Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: ถามน้าๆที่มีกีตาร์มากกว่าหนึ่งตัวครับ ว่าเพราะอะไรถึงอยากได้เพิ่ม  (อ่าน 4336 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

nine1441

  • member
  • ***
  • กระทู้: 138
                    จริงๆแล้วผม Crafter je 18/n ซื้อมาน่าจะสองปีแล้ว ไม่ค่อยได้เล่นครับ พึ่งมาเล่นจริงๆจังๆเมื่อไม่นานดูคลิปสอนจากยูทูป ลอง Search เอาจากชื่อเพลงที่เราอยากเล่น เเล้วมาเล่นตาม  กีตาร์ตัวนี้ก็ตอบโจทย์ผมทุกอยากแต่เล่นปิกกิ้งจะเจ็บมือหน่อยเพราะสายเบอร์ 12 และยังไม่ได้ปรับเเอคชั่น  ทีนี้ปัญหาคือพอมาส่องในเว็ปบ่อยๆเริ่มอยากได้ All solid อีกซักตัว ที่ดูไว้ก็ Yamaha A3R แต่อีกตัวก็ Walden g800ce แต่ตอนนี้ใจเอนไปทาง Walden เพราะเป็น All solid ที่ราคาเป็นมิตรมากกว่าเเบรนด์อื่น

                    แต่ถ้าถามใจตัวเองที่มีอยู่ก็ตอบโจทย์ได้ แต่มี Top solid แล้วอยากลอง All solid บ้างแต่ไม่อยากขายตัวเก่าเพราะตีคอร์ดกระหึ่มถูกใจมาก อีกอย่างตอนนี้ก็เสียงเปิดแล้ว   ขอฟังเหตุผลน้าๆที่อยากได้กีตาร์เพิ่มเพราะอะไรครับ  สำหรับผมพยายามหาเหตุผล แต่ความรู้สึกอยากได้คงกลบเหตุผลไปซะหมด 5555 ตอนนี้ก็พยายามคิดว่าก็เล่นที่มีนี่แหละ  แต่ลึกๆยังอยากได้ All solid มาครอบครองอีกซักตัว แล้ว Walden g800ce กับ Yamaha A3R นี่ชื่อชั้นห่างกันมากใหมครับกับราคาต่างกันหมื่นต้นๆ




J.taka

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,046
  • เพศ: ชาย
ไปลองที่ร้านตัวเเทนจำหน่ายก่อนได้ครับ ออลโซลิดหลายๆรุ่นที่ผมลองเเล้วรู้สึกเฉยๆครับ ไม่ควรรอว่าเดี๋ยวเสียงเปิดเเล้วจะดีนะครับ เอาตัวที่ชอบในตอนนั้นเลยดีกว่า ความเห็นส่วนตัว a3r นั้นถือเเล้วเท่ห์ครับ  พวกศิลปินดังๆก็ใช้กันครับ เเต่ถ้าลองเเล้วไม่ถูกใจก็ไม่ควรซื้อครับ

Piyawat.H

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,474
กีต้าร์แต่ละตัวมีโทนเสียง และคุณสมบัติแตกต่างกัน หมุนเวียนเล่นไปเรื่อยๆ ตามงบที่มีอยู่ในมือ
ถ้าจะให้พอเหมาะก็พยายามคุมให้พอดีกับการใช้งาน 

