Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: แนวเสียงกีต้าร์วินเทจกับแนวปัจจุบันต่างกันยังไงบ้าง  (อ่าน 9426 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

smart2011

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,052
บางทีอธิบายยาก น้าๆลองระบุให้เห็นภาพหน่อยได้มั้ยครับ

น้าต่อ.....

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,194
  • กีต้าร์ 3 ลูก 2 เมีย 1
ผมฟังแล้วแยกไม่ออกครับ..........

nantfa

  • member
  • ***
  • กระทู้: 891
ฟัง ไม่ออกครับ 

ช่างก่อร่าง สร้างรัก

noomxman

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,720
  • ชีวิตมันสั้น ทำมันให้ดีที่สุด

ป็นเรื่องเสียงไม่รู้ว่าจะระบุให้เห็นภาพใด้ยังไงครับ ;D ;D ;D
noomxman

smart2011

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,052
นั่นสิครับ พอดีเห็นคนพูดกันเวลาขาย บอกว่าเสียงเป็นแบบแนวกีต้าร์รุ่นใหม่ เลยอยากรู้ครับว่าแยกรูปแบบเสียงกันยังไง หรือการออกแบบ bracing ของกีตาร์รุ่นใหม่ๆทำให้เกิดความแตกต่าง

กฤษณ์

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าจะเปรียบเทียบกันก็ต้องให้คำจำกัดความของ "Vintage" ก่อนครับ

Vintage Design หมายความถึงการกลับไปใช้โครงสร้างของกีตาร์สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งแน่นอนว่าพวกกีตาร์ยี่ห้อใหม่ๆหมดสิทธิ์เหลืออยู่แค่ Martin และ Gibson เท่านั้น  Martin เองก็ไม่ใด้คิดว่าจะมีตลาดรองรับกีตาร์ย้อนยุคจนเจ้าอื่นอย่าง Santa Cruz, Bourgeois, Collings ๆลๆ เขาก้อปโครงสร้างของ pre-war Martin ทำออกมาขายจนรวยไปตามๆกัน Martin ถึงใด้เริ่มทำ Vintage Series ออกมาขายเมื่อปี 1997 นี่เองครับ ส่วน Gibson นั้นเขาเรียก vintage series ว่า Reissue ครับ

เรื่องเสียงนั้นเมื่อแปดสิบปีก่อนกีตาร์โปร่งสายเหล็กนั้นเขาใช้สำหรับตีคอร์ดร้องเพลงเป็นส่วนใหญ่ไม่มีใครเอามาเล่น fingerstyle เหมือนสมัยนี้ ดังนั้นเขาจึงออกแบบให้ย่านเสียงทุ้มนุ่มลึกเพื่ออุ้มเสียงร้อง เสียงแหลมมีประกายสดใสแต่ไม่พุ่งมาก เสียงกลางไม่เด่นเพราะถ้าเด่นมากมันจะมาแข่งกับเสียงร้อง Overtone และ harmonic มีพองามเพื่อความต่อเนื่องแต่ไม่มากจนโน้ตเบลอถ้าเล่นเพลงเร็วครับ

ส่วนกีตาร์สมัยใหม่นั้นเขาจะเน้น balance และ dynamic เบสต้องไม่บูมเวลาอัดเสียง หัวโน้ตต้องชัด หางโน้ตต้องนิ่ง เสียงกลางจะเด่นกว่ากีตาร์ vintage เล่บบรรเลงก็ดี ตีคอร์ดก็เพราะ ทั้งหมดนี่คือเป้าหมายนะครับ จะทำใด้หรือไม่ใด้ก็เป็นอีกเรื่องที่คนซื้อต้องตัดสินเอง

พูดไปก็สองไพเบี้ย ลองมาฟังเสียงกันดีกว่า คู่แรกนี่เสปคไม้เหมือนกัน 100%(Adirondack spruce, mahogany) แต่โครงสร้างต่างกันมากมาย ตัวแรกคือ Martin D-18 Golden Era ทีลอกแบบมาจาก 1934 D-18 ครับ

Martin D 18GE



ส่วนตัว modern design ก็คือ Martin CEO-4 (Adirondack pruce/mahogany) ที่เป็นการออกแบบใหม่ทั้งตัวในปี 2003 ครับ

Martin CEO 4



ลองมาดูค่าย Gibson กันบ้าง Vintage design ของเขาเสียงก็เป็นเอกลักษณ์มากครับทั้งๆที่เสปคไม้เป็น adirondack spruce/mahogany เหมือน Martin สองตัวข้างบน

Gibson Custom Shop 1934 Original Jumbo

Gibson Custom Shop 1934 Original Jumbo.MTS



ส่วน modern design ของโปร่ง Gibson น่าจะเริ่มจาก Custom Line Series (1997-1998) ที่เป็นต้นแบบของ Songwriter series ครับ

ลองฟังเสียง modern design CL-20+ (sitka spruce/mahogany) ดูครับ

2000 Gibson CL-20SB.MTS


นี่เราคุยกันเฉพาะเรื่องเสียงนะครับ ความแตกต่างเรื่องอื่นยังมีอีกเยอะครับ




Folk-man

  • member
  • ***
  • กระทู้: 231
อธิบายได้ละเอียดดีครับน้า ขอบคุณสําหรับความรู้ดีๆครับ

