Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee,
พัฟฟ์ เป็นมังกรวิเศษ ดำเนินชีวิตอยู่กับทะเล
ยิ่งกว่านั้นเล่นสนุกสนานภายในบรรยากาศที่ปกคลุมไปด้วยหมอกควันของฤดูใบไม้ร่วง
ที่ซึ่งดินแดนแห่งนี้ ถูกเรียกว่า โฮนา ลี
Little jackie paper loved that rascal puff,
And brought him strings and sealing wax and other fancy stuff. oh
หนูน้อย แจ็คกี เปเปอร์ รัก เจ้ามังกรเสเพล พัฟฟ์
และนำเชือกมาผูกเข้ากับเจ้าพัฟฟ์พร้อมด้วยของต่างๆตามจินตนาการ.
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee,
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee.
Together they would travel on a boat with billowed sail
Jackie kept a lookout perched on puffs gigantic tail,
พวกเขาออกท่องเที่ยวด้วยกันบนเรือใบที่ใบเรือถูกลมพัดจนโป่ง.
โดย แจ็คกี นั่งประคับประครองตัวอย่างระมัดระวังอยู่บนหางอันใหญ่โตของเจ้าพัฟฟ์
Noble kings and princes would bow wheneer they came,
Pirate ships would lower their flag when puff roared out his name. oh!
ไม่ว่าจะเป็น ราชา และ เจ้าชาย ผู้สูงศักดิ์ ยังต้องให้ความยำเกรง เมื่อพวกเขาผ่านมา,
เรือโจรสลัดยังต้องลดธงลงเมื่อได้ยินเสียงคำรามของพัฟฟ์ที่เปล่งออกมาเป็นชื่อของพัฟฟ์. โอ้
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee,
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee.
A dragon lives forever but not so little boys
Painted wings and giant rings make way for other toys.
ชีวิตของทั้งสองแตกต่างกันมาก มังกร มีชีวิตนิรันด์ แต่เด็กน้อยนั้นไม่ใช่เลย.
เมื่อเด็กน้อยเริ่มเติบโตขึ้น ก็เริ่มที่จะสนใจของเล่นใหม่ๆ
One grey night it happened, jackie paper came no more
And puff that mighty dragon, he ceased his fearless roar.
แล้วในคืนแห่งความเศร้าก็เกิดขึ้น เมื่อ แจ็คกี ไม่มาปรากฎตัวเหมือนดังเคย
มังกรผู้แกร่งกล้า อย่าง พัฟฟ์ ก็เริ่มเปลี่ยนไป.
His head was bent in sorrow, green scales fell like rain,
Puff no longer went to play along the cherry lane.
Without his life-long friend, puff could not be brave,
So puff that mighty dragon sadly slipped into his cave. oh!
พัฟฟ์ งอหัวด้วยความเศร้า เกร็ดสีเขียวร่วงหล่นดังสายฝน
ยิ่งกว่านั้น พัฟฟ์ ไม่ออกไปเล่นในที่ๆเล่นอย่างสนุกสนานอีกต่อไป.
เมื่อปราศจากเพื่อนรัก, มันไม่สามารถที่กลับมาเป็นมังกรที่กล้าหาญอย่างเดิม,
ดังนั้นพัฟฟ์ มังกรที่เคยแกร่งกล้าได้แต่อยู่ในถ้ำอย่างโศกเศร้า.
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee,
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee.
เพลงนี้แต่งขึ้นโดย Leonard Lipton และ Peter Yarrow ในปี 1959
และขับร้องโดยกลุ่มศิลปิน Peter, Paul และ Mary 1963
(โดยมาจากชื่อของคนในวงคือ Peter Yarrow, Noel "Paul" Stookey และ Mary Travers)
Peter พบบทกวีของเพื่อนของเขา-Leonard Lipton ที่พิมพ์ทิ้งไว้ในเครื่องพิมพ์ดีดที่บ้านของ Peter
ต่อมาเมื่อเพลงนี้ประสบความสำเร็จ Peter หาตัว Leonard จนเจอ และแบ่งค่าลิขสิทธิ์จำนวนหนึ่งให้เขา
แรงบันดาลใจในเพลงนี้ากจากบทกวีเรื่อง Custard the Dragon ของ Ogden Nash
เรื่องราวในเพลงก็จะกล่าวถึง มังกรตัวหนึ่งกับเด็กน้อยที่ชื่อแจ็คกี้ เปเปอร์
ทั้งสองเป็นเพื่อนเล่นกันในวัยเด็ก แต่ชีวิตมนุษย์และมังกรนั้นต่างกัน
เมื่อแจ็คกี้โตขึ้น เขาก็หันไปหาของเล่นใหม่ๆ และทอดทิ้งเจ้าพัฟฟ์ มังกรผู้น่าสงสารให้เดียวดาย
เพลงนี้เป็นเพลงเศร้าสำหรับเด็กนะ แต่ว่ามันถูกเคลือบด้วยดนตรีและทำนองที่น่ารัก
ชวนให้ฝันถึง จนกลายเป็นว่าเพลงนี้ กลายเป็นนิทานเรื่องสั้นเรื่องนึง
อีกมุมมองหนึ่งเกี่ยวกับเพลงนี้
เพลงนี้กลายเป็นเพลงชาติของเหล่าฮิปปี้ หรือพวกบุปผาชนในยุคสงครามเวียดนาม
มีผู้สังเกตกล่าวไว้ว่า เพลงนี้เป็นเพลงที่พูดถึงจินตนาการของคนที่สูบกัญชาต่างหาก
(Robert De Niro เองก็เคยกล่าวไว้ในหนังเรื่อง Meet the Parent )
โดย 'Jackie Paper' ก็คือ Rolling Paper (ม้วนบุหรี่กัญชา)
Autumn Mist น่าจะเป็นหมอกควันแห่งกัญชาเช่นกัน
Land of hanah lee เป็นชื่อเมืองๆหนึ่งในฮาวายที่มีชื่อเสียงด้านการปลูกกัญชา
และ Puff ก็แปลว่า สูบ (to smoke)
(เป็นการทำลายความฝัน และจินตนาการของใครหลายๆคนเลยล่ะ)
แต่ Peter ปฏิเสธในเรื่องดังกล่าวและบอกว่าแต่งเพลงนี้เป็นสัญลักษณ์ของการสูญเสียความ innocence ในวัยเยาว์ต่างหาก ไม่เกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด
จนถึงปัจจุบัน เพลงนี้ถูกนำไปร้องและคัฟเวอร์หลายครั้งมาก แม้แต่คนไทยเอง
แต่ที่ดังที่สุดในยุคนี้ ก็คงจะเป็นเวอร์ชั่นที่ Seal นำมาร้องใหม่