springwaltz

  • member
  • ***
  • กระทู้: 749
  • Vet Med
เพราะอะไรถึงอยากได้เพิ่มสำหรับผมตอบยากเหมือนกันครับ แต่โดยส่วนตัวสำหรับผมมันจะมีกีตาร์บางตัวที่แค่เห็นแว๊บเดียวรู้สึกดี
ถูกชะตาเหมือนมีอะไรดลใจหรือมันคือข้ออ้างของความอยากได้ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ที่มีๆอยู่สำหรับผมเป็นกีตาร์งานละเอียดทั้งหมดครับ คือใช้มือในการทำเป็นหลัก ค่อยๆทำไม่รีบเน้นคุณภาพ ผมเห็นคุณค่าของสิ่งพวกนี้นะเหมือนมันมีจิตวิญญาณ ผมก็เลยมักจะเก็บ
กีตาร์พวกนี้เอาไว้ก็เลยมีเพิ่มเรื่อยๆโดยเฉพาะแบรนด์ญี่ปุ่น ผมว่ามันมีเรื่องเล่าความเป็นมาจิตวิญญาณเยอะมาก อีกอย่างนึงคือเคยดู
เรื่องเกี่ยวกับ งานประดิษฐ์ของเค้าที่ประณีตมากไม่ได้ทำกันง่ายๆเลย หรือเรื่องของเกอิชา คือมันยากนะครับกว่าจะมาเป็นเกอิชาได้
ต้องฝึกฝน ต้องทำอะไรต่างๆนานามากมาย ผมว่าสิ่งเหล่านี้มันมีคุณค่ามากครับมันมีจิตวิญญาณที่เค้าใส่ใจทำจริงๆ พอได้มาก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนขายนี่สิลำบากใจมากแต่ถ้ามีอะไรที่ดลใจมากกว่าก็จำเป็นต้องขายครับ สำหรับผมเพราะมันมีเรื่องราวในตัวมันเอง
ผมเลยอยากเอาตัวที่ถูกชะตามาศึกษาครับหรือมันเป็นข้ออ้างของความอยากก็ไม่รู้นะ

nhoy

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,179
เรียนน้า nine1441
จากหัวข้อที่ว่า "เพราะอะไรถึงอยากได้เพิ่ม" สำหรับผมเบื้องต้นก็คือ กีต้าร์แต่ละตัวย่อมมีบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันออกไป
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสียง รูปลักษณ์ โครงสร้าง เทคนิค วัสดุที่ใช้ผลิต ชื่อเสียง-ความเป็นมาของแบรนด์นั้นๆ
ตลอดจนความเหมาะสมจำเพาะกับแนวการเล่นต่างๆ ที่เราคิดว่าเราชอบเราพอใจครับ
 
คนที่รัก-ที่ชอบกีต้าร์ จึงมักอดไม่ได้ที่อยากจะได้อย่างนั้นอย่างนี้ เวลาผ่านไปจำนวนจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายปัญหาก็คือสถานที่ที่จะใช้เก็บรักษาครับ
ดังนั้นผมว่า เมื่อเรารัก-เราชอบ แล้วสามารถหากีต้าร์มาเล่น-มาสะสมได้โดยไม่เบียดเบียบหรือเดือดร้อนผู้ใด ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ

ในกรณีที่น้า nine1441 มี JE-18/N อยู่นั้น ผมยินดีด้วยครับ เพราะ JE-18/N เป็น Crafter ทรง Jumbo ที่ให้เสียงที่ดี น่าเล่น ภาคไฟฟ้าเป็นของ L.R.Baggs ที่น่าใช้ On Stage ไว้ใจได้ และเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นที่นิยมของ Crafter เลยครับ
แต่หากน้า nine1441 อยากจะได้กีต้าร์เพิ่ม นั่นก็เป็นเรื่องปกติของคนรัก-คนชอบกีต้าร์ครับ ผมเองจนบัดนี้ก็ยังเป็นเช่นกัน
และผมเองก็ขายกีต้าร์ที่มีอยู่ออกไปไม่ลง เพราะแต่ละตัวได้คัดสรรมาอย่างตั้งใจ ถูกใจและชอบหมดทุกตัว เช่นเดียวกับน้า nine1441 ไงครับ

ส่วนเรื่อง Walden G800CE กับ Yamaha A3R ที่น้า nine1441 ยกมานั้น น่าเล่นทั้งคู่ครับ อยู่ที่ความชอบของแต่ละท่านที่แตกต่างกันไป
คำตอบที่ดีที่สุดว่าจะเลือกตัวไหนก็คือ การหาโอกาสไปลองเล่น-ลองสัมผัสดูด้วยตัวเองครับน้า nine1441

