เรียนน้า nine1441
จากหัวข้อที่ว่า "เพราะอะไรถึงอยากได้เพิ่ม" สำหรับผมเบื้องต้นก็คือ กีต้าร์แต่ละตัวย่อมมีบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันออกไป
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสียง รูปลักษณ์ โครงสร้าง เทคนิค วัสดุที่ใช้ผลิต ชื่อเสียง-ความเป็นมาของแบรนด์นั้นๆ
ตลอดจนความเหมาะสมจำเพาะกับแนวการเล่นต่างๆ ที่เราคิดว่าเราชอบเราพอใจครับ
คนที่รัก-ที่ชอบกีต้าร์ จึงมักอดไม่ได้ที่อยากจะได้อย่างนั้นอย่างนี้ เวลาผ่านไปจำนวนจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายปัญหาก็คือสถานที่ที่จะใช้เก็บรักษาครับ
ดังนั้นผมว่า เมื่อเรารัก-เราชอบ แล้วสามารถหากีต้าร์มาเล่น-มาสะสมได้โดยไม่เบียดเบียบหรือเดือดร้อนผู้ใด ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ
ในกรณีที่น้า nine1441 มี JE-18/N อยู่นั้น ผมยินดีด้วยครับ เพราะ JE-18/N เป็น Crafter ทรง Jumbo ที่ให้เสียงที่ดี น่าเล่น ภาคไฟฟ้าเป็นของ L.R.Baggs ที่น่าใช้ On Stage ไว้ใจได้ และเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นที่นิยมของ Crafter เลยครับ
แต่หากน้า nine1441 อยากจะได้กีต้าร์เพิ่ม นั่นก็เป็นเรื่องปกติของคนรัก-คนชอบกีต้าร์ครับ ผมเองจนบัดนี้ก็ยังเป็นเช่นกัน
และผมเองก็ขายกีต้าร์ที่มีอยู่ออกไปไม่ลง เพราะแต่ละตัวได้คัดสรรมาอย่างตั้งใจ ถูกใจและชอบหมดทุกตัว เช่นเดียวกับน้า nine1441 ไงครับ
ส่วนเรื่อง Walden G800CE กับ Yamaha A3R ที่น้า nine1441 ยกมานั้น น่าเล่นทั้งคู่ครับ อยู่ที่ความชอบของแต่ละท่านที่แตกต่างกันไป
คำตอบที่ดีที่สุดว่าจะเลือกตัวไหนก็คือ การหาโอกาสไปลองเล่น-ลองสัมผัสดูด้วยตัวเองครับน้า nine1441
-ขอบคุณน้าหน่อยมากครับ ผมพยายามจะบอกตัวเองว่าถ้ามีเพิ่มแค่สองตัวพอละน่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้อยากมี All solid อีกซักตัว เหมือนกับว่าเรามีกีตาร์ที่เป็นไม้แท้ดูเเล้วมีความสุขทุกครั้งที่หยิบมันออกมา ตอนนี้มีทรง จัมโบ้แล้วอยากได้ทรง Ga ไว้ปิกกิ้งก็คงเล็งๆไปที่ Walden 800ce เพราะราคาน่าจะพอใหว แต่คงต้องหาโอกาสไปลองดูก่อนครับ
ส่วน Crafter je 18/n ที่มีอยู่ตอนนี้ก็ให้เสียงที่ดีมากโดยเฉพาะเมื่อเอามาตีคอร์ด ผมมีความสุขทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาเล่นและคิดว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่ยังไม่เคยลองภาคไฟฟ้าซักที เดี๋ยวคงต้องลองหาตู้แอมพ์มาใช้งานดู แต่ปุ่ม Tuner ตอนนี้กดแล้วไม่ล็อกแล้วครับ ต้องกดย้ำๆ
อีกเรื่องคือกว่าจะซื้อได้คือหาข้อมูลนานมาก พอซื้อมาเลยขายไม่ลงเพราะคิดว่าเราคัดเลือกสิ่งที่ใช่แล้ว แต่พอเจอตัวอื่นก็อยากได้อีกตัวเก่าก็ไม่อยากขาย