4. ก่อนขึ้นอินโทรเดินคอร์ดเกา ๆ ให้เหมือนคนฟังเกือบจะเดาทางได้ว่านี่น่าจะเป็นเพลงอะไร แล้วค่อยเริ่มเข้าอินโทร ถ้าอยากให้คนปรบมือก็แกะให้เหมือน ๆ ถ้าอยากให้ดูเท่ ๆ ก็หาลูกอื่นใส่เอาครับ(ถ้าเป็นช่วงนี้อินโทรที่คนปรบมือให้ผมตลอดจะมี หน่วง และ ทุ้มอยู่ในใจ)

5. ควรหาเพลงที่มีกรุ๊ฟมีจังหวะคล้าย ๆ กันไว้เป็นเซ็ต ๆ เวลาต่อเพลงจะเกิดความลื่นไหล ไม่ใช่เพลงนึงหยุด เพลงนึงหยุด เพลงนึงหยุด

6. เพลงสำคัญที่ห้ามลืมสำหรับเล่นดนตรีอาชีพคือ Happy Birthday ไม่ว่าจะแกะมาในจังหวะไหน ขอให้มีติดไว้

มาต่อเรื่องของการเอนเตอร์เทน จากที่ผมสังเกตมาจะเจอเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่..
1. เอนเตอร์เทนสุภาพ - จะออกแนวพูดเพราะ ๆ ไม่พาดพิงอะไรถึงลูกค้ามากนัก พูดนิด ๆ หน่อย ๆ เน้นเล่นเพลงมากกว่า
2. เอนเตอร์เทนจอยแขก - จะเล่นกับลูกค้าคุยกับลูกค้า ขำ ๆ แต่ไม่หยาบคายกับลูกค้า จะหยาบคายกันเองภายในทีมนิด ๆ หน่อย ๆ
3. เอนเตอร์เทนเละเทะ - จะไม่เหมือนมาเล่นดนตรี เหมือนมาเล่นตลก มีคำหยาบทั้งกับคนในทีมและกับลูกค้า แต่เป็นหยาบแบบทะลึ่งตึงตังเพื่อเอาฮา แต่ไม่เกินขอบเขตจนถึงขั้นลามปาม

**การเอนเตอร์เทนทั้ง 3 อย่างนี้ไม่มีอันไหนดีหรือไม่ดี ใช้ได้หมด ขึ้นอยู่กับร้านครับ ว่าร้านไหนควรจอยแบบไหน ที่เค้าเรียกว่า"กาละเทศะ" หน่ะครับผม
**ก่อนขึ้นเล่นดนตรีควรบิ้วอารมณ์ตัวเองให้ไม่กังวล หรือมีเรื่องอะไรเครียดทิ้งไว้ก่อน ผมเคยเจอนักดนตรีที่อกหัก แล้วขึ้นไปเล่นแต่เพลงเศร้า ๆ น้ำตาไหลบนเวทีก็มี ซึ่งผมคิดว่ามันไร้สาระ และไม่มืออาชีพ
**ไอแพดมีไว้ก็ดีมากครับ ผมก็ซื้อมา แล้วหา app ที่สามารถทำหนังสือเพลงแบบค้นหาได้ซึ่งผมใช้ app Good Reader และเวลาลูกค้าขอเพลงที่ไม่มีในลิสแต่เราจำส่วนจำท่อนมันได้ก็ Search Google สดๆด้วย 3G กันบนนั้นเลยครับ สะดวกมาก ไม่ต้องแบกหนังสือเพลงให้หนัก
**เรื่องค่าตัวอย่างที่น้า guitarhaha ว่าเลยครับ อย่างต่ำสมัยนี้ชั่วโมงครึ่ง 500 ส่วนมากราคานี้น่าจะฝั่งธนนะ แต่ถ้าในเมือง 600-800 ได้อยู่(ต่อคนนะครับ) เวลาไปออดิชั่นทำยังไงก็ได้ให้เราดูเป็นมืออาชีพมากที่สุด อ่อนน้อมไปก็ไม่ดี แข็งเกินไปก็ไม่น่ารัก :)

