ACUS ในรูปของน้าทอม รุ่น 6T (130W) ราคา 33,500฿.Made in Itary ผมเคยไปลองที่ Cin แล้วครับน้าทอม เสียงดีมากออกไปทาง ชัดๆ แหลมๆ คมๆ ส่วนตัวแล้ว ผมชอบเสียงแนว Fishman มากกว่าครับ น้ากฤษณ์ ว่าเสียงของ ACUS แนวคล้ายกับ AER ของน้ากฤษณ์มั้ยครับ ขอบคุณมากครับผม
ACUS เอาไปเทียบกับ AER ไม่ใด้หรอกครับเพราะมันเป็นแอมป์คนละแนวกัน ผมจะเล่าประวัติย่อๆของ acoustic amp ให้ฟังแล้วกันครับ
ยุคแรก 1975-1988.....เป็นยุคที่ acoustic guitar pickup เริ่มเข้ามาแทนที่ไมโครโฟนทำให้มือกีตาร์โปร่งสามารถเดินไปเดินมาบนเวที่ใด้ แอมป์ acoustic ตัวแรกของโลกก็คือ Roland JC-120 ซึ่งความจริงออกแบบมาสำหรับเล่นแจ๊ซแต่กลายเป็นแอมป์ในตำนานที่ผลิตตั้งปี 1975 มาจนถึงทุกวันนี้
JC-120 ใช้ลำโพง 12" สองตัวไม่มี tweeter เสียงเลยออกเป็นแนวแจ๊ซอย่างในคลิปนี้ครับ (A. Yairi DY-88)
ยุคสอง 1989-ปัจจุบัน....เป็นยุคเริ่มต้นของ acoustic amp ที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับกีตาร์โปร่งโดยเฉพาะ ยี่ห้อแรกของโลกก็คือ Trace Elliot ของอังกฤษ (1989) AER ของเยอรมัน (1992) Marshall ของอังกฤษและ Roland ของญี่ปุ่นเป็นต้น
แอมป์ยุคนี้ใช้พาวเวอร์แอมป์ class AB บางยี่ห้อใช้ลำโพงทางเดียวขนาดเล็กเพราะลำโพงเสียงแหลมไม่จำเป็นต้องใช้สำหรับการถ่ายทอดเสียงกีตาร์โปร่ง ข้อดีของแอมป์ยุคนี้คือเสียงเหมือนเสียงเปล่ามากและทนทานสุดๆดังนั้นบางยี่ห้อก็ยังคงเป็นบรรทัดฐานของแอมป์กีตาร์โปร่งในยุคปัจจุบัน
ยุคสาม 2009-ปัจจุบัน.....เป็นยุคของ Class D amplifier ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงมาก ความจริงแล้วในยุค 1990s ก็มีการใช้ class D amp กับ subwoofer บ้างแล้วแต่เพิ่งใด้รับการพัฒนาให้ใช้เป็น audiophile amp ใด้โดยบริษัท B&O ของเดนมาร์คเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง
Efficiency ของแอมป์คือประสิทธิภาพของแอมป์ในการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าไปเป็นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่ขับลำโพง จากกราฟข้างบนจะเห็นใด้ว่าที่กำลังไฟฟ้า 100 W. แอมป์ class A จะมีกำลังขับ 55 W. แต่แอมป์ class D จะมีกำลังขับถึง 85 W. Efficiency ที่สูงขึ้นทำให้แอมป์ร้อนน้อยลงและไม่ต้องใช้ heat sink ขนาดใหญ่ด้วย
ข้อเสียของแอมป์ class D ก็คือมันซ่อมไม่ใด้ครับ (ผมเคยจะส่งไปซ่อมที่อเมริกาเขาก็บอกว่าซ่อมไม่ใด้) ถ้าเสียก็ต้องเปลี่ยนยกชุดเหมือนกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือซึ่งถ้าเก่าแล้วก็ไม่มีให้เปลี่ยนแน่นอน
แอมป์ ACUS ก็เป็นแอมป์ class D ที่ผลิตเป็นแอมป์ OEM ให้กับหลายยี่ห้อ ดังนั้นจึงน่าจะใว้ใจใด้เรื่องความทนทานในระดับหนึ่ง
แอมป์ราคาเกินหนึ่งหมื่นบาทสมัยนี้เสียงดีทุกรุ่น ดังนั้นจะซื้อยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัว ถ้าถามว่ายี่ห้อไหนคุ้มราคาก็ต้องไปเทียบราคาเมืองไทยกับราคาขายที่เมืองนอกอย่างในตารางข้างล่าง ในตารางนี้มีอยู่สองยี่ห้อที่เมืองไทยขายถูกกว่าอังกฤษ (อังกฤษมี VAT 20% แต่ไม่มีภาษีศุลกากร)