อะคูสติกไทยเวปบอร์ด
Acoustic Webboard => ห้องพูดคุย Acoustic Guitars and Accessories และทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: azteach ที่ สิงหาคม 21, 2011, 23:11:41
-
เนื่องจากพึ่งซื้อกีตาร์ veelah limited Thailand 2011 (V1-ome)
เริ่มแรกคือผม ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกีตาร์ ยี่ห้อนี้เลย
เห็นคนพูดเยอะ(ในบอร์ดนี้และเพื่อนบ้าน) ว่ากีตาร์ยี่ห้อนี้เสียงคุ้มค่า
เมื่อต้นปีเลยดูๆ v1-p ไว้ แต่รอแล้วรอเล่าโทรหาที่ไหนก็ไม่มี
เลยตัดใจเพราะอยากได้หัว slot head เลยตัดสินใจซื้อ v1-ome
แต่ก็ซื้อโดยที่ไม่เคยลองและรู้เลยว่าเสียงมันเป็นยังไง
(เคยลอง v3 ที่ intermusic ก็เฉยๆ action ค่อนข้างสูงมาก)
พอผมได้กีตาร์ตัวนี้ พอได้เห็น
ผมชอบรูปร่างทุกๆอย่างของมันนะครับ
แต่พอดีดหรือจับคอร์ดเท่านั้นแหลลล.. แทบจะอยากเก็บใส่กล่อง(หรือเอาไว้โชว์ดี)
สายแข็ง และฝืดมาก (ปกติใช้สาย Elixir)
action สูงจนเล่นยากและปวดมือดูฝืนธรรมชาติยังไงก็ไม่รู้
ผมซื้อมา 7500นิดๆ รู้สึกว่ามันเกินราคาไปรึเปล่า
กีตาร์ yamaha F370 ยังเสียงน่าฟังกว่าด้วยซ้ำ
เนื่องจากเล่นเอง ช้ำเอง เลยให้เพื่อนลองเล่นและฟังดูบ้าง
บางคนที่เล่นไม่เป็น ก็บอกว่า เสียงไม่เพราะเลย O.O
ผมแค่อยากระบายนะครับ
เพื่อนคนไหนที่อยู่ 1 ใน 100 รูู้สึกยังไงกันบ้างครับ(แบบผมหรือเปล่า)
เพื่อนๆคนไหน โมและปรับทัชชิ่งยังไงบ้าง ช่วยบอกกันด้วยนะครับ
ปล.กระทู้นี้ไม่ได้ต้องการจะกระทบใครนะครับ ผมพูดและติ โดยความรู้สึกของผมเอง
-
ลองเปลี่ยนเบอสาย และปรับแอคชั่นดู ผมว่าเสียงใช้ได้เลยหนะครับ
-
ตั้งแอคชั่นเปลี่ยนสาย ไม่แน่ซาตานอาจจะกลายเป็นนางฟ้าก็ได้ครับ
กรณนีแบบนี้ผมเคยเห็นมา 2-3 ครั้ง พอตั้งแอคชั่นเล่นเข้ามือก็ยิ้มออกในทันที
อาจด้วยกีตาร์ตัวเดิมของน้าเสียงดีเป็นทุนเดิมทำให้เกิดการเปรียบเทียบที่ชัดเจน
ยังไงลองให้เวลากับน้องเขาซักหน่อย เบิร์นซักหน่อยเล่นไปซักพักอะไรๆ อาจจะดีขึ้น
...ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้ยี่ห้อนี้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลยนะครับ สุดท้ายแล้วถ้าไม่ดีจริง กาลเวลาก็จะพิสูจน์ความจริงเอง
-
น้าใจเย็นๆนะครับ ครั้งแรกที่ผมจับรุ่นนี้ก็แทบเควี้ยงทิ้งเหมือนกันครับ เพราเสียงมันแหมมากๆแถมยังไม่บาลาสส์อีกต่างหาก แต่พอผมจับมันมาเซ็ตอัพใหม่ ฝนทั้งนัทและซัทเดิ๊นลงไป เสียงที่ได้เป็นคนละตัวเลยครับ เปลี่ยนไปจากเดินมากๆครับ น้าลองใจเย็นๆแล้วเอาไปเซ็ทอัพก่อนนะครับ อาการที่น้าเจอมันเกิดจากการที่แอ็กชั่นมันสูงไปครับ เลยทำไห้เสียงพุ่งเกินจนฟังแล้วโน๊ตมันไม่ชัดครับ ยังงัยถ้าลองปรับแต่งดูแล้วคาดว่าน่าจะดีขึ้นแน่นอนครับ :D :D
-
ของผมคนละรุ่นครับ ของผมเป็น V1 Gace ได้มาตอนแรก ก็รู้สึกแบบเดียวกันเลยครับ บอกตามตรงว่าผิดหวังอย่างแรง แต่พอเปลี่ยนสาย ตั้งทัชชิ่ง เปลี่ยนนัท เปลี่ยนซัดเดิ้ล (เปลี่ยนเยอะเหมือนกันนะนั่น -_-")
ปรากฎว่า ใครขอซื้อเกินราคาก็ไม่ขายครับ สวรรค์รำไรเลย ^^ ในราคาเท่านี้ สุดคุ้มครับ ^_^
ปล.ผมไม่เคยลอง Veelah รุ่นอื่นเลย เพราะฉะนั้น เป็นเพียงความรู้สึกต่อกีต้าร์ของผมเท่านั้นนะครับ ตัวอื่นผมไม่ทราบได้ครับ ^_^
-
พอผมได้กีตาร์ตัวนี้ พอได้เห็น
ผมชอบรูปร่างทุกๆอย่างของมันนะครับ
แต่พอดีดหรือจับคอร์ดเท่านั้นแหลลล.. แทบจะอยากเก็บใส่กล่อง(หรือเอาไว้โชว์ดี)
สายแข็ง และฝืดมาก (ปกติใช้สาย Elixir)
action สูงจนเล่นยากและปวดมือดูฝืนธรรมชาติยังไงก็ไม่รู้
เคยมีอารมณ์นี้เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ใช่ยี่ห้อนี้นะคะ จับแล้วสายแข็งอย่างแรง
พอเอาไปปรับActionแล้วแหล่มขึ้นเยอะเลยค่ะ
-
ของผมแรกๆ เจ็บมือมากครับ อาจเพราะนานๆที่เล่นกีต้าร์ เปลี่ยนแค่สายอย่างเดียว
ตอนนี้รู้สึกเฉยๆ เล่นสนุกดี แต่ก็รู้สึกว่า Action มันสูงอยู่นิดหน่อย จับคอร์ดในยากนิดๆ
แ่ต่เสียงก็เยี่ยม การสั่นสะเทือนของไม้ดีมากๆ
ว่างๆ กะจะไปให้ช่างปรับ Action เปลี่ยน Nut pin น่าจะดีกว่านี้มากๆ ของผม V57om ครับ
-
ได้กรีดนิ้วครับแรกรับมันไม่ได้เลย ราคาตั้ง 6400 บาท รู้สึกแปล๊บๆๆนิดๆๆๆเสียดายตังค์
สงสัยยังไม่ได้ตั้งสาย ลองตั้งสายดู แล้วกรีดครั้งที่ 2 หูก็ไม่เพี้ยน รู้สึกว่าเกินราคาหรือมีแค่ 120 ตัวในโลก 555555
สงสัย Action สูง สายยังไม่ได้นวด ยังไม่เข้าที่เข้าทางไม้ยังใหม่ ถือขึ้นรถ คิดว่าทำงัยได้
จ่ายตังค์เขาไปแล้ว กีต้าร์ไม่ได้ลองก่อนซื้อก็งี้แหละ
กลับถึงบ้านเอาวะ ลองปรับแอ๊ดชั่นดู ฝนทั้งนัททั้งแซลเดิ้นลง พร้อมนโม 3 จบ ประกอบเข้าไปใหม่
ตอนประกอบท่องชินบัญชรกำกับ ลองตั้งสาย แล้วนวดสายอยู่สักพัก กรีดนิ้วครั้งที่ 3 หูฝาดไปป่าว
ลองสตั๊มดู เสียงใส คม ชัด ลึก แหล๋มไปเลย 55555555 ปรากฎว่าตอนนี้ น้องTaka ED26SC
ไปนอนงอนอยู่ท้ายห้องไม่พูดไม่จาไม่กรุ๋งกริ๋งเลย 55555555555 นี่ขนาดยังไม่ได้รับ นัทกะแซลเดิ้น
กระดูกมาเปลี่ยนนะเนี้ย ( เมื่อไหร่ของจะมา จะลองมาใส่ดูว่าเสียงจะขนาดไหน 555555 )
และสามารถยืนยันได้ 100 % ว่าไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้นำเข้ามาครับมีแต่ส่วนเสียว
บริสุทธิ์ใจเต็ม100ครับ
-
ถ้าจะให้ผมพูดนะ ยาว 555+
1. กีตาร์ ทุกตัว ซื้อมาแล้ว ควรจะ ตั้ง action ก่อนครับ
อย่างน้อย ก็ต้องขันคอ หรือ ขัดแซดเดิลลงบ้างครับ "อย่าตัดสินกีตาร์ที่ action" เพราะ มันสามารถปรับใหม่ได้ ทั้งปรังเอง หรือ ส่งช่าง แค่ 300-500 บาท เท่านั้น
จากที่สังเกตุมา F310 จะปรับ action มา ค่อนข้างดี ประมาณว่า ซื้อมาแล้วเล่นได้เลย ไม่ต้องปรับเพิ่ม ถ้าเราเลือกกีตาร์ที่ action คนส่วนใหญ่ คงจะใช้แต่ F310 (เปรียบเทียบ)
เราซื้อกีตาร์ที่เสียงครับ ไม่ได้ซื้อที่ action
2. เราจะชินกับ ทรง และ ขนาด ของคอกีตาร์ ที่เราเล่นบ่อยที่สุด ณ ปัจจุบัน
บางคน(หลายๆคน) ชอบบอกว่า ควรจะเลือกกีตาร์ ตัวที่เราจับแล้วเราถนัด ซึ่งผมเห็นว่า มันไม่ถูกต้อง อยากที่บอกครับ เราจะชินกับตัวที่เราเล่นบ่อยที่สุดครับ
ก่อนหน้านี้ ผมใช้กีตาร์ ที่มีลักษณะคอ ที่ กว้าง แต่ บาง ผมรู้สึกว่า ถนัดมาก และตอนที่ผมซื้อกีตาร์ตัวใหม่ คอ มีลักษณะ หนา แต่ แคบ (กว่าตัวเดิม) ทำให้ผมเล่นกีตาร์ตัวใหม่ แล้วรู้สึกไม่ถนัด
แต่ตอนนี้ ผมกลับ ถนัดกีตาร์ตัวใหม่ มากกว่ากีตาร์ตัวเก่า ดังนั้น "อย่าตัดสินกีตาร์ที่ ทรง และ ลักษณะ ของคอ" เพราะเราจะชินกับมันไปเอง ถ้าเราเล่นมันทุกวัน
มิเช่นนั้น คน 1 คน ก็จะใช้กีตาร์ ได้แค่ ตัว เดียว หรือ ยี่ห้อเดียว หรือ ที่ทำทรงคอออกมา เหมือนกัน หรือ เหมือนตัวเก่าที่เราใช้อยู่ ครับ
3. กีตาร์แต่ละตัว จะเลือกสาย ที่เหมาะกับตัวมันเอง ตามความชอบของเจ้าของกีตาร์ครับ
สายแต่ละยี่ห้อ ให้เสียงไม่เหมือนกัน(ในวัสดุเดียวกัน และ เบอร์เดียวกัน) และ กีตาร์แต่ละรุ่น หรือ แต่ละยี่ห้อ จะทำออกมาให้ย่านเสียงที่แตกต่างกัน
บางตัวอาจได้แหลมเยอะ บางตัว อาจได้ทุ้มเยอะ และบางตัว อาจจะให้เสียงที่ บาลานซ์ ดี ดังนั้น คนแต่ละคน ชอบกีตาร์ที่มี บาลานซ์เสียง แตกต่างกัน
ดังนั้น เราควรจะเลือกสาย ให้เหมาะกับความชอบของเรา และ "อย่าตัดสินกีตาร์ กับสายที่แถมมา" เพราะ แค่เปลี่ยนสาย คาแลคเตอร์ของเสียงกีตาร์ตัวนั้น จะเปลี่ยนไปทันที
ที่กล่าวมา ยังไม่ได้แยกแยะ ระหว่าง PH/BZ กับ 80/20 และ ขนาดของสายที่ต่างกัน เลยครับ ยังมีลักษณะของเสียงที่แตกต่างกันไปอีกครับ
อย่างน้อย เราควรจะรู้ ว่ากีตาร์ตัวที่เราซื้อมา หรือ กำลังจะซื้อ มันใส่สาย ยี่ห้ออะไร เบอร์อะไร วัสดุแบบไหน
เพื่อเราจะได้รู้ว่า เราจะเปลี่ยนสายแบบไหนให้เสียงกีตาร์เป็นไปในแบบที่เราชอบ หรือ เหมาะกับเรา
4. วัสดุรับเสียง ให้เสียงที่แตกต่างกัน (นัท แซดเดิล บริจพิน)
เราจะสังเกตุว่า กีตาร์แต่ละตัว ให้เสียง ทุ้ม กลาง แหลม ซัสเทน แตกต่างกัน นั้นขึ้นอยู่กับ วัสดุ ของ นัท แซดเดิล บริจพิน ที่ใส่มาให้ด้วยครับ
กีตาร์บางตัวเป็น พลาสติก บางตัวเป็น กระดูก บางตัวเป็น TUSQ เราควรจะรู้ไว้ว่า กีตาร์ตัวนั้นๆ ใส่วัสดุชนิดไหนมาให้ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับแต่งเสียง
และยังมีวัสดุอีกหลายชนิด เช่น งาช้าง เขี่ยวสิงโตทะเล ทองเหลือง(บริจพิน) เขาควาย(บริจพิน) และไม้เนื้อแข็งต่างๆ(บริจพิน)
5. อย่าตัดสิน กีตาร์ตัวหนึ่ง ด้วยกีตาร์อีกตัว หรือ อย่าตัดสิน กีตาร์ตัวเอง ด้วยกีตาร์คนอื่น
เพราะ เราอาจไม่รู้ว่า กีตาร์อีกตัวนั้น โมฯ อะไรไปบ้าง หรือ ใส่สายยี่ห้อไหน วัสดุอะไร และ นัท แซดเดิล บริจพิน เป็นวัสดุอะไร
เพราะจะทำให้เสียงไม่เหมือนกัน(แม้จะเป็นกีตาร์รุ่นเดียวกันก็ตาม) อาจทำให้เกิดการคิดมาก ว่ากีตาร์ตัวที่เราใช้อยู่ เสียงไม่ดี ขึ้นมาได้(เจอมากะตัว)
ทำให้เป็นเหตุให้เกิดการเสียงเงิน เพื่อซื้อกีตาร์ตัวใหม่ได้ครับ 555+
เช่น ผมเคยได้ยินกีตาร์ตัวนึง ซึ่งใส่สาย Elixir (แต่ตอนนั้นไม่รู้ และมารู้ทีหลัง) รู้สึกว่า เสียงมันสว่างใสกรุ้งกริ๊ง ดีจัง เมื่อเทียบกับกีตาร์ตัวเอง(ราคาพอๆกัน) เสียงกีตาร์ตัวเองกลับทึบไปเลย
ซึ่งในขณะนั้น กีตาร์ตัวเองใส่สาย DR ซึ่ง เสียงมันสุดขั้วกับ Elixir อยู่แล้ว (DR จะให้เสียงที่ ทุ้มนุ่มลึก) ทำให้ในใจก็ งิดๆ อยากได้กีตาร์ใหม่ ที่เสียงใสกรุ้งกริ๊ง
และต่อมาได้มีโอกาส ลองสาย Elixir จึงได้ "อ๋อ..." ขึ้นมาทันที เพราะ มันใสกริ๊งกริ๊ง เหลือเกินครับ "แค่สายคนละยี่ห้อ เกือบต้องถอยกีตาร์ใหม่ไปแล้วมั้ยเรา..."