..ประมาณนี้หละครับ พิมพ์ซะเยอะ ผมก็ไม่รู้อะไรมากแค่เอามาแชร์ครับ เพิ่งเริ่มเล่นดนตรีเป็นอาชีพเสริมได้แค่ 1 ปี 8 เดือนเองครับ :)

ตัวจริงเรื่องปิ้งย่าง มาเองครับ

เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากครับ
รักเธอนะ....กีต้าร์

wanichsoong

  • member
  • ***
  • กระทู้: 107
  • เพศ: ชาย
ผมเป็นคนนึงที่เล่นกลางคืนเป็นอาชีพเสริม(แต่รายได้เยอะกว่างานหลักตอนกลางวัน เอิ้กๆ) ผมมีกีตาร์หนึ่งตัว สายแจ๊คหนึ่งเส้น

ไมค์ Shure SM58 หนึ่งตัว สายไมค์หนึ่งเส้น แค่นั้นแหละครับ (ไมค์ความจริงไม่จำเป็นเท่าไร เพราะทุกร้านมีให้อยู่แล้วแต่ที่ซื้อเพราะว่า

ไมค์บางร้านสภาพค่อนข้างแย่มาก ๆ ไม่ใช่ทางด้านเสียงนะครับ แต่เป็นด้านความสกปรก ซึ่งกลัวจะเป็นอันตรายต่อร่างกายเพราะผมเป็นคนที่ร้องปากติดไมค์พอสมควร)

อย่างที่น้าเบียร์ว่าถ้าเล่นให้ลูกค้าฟังก็เล่นไป+เอนเตอร์เทนบ้าง(เด๋วผมจะแยกคำว่าเอนเตอร์เทนในตอนท้าย) แต่ถ้าลูกค้าเป็นนักดนตรี

ควรจะมีการพลิกแพลง หรือแปลงสัดส่วน มีลูกเล่นอะไรที่น่าติดตามเล็กน้อย โดยตามความคิดของผม พื้นฐานแบบคลาสสิก ๆ (สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองเล่นไม่เก่ง)เลยคือ..

1. เพลงธรรมดาร๊อก ๆ เนี่ยแหละแปลงเป็นจังหวะอื่น ที่ง่าย ๆ จะมี โซล บอสซ่า เรกเก้ ธรรมดา ๆ เนี่ยแหละไม่ต้องลึกมาก..

2. เอาเพลงเศร้ามาทำคอร์ด+จังหวะให้ไม่เศร้า เอาเพลงสนุกมาทำคอร์ด+จังหวะให้อึมครึม(ส่วนมากจะเน้นสายเปิด Openstring พวกคีย์ E D A)

3. ติดฟิงเกอร์สไตล์ง่าย ๆ ไม่ต้องลึกมาก แบบประมาณฟิงเกอร์สไตล์ในรูปคอร์ดเช่น Wonderful Tonight , Eternal Frame , Right Here Waiting หรือเพลงไทยก็ได้ สัก 3-4 เพลง เอาไว้เล่นเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินบางประการ(ซึ่งจะได้เจอบนเวทีแน่นอน)

4. ก่อนขึ้นอินโทรเดินคอร์ดเกา ๆ ให้เหมือนคนฟังเกือบจะเดาทางได้ว่านี่น่าจะเป็นเพลงอะไร แล้วค่อยเริ่มเข้าอินโทร ถ้าอยากให้คนปรบมือก็แกะให้เหมือน ๆ ถ้าอยากให้ดูเท่ ๆ ก็หาลูกอื่นใส่เอาครับ(ถ้าเป็นช่วงนี้อินโทรที่คนปรบมือให้ผมตลอดจะมี หน่วง และ ทุ้มอยู่ในใจ)

5. ควรหาเพลงที่มีกรุ๊ฟมีจังหวะคล้าย ๆ กันไว้เป็นเซ็ต ๆ เวลาต่อเพลงจะเกิดความลื่นไหล ไม่ใช่เพลงนึงหยุด เพลงนึงหยุด เพลงนึงหยุด

6. เพลงสำคัญที่ห้ามลืมสำหรับเล่นดนตรีอาชีพคือ Happy Birthday ไม่ว่าจะแกะมาในจังหวะไหน ขอให้มีติดไว้

