0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jonathan Lee เดี๋ยวต้องส่ง mail ไปหาหน่อยแล้ว อยากบอกว่า นายแน่มาก ก่อนนี้ก็ไม่รู้หรอกว่า เขาเป็นใคร ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ ทราบเพียงว่าเข้าไปดู Walden website แล้วให้เครดิตว่าเป็นคนดีไซน์ รู้เท่านั้นจริงๆ และยังคิดว่า โถ กะอีแค่ลอกแบบ Body ของ Taylor ผสมกับหัวของ Bourgeois และโน่นนี่ แค่นี้มาคุยโม้ว่าเป็นคนออกแบบ หลังจากใช้เวลา 3 วันกับเจ้า G630CE ถึงได้เข้าใจ และยอมรับฝีมือตาคนนี้แล้วล่ะที่ได้กีต้าร์ตัวนี้มาก็เพราะ น้องเต้ย Grythm ที่มาบิ๊ว เลยส่งสายลับตรงดิ่งไปที่ร้าน แล้วได้ติดมือมา แต่ต้องอยู่ที่เซฟเฮ้าส์เป็นเดือน เพิ่งมีโอกาสเอามาทดสอบจริงก็นี่ล่ะครับ สิ่งแรกที่เห็นคืองานเนี๊ยบมากๆ ลองดีด อุ้ย ทำไมเสียงมันอั้นๆอย่างนี้ฟะ สู้ Lag ก็ไม่ได้ Lag เสียงเปิดกว่ามาก อย่าเพิ่ง ยังไม่จบ แต่สิ่งหนึ่งที่จับได้คือความคงที่ของเสียง และ Sustain ที่ยาว นิ่ง ไม่แกว่ง เลยทำให้สงสัย เลยจัดการลองเปลี่ยน Saddle เป็นกระดูก (ของที่ติดมาเป็น Fossalite) รู้สึกดีขึ้นไม่มาก เห็นดีขึ้นก็ตอนผ่านแอมป์แค่นั้น ตอนแรกก็คิดว่าช่างมันเหอะ ราคาเท่านี้จะเอาอะไรนักหนา มาดูสายที่ติดมา โอ้โห เก่ามาก เลยคิดว่าลองใส่ Elixir ดูหน่อยดีกว่า น่าจะดีอย่างน้อยก็น่าจะดังขึ้นหน่อยล่ะ พอเปลี่ยนสาย โอ้โหแฮะ หนังคนละม้วนเลย เสียงดีขึ้นมากกกกกก เลยลองเอา Saddle ตัวเดิมใส่ โอ้ พระเจ้า เสียงมันใช่เลยสำหรับผม และที่สำคัญก็คือ Sustain ที่ยาว และความนิ่งของเสียง ลองใช้ ปิ๊ค medium กระหน่ำลงไป ก็ยังนิ่ง ไม่มีแกว่ง Lag ที่ว่าเสียงเปิดจะเด่นเมื่อเล่นเบาๆ ยิ่ง Picking นี่แจ๋ว แต่ กระหน่ำไม่ได้ดีเหมือนเจ้า Walden ครับ ก็คนละแบบ สิ่งที่อยากจะบอกอีตา Jonathan Lee ก็คือ "นายออกแบบได้เจ๋งว่ะ" ใครที่อ่านคงว่าผมเพ้อเจ้อ กีต้าร์แจ๋วๆมีเยอะ ผมก็อยากจะบอกว่าใช่ แต่ไอ้พวกนั้นราคาเท่าไหร่ เจ้า G630CE ของผมค่าตัวมัน เจ็ดพันเจ็ด เท่านั้น มีภาคไฟฟ้าด้วย อ้อ แล้วที่แจ๋วอีกอย่างคือ เสียงเปล่ากับเสียงผ่าน Loudbox mini มันเหมือนกันแทบจะเด๊ะเลยครับ หมายเหตุ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ที่อยากจะเล่าออกมาครับ