ทั้งหมดนี้ อาจจะมีนอกเรื่อง หรือ ไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ไปบ้าง แต่คิดว่า อาจจะเป็นประโยชน์กับน้าๆมือใหม่หลายๆคนครับ
และทั้งหมดนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ โปรดใช้ วิจารณญาณ ในการรับชม ครับ
-
ถ้าจะให้ผมพูดนะ ยาว 555+
1. กีตาร์ ทุกตัว ซื้อมาแล้ว ควรจะ ตั้ง action ก่อนครับ
อย่างน้อย ก็ต้องขันคอ หรือ ขัดแซดเดิลลงบ้างครับ "อย่าตัดสินกีตาร์ที่ action" เพราะ มันสามารถปรับใหม่ได้ ทั้งปรังเอง หรือ ส่งช่าง แค่ 300-500 บาท เท่านั้น
จากที่สังเกตุมา F310 จะปรับ action มา ค่อนข้างดี ประมาณว่า ซื้อมาแล้วเล่นได้เลย ไม่ต้องปรับเพิ่ม ถ้าเราเลือกกีตาร์ที่ action คนส่วนใหญ่ คงจะใช้แต่ F310 (เปรียบเทียบ)
เราซื้อกีตาร์ที่เสียงครับ ไม่ได้ซื้อที่ action
2. เราจะชินกับ ทรง และ ขนาด ของคอกีตาร์ ที่เราเล่นบ่อยที่สุด ณ ปัจจุบัน
บางคน(หลายๆคน) ชอบบอกว่า ควรจะเลือกกีตาร์ ตัวที่เราจับแล้วเราถนัด ซึ่งผมเห็นว่า มันไม่ถูกต้อง อยากที่บอกครับ เราจะชินกับตัวที่เราเล่นบ่อยที่สุดครับ
ก่อนหน้านี้ ผมใช้กีตาร์ ที่มีลักษณะคอ ที่ กว้าง แต่ บาง ผมรู้สึกว่า ถนัดมาก และตอนที่ผมซื้อกีตาร์ตัวใหม่ คอ มีลักษณะ หนา แต่ แคบ (กว่าตัวเดิม) ทำให้ผมเล่นกีตาร์ตัวใหม่ แล้วรู้สึกไม่ถนัด
แต่ตอนนี้ ผมกลับ ถนัดกีตาร์ตัวใหม่ มากกว่ากีตาร์ตัวเก่า ดังนั้น "อย่าตัดสินกีตาร์ที่ ทรง และ ลักษณะ ของคอ" เพราะเราจะชินกับมันไปเอง ถ้าเราเล่นมันทุกวัน
มิเช่นนั้น คน 1 คน ก็จะใช้กีตาร์ ได้แค่ ตัว เดียว หรือ ยี่ห้อเดียว หรือ ที่ทำทรงคอออกมา เหมือนกัน หรือ เหมือนตัวเก่าที่เราใช้อยู่ ครับ
3. กีตาร์แต่ละตัว จะเลือกสาย ที่เหมาะกับตัวมันเอง ตามความชอบของเจ้าของกีตาร์ครับ
สายแต่ละยี่ห้อ ให้เสียงไม่เหมือนกัน(ในวัสดุเดียวกัน และ เบอร์เดียวกัน) และ กีตาร์แต่ละรุ่น หรือ แต่ละยี่ห้อ จะทำออกมาให้ย่านเสียงที่แตกต่างกัน
บางตัวอาจได้แหลมเยอะ บางตัว อาจได้ทุ้มเยอะ และบางตัว อาจจะให้เสียงที่ บาลานซ์ ดี ดังนั้น คนแต่ละคน ชอบกีตาร์ที่มี บาลานซ์เสียง แตกต่างกัน
ดังนั้น เราควรจะเลือกสาย ให้เหมาะกับความชอบของเรา และ "อย่าตัดสินกีตาร์ กับสายที่แถมมา" เพราะ แค่เปลี่ยนสาย คาแลคเตอร์ของเสียงกีตาร์ตัวนั้น จะเปลี่ยนไปทันที
ที่กล่าวมา ยังไม่ได้แยกแยะ ระหว่าง PH/BZ กับ 80/20 และ ขนาดของสายที่ต่างกัน เลยครับ ยังมีลักษณะของเสียงที่แตกต่างกันไปอีกครับ
อย่างน้อย เราควรจะรู้ ว่ากีตาร์ตัวที่เราซื้อมา หรือ กำลังจะซื้อ มันใส่สาย ยี่ห้ออะไร เบอร์อะไร วัสดุแบบไหน
เพื่อเราจะได้รู้ว่า เราจะเปลี่ยนสายแบบไหนให้เสียงกีตาร์เป็นไปในแบบที่เราชอบ หรือ เหมาะกับเรา
4. วัสดุรับเสียง ให้เสียงที่แตกต่างกัน (นัท แซดเดิล บริจพิน)
เราจะสังเกตุว่า กีตาร์แต่ละตัว ให้เสียง ทุ้ม กลาง แหลม ซัสเทน แตกต่างกัน นั้นขึ้นอยู่กับ วัสดุ ของ นัท แซดเดิล บริจพิน ที่ใส่มาให้ด้วยครับ
กีตาร์บางตัวเป็น พลาสติก บางตัวเป็น กระดูก บางตัวเป็น TUSQ เราควรจะรู้ไว้ว่า กีตาร์ตัวนั้นๆ ใส่วัสดุชนิดไหนมาให้ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับแต่งเสียง
และยังมีวัสดุอีกหลายชนิด เช่น งาช้าง เขี่ยวสิงโตทะเล ทองเหลือง(บริจพิน) เขาควาย(บริจพิน) และไม้เนื้อแข็งต่างๆ(บริจพิน)
5. อย่าตัดสิน กีตาร์ตัวหนึ่ง ด้วยกีตาร์อีกตัว หรือ อย่าตัดสิน กีตาร์ตัวเอง ด้วยกีตาร์คนอื่น
เพราะ เราอาจไม่รู้ว่า กีตาร์อีกตัวนั้น โมฯ อะไรไปบ้าง หรือ ใส่สายยี่ห้อไหน วัสดุอะไร และ นัท แซดเดิล บริจพิน เป็นวัสดุอะไร
เพราะจะทำให้เสียงไม่เหมือนกัน(แม้จะเป็นกีตาร์รุ่นเดียวกันก็ตาม) อาจทำให้เกิดการคิดมาก ว่ากีตาร์ตัวที่เราใช้อยู่ เสียงไม่ดี ขึ้นมาได้(เจอมากะตัว)
ทำให้เป็นเหตุให้เกิดการเสียงเงิน เพื่อซื้อกีตาร์ตัวใหม่ได้ครับ 555+
เช่น ผมเคยได้ยินกีตาร์ตัวนึง ซึ่งใส่สาย Elixir (แต่ตอนนั้นไม่รู้ และมารู้ทีหลัง) รู้สึกว่า เสียงมันสว่างใสกรุ้งกริ๊ง ดีจัง เมื่อเทียบกับกีตาร์ตัวเอง(ราคาพอๆกัน) เสียงกีตาร์ตัวเองกลับทึบไปเลย
ซึ่งในขณะนั้น กีตาร์ตัวเองใส่สาย DR ซึ่ง เสียงมันสุดขั้วกับ Elixir อยู่แล้ว (DR จะให้เสียงที่ ทุ้มนุ่มลึก) ทำให้ในใจก็ งิดๆ อยากได้กีตาร์ใหม่ ที่เสียงใสกรุ้งกริ๊ง
และต่อมาได้มีโอกาส ลองสาย Elixir จึงได้ "อ๋อ..." ขึ้นมาทันที เพราะ มันใสกริ๊งกริ๊ง เหลือเกินครับ "แค่สายคนละยี่ห้อ เกือบต้องถอยกีตาร์ใหม่ไปแล้วมั้ยเรา..."
ทั้งหมดนี้ อาจจะมีนอกเรื่อง หรือ ไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ไปบ้าง แต่คิดว่า อาจจะเป็นประโยชน์กับน้าๆมือใหม่หลายๆคนครับ
และทั้งหมดนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ โปรดใช้ วิจารณญาณ ในการรับชม ครับ
คม ชัด ลึก จริงครับ น้าโก้....อิอิอิอิ ;D
-
แฮ่ๆ...รับซื้อต่อครับน้า......
-
เอา OM มาตีคอร์ด เสียงมันก็เป็นอย่างนั้นแหละ เสียงมันก็สู้ ทรงเรดมน๊อท( F370) ไม่ได้อยู่แล้วครับ(อย่าเอาไปเทียบกันเพราะกีตาร์มันคนละทรงกันครับ) และอีกอย่าง กีตาร์ ที่หน้าไม้เป็นไม้แท้ มันก็ต้องใช้เวลาเล่นซักระยะนึงนะครับเสียงมันถึงจะเข้าที่ มันจะไม่เหมือน กับ กีตาร์ที่เป็นไม้อัดทั้งตัว เสียงมายังงัยก็ไปอย่างนั้น ครับ และก้อีกหลายๆ อย่างตามที่น้าโก้ และน้าท่านอื่นได้บอกเอาไว้ครับ
ปล. ไม่ชอบก็ขายเลยครับ อย่าเก็บไว้ มีคนรอเสียบอยู่อีกเยอะ..............อิอิ
-
เอา OM มาตีคอร์ด เสียงมันก็เป็นอย่างนั้นแหละ เสียงมันก็สู้ ทรงเรดมน๊อท( F370) ไม่ได้อยู่แล้วครับ(อย่าเอาไปเทียบกันเพราะกีตาร์มันคนละทรงกันครับ) และอีกอย่าง กีตาร์ ที่หน้าไม้เป็นไม้แท้ มันก็ต้องใช้เวลาเล่นซักระยะนึงนะครับเสียงมันถึงจะเข้าที่ มันจะไม่เหมือน กับ กีตาร์ที่เป็นไม้อัดทั้งตัว เสียงมายังงัยก็ไปอย่างนั้น ครับ และก้อีกหลายๆ อย่างตามที่น้าโก้ และน้าท่านอื่นได้บอกเอาไว้ครับ
ปล. ไม่ชอบก็ขายเลยครับ อย่าเก็บไว้ มีคนรอเสียบอยู่อีกเยอะ..............อิอิ
แฮ่ๆ...รับซื้อต่อครับน้า......