มาต่อเรื่องของการเอนเตอร์เทน จากที่ผมสังเกตมาจะเจอเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่..
1. เอนเตอร์เทนสุภาพ - จะออกแนวพูดเพราะ ๆ ไม่พาดพิงอะไรถึงลูกค้ามากนัก พูดนิด ๆ หน่อย ๆ เน้นเล่นเพลงมากกว่า
2. เอนเตอร์เทนจอยแขก - จะเล่นกับลูกค้าคุยกับลูกค้า ขำ ๆ แต่ไม่หยาบคายกับลูกค้า จะหยาบคายกันเองภายในทีมนิด ๆ หน่อย ๆ
3. เอนเตอร์เทนเละเทะ - จะไม่เหมือนมาเล่นดนตรี เหมือนมาเล่นตลก มีคำหยาบทั้งกับคนในทีมและกับลูกค้า แต่เป็นหยาบแบบทะลึ่งตึงตังเพื่อเอาฮา แต่ไม่เกินขอบเขตจนถึงขั้นลามปาม

**การเอนเตอร์เทนทั้ง 3 อย่างนี้ไม่มีอันไหนดีหรือไม่ดี ใช้ได้หมด ขึ้นอยู่กับร้านครับ ว่าร้านไหนควรจอยแบบไหน ที่เค้าเรียกว่า"กาละเทศะ" หน่ะครับผม
**ก่อนขึ้นเล่นดนตรีควรบิ้วอารมณ์ตัวเองให้ไม่กังวล หรือมีเรื่องอะไรเครียดทิ้งไว้ก่อน ผมเคยเจอนักดนตรีที่อกหัก แล้วขึ้นไปเล่นแต่เพลงเศร้า ๆ น้ำตาไหลบนเวทีก็มี ซึ่งผมคิดว่ามันไร้สาระ และไม่มืออาชีพ
**ไอแพดมีไว้ก็ดีมากครับ ผมก็ซื้อมา แล้วหา app ที่สามารถทำหนังสือเพลงแบบค้นหาได้ซึ่งผมใช้ app Good Reader และเวลาลูกค้าขอเพลงที่ไม่มีในลิสแต่เราจำส่วนจำท่อนมันได้ก็ Search Google สดๆด้วย 3G กันบนนั้นเลยครับ สะดวกมาก ไม่ต้องแบกหนังสือเพลงให้หนัก
**เรื่องค่าตัวอย่างที่น้า guitarhaha ว่าเลยครับ อย่างต่ำสมัยนี้ชั่วโมงครึ่ง 500 ส่วนมากราคานี้น่าจะฝั่งธนนะ แต่ถ้าในเมือง 600-800 ได้อยู่(ต่อคนนะครับ) เวลาไปออดิชั่นทำยังไงก็ได้ให้เราดูเป็นมืออาชีพมากที่สุด อ่อนน้อมไปก็ไม่ดี แข็งเกินไปก็ไม่น่ารัก :)

..ประมาณนี้หละครับ พิมพ์ซะเยอะ ผมก็ไม่รู้อะไรมากแค่เอามาแชร์ครับ เพิ่งเริ่มเล่นดนตรีเป็นอาชีพเสริมได้แค่ 1 ปี 8 เดือนเองครับ :)

ตัวจริงเรื่องปิ้งย่าง มาเองครับ

เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากครับ
ใช่เลย ละเอียดยิบ ได้อารมณ์

Aum_GuitarNoob

  • member
  • ***
  • กระทู้: 297
  • เพศ: ชาย
เอ่ออออ .. ขอบคุณนะครับ ผมพิมพ์ไปเรื่อย ๆ คิดอะไรออกก็พิมพ์ พอพิมพ์เสร็จมาดู แม่งเยอะหวะ!! ขอบคุณที่มีคนตั้งใจอ่านครับ ^3^

Near Dawn

  • member
  • ***
  • กระทู้: 324
  • เพศ: ชาย
เอ่ออออ .. ขอบคุณนะครับ ผมพิมพ์ไปเรื่อย ๆ คิดอะไรออกก็พิมพ์ พอพิมพ์เสร็จมาดู แม่งเยอะหวะ!! ขอบคุณที่มีคนตั้งใจอ่านครับ ^3^
สุดยอดเลยครับน้า ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะเนี่ย ความฝันผมรุ้สึกว่ามันไกลจัง
ขอบคุณน้า Aum_GuitarNoob มากครับ
ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก...

