หัวข้อ: อยากได้กีตาร์ กิ้บสัน สักตัว ช่วยแนะนำทีครับ

[Paxx]

อยากได้คำแนะนำว่า ควรจะเป็น รุ่นไหน ไม้อะไร ที่จะได้ความเป็นกิ้บสันอะครับเพราะผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องกิ้บสันเลยครับ แต่ไม่เอารุ่นสูงสุดของเขานะครับ งบฯ ไม่ถึง
ขอบคุณครับ

[TOM1869]

เมเปิ้ลครับ

[guitar_import]

ผมเห็นว่าถ้าไม่เอาตัวTop คงต้องมองมาที่Dreadnought /Slope shoulder /Short Scale ทั้งหลายแหละครับ ผมไม่สันทัดGibsonนัก รอท่านอื่นที่เป็นแฟนGibsonมาเพิ่มเติมดีกว่า

[Mr.Gula101]

ถ้างบซัก5-6หมื่นกว่าๆคงต้องหาSongwriterมือ2 หรือไปหิ้วเอาJ-35โชว์รูมครับ... ชอบGibsonเล่นGibsonชอบกิ๊บซี่เล่นกิ๊ก...55  .. ในรูปตัวซ้ายSongwriter Deluxe2006ส่วนตัวขวา J-35สดๆจากโชว์รูมครับ...

[น้าต่อ.....]

ไม่ J45 ก็ SJ200

[OLARN]

J45 ครับ

[Paxx]

J45 หรือ 35 ดีครับ ถ้า 45 นี่เอารุ่นธรรมดาหรืออะไรดีครับ ขอบคุณครับ

[Dew_Allsolid]

J35 คออวบไปหน่อยครับสำหรับผมหนากว่า D28 อีกครับส่วน J45 ยังไม่เคยลองครับ

[Piyawat.H]

- J45 custom rosewood
- Songwriter standard/Studio cutaway
- Songwriter custom
1 ใน 3 ตัวนี้แหละ ถ้าเป็นไปได้ Songwriter Custom ก็แจ่มเลย

[Tidhnu]

อย่าลืมลอง Hummingbird ด้วย  ถ้าชอบทรง Dreadnought

[กฤษณ์]

Gibson เพิ่งฉลองวันเกิด 120 ปีไปเมื่อปีที่แล้ว ดังนั้นกีตาร์โปร่งยี่ห้อนี้จึงมีทั้งหน้าตา เสียงและการออกแบบเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจนไม่แพ้กีตาร์ Martin แต่น่าเสียดายว่าในบ้านเรามีแฟนกิบสันโปร่งน้อยคนมาก นักสะสมที่ผมรู้จักก็มักเลือกรุ่นที่สวยงามและอลังการโดยแทบไม่สนใจเรื่องการใช้งานเลย ผมเองนั้นชอบกีตาร์โปร่งยี่ห้อนี้อยู่หลายรุ่นและตอนนี้ก็มีอยู่เกินยี่สิบตัวซึ่งส่วนใหญ่เป็นกีตาร์ใช้งานครับ

กิบสันเป็นกีตาร์ที่โครงสร้างแข็งแรงมากสุดของกีตาร์อเมริกัน คุณสามารถใช้มันไปใด้ชั่วลูกชั่วหลานถ้าคุณไม่ทำมันล้มจนคอหัก ข้อเสียของกิ้บสันก็คือเขาเคลือบไนโตรมาบางมากทำให้ผิวแตกลายงาใด้ง่ายกว่ายี่ห้ออื่น ถ้าคุณคิดว่ายิ่งแตกลายงาเสียงยิ่งดีเพราะแลกเกอร์มันแห้งจนกรอบมันก็ไม่ใช่ข้อเสียหรอกครับ (ถ้าคุณไม่ใด้ซื้อมาขายต่อ) ตอนที่ผมอยู่อเมริกานั้นเขาเชื่อกันว่าถ้าคุณไปเจอกิบสันเก่าที่ไม่แตกลายงาก็อย่าไปสนใจเพราะกีตาร์ตัวนั้นเสียงไม่ดีแน่นอน (เพราะเคลือบมาหนาไปหรือพ่นสีมาใหม่)

อาจมีบางคนที่ยังไม่เคยเห็นกีตาร์ที่ "แตกลายงา" ลองดู j-45 ปี 1968 ของผมตัวนี้แล้วกันครับ (ดู HD เต็มจอจะเห็นชัดเจน)

<a href="http://youtu.be/k8e44mbFSZ4" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/k8e44mbFSZ4</a>

