กีตาร์ semi-hollow ตัวแรกของโลกคือ "The Log" ที่ Les Paul เป็นคนสร้างเองกับมือในปี 1940 เพราะเขาต้องการกำจัดปัญหาเรื่อง feedback และเพิ่ม sustain ให้กับกีตาร์ไฟฟ้าในยุคนั้นที่มีแต่กีตาร์ hollow body (กีตาร์ solid body รุ่นแรกของโลกคือ Fender Broadcaster ออกวางตลาดปี 1950) เขาเอาไม้ mahogany มาเป็นแกนกลางเพื่อวางปิคอัพและยึดกับคอแล้วเลื่อยกีตาร์ Epiphone hollow body มาทำเป็นปีก
Les Paul เอาไอเดียนี้ไปเสนอให้ Gibson แต่ไม่ใด้รับความสนใจจนกระทั่ง Fender ผลิตกีตาร์ solid body มาตีตลาด Gibson ก็เลยติดต่อให้เขาไปออกแบบกีตาร์มาสู้กับเฟนเดอร์ด้วยรุ่น Gibson Les Paul ในปี 1952
กีตาร์ semi-hollow รุ่นแรกที่ทำออกมาขายนั้นคือ Gibson ES-135 ที่ลอกหน้าตามาจากรุ่น ES-125TDC แต่มีใส้กลางเพื่อลด feedback (รุ่นแรกทำด้วยไม้ balsa เพื่อลดน้ำหนักแต่ไม่ใด้เพิ่ม sustain) รุ่นแรกนี้ผลิตปี 1956-1958 และถูกแทนที่ด้วยรุ่น ES-335 ที่ตัวบางกว่า (1.75" vs 2.25")
ES-135 ถูกนำมาผลิตอีกครั้งในปี 1991 และถูกแทนที่ด้วย ES-137 ในปี 2002 รุ่นหลังนี้ใช้ไม้ mahogany เป็นแกนกลางและมีการลดน้ำหนักแกนด้านท้ายด้วยการตัดไม้ออกเหลือแค่เสากลาง การใช้ mahogany ที่เป็น tonewood ทำให้มี sustain เพิ่มขึ้นครับ
กีตาร์ semi-hollow รุ่นที่สอง (ที่หลายคนคิดว่าเป็นรุ่นแรก) ของ Gibson ก็คือรุ่น ES-335 ที่ออกในปี 1958 รุ่นนี้ใช้ maple เป็นไม้แกนครับ โครงสร้างแบบนี้ก็ใช้กับ Epiphone และพวกกีตาร์ญี่ปุ่นที่ก้อป ES-335 อย่างเช่น Yamaha SA, Ibanez AS Series เป็นต้น กีตาร์ทรงนี้เสียงจะเป็นกีตาร์ไฟฟ้ามากกว่ากีตาร์โปร่งเพราะตัวบางมากครับ
โครงสร้าง semi-hollow ที่แกนกลาง (mahogany) วิ่งไปไม่ถึงก้นกีตาร์นั้นให้เสียงเป็น acoustic มากขึ้นย่านเบสหนาขึ้นและก็ยังกัน feedback ใด้ดีอยู่ กีตาร์รุ่นแรกที่ใช้โครงสร้างนี้คือ Ibanez GB10 ในปี 1977 ต่อมาก็มี D'Angelico NYSS-3 และ Gretsch Center Block Series
ข้อมูลทั้งหมดผมไม่ใด้ก้อปมาจากไหน ถ้ามีข้อผิดพลาดก็ขออภัยด้วยครับ ผมยังไม่ขอพูดถึงพวกกีตาร์ chambered body ซึ่งก็เป็น semi-hollow เหมือนกันเพราะตอนนี้ขี้เกียจเขียนครับ