ปล่อยมาโลด น้าข้างบน จ้องจะเสียบอยู่
ตัวของผม. แกะออกมาจากกล่องเล่นได้เลยไม่ต้องตั้ง Action ผมคิดว่าเป็นตัวๆ ไปนะ
-
ผมอยากได้ หง่ะ
-
อ่านตั้งนาน.....ขายให้หนูนะก๊ะ (อุ้ย. มีคนดักอยู่คิวหนึ่งแล้ว ถอย..)
(http://image.free.in.th/z/il/dsc05847.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=c173de1e13b0904ba9ebeb7cbfac20bc)(http://)
-
ถ้าจะให้ผมพูดนะ ยาว 555+
1. กีตาร์ ทุกตัว ซื้อมาแล้ว ควรจะ ตั้ง action ก่อนครับ
อย่างน้อย ก็ต้องขันคอ หรือ ขัดแซดเดิลลงบ้างครับ "อย่าตัดสินกีตาร์ที่ action" เพราะ มันสามารถปรับใหม่ได้ ทั้งปรังเอง หรือ ส่งช่าง แค่ 300-500 บาท เท่านั้น
จากที่สังเกตุมา F310 จะปรับ action มา ค่อนข้างดี ประมาณว่า ซื้อมาแล้วเล่นได้เลย ไม่ต้องปรับเพิ่ม ถ้าเราเลือกกีตาร์ที่ action คนส่วนใหญ่ คงจะใช้แต่ F310 (เปรียบเทียบ)
เราซื้อกีตาร์ที่เสียงครับ ไม่ได้ซื้อที่ action
2. เราจะชินกับ ทรง และ ขนาด ของคอกีตาร์ ที่เราเล่นบ่อยที่สุด ณ ปัจจุบัน
บางคน(หลายๆคน) ชอบบอกว่า ควรจะเลือกกีตาร์ ตัวที่เราจับแล้วเราถนัด ซึ่งผมเห็นว่า มันไม่ถูกต้อง อยากที่บอกครับ เราจะชินกับตัวที่เราเล่นบ่อยที่สุดครับ
ก่อนหน้านี้ ผมใช้กีตาร์ ที่มีลักษณะคอ ที่ กว้าง แต่ บาง ผมรู้สึกว่า ถนัดมาก และตอนที่ผมซื้อกีตาร์ตัวใหม่ คอ มีลักษณะ หนา แต่ แคบ (กว่าตัวเดิม) ทำให้ผมเล่นกีตาร์ตัวใหม่ แล้วรู้สึกไม่ถนัด
แต่ตอนนี้ ผมกลับ ถนัดกีตาร์ตัวใหม่ มากกว่ากีตาร์ตัวเก่า ดังนั้น "อย่าตัดสินกีตาร์ที่ ทรง และ ลักษณะ ของคอ" เพราะเราจะชินกับมันไปเอง ถ้าเราเล่นมันทุกวัน
มิเช่นนั้น คน 1 คน ก็จะใช้กีตาร์ ได้แค่ ตัว เดียว หรือ ยี่ห้อเดียว หรือ ที่ทำทรงคอออกมา เหมือนกัน หรือ เหมือนตัวเก่าที่เราใช้อยู่ ครับ
3. กีตาร์แต่ละตัว จะเลือกสาย ที่เหมาะกับตัวมันเอง ตามความชอบของเจ้าของกีตาร์ครับ
สายแต่ละยี่ห้อ ให้เสียงไม่เหมือนกัน(ในวัสดุเดียวกัน และ เบอร์เดียวกัน) และ กีตาร์แต่ละรุ่น หรือ แต่ละยี่ห้อ จะทำออกมาให้ย่านเสียงที่แตกต่างกัน
บางตัวอาจได้แหลมเยอะ บางตัว อาจได้ทุ้มเยอะ และบางตัว อาจจะให้เสียงที่ บาลานซ์ ดี ดังนั้น คนแต่ละคน ชอบกีตาร์ที่มี บาลานซ์เสียง แตกต่างกัน
ดังนั้น เราควรจะเลือกสาย ให้เหมาะกับความชอบของเรา และ "อย่าตัดสินกีตาร์ กับสายที่แถมมา" เพราะ แค่เปลี่ยนสาย คาแลคเตอร์ของเสียงกีตาร์ตัวนั้น จะเปลี่ยนไปทันที
ที่กล่าวมา ยังไม่ได้แยกแยะ ระหว่าง PH/BZ กับ 80/20 และ ขนาดของสายที่ต่างกัน เลยครับ ยังมีลักษณะของเสียงที่แตกต่างกันไปอีกครับ
อย่างน้อย เราควรจะรู้ ว่ากีตาร์ตัวที่เราซื้อมา หรือ กำลังจะซื้อ มันใส่สาย ยี่ห้ออะไร เบอร์อะไร วัสดุแบบไหน
เพื่อเราจะได้รู้ว่า เราจะเปลี่ยนสายแบบไหนให้เสียงกีตาร์เป็นไปในแบบที่เราชอบ หรือ เหมาะกับเรา
4. วัสดุรับเสียง ให้เสียงที่แตกต่างกัน (นัท แซดเดิล บริจพิน)
เราจะสังเกตุว่า กีตาร์แต่ละตัว ให้เสียง ทุ้ม กลาง แหลม ซัสเทน แตกต่างกัน นั้นขึ้นอยู่กับ วัสดุ ของ นัท แซดเดิล บริจพิน ที่ใส่มาให้ด้วยครับ
กีตาร์บางตัวเป็น พลาสติก บางตัวเป็น กระดูก บางตัวเป็น TUSQ เราควรจะรู้ไว้ว่า กีตาร์ตัวนั้นๆ ใส่วัสดุชนิดไหนมาให้ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับแต่งเสียง
และยังมีวัสดุอีกหลายชนิด เช่น งาช้าง เขี่ยวสิงโตทะเล ทองเหลือง(บริจพิน) เขาควาย(บริจพิน) และไม้เนื้อแข็งต่างๆ(บริจพิน)
5. อย่าตัดสิน กีตาร์ตัวหนึ่ง ด้วยกีตาร์อีกตัว หรือ อย่าตัดสิน กีตาร์ตัวเอง ด้วยกีตาร์คนอื่น
เพราะ เราอาจไม่รู้ว่า กีตาร์อีกตัวนั้น โมฯ อะไรไปบ้าง หรือ ใส่สายยี่ห้อไหน วัสดุอะไร และ นัท แซดเดิล บริจพิน เป็นวัสดุอะไร
เพราะจะทำให้เสียงไม่เหมือนกัน(แม้จะเป็นกีตาร์รุ่นเดียวกันก็ตาม) อาจทำให้เกิดการคิดมาก ว่ากีตาร์ตัวที่เราใช้อยู่ เสียงไม่ดี ขึ้นมาได้(เจอมากะตัว)
ทำให้เป็นเหตุให้เกิดการเสียงเงิน เพื่อซื้อกีตาร์ตัวใหม่ได้ครับ 555+
เช่น ผมเคยได้ยินกีตาร์ตัวนึง ซึ่งใส่สาย Elixir (แต่ตอนนั้นไม่รู้ และมารู้ทีหลัง) รู้สึกว่า เสียงมันสว่างใสกรุ้งกริ๊ง ดีจัง เมื่อเทียบกับกีตาร์ตัวเอง(ราคาพอๆกัน) เสียงกีตาร์ตัวเองกลับทึบไปเลย
ซึ่งในขณะนั้น กีตาร์ตัวเองใส่สาย DR ซึ่ง เสียงมันสุดขั้วกับ Elixir อยู่แล้ว (DR จะให้เสียงที่ ทุ้มนุ่มลึก) ทำให้ในใจก็ งิดๆ อยากได้กีตาร์ใหม่ ที่เสียงใสกรุ้งกริ๊ง
และต่อมาได้มีโอกาส ลองสาย Elixir จึงได้ "อ๋อ..." ขึ้นมาทันที เพราะ มันใสกริ๊งกริ๊ง เหลือเกินครับ "แค่สายคนละยี่ห้อ เกือบต้องถอยกีตาร์ใหม่ไปแล้วมั้ยเรา..."
ทั้งหมดนี้ อาจจะมีนอกเรื่อง หรือ ไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ไปบ้าง แต่คิดว่า อาจจะเป็นประโยชน์กับน้าๆมือใหม่หลายๆคนครับ
และทั้งหมดนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ โปรดใช้ วิจารณญาณ ในการรับชม ครับ
ถูกต้องที่สุด ^^ แต่บอเสรมตรงหัวข้อความถนัดนิดนะครับ เรื่องคอของกีต้าร์ก็เห็นด้วยกันน้าครับ แต่ถ้าเป็นสรีระ ทางกายภาพ ของร่างกาย เนี่ยก็อีกเรื่องครับ คงจะขึ้นอยู่กับทรงกีต้าร์และรูปร่างผู้เล่น และความชอบประกอบกันด้วยครับ เล่นได้เหมือนกัน แต่ความสุขและสบายต่างกันครับ ^_^
ว่าแต่ จขกท หายไปไหนเนี่ย อิอิ ปล่อยเมื่อไหร่ โทรศัพท์เตรียมเปลี่ยนเครื่องได้เลยครับ ^^ (โทรกันจนเครื่องพังแน่เลย ^_^)
-
ลองปรับแต่ง ใหม่อีกที่นะครับ ของผม ตัว ลิมิเต็ด ใช้ได้เสียงดี ไม่มีปัญหา ใด ๆ กวนใจเลยครับ
(http://image.free.in.th/x/i/id/nihyfd242078022].jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=b2f34d978eab24b2b6f2d937cba11473)
-
ลองปรับแต่ง ใหม่อีกที่นะครับ ของผม ตัว ลิมิเต็ด ใช้ได้เสียงดี ไม่มีปัญหา ใด ๆ กวนใจเลยครับ
(http://image.free.in.th/x/i/id/nihyfd242078022].jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=b2f34d978eab24b2b6f2d937cba11473)
เอ่อ.....น้า Montri ครับ ในรูปเนี่ย รุ่นไหนเหรอครับ 555555 ท่าทางจะ Limited เหมือนกันนะครับ ^_^
-
เปลี่ยนสายเป็น Martin Phosphor Bronze เบอร์ 12 วางไม่ลงเลยครับ คุ้มเกินราคา แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนครับ
-
เปลี่ยนสายเป็น Martin Martin Phosphor Bronze เบอร์ 12 วางไม่ลงเลยครับ คุ้มเกินราคา แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนครับ
ในรูป Avatar ของน้าใช่ตัวที่บอกรึเปล่าครับ
-
อย่าเพิ่งขาย ให้ลองตามนี้ก่อน
1. ถอด นัท และ แซดเดิ้ล ชุดที่ติดมากับกีต้าร์เก็บไว้ก่อน
2. ซื้อ นัท แซดเดิ้ลมาใหม่ 1 ชุด
ทีนี้ ยำเลยครับ ลองตั้ง แอคชั่นเอง ดูวิธีการตั้งที่หน้าเวบ อยากลองอะไร ลองได้เลย
3. หาสาย Phospher Bronze เบอร์ 11 ของ D'Ad มาใส่
4. กรณีที่เจอ Dead Note ลงทุนเพิ่มอีก 30-40 บาท เอาเหรียญ 10 แปะ (ลองหาตำแหน่งเอา ที่ลองแล้วตรงบริเวณ ปลายบริดจ์ทั้งสองฝั่ง น่าจะโอเคที่สุด สูตรนี้ใช้กับกีต้าร์ไม้เนื้อแข็งที่หนาไม่ค่อยได้ผลครับ) หรือลองปรับความสูงของสายเพิ่มอีกนิด โดยการขันคอ เท่าที่ทดลอง Action สูง Dead Note จะเกิดน้อยกว่า
ทั้งหมดที่กล่าวมา มาจากการทดลองเองโดยตรง
เสียง V1 จะคนละแนวกับ F370 นะครับ
F370 น่าจะทุ้ม นุ่มลึกกว่า (ผมเอา FG-332 เป็นเกณฑ์ และคิดว่า Yamaha แทบทุกตัวมีคาแรคเตอร์เหมือนกัน) ส่วน V1 จะออกเป็นเม็ดชัดเจนกว่า
ลองเล่นดูใหม่อีกที ถ้ายังไม่ถูกใจ ขายครับ คนรอคิวเยอะ
-
ลองปรับแต่ง ใหม่อีกที่นะครับ ของผม ตัว ลิมิเต็ด ใช้ได้เสียงดี ไม่มีปัญหา ใด ๆ กวนใจเลยครับ
(http://image.free.in.th/x/i/id/nihyfd242078022].jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=b2f34d978eab24b2b6f2d937cba11473)
ใช้ไปซื้อโซดาได้เป่า.5555
อยากฟังเสียงจังเลย
-
มีคนมาบ่นแล้ว แต่อย่างที่น้าๆ แนะนำนั้นแหละ ถ้าได้ Veelah Lot 2 มาจะร้องมากว่านี้ ยี้ห้ออื่นที่แพงกว่านี้ผมยังต้องให้ช่างช่วยปรับเลย ถ้าเอามาเทียบกับ F310 ก็คงไม่ได้ เรื่องเสียงผมว่า Veelah ดีกว่านะ แต่่ที่เป็นทรง OM การตีคอร์ดก็คงไม่มันเท่า ขอยืนกระต่ายขาเดียวว่าถ้าปรับแต่งแล้วดีกว่าแน่นอน
-
ลงขายโลด ครับ
-
ลงขายโลด ครับ
+1 ^_^
-
ลงขายโลด ครับ
ไม่เกินครื่งชั่วโมง ออก ครับ
-
ใช้ไปซื้อโซดาได้เป่า.5555
อยากฟังเสียงจังเลย
ว่าง ๆ จะเข้าไปหานะครับ พี่เต๋า ช่วงนี้งานเยอะมาก
-
เนื่องจากพึ่งซื้อกีตาร์ veelah limited Thailand 2011 (V1-ome)
เริ่มแรกคือผม ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกีตาร์ ยี่ห้อนี้เลย
เห็นคนพูดเยอะ(ในบอร์ดนี้และเพื่อนบ้าน) ว่ากีตาร์ยี่ห้อนี้เสียงคุ้มค่า
เมื่อต้นปีเลยดูๆ v1-p ไว้ แต่รอแล้วรอเล่าโทรหาที่ไหนก็ไม่มี
เลยตัดใจเพราะอยากได้หัว slot head เลยตัดสินใจซื้อ v1-ome
แต่ก็ซื้อโดยที่ไม่เคยลองและรู้เลยว่าเสียงมันเป็นยังไง
(เคยลอง v3 ที่ intermusic ก็เฉยๆ action ค่อนข้างสูงมาก)
พอผมได้กีตาร์ตัวนี้ พอได้เห็น
ผมชอบรูปร่างทุกๆอย่างของมันนะครับ
แต่พอดีดหรือจับคอร์ดเท่านั้นแหลลล.. แทบจะอยากเก็บใส่กล่อง(หรือเอาไว้โชว์ดี)
สายแข็ง และฝืดมาก (ปกติใช้สาย Elixir)
action สูงจนเล่นยากและปวดมือดูฝืนธรรมชาติยังไงก็ไม่รู้
ผมซื้อมา 7500นิดๆ รู้สึกว่ามันเกินราคาไปรึเปล่า
กีตาร์ yamaha F370 ยังเสียงน่าฟังกว่าด้วยซ้ำ
เนื่องจากเล่นเอง ช้ำเอง เลยให้เพื่อนลองเล่นและฟังดูบ้าง
บางคนที่เล่นไม่เป็น ก็บอกว่า เสียงไม่เพราะเลย O.O
ผมแค่อยากระบายนะครับ
เพื่อนคนไหนที่อยู่ 1 ใน 100 รูู้สึกยังไงกันบ้างครับ(แบบผมหรือเปล่า)
เพื่อนๆคนไหน โมและปรับทัชชิ่งยังไงบ้าง ช่วยบอกกันด้วยนะครับ
ปล.กระทู้นี้ไม่ได้ต้องการจะกระทบใครนะครับ ผมพูดและติ โดยความรู้สึกของผมเอง
.. ผมเป็นเจ้าของ 1 ใน 20 ของใส้ติ่งนะครับ .. จากกีต้าร์ตัวเอง ตอนแรกที่รับมา
..1 สายสูง
..2 เสียงยังไม่ค่อยเท่าไหร่ ดังนั้นผมจึง
.. ปรับความสูงของสายลงมาเท่าที่ตัวเองชอบเพื่อให้เล่นง่ายไม่เมื่อยนิ้ว เมื่อยมือ พร้อมทั้งเปลี่ยน Saddle จากเดิมที่เป็นพลาสติดไปเป็นกระดูกของน้าตะวัน ซะ ...
