ทรง Grand Auditorium (GA) เป็นทรง original ทรงที่สองของ Taylor ซึ่งมีสัดส่วน body = 20"x16"x4 5/8" ทรงนี้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในรุ่น XX-RS 20th Anniversary Limited Edition ในปี 1994 และใช้คำว่า "GA" เป็นครั้งแรกในรุ่น XXV-GA 25th Anniversary Limited Edition ในปี 1999 ครับ
ลองฟังเสียงของ XXV-GA ที่ออกแบบให้เป็น pure acoustic sound ครับ
ทรง GA นั้นใด้ถูกนำมาใช้ใน regular production line ตั้งแต่ปี 1996 โดยใช้โค้ด xx4 ในตอนนั้นกีตาร์ Taylor ใด้ก้าวขึ้นมาเป็นกีตาร์อันดับหนึ่งของอเมริกาเคียงคู่กับ Martin โดยมีจุดขายตรงหน้าตาที่งดงาม เสียงแหลมที่เป็นประกายและคอที่เล่นง่ายมาก
ในปี 2006 Taylor ก็อยากจะขยายตลาดไปหาคนที่เล่นกีตาร์โปร่งที่ต้องการกีตาร์ตัวเต็ม เสียงที่นุ่มนวลและให้ระดับเสียงที่ดังพอโดยไม่ต้องอาศัยระบบไฟฟ้าซึ่งเป็นตลาดของ Martin หลังจากการลองตลาดด้วยรุ่น Limited Edition (2006) ใด้รับการตอบรับดีเกินคาดก็เลยบรรจุรุ่น GC, GA และ GS เข้าในสายการผลิตปกติตั้งแต่ปี 2007-2012 ครับ
หน้าตาของซีรี่ย์ GC, GA, GS นั้นเรียบง่ายแต่ดูหรูหราเพราะมี neck binding ส่วน pickguard นั้นเขาเอาออกเพราะไม่ใด้ออกแบบมาให้ใช้ปิ้คตีคอร์ด ส่วนรุ่นปกติอย่าง714 นั้นก็เลิกผลิตไป ใครที่ต้องการ cutaway หรือระบบไฟฟ้าก็ไปซื้อพวก 714C, 714E หรือ 714CE ใด้เลยแต่ถ้าต้องการกีตาร์ pure acoustic เอาใว้เล่นที่บ้านก็ต้องซื้อรุ่น GA7 ครับ
ทั้งสามซีรี่ย์เลิกผลิตไปในปี 2013 เพราะน่าจะกำไรน้อยและตอนนั้นเขาต้องการทำตลาดกีตาร์ BTO (Built to Order) มากกว่าครับ
Taylor ไม่เคยเปิดเผยความแตกต่างของโครงสร้างระหว่างซีรี่ย์ GA กับซีรี่ย์ xx4 แต่เสียงนั้นแตกต่างกันแน่นอน มีบางคนบอกว่า GA ใช้ไม้หน้าและไม้หลังบางกว่าแต่ก็ไม่มีใครยืนยันใด้
ผมไม่มี 714 ตัวเต็มเลยต้องเปรียบเทียบเสียงระหว่าง 712 กับ GC8 ที่สเป็คเหมือนกัน (spruce/rosewood, 25.5" scale) แต่เสียงของ GC8 นุ่มกว่าครับ