OAT JAKKRIT

  • member
  • ***
  • กระทู้: 630
  • เพศ: ชาย
  • สูงสุดสู่สามัญ
-ขอบคุณน้ากฤษณ์ครับ

gttle

  • member
  • ***
  • กระทู้: 892
ปักหมุดไว้น่าจะดีคนถามบ่อยเหมือนกันนะครับข้อนี้ แถมอันนี้มีตัวอย่างให้ฟังด้วย

hotman555

  • member
  • ***
  • กระทู้: 223
ขอบคุณน้ากฤษณ์ สำหรับคำตอบครับ สงสัยมานานเหมือนกัน

กฤษณ์

  • บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นข้างบนนั้นเป็นความคิดส่วนตัวของผมคนเดียวนะครับ ไม่มีคำว่าถูกหรือผิด ถ้าฟังเสียงแล้วคิดวา vintage design เสียงดีกว่าก็ต้องไม่ลืมว่ามันราคาแพงกว่า modern design พอสมควรด้วยนะครับ

ความจริงแล้วในยุค Golden Era นั้นคนเล่นกีตาร์เขาไม่ใด้เรื่องมากเหมือนคนสมัยนี้เพราะในยุคนั้นเป็นยุคของ country, bluegrass และ delta blues สมัยนั้นไม่มี pickup ไม่มีแอมป์ ถ้าจะเล่นให้คนฟังใด้ยินก็ต้องใช้ปิ้กครับ

ถ้าเป็น country หรือ bluegrass เขาต้องการเสียงดังเพื่อสู้กับ banjo และ fiddle และเบสต้องหนักซึ่งทำให้กีตาร์ทรง D กลายเป็นทรงยอดนิยมตั้งแต่ยุค 1930s มาถึงทุกวันนี้ในอเมริกา ลองมาดูการเล่นสไตล์ bluegrass แข่งกับ banjo กันครับ

Dueling Banjos (HD)



เพลง traditional song อายุสองร้อยปีในสไตล์ country ครับ

Doc Watson & Richard Watson - House of the Rising Sun



ส่วนเพลง acoustic blues ยุคนั้นกีตาร์เสียงแย่มากเพราะศิลปินไม่มีเงินซื้อกีตาร์แพงๆครับ

Robert Johnson - Sweet Home Chicago - JazzAndBluesExperience



กีตาร์สมัยใหม่นั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการเล่นแบบใช้นิ้วเปล่าๆซึ่งในยุค '60s เราเรียกกันว่า "เกา" หรือ finger picking ครับ ตอนนั้นเขาใช้การขยายเสียงด้วยไมโครโฟนครับ ในยุคแรกๆของ folk boom นั้นศิลปินส่วนใหญ่ใช้กีตาร์ทรงเล็กหรือกีตาร์คลาสสิคเล่นครับ

Paul Simon - The Sound of Silence 9/11 Ground Zero


Peter Paul & Mary - Early Morning Rain (1966)


ในยุคนั้นกีตาร์โปร่งอเมริกันขายดีจนผลิตกันไม่ทันจนเกิดช่องว่างให้กีตาร์ญี่ปุ่นแจ้งเกิดกันหลายราย (Yamaha, Takamine, K. Yairi, Morris, etcs.)

เมื่อผลิตเท่าไหร่ก็ขายหมด กีตาร์ยี่ห้อดังๆสมัยนั้นก็เลยไม่สนใจเรื่องการหาทรงใหม่เสียงใหม่มารองรับตลาดของดนตรีสมัยใหม่

ช่องว่างนี้เองที่ทำให้ Taylor แจ้งเกิดใด้อย่างเต็มตัวเมื่อสามสิบปีก่อนจนกลายมาเป็นกีตาร์ยอดขายอันดับหนึ่งที่ผลิตในอเมริกาในปัจจุบัน

ในโพสต์ที่แล้วผมพยายามเปรียบเทียบเสียง vintage และ modern sound ของ Martin และ Gibson ทรง D ซึ่งคนฟังอาจจะแยกแยะใด้ไม่ชัดเจนนักเพราะยังไงเขาก็ต้องรักษา character เสียง signature ของเขาเอาไว้ ถ้าจะฟังให้ชัดว่า modern american sound นั้นเป็นยังไงก็ต้องฟังสามยี่ห้อนี้ครับ

Taylor 915CE ( ทรง D ยังไม่ใด้อัด ฟังทรง J ก่อนครับ)

Taylor 915CE Custom


Guild D-55

Guild D 55 New Haven


Breedlove SD-20X

2000 Breedlove Custom SD-20X


ที่ผมยกตัวอยางมานั้นเป็นกีตาร์ทรงใหญ่ทุกตัวนะครับ ผมคิดว่ากีตาร์ modern design นั้นสามารถเอามาเล่น fingerstyle ใด้เพราะหมดทุกทรง จะแตกต่างกันก็ตรงความถนัดมือเท่านั้นเองครับ