( ตอนนี้รอBridge pin ไม้ ครับ )
สำหรับสายยังคงใช้ของเดิมที่ติดมากับกีต้าร์ ถึงวันนี้เล่นแทบจะทุกวัน เพื่อเป็นการเบิร์นไม้หน้า ให้ตอบสนองการสั่นของสาย ..
ถึงวันนี้ผมชอบมันครับ เสียงมันไม่เหมือน om ที่มีอยู่ มันออกสากๆ ดิบๆ แต่ไพเราะ ผมว่าเสียงดีกว่าตัวที่น้าเคี้ยว ทดสอบในหน้าเวปด้วยนะครับ
ซึ่งน่าจากการปรับ เปลี่ยน .. สรุปว่า ลองทำตามที่ผมทำ และให้เวลามันสักหน่อยเชื่อว่าจะดีขึ้นแน่นอนครับ ( แต่จะชอบหรือเปล่า เป็นอีกเรื่องนะครับ )
อย่างที่น้าเบียร์บอก กีต้าร์ทรงนี้ ตีคอร์ดไม่สนุกเท่าทรง D ครับ
-
OM มันไม่เหมาะกับตีคอร์ด จะเทียบกับทรง D ไม่ได้หรอก
ถ้ายังไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วสับซะเละขนาดนี้ ก็ขายเลย คนรอเยอะ 55555+
ปล. ถ้าจะเอาไว้ตั้งโชว์จริงๆ ก็ไม่มีคำบรรยาย บอกเลยว่าน่าเสียดาย
มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
หลากหลายความคิดเห็น ดีครับ ส่วนตัวเห็นตาม น้าโก้
เช่น ใครที่ชอบเล่นกีต้าร์ ในแนว ตีคอร์ด + ร้องเพลง หากมาเล่นกีต้าร์ตัวที่มีราคาสูงที่สุดของผม ที่ปรับแอคชั่น สำหรับ Finger Picking Style ก็จะบอกว่า กีต้าร์ ไม่ดี ครับ
รุ่น ไทยแลนด์ ลิมิดเตท สั่งไว้ 2 ตัว โดยเพื่อน หักคอไปแล้ว 1 ตัว
เหลืออีก 1 ตัว ยังไม่ได้แกะกระดาษสีน้ำตาล หุ้มสายออก ซักที
เดี๋ยวต้องกลับไปดูว่า มันเป็นอย่างที่น้า ๆ แสดงความเห็นกัน หรือไม่
เห็นกีต้าร์แล้ว มันสวยงาม อยากเก็บสะสมไว้ดูมากกว่า ยิ่งมันนอนอยู่ใน Hard Case ของ Veelah ดูมันขลัึง ๆ มาก ๆ ยังไงชอบกล
-
หลากหลายความคิดเห็น ดีครับ ส่วนตัวเห็นตาม น้าโก้
เช่น ใครที่ชอบเล่นกีต้าร์ ในแนว ตีคอร์ด + ร้องเพลง หากมาเล่นกีต้าร์ตัวที่มีราคาสูงที่สุดของผม ที่ปรับแอคชั่น สำหรับ Finger Picking Style ก็จะบอกว่า กีต้าร์ ไม่ดี ครับ
รุ่น ไทยแลนด์ ลิมิดเตท สั่งไว้ 2 ตัว โดยเพื่อน หักคอไปแล้ว 1 ตัว
เหลืออีก 1 ตัว ยังไม่ได้แกะกระดาษสีน้ำตาล หุ้มสายออก ซักที
เดี๋ยวต้องกลับไปดูว่า มันเป็นอย่างที่น้า ๆ แสดงความเห็นกัน หรือไม่
เห็นกีต้าร์แล้ว มันสวยงาม อยากเก็บสะสมไว้ดูมากกว่า ยิ่งมันนอนอยู่ใน Hard Case ของ Veelah ดูมันขลัึง ๆ มาก ๆ ยังไงชอบกล
กระดาษหุ้มสายยังอยู่ นี่น้ายังไม่ได้ฟังเสียงมันเลยหรือครับ อดใจไหวได้ไงครับเนี่ย o.O'
-
หลากหลายความคิดเห็น ดีครับ ส่วนตัวเห็นตาม น้าโก้
เช่น ใครที่ชอบเล่นกีต้าร์ ในแนว ตีคอร์ด + ร้องเพลง หากมาเล่นกีต้าร์ตัวที่มีราคาสูงที่สุดของผม ที่ปรับแอคชั่น สำหรับ Finger Picking Style ก็จะบอกว่า กีต้าร์ ไม่ดี ครับ
รุ่น ไทยแลนด์ ลิมิดเตท สั่งไว้ 2 ตัว โดยเพื่อน หักคอไปแล้ว 1 ตัว
เหลืออีก 1 ตัว ยังไม่ได้แกะกระดาษสีน้ำตาล หุ้มสายออก ซักที
เดี๋ยวต้องกลับไปดูว่า มันเป็นอย่างที่น้า ๆ แสดงความเห็นกัน หรือไม่
เห็นกีต้าร์แล้ว มันสวยงาม อยากเก็บสะสมไว้ดูมากกว่า ยิ่งมันนอนอยู่ใน Hard Case ของ Veelah ดูมันขลัึง ๆ มาก ๆ ยังไงชอบกล
กระดาษหุ้มสายยังอยู่ นี่น้ายังไม่ได้ฟังเสียงมันเลยหรือครับ อดใจไหวได้ไงครับเนี่ย o.O'
ก็น้ากวาง โดน custom เข้าไปไงครับ ช่วงนั้นพอดี วีร่าเลยต้องนอนแห้งอยู่ในกล่อง 555+
-
ขาย แล้ว ไปซื้อ V1D ครับ รับรองถูกใจขา ตีคอร์ด ยอด สาวแน่นอน.....เหอๆ 2อาทิตย์ก่อน ไปลองมา อยากเสียตัง จริงๆ แต่ ท้องมันป่อง 2 ตัว เลย....เหอๆ
-
เสียงไม่สนว่ากัน ด้วยความภูมิใจล้วนๆๆๆ ที่ได้ครอบครอง ผมก็อยากได้ หง่ะ #_# ถ้าไม่ชอบลองลงขายดูซิครับ ผมจะดูว่าใครไวกว่ากัน อิอิ 5555+++
-
เสียงไม่สนว่ากัน ด้วยความภูมิใจล้วนๆๆๆ ที่ได้ครอบครอง ผมก็อยากได้ หง่ะ #_# ถ้าไม่ชอบลองลงขายดูซิครับ ผมจะดูว่าใครไวกว่ากัน อิอิ 5555+++
แค่คิดก็ช้ากว่าผมแล้วน้านนท์..............อิอิ
-
สาย Elixir อ่านว่าอะไรครับ อี ลิก เซอร์ หรือเปล่าครับ
ว่าจะลองไปซื้อมาใส่ อยากรู้ว่า กรุ้งกริ๊ง มันเป็นยังไง
-
เนื่องจากพึ่งซื้อกีตาร์ veelah limited Thailand 2011 (V1-ome)
เริ่มแรกคือผม ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกีตาร์ ยี่ห้อนี้เลย
เห็นคนพูดเยอะ(ในบอร์ดนี้และเพื่อนบ้าน) ว่ากีตาร์ยี่ห้อนี้เสียงคุ้มค่า
เมื่อต้นปีเลยดูๆ v1-p ไว้ แต่รอแล้วรอเล่าโทรหาที่ไหนก็ไม่มี
เลยตัดใจเพราะอยากได้หัว slot head เลยตัดสินใจซื้อ v1-ome
แต่ก็ซื้อโดยที่ไม่เคยลองและรู้เลยว่าเสียงมันเป็นยังไง
(เคยลอง v3 ที่ intermusic ก็เฉยๆ action ค่อนข้างสูงมาก)
พอผมได้กีตาร์ตัวนี้ พอได้เห็น
ผมชอบรูปร่างทุกๆอย่างของมันนะครับ
แต่พอดีดหรือจับคอร์ดเท่านั้นแหลลล.. แทบจะอยากเก็บใส่กล่อง(หรือเอาไว้โชว์ดี)
สายแข็ง และฝืดมาก (ปกติใช้สาย Elixir)
action สูงจนเล่นยากและปวดมือดูฝืนธรรมชาติยังไงก็ไม่รู้
ผมซื้อมา 7500นิดๆ รู้สึกว่ามันเกินราคาไปรึเปล่า
กีตาร์ yamaha F370 ยังเสียงน่าฟังกว่าด้วยซ้ำ
เนื่องจากเล่นเอง ช้ำเอง เลยให้เพื่อนลองเล่นและฟังดูบ้าง
บางคนที่เล่นไม่เป็น ก็บอกว่า เสียงไม่เพราะเลย O.O
ผมแค่อยากระบายนะครับ
เพื่อนคนไหนที่อยู่ 1 ใน 100 รูู้สึกยังไงกันบ้างครับ(แบบผมหรือเปล่า)
เพื่อนๆคนไหน โมและปรับทัชชิ่งยังไงบ้าง ช่วยบอกกันด้วยนะครับ
ปล.กระทู้นี้ไม่ได้ต้องการจะกระทบใครนะครับ ผมพูดและติ โดยความรู้สึกของผมเอง
ยินดีต้อนรับนะครับ
สำหรับ Veelah ผมเองใช้ V1-DCE อยู่ครับ เมื่อได้กีต้าร์มาใหม่ๆ ตัวของผมเป็นสาย D'ad ธรรมดา ผมจึงเปลี่ยนเป็นสาย EXP และเช็คคอปรากฏว่าค่อนข้างตรงและใช้ได้ดีอยู่แล้ว จึงเคาะนัทออกมาฝนลงเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ถอดแซดเดิ้ลมาฝนให้ต่ำลงบ้าง จูนเสียงแล้วทดลองเล่นดู ปรากฏว่าได้ทั้งแอคชั่นและทั้งเสียงที่ถูกใจมากครับ และยืนยันว่าตัว V1-DCE ถ้าได้ปรับแอคชั่นให้ถูกต้องแล้ว ใช้ได้ทีเดียว เสียงค่อนข้างดีมากด้วยครับ
-
ผมเล่นยังไม่เก่ง ฟังยังไม่ออกเท่าไร แต่ว่าราคาและสเปค เห็นแล้วก็อยากไ้ด้ครับ
-
เสียงไม่สนว่ากัน ด้วยความภูมิใจล้วนๆๆๆ ที่ได้ครอบครอง ผมก็อยากได้ หง่ะ #_# ถ้าไม่ชอบลองลงขายดูซิครับ ผมจะดูว่าใครไวกว่ากัน อิอิ 5555+++
แค่คิดก็ช้ากว่าผมแล้วน้านนท์..............อิอิ
.. เข้ามาอิอิ ..กะสองน้าครับ .. เพราะคิดช้ากว่าผมทั้งฉองคนเลย .. อิอิ... :D
-
เสียงไม่สนว่ากัน ด้วยความภูมิใจล้วนๆๆๆ ที่ได้ครอบครอง ผมก็อยากได้ หง่ะ #_# ถ้าไม่ชอบลองลงขายดูซิครับ ผมจะดูว่าใครไวกว่ากัน อิอิ 5555+++
แค่คิดก็ช้ากว่าผมแล้วน้านนท์..............อิอิ
.. เข้ามาอิอิ ..กะสองน้าครับ .. เพราะคิดช้ากว่าผมทั้งฉองคนเลย .. อิอิ... :D
หน่ น้าหว่อง เกย์ มาเชียว..................อิอิ เกย์ทับ
-
หน่ น้าหว่อง เกย์ มาเชียว..................อิอิ เกย์ทับ
เกย์ เฉยๆก็น่ากลัวแล้ว นี่เกย์ ทับ เลยเหรอครับ 555555
-
เสียงไม่สนว่ากัน ด้วยความภูมิใจล้วนๆๆๆ ที่ได้ครอบครอง ผมก็อยากได้ หง่ะ #_# ถ้าไม่ชอบลองลงขายดูซิครับ ผมจะดูว่าใครไวกว่ากัน อิอิ 5555+++