Aum_GuitarNoob

  • member
  • ***
  • กระทู้: 297
  • เพศ: ชาย
เอ่ออออ .. ขอบคุณนะครับ ผมพิมพ์ไปเรื่อย ๆ คิดอะไรออกก็พิมพ์ พอพิมพ์เสร็จมาดู แม่งเยอะหวะ!! ขอบคุณที่มีคนตั้งใจอ่านครับ ^3^
สุดยอดเลยครับน้า ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะเนี่ย ความฝันผมรุ้สึกว่ามันไกลจัง
ขอบคุณน้า Aum_GuitarNoob มากครับ

ความจริงแล้วใช้การสั่งสมจะดีกว่าครับ เพราะผมตอนเริ่มเล่นแรก ๆ ก็ไม่ได้ครบทุกอย่างที่พูดมาครับ ก็เล่นเขิล ๆ บ้าง แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือความเป็นธรรมชาติครับ

อย่าไปเกร็งอย่าไปตื่นครับเวลาอยู่บนเวที เนี่ยแหละจะเป็นจุดหลักของนักดนตรีเล่นหากิน ค่อย ๆ เก็บเกี่ยวไปเราจะเจอเหตุการณ์อะไรมากมายครับ ก็เอามาเป็นประสบการณ์

หรือไม่ก็คิดซะว่าเหมือนเราทำงานครับ ทำงานในสำนักงานเขายังมีจัดให้เราไปดูงานนอกสถานที่ นี่ก็เช่นกัน เราควรไปดูคนที่เก่งกว่า คนที่เค้าเป็นมืออาชีพว่าเค้าเล่นอะไรยังไง การพูดจาแบบไหน นำกลับมาปรับใช้ เหมือนการไปดูงานของบริษัทต่าง ๆ นั่นแหละครับ

**ส่วนเรื่องการเริ่มต้น ผมรู้ว่าหลาย ๆ คนอยากเล่นกลางคืนไม่รู้จะเริ่มยังไง จะติดต่อยังไง ง่าย ๆ เลยครับ ถ้าเริ่มต้นอย่าเพิ่งดูร้านที่เค้าดนตรีโหด ๆ แน่น ๆ เอาที่คิดว่าเราต่ำกว่าเขาไม่มาก(หรือถ้าเดินสายแข็งสายโหดก็จัดเลยครับร้านดัง ๆ เพื่อวัดพลัง เอิ้ก ๆ) พอเข้าไปถึงอย่ายืนเอ๋อ ยืนทำเป็นกล้า ๆ กลัว ๆ "เฮ้ยเข้าดีป่าววะ" เข้า ๆ ออก ๆ อยู่หน้าร้าน เดินมาถึงถ้าไม่รู้ถามใครเดินบอกเด็กเสิร์ฟเลย "มาติดต่อออดิชั่นครับ" เด๋วเด็กเสริฟจะพาเราไปหาคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนนี้เอง เช่น เจ้าของร้าน คนทำซาว คนจัดการเรื่องนักดนตรี เป็นต้น ก็คุยกะเค้าเลย ในเรื่องการคุยไม่มีอะไรมากเราไม่ต้องยิงคำถาม เค้าจะถามเราเอง เล่นแนวไหน กี่คน มีอะไรบ้าง กี่ชิ้น แล้วก็จะนัดวันเวลาออดิชั่น ไม่ก็จะถามว่าตอนนี้พร้อมเลยไหมก็ขึ้นเลยอะไรแบบนี้ .. พอขึ้นแล้วเซตอะไรเรียบร้อยแล้วก็จะพูดก่อนค่อยเล่น หรือเล่นเพลงนึง พอจบแล้วค่อยพูดอันนี้ก็แล้วแต่ แต่ผมคิดว่าการออดิชั่นไม่ควรให้ทางร้านมาสั่งเราว่าพอละ อีก1/2/3เพลงก็ลงได้ แบบนี้ไม่เอา หาไว้เลย 5 เพลงที่คิดว่าเด็ด ๆ พอหมด 4 เพลงก็บอกประกาศเลย ทิ้งไว้อีกซักเพลงแล้วกันครับ อาจจะมีโอกาสได้พบกันใหม่อะไรก็ว่าไป คือเราต้องตัดบทเอง

