ผมใช้ กีต้าร์ Cole Clark อยู่ 2 ตัว ขอแบ่งเป็นแบบนี้...
1) เสียงเปล่า หรือเวลาเล่นแบบไม่ผ่านภาคไฟฟ้า
เนื้อเสียงหนา เบาทุ้มลึกดีพอประมาณ แต่อย่าไปเทียบกับทรง Dreadnought ของ Martin Guitar นะครับ
ของ Martin เค้าทำย่านเสียงต่ำ ได้นุ่มนวลดีกว่า กีต้าร์ปีใหม่ๆ อาจจะไม่เห็นชัด แต่ถ้าได้ลองปีเก่าๆ (10-15ปีขึ้น) จะเห็นชัดมาก
Cole Clark จะดีตรงที มันตอบสนองได้กว้าง หลากหลายสไตล์การเล่น คือ ตีคอร์ด(strumming) และ picking ได้ดีพอกัน ..."แม้ว่าจะเป็นกีต้าร์ทรงเดียวกัน"
น่าจะมาจากรูปทรง และการวาง Bracing ทีใช้วิธีการเซาะเนื้อไม้ ให้เป็นร่องร่อง
อย่างไรก็ตามนะครับ แม้จะเป็น ColeClark รุ่นเดียวกัน แต่เขาก็ทำสเปคไม้ ประกอบ back & Side ที่แตกต่างกัน
เช่น....รุ่น FL2A จะมี
- ไม้ Top เป็น Solid Bunya หรือจะเลือกเป็น solid Spruce (แต่ถ้าจะเล่นให้ได้ซาวดฉีกๆจากกีต้าร์ทั่วไป แนะนำ Bunya ครับ)
- ไม้ Back & Side เป็น Solid Bunya, Qld Maple or blackwood
สำหรับผม ไม้หน้า bunya ให้เสีงใกล้เคียงกับ Spruce มากที่สุด ซึ่งจะให้โน๊ตที่แข็งแรง ไม่นุ่มเท่ากับ Spruce
2) ภาคไฟฟ้า
อันนี้ตัวพระเอกเลย ใครที่อยากเล่นกีต้าร์ ผ่านภาคไฟฟ้า ได้ซาวด์แบบเจ๋งๆ หล่อระดับเทพ
ผมยกให้ Cole Clark เป็นอันดับ 1, ระบบ pickup ของเขาคือ การวางตัวจับสัญญาณเสียงไว้ใต้ soundboard ถึง3 จุด
และอีก 6 จุด วางใกล้กับ saddle คือบริเวณ bridge plate
ดังนั้น เรื่องความไว ความชัด และปัญหา feedback จึงไม่เคยเจอะกับกีต้าร์ Cole Clark
จะสังเกตว่า หลังจาก Cole Clark ออกรูปแบบ pickup แบบ sensor on the Face
ช่วงหลังๆ มานี้ มีกีต้ารหลายๆ ยี่ห้อ ทำ pickup แบบ sensor กันเต็มเลย
เพราะเห็นแล้วว่า มันถ่ายทอดเสียงเดิมๆ ของกีต้าร์ได้ดี การจับสัญญาณเสียง จากการสั่นของบริเวณไม้หน้า(soundboard )
คือ สิ่งที่สมบูรณ์กว่าการวางตัวจับสัญญาณไว้ที่ saddle เพียงอย่างเดียว
ตา Adam Cole และ Brad Clark เนี่ย สุดยอดเรื่องระบบไฟฟ้าจริงๆ
สรุป แม้ว่าจะเอามาเล่นแบบ เสียงเปล่า(ไม่ผ่านปรี) ก็ไม่ต้องกังวลว่า
เสียงจะไปละม้ายกับ Martin 000-16 ที่มี เพราะเสียงคนละทางเลยครับ
จะเล่น strumming แบบ Jack Johnson
หรือจะเล่น finger style แบบ Adam Rafferty ก็ตอบสนองได้หมด สำหรับ Cole Clark