แค่คิดก็ช้ากว่าผมแล้วน้านนท์..............อิอิ
.. เข้ามาอิอิ ..กะสองน้าครับ .. เพราะคิดช้ากว่าผมทั้งฉองคนเลย .. อิอิ... :D
ผมคิดไว้ตั้งแต่เจ้าของกระทู้ยังไม่ตั้งกระทู้เลย 5555+
-
สำหรับผมถ้าไปลองแล้วไม่โดนรีวิวมาดีไงไม่ซื้อครับ ดังนั้นเชื่อหูเชื่อมือตัวเองดีสุด
แต่ผมเป็นกลุ่มต้นๆที่เอาเชื้อวีระออกมาแพร่นะครับตั้งแต่ V1-P
กีตาร์มีหลายทรงหลายเสียง อยู่ที่ชอบครับ ผมว่าน้าคงชอบเสียงตูมตามมากกว่ากรุ้งกริ้ง
ถ้าไม่ชอบคนรอช้อนมีเยอะครับ
-
เสียงไม่สนว่ากัน ด้วยความภูมิใจล้วนๆๆๆ ที่ได้ครอบครอง ผมก็อยากได้ หง่ะ #_# ถ้าไม่ชอบลองลงขายดูซิครับ ผมจะดูว่าใครไวกว่ากัน อิอิ 5555+++
แค่คิดก็ช้ากว่าผมแล้วน้านนท์..............อิอิ
.. เข้ามาอิอิ ..กะสองน้าครับ .. เพราะคิดช้ากว่าผมทั้งฉองคนเลย .. อิอิ... :D
ผมคิดไว้ตั้งแต่เจ้าของกระทู้ยังไม่ตั้งกระทู้เลย 5555+
.. น้าน ... เดี๊ยวโดน เกย์.... ทับจริงๆนะจ๊ะ ...ลุงนนท์.. แฮ่ม.ม..มม..
-
จะขายเมื่อไร บอกเราก่อนนะ
จะซื้อครับ
เพื่อนเราอยากได้มาก ด่าทุกวัน ทำไมไม่สั่งให้บ้างงงง...
ก็เราจะไปรู้ได้ไงหว่า ว่ามันอยากได้
-
ของผมไม่มีอะไรต้องปรับเลยครับ เดิมๆทุกอย่างยังเล่นได้สบายมือ เสียงก็สุดจะโอเคอ่ะครับ
-
กำ...มีญาติๆมาขอเข้าคิวซื้อต่อผมเพี๊ยบบบบเลย...ท่าน จขกท.โปรดอ่านและพิจารณาด้วยครับ....คือกีต้าร์ถึงเสียงดีแต่ไม่ถูกใจก็อย่าเก็บไว้เลยครับ...ขายไปคว้าของใหม่ดีกว่า .....
-
กำ...มีญาติๆมาขอเข้าคิวซื้อต่อผมเพี๊ยบบบบเลย...ท่าน จขกท.โปรดอ่านและพิจารณาด้วยครับ....คือกีต้าร์ถึงเสียงดีแต่ไม่ถูกใจก็อย่าเก็บไว้เลยครับ...ขายไปคว้าของใหม่ดีกว่า .....
โอ้ คิวหนึ่ง ถึงกับออกตัวเลย อะ อิๆ
-
กำ...มีญาติๆมาขอเข้าคิวซื้อต่อผมเพี๊ยบบบบเลย...ท่าน จขกท.โปรดอ่านและพิจารณาด้วยครับ....คือกีต้าร์ถึงเสียงดีแต่ไม่ถูกใจก็อย่าเก็บไว้เลยครับ...ขายไปคว้าของใหม่ดีกว่า .....
โอ้ คิวหนึ่ง ถึงกับออกตัวเลย อะ อิๆ
****.... ก็ผมได้โอกาสตรงไม่ได้จองกับเพื่อนนี้แหละน้าหำห้อย....เย๊ยยยย หำน้อย.....
-
ผมตอนได้ v1d มาใหม่ลองครั้งแรกรู้สึกว่าพลาดเหมือนกัน เพราะมี f310 อยู่แล้ว เสียงสตรัม 310 ยังดีกว่าซะอีก ทั้งๆที่กะซื้อมาเล่นสตรัมคอร์ด
แต่พอว่างๆก็ลองเซทอัพดู ปรับแอคชั่นทั้ง แซดเดิ้ลทั้งนัท เสียงดีขึ้นมาก เล่นง่ายขึ้นเยอะ
ตอนนี้แล่นบ่อยพอๆกะตัวหลักเลย
-
แหม มีแต่คนอยากได้ทั้งนั้น ตอนเอามาขายไม่ยักกะ มีคนอยากซื้อกันนะครับ อิอิ ผมว่าผมขายถูกแล้วนา แปลกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
แหม มีแต่คนอยากได้ทั้งนั้น ตอนเอามาขายไม่ยักกะ มีคนอยากซื้อกันนะครับ อิอิ ผมว่าผมขายถูกแล้วนา แปลกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ขายได้รึยังครับ ^_^
-
ของที่ไม่ได้ลองก่อนซื้อ ย่อมมีโอกาสไม่ถูกใจเป็นธรรมดาครับ
เป็นได้ตั้งแต่ว่า เสียงเพราะของคนอื่น ดีของคนอื่น คนละความหมายกับของเรา
ไปจนถึงว่า ตัวที่เราได้มามันเป็นตัวที่แย่กว่าตัวที่คนอื่นเขาใช้กัน
ขอยืมคำของ แลนด์แอนด์เฮาส์ มาดัดแปลงครับ
"กีตาร์ ไม่ได้เห็นไม่ได้เลือก(ลอง) อย่าซื้อ" ครับ
-
ของที่ไม่ได้ลองก่อนซื้อ ย่อมมีโอกาสไม่ถูกใจเป็นธรรมดาครับ
เป็นได้ตั้งแต่ว่า เสียงเพราะของคนอื่น ดีของคนอื่น คนละความหมายกับของเรา
ไปจนถึงว่า ตัวที่เราได้มามันเป็นตัวที่แย่กว่าตัวที่คนอื่นเขาใช้กัน
ขอยืมคำของ แลนด์แอนด์เฮาส์ มาดัดแปลงครับ
"กีตาร์ ไม่ได้เห็นไม่ได้เลือก(ลอง) อย่าซื้อ" ครับ
ถั่วต้วม นะคร๊าบ ^_^
-
ของที่ไม่ได้ลองก่อนซื้อ ย่อมมีโอกาสไม่ถูกใจเป็นธรรมดาครับ
เป็นได้ตั้งแต่ว่า เสียงเพราะของคนอื่น ดีของคนอื่น คนละความหมายกับของเรา
ไปจนถึงว่า ตัวที่เราได้มามันเป็นตัวที่แย่กว่าตัวที่คนอื่นเขาใช้กัน
ขอยืมคำของ แลนด์แอนด์เฮาส์ มาดัดแปลงครับ
"กีตาร์ ไม่ได้เห็นไม่ได้เลือก(ลอง) อย่าซื้อ" ครับ
อ้าว อ.น๊อค พูดแบบนี้ป๋าแก จะเป๋ ได้นะ คิว 1 รอหน้าประตูบ้านเลยนะหน่ะ
อิๆ คนไทย หัวใจรัก วิล่าห์
-
ผมก็ลองเปลี่ยนไปเรื่อยๆแหล่ะครับ ซื้อมาแล้ว ขายต่อแล้วไปเห็นว่าดีทีหลังก็เสียดายอีก หาทางทำให้มันเป็นได้ดั่งใจเราดีกว่าครับ รีดคุณภาพของมันออกมาน่าจะดีที่สุด
-
ถ้าจะให้ผมพูดนะ ยาว 555+
1. กีตาร์ ทุกตัว ซื้อมาแล้ว ควรจะ ตั้ง action ก่อนครับ
อย่างน้อย ก็ต้องขันคอ หรือ ขัดแซดเดิลลงบ้างครับ "อย่าตัดสินกีตาร์ที่ action" เพราะ มันสามารถปรับใหม่ได้ ทั้งปรังเอง หรือ ส่งช่าง แค่ 300-500 บาท เท่านั้น
จากที่สังเกตุมา F310 จะปรับ action มา ค่อนข้างดี ประมาณว่า ซื้อมาแล้วเล่นได้เลย ไม่ต้องปรับเพิ่ม ถ้าเราเลือกกีตาร์ที่ action คนส่วนใหญ่ คงจะใช้แต่ F310 (เปรียบเทียบ)
เราซื้อกีตาร์ที่เสียงครับ ไม่ได้ซื้อที่ action
2. เราจะชินกับ ทรง และ ขนาด ของคอกีตาร์ ที่เราเล่นบ่อยที่สุด ณ ปัจจุบัน
บางคน(หลายๆคน) ชอบบอกว่า ควรจะเลือกกีตาร์ ตัวที่เราจับแล้วเราถนัด ซึ่งผมเห็นว่า มันไม่ถูกต้อง อยากที่บอกครับ เราจะชินกับตัวที่เราเล่นบ่อยที่สุดครับ
ก่อนหน้านี้ ผมใช้กีตาร์ ที่มีลักษณะคอ ที่ กว้าง แต่ บาง ผมรู้สึกว่า ถนัดมาก และตอนที่ผมซื้อกีตาร์ตัวใหม่ คอ มีลักษณะ หนา แต่ แคบ (กว่าตัวเดิม) ทำให้ผมเล่นกีตาร์ตัวใหม่ แล้วรู้สึกไม่ถนัด
แต่ตอนนี้ ผมกลับ ถนัดกีตาร์ตัวใหม่ มากกว่ากีตาร์ตัวเก่า ดังนั้น "อย่าตัดสินกีตาร์ที่ ทรง และ ลักษณะ ของคอ" เพราะเราจะชินกับมันไปเอง ถ้าเราเล่นมันทุกวัน
มิเช่นนั้น คน 1 คน ก็จะใช้กีตาร์ ได้แค่ ตัว เดียว หรือ ยี่ห้อเดียว หรือ ที่ทำทรงคอออกมา เหมือนกัน หรือ เหมือนตัวเก่าที่เราใช้อยู่ ครับ
3. กีตาร์แต่ละตัว จะเลือกสาย ที่เหมาะกับตัวมันเอง ตามความชอบของเจ้าของกีตาร์ครับ
สายแต่ละยี่ห้อ ให้เสียงไม่เหมือนกัน(ในวัสดุเดียวกัน และ เบอร์เดียวกัน) และ กีตาร์แต่ละรุ่น หรือ แต่ละยี่ห้อ จะทำออกมาให้ย่านเสียงที่แตกต่างกัน
บางตัวอาจได้แหลมเยอะ บางตัว อาจได้ทุ้มเยอะ และบางตัว อาจจะให้เสียงที่ บาลานซ์ ดี ดังนั้น คนแต่ละคน ชอบกีตาร์ที่มี บาลานซ์เสียง แตกต่างกัน
ดังนั้น เราควรจะเลือกสาย ให้เหมาะกับความชอบของเรา และ "อย่าตัดสินกีตาร์ กับสายที่แถมมา" เพราะ แค่เปลี่ยนสาย คาแลคเตอร์ของเสียงกีตาร์ตัวนั้น จะเปลี่ยนไปทันที
ที่กล่าวมา ยังไม่ได้แยกแยะ ระหว่าง PH/BZ กับ 80/20 และ ขนาดของสายที่ต่างกัน เลยครับ ยังมีลักษณะของเสียงที่แตกต่างกันไปอีกครับ
อย่างน้อย เราควรจะรู้ ว่ากีตาร์ตัวที่เราซื้อมา หรือ กำลังจะซื้อ มันใส่สาย ยี่ห้ออะไร เบอร์อะไร วัสดุแบบไหน
เพื่อเราจะได้รู้ว่า เราจะเปลี่ยนสายแบบไหนให้เสียงกีตาร์เป็นไปในแบบที่เราชอบ หรือ เหมาะกับเรา
4. วัสดุรับเสียง ให้เสียงที่แตกต่างกัน (นัท แซดเดิล บริจพิน)
เราจะสังเกตุว่า กีตาร์แต่ละตัว ให้เสียง ทุ้ม กลาง แหลม ซัสเทน แตกต่างกัน นั้นขึ้นอยู่กับ วัสดุ ของ นัท แซดเดิล บริจพิน ที่ใส่มาให้ด้วยครับ