**ถ้าออดิชั่นไม่ติด ส่วนมากจะมาแบบว่าขอเบอร์ติดต่อกลับ แต่ถ้าติดก็จะถามนั่นนี่+ระบุวันให้ลงเลย แต่ถ้าไม่ติดสิ่งที่สำคัญคือไม่ต้องมานั่งกลุ้มไม่ต้องมานั่งเสียใจครับ อย่าไปท้อ!! เพราะของแบบนี้มันมีหลายเหตุผล ไม่ใช่เพราะเราไม่เก่งอย่างเดียว เหตุผลต่าง ๆ ก็เช่น ดนตรีไม่เหมาะกับร้าน/เล่นเก่งแต่ก็สู้วงอื่นที่เขามีไม่ได้/เค้าอยากได้เราแต่วงที่มีอยู่เต็มและก็ตัดสินใจบีบใครออกไม่ได้ ฯลฯ มากมายครับ เพราะฉะนั้นฮึดเท่านั้น ถ้าใจรักอย่าไปท้อ!!

.....ขอโทษอีกรอบ พิมพ์เพลินยาวอีกละ -*- ยาวทุกอัน.....

หนูนาพาเพลิน

  • member
  • ***
  • กระทู้: 124
เพลินดีครับ อ่านแล้วเข้าใจชีวิตนักดนตรีกลางคืนขึ้นมากเลยครับ

Near Dawn

  • member
  • ***
  • กระทู้: 324
  • เพศ: ชาย
เอ่ออออ .. ขอบคุณนะครับ ผมพิมพ์ไปเรื่อย ๆ คิดอะไรออกก็พิมพ์ พอพิมพ์เสร็จมาดู แม่งเยอะหวะ!! ขอบคุณที่มีคนตั้งใจอ่านครับ ^3^
สุดยอดเลยครับน้า ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะเนี่ย ความฝันผมรุ้สึกว่ามันไกลจัง
ขอบคุณน้า Aum_GuitarNoob มากครับ


ความจริงแล้วใช้การสั่งสมจะดีกว่าครับ เพราะผมตอนเริ่มเล่นแรก ๆ ก็ไม่ได้ครบทุกอย่างที่พูดมาครับ ก็เล่นเขิล ๆ บ้าง แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือความเป็นธรรมชาติครับ

อย่าไปเกร็งอย่าไปตื่นครับเวลาอยู่บนเวที เนี่ยแหละจะเป็นจุดหลักของนักดนตรีเล่นหากิน ค่อย ๆ เก็บเกี่ยวไปเราจะเจอเหตุการณ์อะไรมากมายครับ ก็เอามาเป็นประสบการณ์

หรือไม่ก็คิดซะว่าเหมือนเราทำงานครับ ทำงานในสำนักงานเขายังมีจัดให้เราไปดูงานนอกสถานที่ นี่ก็เช่นกัน เราควรไปดูคนที่เก่งกว่า คนที่เค้าเป็นมืออาชีพว่าเค้าเล่นอะไรยังไง การพูดจาแบบไหน นำกลับมาปรับใช้ เหมือนการไปดูงานของบริษัทต่าง ๆ นั่นแหละครับ