AMNAJ2513

  • member
  • ***
  • กระทู้: 685
    โชคดีจริงๆครับครับ ที่น้ากฤษณ์เข้ามาให้ความรู้ในบอร์ดนี้ ผมติดตามบทความของน้ามาตลอดครับ หลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ผมอยากรู้ก็ได้จากบทความของน้ากฤษณ์นี่แหละครับ  น้ากฤษณ์คือสุดยอดจริงๆครับ มีทั้งทฤษฎี และปฏิบัติ ให้เรียนรู้ควบคู่กันไป เป็นประโยชน์มากครับ สำหรับคนรุ่นใหม่ๆ ที่มีใจรักอคูสติก กีต้าร์
     
    ด้วยความนับถือครับ
   
   

ถ่อมใจ

  • member
  • ***
  • กระทู้: 175
ขอบคุณน้าทั้สองท่านครับ เจ้าของกระทู้ ที่มีคำถามที่หลายท่านสงสัย และน้ากถษณ์ที่ให้ความรู้ ความเข้าใจในหลายๆเรื่อง
เราจะรับสิ่งดีจากพระหัตถ์ของพระเจ้า และจะไม่รับของไม่ดีบ้างหรือ /โยบ2:10

กฤษณ์

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณที่ติดตามครับและผมเองก็ต้องขอบคุณศิลปินอย่างคุณผึ้งอาร์มแชร์และคุณหนึ่ง หัทยาด้วยที่มาเล่นทดสอบเสียงกีตาร์ให้เพราะต้องการให้คนอื่นที่สนใจใด้ฟังเสียงโดยไม่ใด้หวังผลตอบแทน


Rut_pro

  • member
  • ***
  • กระทู้: 383
ความรู้ล้วนๆ ขอบคุณมากครับ น้ากฤษณ์ สุดยอดจริงๆ

time

  • บุคคลทั่วไป
-กระทู้นี้ช่วยเพิ่มเติมความรู้ให้กับเยาวชน คนที่สนใจกีต้าร์ ให้รอบรู้เรื่องราวของกีต้าร์มากขึ้นและทำให้รู้สึกรักกีต้าร์มากขึ้น
ขอบคุณน้ากฤษณ์มากครับ....

pomguitar

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,303
คำถาม....
เสียง กีต้าร์วินเทจ
เสียง กีต้าร(แนว)ปัจจุบัน
ต่างกันยังไงบ้าง?

คำตอบ...
ใช้หลักการแบบนี้
- เสียง กีต้าร์วินเทจ ---------- ให้ยึดเสียงกีต้าร์ Martin เป็นหลัก ให้ดีเอา Martin Vintage series เป็นตัวตั้ง
- เสียง กีต้าร(แนว)ปัจจุบัน --------- ให้ยึดเสียงกีต้าร์ ยีห้ออะไรก็ได้ ที่โครงสร้าง แตกต่างจาก Martin ข้างต้น
ถ้าให้เห็นภาพ ผมอยากให้ยึด Taylor Guitar เป็นตัวตั้ง


ผมเชื่อว่า ถ้าคุณได้ลองเล่นกีต้าร ทั้งสองแบบที่ผมยกตัวอย่าง คุณจะเข้าใจขึ้น

เพียงเท่านี้ ก็พอจะแยกแยะออก แล้วว่า มันต่างกันอย่างไง

กฤษณ์

  • บุคคลทั่วไป
+1 ครับคุณ Pomguitar

ในอเมริกานั้น Martin เขาครองตลาด high end สำหรับกีตาร์โปร่งมาตลอดในยุคก่อนสงคราม (Gibson ยุคนั้นครองตลาด archtop ครับ) เคยมีฝรั่งบอกผมว่าถ้าอยากรู้ว่ากีตารุ่นไหนเขาทำ voicing ให้เป็น vintage ก็ให้ดูที่หัวมัน ถ้าอยู่ในกลุ่ม vintage sound นี่ headstock จะเป็นสี่เหลี่ยมเหมือน Martin ถ้ารุ่นไหน headstock สวยก็แสดงว่าเป็น modern sound ครับ ผมเองใด้ยินแล้วก็ไม่ใด้สนใจจนกระทั้งคุณ nantfa มาตั้งกระทู้ถามและคุณ Pomguitar มาตอบนี่แหละ

ผมเลยลองเอารูป headstock ของสี่ยี่ห้อดังมาเปรียบเทียบดู มันก็จริงของเขาแต่ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ทุกยี่ห้อหรือเปล่านะครับ



ลองฟังเสียงกีตาร์ตัวเล็กกันครับ ตัวแทนเสียง vintage คือ Santa Cruz OM ราคาลดแล้ว 136,159 บาท

Santa Cruz OM Acoustic Guitar Demo at Sound Pure Studios (Embedding disabled, limit reached)

เทียบกับตัวแทน modern sound คือรุ่น Firefly ราคาลดแล้ว 129,271 บาท

Santa Cruz Firefly Guitar Demo at Sound Pure (Embedding disabled, limit reached)