 
 

nine1441

  • member
  • ***
  • กระทู้: 138
ไปลองที่ร้านตัวเเทนจำหน่ายก่อนได้ครับ ออลโซลิดหลายๆรุ่นที่ผมลองเเล้วรู้สึกเฉยๆครับ ไม่ควรรอว่าเดี๋ยวเสียงเปิดเเล้วจะดีนะครับ เอาตัวที่ชอบในตอนนั้นเลยดีกว่า ความเห็นส่วนตัว a3r นั้นถือเเล้วเท่ห์ครับ  พวกศิลปินดังๆก็ใช้กันครับ เเต่ถ้าลองเเล้วไม่ถูกใจก็ไม่ควรซื้อครับ

ขอบคุณครับยังไม่มีโอกาสได้ลองทั้งสองแบรนด์ที่กล่าวมาเลย  แต่เห็นสเป็กและราคาน่าสนใจดี  ไว้มีโอกาสต้องไปลองให้หายคาใจ

nine1441

  • member
  • ***
  • กระทู้: 138
ถ้าเป็นผู้เล่นทั่วๆ ไป เล่นอยู่กับบ้าน เล่นเพื่อผ่อนคลาย อยากเล่นเป็น แต่ไม่ต้องถึงขั้นเป็นนักดนตรีอาชีพ การมีกีต้าร์เพียงตัวเดียว ถือว่าเป็นความโชคดี มากๆ ครับ จากหัวข้อ

- ถ้าเป็นครูสอน การมีกีต้าร์หลายตัว หลายๆ สไตล์ไว้ให้ลูกศิษย์เรียน  เช่นทรงสแตนดาร์ดทั่วๆ ไป ทรงคลาสสิค กีต้าร์แจ็ส หรือกีต้าร์ไฟฟ้า เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมี
- ถ้าเป็นนักสะสม การมีกีต้าร์เพิ่มอีก 1 ตัวในคอลเล็คชั่น มันมีเรื่องให้คุย แลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ ได้ถึงแม้ฝีมือจะไม่ใช่นักดนตรีอาชีพ กีต้าร์แต่ละตัว สุดยอดทั้งนั้น
- ถ้าเป็นคนทำงาน เล่นกีต้าร์เป็น ถ้าได้กีต้าร์เพิ่มอีก 1 ตัว ถือว่าเป็นการให้ของขวัญสำหรับตัวเองในแต่ละปี อาจได้หลายๆ ยี่ห้อคละๆ กันไป
- ถ้าเป็นนักดนตรีอาชีพ การมีกีต้าร์มากกว่า 1 ตัว เป็นความจำเป็น เพราะบางเพลง อาจใช้กีต้าร์ให้ตรงแนวเพลง
- ถ้าเป็นคนมีกระตังค์ ชอบกีต้าร์ เล่นเป็น รู้จักกีต้าร์ รู้จักไม้ รู้จักทรงกีต้าร์ กลุ่มนี้เป็นนักแสวงหา และสม กีต้าร์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะใจมันรัก เงินเป็นของเขา ไม่เดือดร้อนใคร
 

