ถ้าจะเปรียบเทียบกันก็ต้องให้คำจำกัดความของ "Vintage" ก่อนครับ
Vintage Design หมายความถึงการกลับไปใช้โครงสร้างของกีตาร์สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งแน่นอนว่าพวกกีตาร์ยี่ห้อใหม่ๆหมดสิทธิ์เหลืออยู่แค่ Martin และ Gibson เท่านั้น Martin เองก็ไม่ใด้คิดว่าจะมีตลาดรองรับกีตาร์ย้อนยุคจนเจ้าอื่นอย่าง Santa Cruz, Bourgeois, Collings ๆลๆ เขาก้อปโครงสร้างของ pre-war Martin ทำออกมาขายจนรวยไปตามๆกัน Martin ถึงใด้เริ่มทำ Vintage Series ออกมาขายเมื่อปี 1997 นี่เองครับ ส่วน Gibson นั้นเขาเรียก vintage series ว่า Reissue ครับ
เรื่องเสียงนั้นเมื่อแปดสิบปีก่อนกีตาร์โปร่งสายเหล็กนั้นเขาใช้สำหรับตีคอร์ดร้องเพลงเป็นส่วนใหญ่ไม่มีใครเอามาเล่น fingerstyle เหมือนสมัยนี้ ดังนั้นเขาจึงออกแบบให้ย่านเสียงทุ้มนุ่มลึกเพื่ออุ้มเสียงร้อง เสียงแหลมมีประกายสดใสแต่ไม่พุ่งมาก เสียงกลางไม่เด่นเพราะถ้าเด่นมากมันจะมาแข่งกับเสียงร้อง Overtone และ harmonic มีพองามเพื่อความต่อเนื่องแต่ไม่มากจนโน้ตเบลอถ้าเล่นเพลงเร็วครับ
ส่วนกีตาร์สมัยใหม่นั้นเขาจะเน้น balance และ dynamic เบสต้องไม่บูมเวลาอัดเสียง หัวโน้ตต้องชัด หางโน้ตต้องนิ่ง เสียงกลางจะเด่นกว่ากีตาร์ vintage เล่บบรรเลงก็ดี ตีคอร์ดก็เพราะ ทั้งหมดนี่คือเป้าหมายนะครับ จะทำใด้หรือไม่ใด้ก็เป็นอีกเรื่องที่คนซื้อต้องตัดสินเอง
พูดไปก็สองไพเบี้ย ลองมาฟังเสียงกันดีกว่า คู่แรกนี่เสปคไม้เหมือนกัน 100%(Adirondack spruce, mahogany) แต่โครงสร้างต่างกันมากมาย ตัวแรกคือ Martin D-18 Golden Era ทีลอกแบบมาจาก 1934 D-18 ครับ
ส่วนตัว modern design ก็คือ Martin CEO-4 (Adirondack pruce/mahogany) ที่เป็นการออกแบบใหม่ทั้งตัวในปี 2003 ครับ
ลองมาดูค่าย Gibson กันบ้าง Vintage design ของเขาเสียงก็เป็นเอกลักษณ์มากครับทั้งๆที่เสปคไม้เป็น adirondack spruce/mahogany เหมือน Martin สองตัวข้างบน
Gibson Custom Shop 1934 Original Jumbo
ส่วน modern design ของโปร่ง Gibson น่าจะเริ่มจาก Custom Line Series (1997-1998) ที่เป็นต้นแบบของ Songwriter series ครับ
ลองฟังเสียง modern design CL-20+ (sitka spruce/mahogany) ดูครับ
นี่เราคุยกันเฉพาะเรื่องเสียงนะครับ ความแตกต่างเรื่องอื่นยังมีอีกเยอะครับ