กีตาร์บางตัวเป็น พลาสติก บางตัวเป็น กระดูก บางตัวเป็น TUSQ เราควรจะรู้ไว้ว่า กีตาร์ตัวนั้นๆ ใส่วัสดุชนิดไหนมาให้ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับแต่งเสียง
และยังมีวัสดุอีกหลายชนิด เช่น งาช้าง เขี่ยวสิงโตทะเล ทองเหลือง(บริจพิน) เขาควาย(บริจพิน) และไม้เนื้อแข็งต่างๆ(บริจพิน)
5. อย่าตัดสิน กีตาร์ตัวหนึ่ง ด้วยกีตาร์อีกตัว หรือ อย่าตัดสิน กีตาร์ตัวเอง ด้วยกีตาร์คนอื่น
เพราะ เราอาจไม่รู้ว่า กีตาร์อีกตัวนั้น โมฯ อะไรไปบ้าง หรือ ใส่สายยี่ห้อไหน วัสดุอะไร และ นัท แซดเดิล บริจพิน เป็นวัสดุอะไร
เพราะจะทำให้เสียงไม่เหมือนกัน(แม้จะเป็นกีตาร์รุ่นเดียวกันก็ตาม) อาจทำให้เกิดการคิดมาก ว่ากีตาร์ตัวที่เราใช้อยู่ เสียงไม่ดี ขึ้นมาได้(เจอมากะตัว)
ทำให้เป็นเหตุให้เกิดการเสียงเงิน เพื่อซื้อกีตาร์ตัวใหม่ได้ครับ 555+
เช่น ผมเคยได้ยินกีตาร์ตัวนึง ซึ่งใส่สาย Elixir (แต่ตอนนั้นไม่รู้ และมารู้ทีหลัง) รู้สึกว่า เสียงมันสว่างใสกรุ้งกริ๊ง ดีจัง เมื่อเทียบกับกีตาร์ตัวเอง(ราคาพอๆกัน) เสียงกีตาร์ตัวเองกลับทึบไปเลย
ซึ่งในขณะนั้น กีตาร์ตัวเองใส่สาย DR ซึ่ง เสียงมันสุดขั้วกับ Elixir อยู่แล้ว (DR จะให้เสียงที่ ทุ้มนุ่มลึก) ทำให้ในใจก็ งิดๆ อยากได้กีตาร์ใหม่ ที่เสียงใสกรุ้งกริ๊ง
และต่อมาได้มีโอกาส ลองสาย Elixir จึงได้ "อ๋อ..." ขึ้นมาทันที เพราะ มันใสกริ๊งกริ๊ง เหลือเกินครับ "แค่สายคนละยี่ห้อ เกือบต้องถอยกีตาร์ใหม่ไปแล้วมั้ยเรา..."
ทั้งหมดนี้ อาจจะมีนอกเรื่อง หรือ ไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ไปบ้าง แต่คิดว่า อาจจะเป็นประโยชน์กับน้าๆมือใหม่หลายๆคนครับ
และทั้งหมดนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ โปรดใช้ วิจารณญาณ ในการรับชม ครับ
สุดยอดความรู้มากครับน้า ขอคาระวะ 1 จอก
-
เนื่องจากพึ่งซื้อกีตาร์ veelah limited Thailand 2011 (V1-ome)
เริ่มแรกคือผม ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกีตาร์ ยี่ห้อนี้เลย
เห็นคนพูดเยอะ(ในบอร์ดนี้และเพื่อนบ้าน) ว่ากีตาร์ยี่ห้อนี้เสียงคุ้มค่า
เมื่อต้นปีเลยดูๆ v1-p ไว้ แต่รอแล้วรอเล่าโทรหาที่ไหนก็ไม่มี
เลยตัดใจเพราะอยากได้หัว slot head เลยตัดสินใจซื้อ v1-ome
แต่ก็ซื้อโดยที่ไม่เคยลองและรู้เลยว่าเสียงมันเป็นยังไง
(เคยลอง v3 ที่ intermusic ก็เฉยๆ action ค่อนข้างสูงมาก)
พอผมได้กีตาร์ตัวนี้ พอได้เห็น
ผมชอบรูปร่างทุกๆอย่างของมันนะครับ
แต่พอดีดหรือจับคอร์ดเท่านั้นแหลลล.. แทบจะอยากเก็บใส่กล่อง(หรือเอาไว้โชว์ดี)
สายแข็ง และฝืดมาก (ปกติใช้สาย Elixir)
action สูงจนเล่นยากและปวดมือดูฝืนธรรมชาติยังไงก็ไม่รู้
ผมซื้อมา 7500นิดๆ รู้สึกว่ามันเกินราคาไปรึเปล่า
กีตาร์ yamaha F370 ยังเสียงน่าฟังกว่าด้วยซ้ำ
เนื่องจากเล่นเอง ช้ำเอง เลยให้เพื่อนลองเล่นและฟังดูบ้าง
บางคนที่เล่นไม่เป็น ก็บอกว่า เสียงไม่เพราะเลย O.O
ผมแค่อยากระบายนะครับ
เพื่อนคนไหนที่อยู่ 1 ใน 100 รูู้สึกยังไงกันบ้างครับ(แบบผมหรือเปล่า)
เพื่อนๆคนไหน โมและปรับทัชชิ่งยังไงบ้าง ช่วยบอกกันด้วยนะครับ
ปล.กระทู้นี้ไม่ได้ต้องการจะกระทบใครนะครับ ผมพูดและติ โดยความรู้สึกของผมเอง
ขายทิ้งเถอะครับ มันไม่ดีหรอก เชื่อผม แต่ไม่ต้องขายให้ใครนะ ผมรับซื้อเอง เชื่อผมเหอะ อิๆ ๆๆ
-
จขกท หายเงียบเลย อิอิ^^
-
ผมเองก็สนใจอยู่ แต่อ่านมาถึงตรงนี้ สรุปด้วยตัวเองได้ว่า ใครดวงดีก็ได้เสียงดี ใครดวงซวยก็ต้องเอามาแต่ง ตอนแรกผมก็มีความสนใจ แต่มาเริ่มไม่แน่ใจ ตั้งแต่ตอนที่เพื่อนผมได้มาแล้วมีปัญหาเรื่อง pu เสีย action สูง สุดท้ายต้องส่งไปเคลม และคงเป็นเพราะด้วยราคาที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับคุณภาพ + แรงเชียร์ในเว๊บ ผมเชื่อว่าคนที่ซื้อส่วนใหญ่ก็คงไม่ใช่เป็นคนมีสตางค์(เพราะมีแรงเชียร์ในเว๊บว่าเป็นของดีราคาถูก) และคงจะต้องเก็บสตางค์นานพอดู ก็เลยวาดฝันไว้ก่อนว่าคงจะสุดยอด แต่พอไม่ได้ดังที่คาดก็อาจเซ็ง แล้วเลยมาขอรำพรรณตามประสาคนผิดหวัง ส่วนตัวแล้ว ผมมีทั้ง Baby Taylor และ Gs mini ซึ่งถือเป็นกีต้าร์ราคาสูง และไม่ผิดหวังเพราะดีสมราคาที่ต้องจ่ายไป ผมเองก็เก็บสตางค์อยู่พักใหญ่เหมือนกัน กว่าจะได้มา เพราะฉนั้น ของดีราคาถูกมีอยู่ในโลกแน่นอน แต่ต้องหาหน่อยและหายากมาก แต่ถ้ามีสตางค์ละก็ ของดีหาได้ง่ายเลย เอวัง....
-
ของที่ไม่ได้ลองก่อนซื้อ ย่อมมีโอกาสไม่ถูกใจเป็นธรรมดาครับ
เป็นได้ตั้งแต่ว่า เสียงเพราะของคนอื่น ดีของคนอื่น คนละความหมายกับของเรา
ไปจนถึงว่า ตัวที่เราได้มามันเป็นตัวที่แย่กว่าตัวที่คนอื่นเขาใช้กัน
ขอยืมคำของ แลนด์แอนด์เฮาส์ มาดัดแปลงครับ
"กีตาร์ ไม่ได้เห็นไม่ได้เลือก(ลอง) อย่าซื้อ" ครับ
อ้าว อ.น๊อค พูดแบบนี้ป๋าแก จะเป๋ ได้นะ คิว 1 รอหน้าประตูบ้านเลยนะหน่ะ
อิๆ คนไทย หัวใจรัก วิล่าห์
ผมก็รักวีล่าครับพี่หำ เสียดายเธอแต่งงานมีลูกไปแล้ว อิอิ
-
ผมเองก็เห็นแรงเชียร์ สำหรับกีตาร์ยี่ห้อนี้ในเวป เลยวัดดวงสั่งรุ่น v6 dce โดยที่ไม่เคยลองตัวจริงมาก่อน ปรากฎว่าไม่เป็นดังที่คิดฝันไว้ ดีที่ร้านค้าใจดีให้คืนของโดยที่หักลดราคาลงนิดหน่อย ผมว่าจงอย่าเชื่อใครง่ายๆก่อนที่จะได้ไปลองเล่นตัวจริงๆเสียก่อน
-
ระบายได้ดีมากครับ ตัวหนังสือยั้วเยี้ยเลย
-
วันนี้ได้ลองรุ่น thailand limited ของน้า hemp เดิมๆที่ตั้งมาจากโรงงานเลย ผมว่าเสียงดีเลยนะครับ สายก็ไม่ถึงกับสูงมากจนเล่นยาก
-
ตอนนี้ผมมี Veelah 3 ตัว 3 รุ่น ทั้ง 3 ตัวนี้ตอนซื้อไม่ได้ลองเลย แต่ได้มา ผมโอเคมันทุกตัวนะ ตัวล่าสุด v1gace พอเปลี่ยนสายแล้ว เสียงดีขึ้นครับ
-
ตอนนี้ผมมี Veelah 3 ตัว 3 รุ่น ทั้ง 3 ตัวนี้ตอนซื้อไม่ได้ลองเลย แต่ได้มา ผมโอเคมันทุกตัวนะ ตัวล่าสุด v1gace พอเปลี่ยนสายแล้ว เสียงดีขึ้นครับ
V1 gace ผมว่าคุ้มครับ ทั้งงานและเสียง แถมสวยด้วย อิอิ ^_^ (แต่ก่อนตั้งทัชชิ่ง สุนัขไม่รับประทาน -_-")
-
เห็นหน้า ๆ หลายท่านบอกเสมอว่าซื้อกีต้าร์ต้องลองเสียง ลองอุ้ม ลองจับ ผมก็แปลกใจทำไมถึงจองกีต้าร์โดยที่ยังไม่ได้ลองรู้สึกขัดต่อหลักการ
-
เห็นหน้า ๆ หลายท่านบอกเสมอว่าซื้อกีต้าร์ต้องลองเสียง ลองอุ้ม ลองจับ ผมก็แปลกใจทำไมถึงจองกีต้าร์โดยที่ยังไม่ได้ลองรู้สึกขัดต่อหลักการ
1.เพราะความเชื่อในน้าๆที่แนะนำ (ส่วนใหญ่จะมีความรู้ระดับนึงครับ ค่อนข้างน่าเชื่อถือ)
2.เพราะราคาที่ค่อนข้างถูก
3.ถึงได้มาแล้วไม่พอใจ ตลาดก็ยังต้องการ อยู่ดีครับ ขายต่อได้ง่าย
4.อยากลองครับ
5.ตื่นเต้นดีครับ วัดดวงแบบปลอดภัย เพราะอิงจากข้อด้านบน ^_^
และแม้ว่าสิ่งที่ได้มามันจะ ok อยู่ แต่ก็ยังถือคติ ลองก่อน ค่อยซื้อครับ ^_^ แต่ถ้าเป็นของน้าๆในนี้ที่คุ้นๆกันอยู่ ไม่ลองก็ได้ครับ ^_^
-
ผมเองก็เห็นแรงเชียร์ สำหรับกีตาร์ยี่ห้อนี้ในเวป เลยวัดดวงสั่งรุ่น v6 dce โดยที่ไม่เคยลองตัวจริงมาก่อน ปรากฎว่าไม่เป็นดังที่คิดฝันไว้ ดีที่ร้านค้าใจดีให้คืนของโดยที่หักลดราคาลงนิดหน่อย ผมว่าจงอย่าเชื่อใครง่ายๆก่อนที่จะได้ไปลองเล่นตัวจริงๆเสียก่อน