   และที่สำคัญสุดครับ คนชอบดนตรี เล่นกีต้าร์เป็น รู้จักรูปทรงกีต้าร์ รู้จักตำนานกีต้าร์  รู้จักประเภทไม้ที่ทำกีต้าร์ รู้จักตัวตนว่า ตัวเองชอบกีต้าร์แนวไหน  และมีงบในเมือ เมื่อนั้น
แหละหนีไม่พ้นกฏของ อับราฮัม มาสโลว์ "  เมื่อความต้องการอย่างที่หนึ่งได้รับการตอบสนอง ความต้องการอย่างที่สองจะตามมา "  เหมือนที่น้าฯ เกริ่นไว้ครับ เล่นแต่ top solid พอรู้เรื่องกีต้าร์เพิ่มขึ้น มีเงิน มีเวลา ให้ของขวัญกับตัวเอง ก็อยากได้ all solid มันเป็นเรื่องปกติครับ กีต้าร์ที่มีก็จะมากกว่า 1 ตัวและจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ขอบคุณครับน้าผมว่าผมมีอาการคล้ายๆที่น้ากล่าวมาพอศึกษาเพิ่มขึ้นรู้เรื่องทรงกีตาร์ที่ให้เสียงที่แตกต่าง จัมโบ้เอามาตีคอร์ดกระหึ่ม แต่ Om กับ Ga ก็ปิกกิ้งโน๊ตชัดเจน  รวมถึงเรื่องไม้แต่ละชนิดก็มีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เช่นกัน  ผมอยากได้มาสะสมและเล่นฟังเสียงเปรียบเทียบกับตัวที่มี เมื่อเวลาผ่านไป     อีกอย่างบางทีไม่ได้เล่นเเค่เอามาลูบๆคลำๆก็มีความสุขครับ  การใช้ประโยชน์ไม่เท่าใหร่แต่คุณค่าทางใจมีมากกว่า  แต่ถ้าถามว่าจำเป็นใหมที่ต้องมีเพิ่ม ก็ต้องบอกว่าไม่จำเป็นเท่าใหร่ แต่เพราะกิเลสล้วนๆครับ

nine1441

  • member
  • ***
  • กระทู้: 138
เพราะอะไรถึงอยากได้เพิ่มสำหรับผมตอบยากเหมือนกันครับ แต่โดยส่วนตัวสำหรับผมมันจะมีกีตาร์บางตัวที่แค่เห็นแว๊บเดียวรู้สึกดี
ถูกชะตาเหมือนมีอะไรดลใจหรือมันคือข้ออ้างของความอยากได้ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ที่มีๆอยู่สำหรับผมเป็นกีตาร์งานละเอียดทั้งหมดครับ คือใช้มือในการทำเป็นหลัก ค่อยๆทำไม่รีบเน้นคุณภาพ ผมเห็นคุณค่าของสิ่งพวกนี้นะเหมือนมันมีจิตวิญญาณ ผมก็เลยมักจะเก็บ
กีตาร์พวกนี้เอาไว้ก็เลยมีเพิ่มเรื่อยๆโดยเฉพาะแบรนด์ญี่ปุ่น ผมว่ามันมีเรื่องเล่าความเป็นมาจิตวิญญาณเยอะมาก อีกอย่างนึงคือเคยดู
เรื่องเกี่ยวกับ งานประดิษฐ์ของเค้าที่ประณีตมากไม่ได้ทำกันง่ายๆเลย หรือเรื่องของเกอิชา คือมันยากนะครับกว่าจะมาเป็นเกอิชาได้
ต้องฝึกฝน ต้องทำอะไรต่างๆนานามากมาย ผมว่าสิ่งเหล่านี้มันมีคุณค่ามากครับมันมีจิตวิญญาณที่เค้าใส่ใจทำจริงๆ พอได้มาก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนขายนี่สิลำบากใจมากแต่ถ้ามีอะไรที่ดลใจมากกว่าก็จำเป็นต้องขายครับ สำหรับผมเพราะมันมีเรื่องราวในตัวมันเอง
ผมเลยอยากเอาตัวที่ถูกชะตามาศึกษาครับหรือมันเป็นข้ออ้างของความอยากก็ไม่รู้นะ

 ขอบคุณครับ  ผมว่าที่น้ากล่าวมาถูกต้องเลยครับ กีตาร์มันมีอะไรในตัวมันเองมากพอที่จะให้เราเก็บสะสมทั้งเรื่องราว งานที่ประณีตบรรจง เหมือนมีมนต์ขลังในแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นยิ่งรุ่นเก่าๆที่เป็นแฮนด์เมด ยิ่งมีคุณค่าทางจิตใจสูง  ผมก็ตอบตัวเองยากเช่นกันทำไมอยากได้เพิ่มแต่ถ้าได้มาครอบครองคงจะมีความสุขมาก  ถึงจะไม่ค่อยได้เล่นก็ตาม

nine1441

  • member
  • ***
  • กระทู้: 138
เรียนน้า nine1441
จากหัวข้อที่ว่า "เพราะอะไรถึงอยากได้เพิ่ม" สำหรับผมเบื้องต้นก็คือ กีต้าร์แต่ละตัวย่อมมีบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันออกไป
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสียง รูปลักษณ์ โครงสร้าง เทคนิค วัสดุที่ใช้ผลิต ชื่อเสียง-ความเป็นมาของแบรนด์นั้นๆ
ตลอดจนความเหมาะสมจำเพาะกับแนวการเล่นต่างๆ ที่เราคิดว่าเราชอบเราพอใจครับ
 
