ก่อนอื่นผมขออธิบายเรื่องความแตกต่างของสัญญาณจากช่องแจ็ค 1/4" และช่องแจ็ค XLR
สัญญาณจากช่องแจ็ค 1/4" นั้นเขาเรียกว่า unbalanced signal ที่ประกอบด้วยสัญญาณ + และ ground สัญญาณประเภทนี้คือสัญญาณที่ออกมาจากตัว pickup ซึ่งจะมีเสียงรบกวน (noise) ติดมาด้วย หากต้องการจะกำจัด noise ก็ต้องแปลงสัญญาณนี้เป็น balanced signal ที่มี 3 ขั้วคือขั้วบวก ขั้วลบและ ground ครับ
ฺBalanced line นั้นกำจัด noise ใด้โดยการเอาสัญญาณบวกและลบมารวมกันตรงปลายทางทำให้ noise ที่กลับเฟสกันอยู่หักล้างกันเองจนเหลือ 0 ตามรูปด้านล่าง
การแปลงสัญญาณจาก unbalanced เป็น balanced นั้นทำใด้โดยการใช้ transformer แต่ไม่ค่อยมีใครทำกันมาจากโรงงานนอกจาก Ovation บางรุ่นและปรีของ Taylor ES-1 เพราะมันไม่จำเป็นสำหรับนักดนตรีส่วนใหญ่ที่ใช้สายแจ็คยาวไม่ถึง 10 เมตร คนที่ต้องขึ้นเวทีใหญ่ก็สามารถซื้อ DI-box เพิ่มใด้อยู่แล้ว
เรื่องไฟ phantom 48V. นั้นถ้าคุณใช้ mixer ของร้านก็คงไม่สามารถปิดใด้เพราะ mixer ส่วนใหญ่มีปุ่มเปิดปิดอยู่ปุ่มเดียว ถ้าคุณไปปิดแล้วอุปกรณ์อื่นที่ต้องใช้ไฟเลี้ยงอย่างพวกไมค์ก็ใช้ไม่ใด้ เรื่องนี้ตามปกติไม่ใช่ปัญหาเพราะอุปกรณ์ที่ใช้ balanced line ที่ไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยงมันมองไม่เห็นไฟเลี้ยงหรอกครับ
แล้วที่น้าทอมเตือนว่าอย่าเปิดไฟ 48V เพราะปรีจะพังมีเหตุผลไหม คำตอบก็คือมันไม่มีในทางทฤษฎีแต่ในทางปฎิบัติแล้วพวกปรีราคาถูกๆมักไม่ยอมเสียเงินไปเพิ่ม tranformer ก็เลยทำแจ็ค XLR หลอกๆโดยเอาขั้วลบไปเชื่อมกับ ground (ดูคำเตือนในรูปข้างบน) และปล่อยสัญญาณ unbalanced ออกมาเหมือนเดิม ในกรณีนี้ถ้าคุณเปิดไฟ 48V ก็มีโอกาสสูงที่ปรีจะพังครับ
ดังนั้นก่อนอื่นก็เอา ohm meter วัดดูก่อนว่าขั้ว 2 หรือ 3 ของแจ็ค XLR คุณมัน ground อยู่กับขั้ว 1 หรือเปล่า ถ้า ground อยู่มันก็เป็นแจ็คปลอมครับไม่ต้องไปเสียเงินซื้อสาย XLR มาใช้หรอกเพราะไม่มีประโยชน์เลยแถมถ้าใครเผลอไปเปิดไฟเลี้ยงก็จะพังอีกต่างหาก