ยังไงแน่ครับ ผมอยากได้มาก veelah v1-dce แต่เห็นคอมเม้นนี้ชักกลัว กีตาร์ก็ไม่มีให้ลอง ราคาก็ไม่ได้ถูกสำหรับนักศึกษาขอตังแม่ใช้อย่างผม ตกลงดีจริงเปล่าครับน้า
-
ยังไงแน่ครับ ผมอยากได้มาก veelah v1-dce แต่เห็นคอมเม้นนี้ชักกลัว กีตาร์ก็ไม่มีให้ลอง ราคาก็ไม่ได้ถูกสำหรับนักศึกษาขอตังแม่ใช้อย่างผม ตกลงดีจริงเปล่าครับน้า
ต้องลองเองครับ ดีหรือไม่ เราเท่านั้นที่ตัดสินครับ น้าท่านอื่นๆก็แค่ให้ข้อมูลครับ ^_^
-
[ยังไงแน่ครับ ผมอยากได้มาก veelah v1-dce แต่เห็นคอมเม้นนี้ชักกลัว กีตาร์ก็ไม่มีให้ลอง ราคาก็ไม่ได้ถูกสำหรับนักศึกษาขอตังแม่ใช้อย่างผม ตกลงดีจริงเปล่าครับน้า
[/quote]
ถ้าลองได้ก็ควรไปลองครับ แต่ถ้าหาลองไม่ได้ ลองดู Response ของคนที่เคยใช้ครับ จะให้ถูกใจ 100% เต็มทุกคนคงไม่มีเลยซักยี่ห้อเดียวในโลกนี้ครับ ผมดูเสียงส่วนใหญ่อ่ะครับ (ก่อนผมซื้อยี่ห้อนี้ ผม Search เป็น Weeks เพื่อดูความเห็นหลายๆท่าน เพราะผมไม่สามารถไปลองได้) และสมมติซื้อมาแล้วเกิดไม่ชอบ รุ่นนี้น้าก็ขาดทุนไม่มากหรอกครับ เผลอๆเสมอทุนก็เป็นไปได้ครับ
แต่เรื่องสำคัญคือ อย่าได้ไปคาดหวังว่ามันจะเทพสุดๆ จนเผลอไปคิดว่าเสียงมันต้องสู้กีต้าร์ราคาแพงๆ แบบแพงกว่าเป็นเท่าตัวหรือมากกว่า(Veelah แพงสุด ก็ไม่ถึง 2 หมื่น เวลาเทียบก็ควรเทียบกับกีต้าร์ในระดับราคาใกล้กันครับ) ควรคาดหวังแค่มันคุ้มกะตังค์ที่จ่ายหรือเปล่ามากกว่าครับโดยเทียบกับยี่ห้ออื่นๆด้วย
-
เห็นหน้า ๆ หลายท่านบอกเสมอว่าซื้อกีต้าร์ต้องลองเสียง ลองอุ้ม ลองจับ ผมก็แปลกใจทำไมถึงจองกีต้าร์โดยที่ยังไม่ได้ลองรู้สึกขัดต่อหลักการ
1.เพราะความเชื่อในน้าๆที่แนะนำ (ส่วนใหญ่จะมีความรู้ระดับนึงครับ ค่อนข้างน่าเชื่อถือ)
2.เพราะราคาที่ค่อนข้างถูก
3.ถึงได้มาแล้วไม่พอใจ ตลาดก็ยังต้องการ อยู่ดีครับ ขายต่อได้ง่าย
4.อยากลองครับ
5.ตื่นเต้นดีครับ วัดดวงแบบปลอดภัย เพราะอิงจากข้อด้านบน ^_^
และแม้ว่าสิ่งที่ได้มามันจะ ok อยู่ แต่ก็ยังถือคติ ลองก่อน ค่อยซื้อครับ ^_^ แต่ถ้าเป็นของน้าๆในนี้ที่คุ้นๆกันอยู่ ไม่ลองก็ได้ครับ ^_^
เห็นหน้า ๆ หลายท่านบอกเสมอว่าซื้อกีต้าร์ต้องลองเสียง ลองอุ้ม ลองจับ ผมก็แปลกใจทำไมถึงจองกีต้าร์โดยที่ยังไม่ได้ลองรู้สึกขัดต่อหลักการ
1.เพราะความเชื่อในน้าๆที่แนะนำ (ส่วนใหญ่จะมีความรู้ระดับนึงครับ ค่อนข้างน่าเชื่อถือ)
2.เพราะราคาที่ค่อนข้างถูก
3.ถึงได้มาแล้วไม่พอใจ ตลาดก็ยังต้องการ อยู่ดีครับ ขายต่อได้ง่าย
4.อยากลองครับ
5.ตื่นเต้นดีครับ วัดดวงแบบปลอดภัย เพราะอิงจากข้อด้านบน ^_^
และแม้ว่าสิ่งที่ได้มามันจะ ok อยู่ แต่ก็ยังถือคติ ลองก่อน ค่อยซื้อครับ ^_^ แต่ถ้าเป็นของน้าๆในนี้ที่คุ้นๆกันอยู่ ไม่ลองก็ได้ครับ ^_^
ผมวัดแบบเนี่ยครั้งเดียวเข็ดเลย ^ ^ ที่โดนเป็น ukulele นะ ก็อย่างที่ว่าอืมราคาถูก แต่อะไรที่เราไม่ชอบเงิน 1000 นึงก็เสียดายครับ
-
จากที่ผมเคยได้เป็นเจ้าของบ้างนะครับ
V1 om เสียงดี ได้มาตรฐาน โน๊ตชัดเจน ทัชชิ่งเล่นไม่ยาก
ข้อดีของมันคือ ถ้าวัดระดับกีต้าราคาเท่ากันคือ 4000 นิดๆ คงไม่มีตัวไหนเสียงดี เล่นง่ายเท่านี้
แม้จะมือสองก็ตาม ในความคิดของผมนะครับ
V1 Dce เสียงผมกลับชอบ OM มากกว่า แต่เพิ่มอีก 1 พัน ได้ภาคไฟฟ้า ก็ยังมองว่า
โปร่งไฟฟ้า ราคา 5000 หน่อยๆ ไม่มีตัวไหนคุ้มค่าเท่า แม้แต่มือ 2 ครับ
แต่ถ้าเราเอาไปเปรียบกับตัวอื่นๆ ในราคาที่สูงกว่า ก็คงได้มิติไม่เท่า หรือเสียงอาจมีเสน่ห์ไม่เท่า
แต่สำหรับราคานี้กับกีต้าร์ใหม่ผมมองว่าค่อนข้างคุ้มค่าที่สุด ( ไม่ไปเทียบกับ Vintage japan มือสอง 20 กว่าปี )
ส่วนชอบไม่ชอบจะเป็นอีกเรื่องครับ
-
จากที่ผมเคยได้เป็นเจ้าของบ้างนะครับ
V1 om เสียงดี ได้มาตรฐาน โน๊ตชัดเจน ทัชชิ่งเล่นไม่ยาก
ข้อดีของมันคือ ถ้าวัดระดับกีต้าราคาเท่ากันคือ 4000 นิดๆ คงไม่มีตัวไหนเสียงดี เล่นง่ายเท่านี้
แม้จะมือสองก็ตาม ในความคิดของผมนะครับ
V1 Dce เสียงผมกลับชอบ OM มากกว่า แต่เพิ่มอีก 1 พัน ได้ภาคไฟฟ้า ก็ยังมองว่า
โปร่งไฟฟ้า ราคา 5000 หน่อยๆ ไม่มีตัวไหนคุ้มค่าเท่า แม้แต่มือ 2 ครับ
แต่ถ้าเราเอาไปเปรียบกับตัวอื่นๆ ในราคาที่สูงกว่า ก็คงได้มิติไม่เท่า หรือเสียงอาจมีเสน่ห์ไม่เท่า
แต่สำหรับราคานี้กับกีต้าร์ใหม่ผมมองว่าค่อนข้างคุ้มค่าที่สุด ( ไม่ไปเทียบกับ Vintage japan มือสอง 20 กว่าปี )
ส่วนชอบไม่ชอบจะเป็นอีกเรื่องครับ
คม ชัด ลึกมากครับน้า รู้ลึก รู้จริง เรื่องปิ้งย่าง...อิอิอิอิ ;D ;D ;D ;D
-
จากที่ผมเคยได้เป็นเจ้าของบ้างนะครับ
V1 om เสียงดี ได้มาตรฐาน โน๊ตชัดเจน ทัชชิ่งเล่นไม่ยาก
ข้อดีของมันคือ ถ้าวัดระดับกีต้าราคาเท่ากันคือ 4000 นิดๆ คงไม่มีตัวไหนเสียงดี เล่นง่ายเท่านี้
แม้จะมือสองก็ตาม ในความคิดของผมนะครับ
V1 Dce เสียงผมกลับชอบ OM มากกว่า แต่เพิ่มอีก 1 พัน ได้ภาคไฟฟ้า ก็ยังมองว่า
โปร่งไฟฟ้า ราคา 5000 หน่อยๆ ไม่มีตัวไหนคุ้มค่าเท่า แม้แต่มือ 2 ครับ
แต่ถ้าเราเอาไปเปรียบกับตัวอื่นๆ ในราคาที่สูงกว่า ก็คงได้มิติไม่เท่า หรือเสียงอาจมีเสน่ห์ไม่เท่า
แต่สำหรับราคานี้กับกีต้าร์ใหม่ผมมองว่าค่อนข้างคุ้มค่าที่สุด ( ไม่ไปเทียบกับ Vintage japan มือสอง 20 กว่าปี )
ส่วนชอบไม่ชอบจะเป็นอีกเรื่องครับ
คม ชัด ลึกมากครับน้า รู้ลึก รู้จริง เรื่องปิ้งย่าง...อิอิอิอิ ;D ;D ;D ;D
555 รอ vintage ตัวนั้นอยู่นะครับ น้าเกรียง ^ ^
-
สนับสนุนความเห็นที่ว่า ควรจะลองก่อนซื้อครับ
ต้องใจเย็น ๆ นะครับเงินทองไม่ได้หามาง่าย ๆ
-
ผมเองก็สนใจอยู่ แต่อ่านมาถึงตรงนี้ สรุปด้วยตัวเองได้ว่า ใครดวงดีก็ได้เสียงดี ใครดวงซวยก็ต้องเอามาแต่ง ตอนแรกผมก็มีความสนใจ แต่มาเริ่มไม่แน่ใจ ตั้งแต่ตอนที่เพื่อนผมได้มาแล้วมีปัญหาเรื่อง pu เสีย action สูง สุดท้ายต้องส่งไปเคลม และคงเป็นเพราะด้วยราคาที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับคุณภาพ + แรงเชียร์ในเว๊บ ผมเชื่อว่าคนที่ซื้อส่วนใหญ่ก็คงไม่ใช่เป็นคนมีสตางค์(เพราะมีแรงเชียร์ในเว๊บว่าเป็นของดีราคาถูก) และคงจะต้องเก็บสตางค์นานพอดู ก็เลยวาดฝันไว้ก่อนว่าคงจะสุดยอด แต่พอไม่ได้ดังที่คาดก็อาจเซ็ง แล้วเลยมาขอรำพรรณตามประสาคนผิดหวัง ส่วนตัวแล้ว ผมมีทั้ง Baby Taylor และ Gs mini ซึ่งถือเป็นกีต้าร์ราคาสูง และไม่ผิดหวังเพราะดีสมราคาที่ต้องจ่ายไป ผมเองก็เก็บสตางค์อยู่พักใหญ่เหมือนกัน กว่าจะได้มา เพราะฉนั้น ของดีราคาถูกมีอยู่ในโลกแน่นอน แต่ต้องหาหน่อยและหายากมาก แต่ถ้ามีสตางค์ละก็ ของดีหาได้ง่ายเลย เอวัง....
โอ้ -O-"
-
ปัญหามันอยู่ที่ คาดหวังเกิน ความเป็นตัวตนของกีต้าร์เกินไป
มันก็ไม่ต่างจาก ผีหัวขาดล่ะจร้า ตัวอยู่ทาง หัวอยู่อีกทาง
สำหรับ V1-OME มันยังถือเป็นกีต้าร์"กระจอก"อยู่
เป็นกีต้าร์สำหรับนักกีต้าร์มือใหม่ ราคาถูก ราคาคุ้มค่ากับคุณภาพและเสียง ครับ
สำหรับเรา แค่อยากได้ หัว slot เท่านั้นแหละ เล่นไฟฟ้าได้พอทน..จบข่าว...