คนที่รัก-ที่ชอบกีต้าร์ จึงมักอดไม่ได้ที่อยากจะได้อย่างนั้นอย่างนี้ เวลาผ่านไปจำนวนจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายปัญหาก็คือสถานที่ที่จะใช้เก็บรักษาครับ
ดังนั้นผมว่า เมื่อเรารัก-เราชอบ แล้วสามารถหากีต้าร์มาเล่น-มาสะสมได้โดยไม่เบียดเบียบหรือเดือดร้อนผู้ใด ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ

ในกรณีที่น้า nine1441 มี JE-18/N อยู่นั้น ผมยินดีด้วยครับ เพราะ JE-18/N เป็น Crafter ทรง Jumbo ที่ให้เสียงที่ดี น่าเล่น ภาคไฟฟ้าเป็นของ L.R.Baggs ที่น่าใช้ On Stage ไว้ใจได้ และเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นที่นิยมของ Crafter เลยครับ
แต่หากน้า nine1441 อยากจะได้กีต้าร์เพิ่ม นั่นก็เป็นเรื่องปกติของคนรัก-คนชอบกีต้าร์ครับ ผมเองจนบัดนี้ก็ยังเป็นเช่นกัน
และผมเองก็ขายกีต้าร์ที่มีอยู่ออกไปไม่ลง เพราะแต่ละตัวได้คัดสรรมาอย่างตั้งใจ ถูกใจและชอบหมดทุกตัว เช่นเดียวกับน้า nine1441 ไงครับ

ส่วนเรื่อง Walden G800CE กับ Yamaha A3R ที่น้า nine1441 ยกมานั้น น่าเล่นทั้งคู่ครับ อยู่ที่ความชอบของแต่ละท่านที่แตกต่างกันไป
คำตอบที่ดีที่สุดว่าจะเลือกตัวไหนก็คือ การหาโอกาสไปลองเล่น-ลองสัมผัสดูด้วยตัวเองครับน้า nine1441

 
 

    -ขอบคุณน้าหน่อยมากครับ ผมพยายามจะบอกตัวเองว่าถ้ามีเพิ่มแค่สองตัวพอละน่ะ  แต่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้อยากมี All solid อีกซักตัว  เหมือนกับว่าเรามีกีตาร์ที่เป็นไม้แท้ดูเเล้วมีความสุขทุกครั้งที่หยิบมันออกมา  ตอนนี้มีทรง จัมโบ้แล้วอยากได้ทรง Ga ไว้ปิกกิ้งก็คงเล็งๆไปที่ Walden 800ce เพราะราคาน่าจะพอใหว แต่คงต้องหาโอกาสไปลองดูก่อนครับ

    ส่วน Crafter je 18/n ที่มีอยู่ตอนนี้ก็ให้เสียงที่ดีมากโดยเฉพาะเมื่อเอามาตีคอร์ด ผมมีความสุขทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาเล่นและคิดว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่ยังไม่เคยลองภาคไฟฟ้าซักที เดี๋ยวคงต้องลองหาตู้แอมพ์มาใช้งานดู  แต่ปุ่ม Tuner ตอนนี้กดแล้วไม่ล็อกแล้วครับ ต้องกดย้ำๆ
อีกเรื่องคือกว่าจะซื้อได้คือหาข้อมูลนานมาก พอซื้อมาเลยขายไม่ลงเพราะคิดว่าเราคัดเลือกสิ่งที่ใช่แล้ว  แต่พอเจอตัวอื่นก็อยากได้อีกตัวเก่าก็ไม่อยากขาย