**ส่วนเรื่องการเริ่มต้น ผมรู้ว่าหลาย ๆ คนอยากเล่นกลางคืนไม่รู้จะเริ่มยังไง จะติดต่อยังไง ง่าย ๆ เลยครับ ถ้าเริ่มต้นอย่าเพิ่งดูร้านที่เค้าดนตรีโหด ๆ แน่น ๆ เอาที่คิดว่าเราต่ำกว่าเขาไม่มาก(หรือถ้าเดินสายแข็งสายโหดก็จัดเลยครับร้านดัง ๆ เพื่อวัดพลัง เอิ้ก ๆ) พอเข้าไปถึงอย่ายืนเอ๋อ ยืนทำเป็นกล้า ๆ กลัว ๆ "เฮ้ยเข้าดีป่าววะ" เข้า ๆ ออก ๆ อยู่หน้าร้าน เดินมาถึงถ้าไม่รู้ถามใครเดินบอกเด็กเสิร์ฟเลย "มาติดต่อออดิชั่นครับ" เด๋วเด็กเสริฟจะพาเราไปหาคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนนี้เอง เช่น เจ้าของร้าน คนทำซาว คนจัดการเรื่องนักดนตรี เป็นต้น ก็คุยกะเค้าเลย ในเรื่องการคุยไม่มีอะไรมากเราไม่ต้องยิงคำถาม เค้าจะถามเราเอง เล่นแนวไหน กี่คน มีอะไรบ้าง กี่ชิ้น แล้วก็จะนัดวันเวลาออดิชั่น ไม่ก็จะถามว่าตอนนี้พร้อมเลยไหมก็ขึ้นเลยอะไรแบบนี้ .. พอขึ้นแล้วเซตอะไรเรียบร้อยแล้วก็จะพูดก่อนค่อยเล่น หรือเล่นเพลงนึง พอจบแล้วค่อยพูดอันนี้ก็แล้วแต่ แต่ผมคิดว่าการออดิชั่นไม่ควรให้ทางร้านมาสั่งเราว่าพอละ อีก1/2/3เพลงก็ลงได้ แบบนี้ไม่เอา หาไว้เลย 5 เพลงที่คิดว่าเด็ด ๆ พอหมด 4 เพลงก็บอกประกาศเลย ทิ้งไว้อีกซักเพลงแล้วกันครับ อาจจะมีโอกาสได้พบกันใหม่อะไรก็ว่าไป คือเราต้องตัดบทเอง

**ถ้าออดิชั่นไม่ติด ส่วนมากจะมาแบบว่าขอเบอร์ติดต่อกลับ แต่ถ้าติดก็จะถามนั่นนี่+ระบุวันให้ลงเลย แต่ถ้าไม่ติดสิ่งที่สำคัญคือไม่ต้องมานั่งกลุ้มไม่ต้องมานั่งเสียใจครับ อย่าไปท้อ!! เพราะของแบบนี้มันมีหลายเหตุผล ไม่ใช่เพราะเราไม่เก่งอย่างเดียว เหตุผลต่าง ๆ ก็เช่น ดนตรีไม่เหมาะกับร้าน/เล่นเก่งแต่ก็สู้วงอื่นที่เขามีไม่ได้/เค้าอยากได้เราแต่วงที่มีอยู่เต็มและก็ตัดสินใจบีบใครออกไม่ได้ ฯลฯ มากมายครับ เพราะฉะนั้นฮึดเท่านั้น ถ้าใจรักอย่าไปท้อ!!

.....ขอโทษอีกรอบ พิมพ์เพลินยาวอีกละ -*- ยาวทุกอัน.....
ได้ค้ความรู้มากมายครับ แล้วน้าเล่นอยู่ที่ไหนครับ กี่โมง ผมอยากไปดูครับ
ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก...

FOTOBEER

  • member
  • ***
  • กระทู้: 5,404
  • เพศ: ชาย
  • fotobeer2516แอ๊ดgmail.com
เอ่ออออ .. ขอบคุณนะครับ ผมพิมพ์ไปเรื่อย ๆ คิดอะไรออกก็พิมพ์ พอพิมพ์เสร็จมาดู แม่งเยอะหวะ!! ขอบคุณที่มีคนตั้งใจอ่านครับ ^3^
สุดยอดเลยครับน้า ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะเนี่ย ความฝันผมรุ้สึกว่ามันไกลจัง
ขอบคุณน้า Aum_GuitarNoob มากครับ

ความจริงแล้วใช้การสั่งสมจะดีกว่าครับ เพราะผมตอนเริ่มเล่นแรก ๆ ก็ไม่ได้ครบทุกอย่างที่พูดมาครับ ก็เล่นเขิล ๆ บ้าง แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือความเป็นธรรมชาติครับ

อย่าไปเกร็งอย่าไปตื่นครับเวลาอยู่บนเวที เนี่ยแหละจะเป็นจุดหลักของนักดนตรีเล่นหากิน ค่อย ๆ เก็บเกี่ยวไปเราจะเจอเหตุการณ์อะไรมากมายครับ ก็เอามาเป็นประสบการณ์