ทรงยอดนิยมของ Gibson

ทรงที่เขานิยมกันนั้นมีอยู่สีทรงครับ

ทรง L___สำหรับกีตาร์โปร่งคือทรงที่เล็กสุดและมีขนาดพอๆกับทรง 00 ทรงนี้เป็นตำนานของ acoustic blues ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ไม้ mahogany ทำให้ราคาถูกพอที่ศิลปิน blues จนๆอย่าง Robert Johnson (Gibson L-1) พอจะซื้อไหว ขนาดที่น่าเล่นและมีขายที่ Music Concept คือรุ่น L-00 (Blues King) ลองฟังเสียงตัวของผมดูครับ

<a href="http://youtu.be/qdlDuo7Npbo" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/qdlDuo7Npbo</a>

ทรง Dreadnought...ทรงนี้เริ่มผลิตในปี 1934 เพื่อแข่งกับ Martin D-28 และเป็นทรง slope shoulder ผลปรากฎว่าแพ้ Martin ราบคาบ สเป็ค sruce/rosewood นี่รุ่นที่ดังสุดคือ advanced jumbo (1936-1938) ที่มี reissue ออกมานานๆครั้งและมีทายาทคือรุ่น J-45 Custom ที่ไปลองเสียงใด้เลย ลองฟัง AJ ของผมครับ

<a href="http://youtu.be/A9tqM5SFu0w" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/A9tqM5SFu0w</a>

ส่วนรุ่น slope shoulder dreadnought ที่กลายเป็นตำนานก็คือ J-45 (spruce/mahogany) ที่ออกมาในปี 1942 ในราคาเพียง $45 และเป็น Gibson โปร่งรุ่นเดียวที่อยูในสายการผลิตมาตลอด รุ่นนี้ผมมีเก็บอยู่ห้าตัวเลยไม่รู้จะเอาตัวไหนลง ขอเอาคลิปของ street busker ตัวจริงเสียงจริงมาลงดีกว่าครับ

<a href="http://youtu.be/dXURZGI75Eg" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/dXURZGI75Eg</a>

J-45 ไม่ใช่กีตาร์เสียงหล่อเสียงหวานแต่มันสามารถประสานกับเสียงร้องใด้อย่างพอดิบพอดีและยังทนทายาด สมัยที่ James Blunt เป็นพลขับรถถังในสงคราม Kosovo นั้นเขาก็ผูก J-45 ปี 1966 ตัวเก่งของเขาไว้บนรถถัง (เพราะไม่มีที่เก็บข้างใน)ตลอดสงครามและก็ใช้กีตาร์ตัวนี้ตลอดมาจนมีชื่อเสียงก้องโลก

<a href="http://youtu.be/SwpbtmFK4BM" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/SwpbtmFK4BM</a>

ยังมีเรื่องราวของยี่ห้อนี้อีกเยอะครับ ถ้ายังไม่เบื่อผมจะมาเล่าต่อ

 

[guitar_import]

J35 vs. J45 จากทางAcoustic letters ครับ

https://m.youtube.com/watch?v=8ePmR2WMUMk

ถ้าจะพูดถึงความเป็นiconic ของโปร่งGibson ผมจะนึกถึงshort scale  dreadnought /slope shoulder ซึ่งก็มีแต่สองตัวJ35และJ45ครับ ส่วนพวกJumbo ผมจะไม่นึกถึงGibson แต่จะนึกถึงGuild มากกว่า เช่นเดียวกับL-series ที่ผมจะนึกถึงOO-18ของทางฝั่งMartinมากกว่า ส่วนเนื้อเสียงผมว่าอันนี้แล้วแต่คนชอบเลย ส่วนตัวผมว่ามันover buildไปหน่อย ทำให้เสียงออกมาค่อนข้างแข็งตามโครงสร้าง ยิ่งช่วงยุคNorlinราวๆ60'ปลายๆถึง70'กลางๆนี้แล้วใหญ่ พวกใช้Double X Bracing บวกกับAdjustable bridge ด้วย เสียงมู่ทู่สุดๆ(ผมมีJ50ปี73ครับ)


upload

หน้าตาของdouble X-bracing ของGibson ยุค70'
ล่อซะแน่นตื๊บอย่างนี้ แล้วไม้หน้ามันจะกระพือได้ไง
หวังว่าเพื่อนๆสมาชิกคงนึกภาพออก...