PaTT___

  • member
  • ***
  • กระทู้: 728
ส่วนตัวผมเอง การที่อยากได้กีต้าร์เพิ่ม เหมือนการได้ศึกษาและหาความแตกต่างของแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อครับ

อยากจะหากีต้าร์ที่สามารถตอบโจทย์ได้ในหลายๆสถานการณ์ และชอบเพราะความสวยงาม ซึ่งคงเป็นเสน่ห์ ของกีต้าร์อะคูสติคครับ

nine1441

  • member
  • ***
  • กระทู้: 138
ส่วนตัวผมเอง การที่อยากได้กีต้าร์เพิ่ม เหมือนการได้ศึกษาและหาความแตกต่างของแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อครับ

อยากจะหากีต้าร์ที่สามารถตอบโจทย์ได้ในหลายๆสถานการณ์ และชอบเพราะความสวยงาม ซึ่งคงเป็นเสน่ห์ ของกีต้าร์อะคูสติคครับ

-ขอบคุณครับน้า ผมนอกจากเสียงกีตาร์เเล้วผมชอบความประณีตละเอียดของงาน ผมว่กีตาร์เหมือนงานศิลปะบางทีแค่ได้จับ ลูบ คลำ พินิจพิจารณาก็มีความสุข ไม่รู้ผมอาการหนักหรือปล่าว 555 รู้สึกแบบนั้นจริงๆครับ

guitar_import

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,175
- จับD-35แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นJohnny Cash
- จับF-50แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นSRV (Stevie Ray Vaughan)
- จับD-28แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นElvis Presley
- จับD-41,OM-28แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นJohn Mayor
- จับOVATION Legendแล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นJim Croche

สรุปแล้วผมเล่นตามที่ศิลปินที่ผมชื่นชอบครับ
ที่สำคัญแถวนี้ของถูกครับ โสดๆลูกเมียไม่มีด้วย...กระสุนเพียบ

nine1441

  • member
  • ***
  • กระทู้: 138
- จับD-35แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นJohnny Cash
- จับF-50แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นSRV (Stevie Ray Vaughan)
- จับD-28แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นElvis Presley
- จับD-41,OM-28แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นJohn Mayor
- จับOVATION Legendแล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นJim Croche

สรุปแล้วผมเล่นตามที่ศิลปินที่ผมชื่นชอบครับ
ที่สำคัญแถวนี้ของถูกครับ โสดๆลูกเมียไม่มีด้วย...กระสุนเพียบ
ผมจะซื้อเพิ่มก็ติดตรงลูกเมี่ยนี่แหละครับ กลัวเอาเข้าบ้านไม่ได้ จะซื้อเพิ่มเดี๋ยวโดนถามมีแล้วจะเอามาอีกทำไม 555 ไม่รู้จะตอบไงเหมือนกัน ข้อนี้เป็นปัญหาใหญ่

Mr.Gula101

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,414
  • เพศ: ชาย
แนวคิดและการปฎิบัติตามน้าป๋าnhoyผู้อาวุโสครับ ....

nhoy

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,179
สวัสดีครับน้า Mr.Gula101 สบายดีนะครับ ระลึกถึงครับ ^^

Auponata

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,097
  • OR'Solid
ถ้าเป็นผู้เล่นทั่วๆ ไป เล่นอยู่กับบ้าน เล่นเพื่อผ่อนคลาย อยากเล่นเป็น แต่ไม่ต้องถึงขั้นเป็นนักดนตรีอาชีพ การมีกีต้าร์เพียงตัวเดียว ถือว่าเป็นความโชคดี มากๆ ครับ จากหัวข้อ