หรือไม่ก็คิดซะว่าเหมือนเราทำงานครับ ทำงานในสำนักงานเขายังมีจัดให้เราไปดูงานนอกสถานที่ นี่ก็เช่นกัน เราควรไปดูคนที่เก่งกว่า คนที่เค้าเป็นมืออาชีพว่าเค้าเล่นอะไรยังไง การพูดจาแบบไหน นำกลับมาปรับใช้ เหมือนการไปดูงานของบริษัทต่าง ๆ นั่นแหละครับ

**ส่วนเรื่องการเริ่มต้น ผมรู้ว่าหลาย ๆ คนอยากเล่นกลางคืนไม่รู้จะเริ่มยังไง จะติดต่อยังไง ง่าย ๆ เลยครับ ถ้าเริ่มต้นอย่าเพิ่งดูร้านที่เค้าดนตรีโหด ๆ แน่น ๆ เอาที่คิดว่าเราต่ำกว่าเขาไม่มาก(หรือถ้าเดินสายแข็งสายโหดก็จัดเลยครับร้านดัง ๆ เพื่อวัดพลัง เอิ้ก ๆ) พอเข้าไปถึงอย่ายืนเอ๋อ ยืนทำเป็นกล้า ๆ กลัว ๆ "เฮ้ยเข้าดีป่าววะ" เข้า ๆ ออก ๆ อยู่หน้าร้าน เดินมาถึงถ้าไม่รู้ถามใครเดินบอกเด็กเสิร์ฟเลย "มาติดต่อออดิชั่นครับ" เด๋วเด็กเสริฟจะพาเราไปหาคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนนี้เอง เช่น เจ้าของร้าน คนทำซาว คนจัดการเรื่องนักดนตรี เป็นต้น ก็คุยกะเค้าเลย ในเรื่องการคุยไม่มีอะไรมากเราไม่ต้องยิงคำถาม เค้าจะถามเราเอง เล่นแนวไหน กี่คน มีอะไรบ้าง กี่ชิ้น แล้วก็จะนัดวันเวลาออดิชั่น ไม่ก็จะถามว่าตอนนี้พร้อมเลยไหมก็ขึ้นเลยอะไรแบบนี้ .. พอขึ้นแล้วเซตอะไรเรียบร้อยแล้วก็จะพูดก่อนค่อยเล่น หรือเล่นเพลงนึง พอจบแล้วค่อยพูดอันนี้ก็แล้วแต่ แต่ผมคิดว่าการออดิชั่นไม่ควรให้ทางร้านมาสั่งเราว่าพอละ อีก1/2/3เพลงก็ลงได้ แบบนี้ไม่เอา หาไว้เลย 5 เพลงที่คิดว่าเด็ด ๆ พอหมด 4 เพลงก็บอกประกาศเลย ทิ้งไว้อีกซักเพลงแล้วกันครับ อาจจะมีโอกาสได้พบกันใหม่อะไรก็ว่าไป คือเราต้องตัดบทเอง

**ถ้าออดิชั่นไม่ติด ส่วนมากจะมาแบบว่าขอเบอร์ติดต่อกลับ แต่ถ้าติดก็จะถามนั่นนี่+ระบุวันให้ลงเลย แต่ถ้าไม่ติดสิ่งที่สำคัญคือไม่ต้องมานั่งกลุ้มไม่ต้องมานั่งเสียใจครับ อย่าไปท้อ!! เพราะของแบบนี้มันมีหลายเหตุผล ไม่ใช่เพราะเราไม่เก่งอย่างเดียว เหตุผลต่าง ๆ ก็เช่น ดนตรีไม่เหมาะกับร้าน/เล่นเก่งแต่ก็สู้วงอื่นที่เขามีไม่ได้/เค้าอยากได้เราแต่วงที่มีอยู่เต็มและก็ตัดสินใจบีบใครออกไม่ได้ ฯลฯ มากมายครับ เพราะฉะนั้นฮึดเท่านั้น ถ้าใจรักอย่าไปท้อ!!

.....ขอโทษอีกรอบ พิมพ์เพลินยาวอีกละ -*- ยาวทุกอัน.....


น้าหมู นี่ตัวจริงเรื่อง ปิ้งย่าง เลยครับ