[Paxx]

ขอบคุณน้ากฤษณ์มากครับ ผมไม่เบื่อกับเรื่องราวของกิ้บสัน รบกวนนำมาให้อ่านอีกนะครับ ตั้งตารอ หรือ ส่งมาที่ [email protected] ก็ได้ครับ ขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง

ขอบคุณน้า กีตาร์ อิมพอร์ท มากครับ มีข้อมูลของ J45  แและ Hummingbird เพิ่มอีกมั้บครับ

[TOM1869]

รออ่านต่อครับ   แฟนกิ๊ป เหมือนกันครับ

[CalmForHappy]

 ;Dมาปูเสื่อจับจองที่นั่งรอฟังครับ

[free-rider]

ของผมถ้าGibson acoustic คงต้องเป็นj45 

[เส้นทางลูกผู้ชาย]

 หรือถ้าชอบน้าปู ก็ตัวนี้ครับ Gibson Dove

<a href="http://youtu.be/-vEo4Wb2ouw" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/-vEo4Wb2ouw</a>

[กฤษณ์]

GIBSON DREADNOUGHT SQUARE SHOULDER

ในยุคก่อนสงครามนั้น Gibson ออกแบบทรง D เป็น slope shoulder ตาม Martin ทรง D แต่ Gibson นั้นเป็นกีตาร์ 14 fret ในขณะที่ Martin ทรง D ยุคแรก (1931-1933) มี 12 fret clear ซึ่งทำให้ Gibson D มีขนาดตัวเล็กกว่าและเสียงเบากว่า ต่อมาเมื่อ Martin เปลี่ยนเป็น 14 fret เขาก็ทำบ่าให้ชันขึ้นกลายเป็น square shoulder ซึ่งไม่ทำให้เสียงเบาลง

ในยุคก่อนสงครามนั้นเป็นยุคของ bluegrass music ที่กีตาร์โปร่งต้องเสียงดังพอที่จะแข่งกับ banjo และ violin ดังนั้นคนเลยนิยมใช้ Martin กันมากกว่า Gibson เยอะ ต่อมาในยุคของ folk music กิบสันก็เลยออกแบบ square shoulder D ที่ตัวใหญ่กว่าและเสียงดังกว่ามาแย่งตลาดนำด้วย Hummingbird ในปี 1960 Dove ในปี 1962 ซึ่งก็ขายดี (ความจริงในยุคนั้นกีตาร์โปร่งขายดีมากจน Martin ผลิตไม่ทันอยู่แล้ว) ต่อมาในปี 1969 Gibson ทรง D ทุกรุ่นก็เลยเปลี่ยนมาใช้ square shoulder หมดจนถึงปี 1983 ที่ J-45 กลับมาใช้ slope shoulder เหมือนเดิมจนถึงทุกวันนี้




Gibson เริ่มกลับมาทำทรง square shoulder D ใหม่ในซีรี่ Custom Line (CL) ที่ผลิตอยู่เพียงสองปี (1997-1998) รุ่นนี้น่าจะเป็นต้นแบบของระบบ bracing ใหม่ (Hand scalloped advanced bracing pattern) ที่นำมาใช้ในรุ่น Songbird ในปี 1999-2002 ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นรุ่น Songwriter ในปี 2003 หลังจาก Guild USA แจังว่าเขาเคยผลิต Guild Songbird ในอดีต

Gibson Songwriter เป็นกีตาร์ spruce/rosewood ที่ใด้รับความนิยมไปทั่วโลกเป็นรุ่นแรกของยี่ห้อนี้ ส่วน Gibson Custom Line นั้นถ้าหาเก็บใด้ก็น่าเก็บเพราะเป็นต้นแบบ modern sound ชอง Gibson ที่เพิ่มความละเมียดละไมเข้าไปแต่ก็ยังเป็นเสียงของ Gibson อยู่ดี

Gibson CL-20+ Custom Burst (spruce/mahogany)

<a href="http://youtu.be/eYQf53U24kA" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/eYQf53U24kA</a>

Gibson CL-40 Custom Burst (spruce/rosewood)

<a href="http://youtu.be/49YpAaiUMV8" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/49YpAaiUMV8</a>

Gibson square shoulder D เป็นทรงที่มีไม้ให้เลือกมากที่สุดคือ Mahogany ในรุ่น Hummingbird, Rosewood ในรุ่น Songwriter และ Maple ในรุ่น Dove ครับ

 

[Paxx]

สุดยอดครับ น้ากฤษณ์ ยังมีต่อมั้ยครับ ถ้ามีก็รบกวนด้วยนะครับ ผมพึ่งทราบว่า มาร์ตินเป็นผู้เริ่มต้นทรง สโลบ โชวเดอร์ ที่ผ่านมา ผมนึกว่า กิ้บสันคือต้นตำรับซะอีก ถ้าเช่นนั้น ควรมองหา กิ้บสัน ไหล่ลู่ หรือ ไหล่ตรง หรือ หามาร์ตินไหล่ลู่ดีครับ อีกอย่างที่สงสัยคือ มาร์ตินไหล่ลู่นี่ไม่ค่อยเห็นเลยครับ เหตุใดมาร์ตินไม่เน้นไหล่ลู่ เห็นแค่รุ่น ceo เท่านั้น ขอบคุณครับ

[TOM1869]

เกือบขายไปแล้ว