ส่วนเรื่องงาน เรื่องเสียง ไม่ต้องพูดถึง เราชอบอยู่แล้ว
ดังนั้นสำหรับเรา จึงไม่หลุดจากวัตถุประสงค์ครับ ไม่ต้องลอง เอาตามสเปค
แต่บางคนถ้ามีวัตถุประสงค์ต้องการกีต้าร์คู่ใจ ทีเด็ด อย่างนี้ยังไงต้องลอง ต่อให้เป็น มาร์ติน เทเลอร์ ตัวเป็นแสน ยังไงก็ต้องลอง
เราเคยลอง Taylor 814 limited ลองยังไง ก็ไม่เข้าตาครับ ไม่ fit-in
ทั้งๆที่มันเป็นเป็นกีต้าร์สุดยอดเลยนะนั่น
สรุปว่า อย่าคาดหวังมากจนคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงครับ
-
ปัญหามันอยู่ที่ คาดหวังเกิน ความเป็นตัวตนของกีต้าร์เกินไป
มันก็ไม่ต่างจาก ผีหัวขาดล่ะจร้า ตัวอยู่ทาง หัวอยู่อีกทาง
สำหรับ V1-OME มันยังถือเป็นกีต้าร์"กระจอก"อยู่
เป็นกีต้าร์สำหรับนักกีต้าร์มือใหม่ ราคาถูก ราคาคุ้มค่ากับคุณภาพและเสียง ครับ
สำหรับเรา แค่อยากได้ หัว slot เท่านั้นแหละ เล่นไฟฟ้าได้พอทน..จบข่าว...
ส่วนเรื่องงาน เรื่องเสียง ไม่ต้องพูดถึง เราชอบอยู่แล้ว
ดังนั้นสำหรับเรา จึงไม่หลุดจากวัตถุประสงค์ครับ ไม่ต้องลอง เอาตามสเปค
แต่บางคนถ้ามีวัตถุประสงค์ต้องการกีต้าร์คู่ใจ ทีเด็ด อย่างนี้ยังไงต้องลอง ต่อให้เป็น มาร์ติน เทเลอร์ ตัวเป็นแสน ยังไงก็ต้องลอง
เราเคยลอง Taylor 814 limited ลองยังไง ก็ไม่เข้าตาครับ ไม่ fit-in
ทั้งๆที่มันเป็นเป็นกีต้าร์สุดยอดเลยนะนั่น
สรุปว่า อย่าคาดหวังมากจนคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงครับ
+ 1 like
-
ตั้งความหวังไว้สูงมันมากถ้ามันไม่เป็นดังหวังย่อมผิดหวังมากเป็นธรรมดา :(
สำหรับตัวของผมตั้งความหวังไม่สูงมากเพราะมันเป็นกีต้าร์พื้นๆกระจอก กระจอก ขอบไบด้งไบดิ้งอะไรก็ไม่มี โล้นๆ
แต่ชอบที่มันเป็นหัวแบบSlotและลำตัวเป็นOMครับ แค่นั้นจริงๆ
พอเห็นตัวจริงแล้วลองเล่นก็ชอบครับ ตีคอร์ดผมว่าก็ไม่ขี้เหร่นะ ;D มีคนมาขอซื้อต่อแล้วด้วย แต่ผมไม่ขายกะเก็บไว้เป็นสมบัตืให้ลูก ;D ;D
ก็ป้ายมันสวยอ่ะ อิอิ ::)
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah015.jpg)
ส่วนเรื่องActionสูง ก็เป็นอย่างว่าไว้จริงๆ ของผมเปิดกล่องมาเล่นดูสักพักก็จัดการโมทันที ฝนทั้งนัททั้งแซดเดิ้ลจนพอใจ มันเป็นเรื่องธรรมดามากๆครับ
สำหรับผมหวังไม่มากตั้งแต่ต้นได้แค่นี้ก็เกินคุ้มแย้วจ้า ;D ;D
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah016.jpg)
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah002-1.jpg)
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah003-1.jpg)
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah004-1.jpg)
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah005-1.jpg)
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah001-1.jpg)
มันจะไปได้ไกลแค่ไหนเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ รอดูต่อไปครับว่ามันจะทนเหมือนยามาฮ่าอ่ะเปล่า ???
-
คุ้มค่าในราคาที่ขายครับถามว่าจะกินตัวละหลายหมื่น หรือว่าเป็นหมื่นๆไม๊อันนี้แล้วแต่รสนิยมเลยครับ ผมเคยมี 2 ตัว
ตัวแรกซื้อล็อตแลก เอามาเล่นได้ไม่นานก็ขายไปแบบไม่เจ็บตัว
หลังๆมีมาอีกด้วยเห็นแรงเชียร์และมีคนสนใจเยอะ เลยคิดว่าในตอนนั้นเราลองไม่ดีเองหรืออย่างไร ไอ้ตัวที่ 2 นี้
แต่งเต็ม โมครบจากสำนักดังครับ หมดค่าทำไปสองพันกว่าบาท อยากลองดูว่าหากว่ามันสุดแล้วจะไปได้สักเท่า
ใด
สรุปได้ว่ากีตาร์เสียงดี เสียงไม่ดี จ่ายตามเงินครับ (แต่บางตัวเสียงไม่ดีแต่แพงก็มี) เอาเป็นว่าส่วนมากดีกว่า
Veelah คุ้มค่าเงินครับ จะถามว่ากินกีตาร์ราคาที่มากกว่าเท่าตัวนั้นอย่างที่เค้าพูดกัน ความเห็นของผมนั้น
ตอบอย่างที่บอกไปครับว่า จ่ายมากได้มากครับ แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ยังไม่เกิดครับ หากว่าเกิดมาฆ่า YAMMY 310
นั้นเห็นด้วยครับว่า Veelah ราคาหัาพันกว่าบาท ย้ำนะครับห้าพันกว่าบาทดีกว่าแน่นอน
-
[
[ยังไงแน่ครับ ผมอยากได้มาก veelah v1-dce แต่เห็นคอมเม้นนี้ชักกลัว กีตาร์ก็ไม่มีให้ลอง ราคาก็ไม่ได้ถูกสำหรับนักศึกษาขอตังแม่ใช้อย่างผม ตกลงดีจริงเปล่าครับน้า
ถ้าลองได้ก็ควรไปลองครับ แต่ถ้าหาลองไม่ได้ ลองดู Response ของคนที่เคยใช้ครับ จะให้ถูกใจ 100% เต็มทุกคนคงไม่มีเลยซักยี่ห้อเดียวในโลกนี้ครับ ผมดูเสียงส่วนใหญ่อ่ะครับ (ก่อนผมซื้อยี่ห้อนี้ ผม Search เป็น Weeks เพื่อดูความเห็นหลายๆท่าน เพราะผมไม่สามารถไปลองได้) และสมมติซื้อมาแล้วเกิดไม่ชอบ รุ่นนี้น้าก็ขาดทุนไม่มากหรอกครับ เผลอๆเสมอทุนก็เป็นไปได้ครับ
แต่เรื่องสำคัญคือ อย่าได้ไปคาดหวังว่ามันจะเทพสุดๆ จนเผลอไปคิดว่าเสียงมันต้องสู้กีต้าร์ราคาแพงๆ แบบแพงกว่าเป็นเท่าตัวหรือมากกว่า(Veelah แพงสุด ก็ไม่ถึง 2 หมื่น เวลาเทียบก็ควรเทียบกับกีต้าร์ในระดับราคาใกล้กันครับ) ควรคาดหวังแค่มันคุ้มกะตังค์ที่จ่ายหรือเปล่ามากกว่าครับโดยเทียบกับยี่ห้ออื่นๆด้วย
[/quote]
ผมเองคาดหวังตามนี้เลยครับ เลยต้องขอคืนเก็บสะสมตังค์ไว้ไปซื้อรุ่นใหญ่ดีกว่า
-
ยังไงแน่ครับ ผมอยากได้มาก veelah v1-dce แต่เห็นคอมเม้นนี้ชักกลัว กีตาร์ก็ไม่มีให้ลอง ราคาก็ไม่ได้ถูกสำหรับนักศึกษาขอตังแม่ใช้อย่างผม ตกลงดีจริงเปล่าครับน้า
V1-DCE เป็นกีต้าร์ตัวหนึ่งที่ผมมีอยู่ครับ
ผมว่าในราคาประมาณห้าพันกว่าๆ แบบนี้ V1-DCE คุ้มค่าครับ เสียงดีกว่าหลายๆ ตัวด้วยซ้ำไป แต่ถ้าคาดหวังว่าจะเป็นกีต้าร์ระดับเทพ คงไม่ใช่ครับ
สำหรับ V1-DCE เมื่อแรกได้มาแอคชั่นอาจจะสูงอยู่บ้าง ถ้าได้ปรับแอคชั่นให้พอเหมาะแล้ว นับเป็นกีต้าร์ที่น่าเล่นตัวหนึ่งเลย คิดว่าบางท่านที่ไม่ชอบ เหตุผลหนึ่งอาจจะยังไม่ได้ปรับแอคชั่นให้เหมาะสมครับ
ผมเรียนว่าผมไม่ผิดหวังกับการซื้อ V1-DCE มาใช้ แต่ความชอบนี้ก็คงขึ้นอยู่กับแต่ละคนไปนะครับ
-
ของที่ไม่ได้ลองก่อนซื้อ ย่อมมีโอกาสไม่ถูกใจเป็นธรรมดาครับ
เป็นได้ตั้งแต่ว่า เสียงเพราะของคนอื่น ดีของคนอื่น คนละความหมายกับของเรา
ไปจนถึงว่า ตัวที่เราได้มามันเป็นตัวที่แย่กว่าตัวที่คนอื่นเขาใช้กัน
ขอยืมคำของ แลนด์แอนด์เฮาส์ มาดัดแปลงครับ
"กีตาร์ ไม่ได้เห็นไม่ได้เลือก(ลอง) อย่าซื้อ" ครับ
เห็นด้วยครับ
-
ตั้งความหวังไว้สูงมันมากถ้ามันไม่เป็นดังหวังย่อมผิดหวังมากเป็นธรรมดา :(
สำหรับตัวของผมตั้งความหวังไม่สูงมากเพราะมันเป็นกีต้าร์พื้นๆกระจอก กระจอก ขอบไบด้งไบดิ้งอะไรก็ไม่มี โล้นๆ
แต่ชอบที่มันเป็นหัวแบบSlotและลำตัวเป็นOMครับ แค่นั้นจริงๆ
พอเห็นตัวจริงแล้วลองเล่นก็ชอบครับ ตีคอร์ดผมว่าก็ไม่ขี้เหร่นะ ;D มีคนมาขอซื้อต่อแล้วด้วย แต่ผมไม่ขายกะเก็บไว้เป็นสมบัตืให้ลูก ;D ;D
ก็ป้ายมันสวยอ่ะ อิอิ ::)
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah015.jpg)
ส่วนเรื่องActionสูง ก็เป็นอย่างว่าไว้จริงๆ ของผมเปิดกล่องมาเล่นดูสักพักก็จัดการโมทันที ฝนทั้งนัททั้งแซดเดิ้ลจนพอใจ มันเป็นเรื่องธรรมดามากๆครับ
สำหรับผมหวังไม่มากตั้งแต่ต้นได้แค่นี้ก็เกินคุ้มแย้วจ้า ;D ;D
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah016.jpg)
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah002-1.jpg)
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah003-1.jpg)
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah004-1.jpg)
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah005-1.jpg)
(http://i11.photobucket.com/albums/a158/billy_paparazzi/Veelah001-1.jpg)
มันจะไปได้ไกลแค่ไหนเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ รอดูต่อไปครับว่ามันจะทนเหมือนยามาฮ่าอ่ะเปล่า ???
.. ถ่ายภาพสวยมากครับ ..
-
ผมว่า V1-OME ก็เป็นกีต้าร์ที่ใช้ได้นะ เรื่องแอคชั่นเป็นเรื่องที่ต้องทำใจสำหรับวีล่า เพราะก็คงใช้นัทกับแซดเดิ้ลแบบนี้ทั้งหมด สูงทุกตัวว่างั้น
เสียงมันก็เด้งๆหวานๆดี แต่กับ V1-D ผมว่าเสียงมันก้องๆป๊องๆไปหน่อย เกือบจะคล้าย all laminate ละ ไม้บาง เบาหวิว ถ้าถามผมว่ามันคุ้มมั๊ย
คงตอบได้แค่ว่าสมราคา ไม่ได้คุ้มอะไรเท่าไหร่ เพราะถ้าว่ากันตามเนื้องาน งานมันดิบ ค่อนข้างหยาบ ไม่มีไบดิ้ง ถ้างานมันละเอียดกว่านี้ค่อยว่ามันคุ้ม
แต่ที่มันคุ้ม เพราะมันคุ้มเรื่องเสียง ราคา ตลาดมือสองที่รองรับ ไม่เจ็บตัวมากนัก
สรุป สำหรับผม วีล่าเป็นกีต้าร์ที่น่าลอง ไม่เสียหาย ไม่ต้องคิดมาก อย่าหวังสูง แต่ถ้าอยากได้ดีกว่านี้ เก็บตังค์สอยรุ่นสูงขึ้นไปเลย (รวมทั้งยี่ห้ออื่นด้วย)
-
เคยสั่งซื้อแบบไม่ได้ลองครับ 2 วันขายเลยครับ เลยคิดว่าต้องลองก่อนทุกครั้งครับ
-
บอกแล้วววว...ขายต่อผมเต๊อะ...ราคาเท่าที่ซื้อมานะแหละ...55...