- ถ้าเป็นครูสอน การมีกีต้าร์หลายตัว หลายๆ สไตล์ไว้ให้ลูกศิษย์เรียน  เช่นทรงสแตนดาร์ดทั่วๆ ไป ทรงคลาสสิค กีต้าร์แจ็ส หรือกีต้าร์ไฟฟ้า เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมี
- ถ้าเป็นนักสะสม การมีกีต้าร์เพิ่มอีก 1 ตัวในคอลเล็คชั่น มันมีเรื่องให้คุย แลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ กีต้าร์แต่ละตัว สุดยอดทั้งนั้น
- ถ้าเป็นคนทำงาน เล่นกีต้าร์เป็น ถ้าได้กีต้าร์เพิ่มอีก 1 ตัว ถือว่าเป็นการให้ของขวัญสำหรับตัวเองในแต่ละปี อาจได้หลายๆ ยี่ห้อคละๆ กันไป
- ถ้าเป็นนักดนตรีอาชีพ การมีกีต้าร์มากกว่า 1 ตัว เป็นความจำเป็น เพราะบางเพลง อาจใช้กีต้าร์ให้ตรงแนวเพลง


   และที่สำคัญสุดครับ คนชอบดนตรี เล่นกีต้าร์เป็น รู้จักรูปทรงกีต้าร์ รู้จักตำนานกีต้าร์  รู้จักประเภทไม้ที่ทำกีต้าร์ รู้จักตัวตนว่า ตัวเองชอบกีต้าร์แนวไหน 
   และมีงบในเมือ เมื่อนั้นแหละ กีต้าร์ที่มีก็จะมากกว่า 1 ตัวและจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

+1
facebook:or ponata

Dawrin505

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,092
 :) ;) :D   ทีแรกผมก็กะว่ามีตัวเดียวหล่ะครับ แต่ชอบลองไปเรื่อยก็เลยได้ติดไม้ติดมือมาเรื่อยครับ เคยมีถึง 7 ตัว ...แต่จับจริงๆก็ 2 ตัวครับก็เลยปล่อยไปหมด ตอนนี้เหลืออยู่ 3 ตัวครับ ***สำหรับผมการที่มีกีตาร์มากกว่า 1 คือ มันจะได้เปลี่ยนซาวน์ดบ้างครับ" ส่วน3 ตัวที่เหลือผมมี Yamaha A3r ด้วยครับผมได้มาล๊อตแรกๆเลย เสียงเปิดแล้วครับ ชอบมากครับ ใสๆ หวานๆ นุ่ม ครับก็จะเล่นประจำครับตัวนี้.........เชียร์เลยครับ A3r แต่แนะนำว่าลองหลายๆที่น่ะครับ ผมเคยไปลองบางตัวก็เสียงเปิดบ้าง บางตัวก็เสียงทึบเลยครับ แต่ถ้าเจอตัวที่เสียงเปิดๆแล้วน่าซาวน์ดน่าจะถูกใจครับ ...ขอให้ได้กีตาร์ที่ถูกใจครับ. ;D

J.taka

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,046
  • เพศ: ชาย
พอดียังตอบไม่ครบครับ สาเหตุที่มีมากกว่าหนึ่งคือ กีต้าร์สำหรับฝึกหัดก็อาจจะถูกหน่อย อันนี้เพราะทุนทรัพย์ส่วนตัวน้อยซื้อในวัยเรียนเมื่อ 26 ปีที่เเล้วเเอคชั่นสูงมากสายก็เเข็ง  เสียงก็ก๊องเเก๊ง เมื่อพอเป็นขึ้นมาก็ขยับให้มันดีขึ้นหน่อยครับ ค่อยๆไต่ไปเรื่อยๆครับ

ting_roor

  • member
  • ***
  • กระทู้: 102
1. อยากได้ที่ดีคุณภาพสูงกว่าตัวเดิม
2. อยากได้ความแตกต่างหรือแปลกใหม่กว่าตัวเดิม

ของผมมีแค่นี้ครับ ;D

Dew_Allsolid

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,345
  • Let's strumming
1. อยากได้ที่ดีคุณภาพสูงกว่าตัวเดิม
2. อยากได้ความแตกต่างหรือแปลกใหม่กว่าตัวเดิม

ของผมมีแค่นี้ครับ ;D

+1 ครับ