การทำแผ่นหลังนูนนั้นมีสองจุดประสงค์คือ
1. ทำให้เสียง project ไปด้านหน้ามากขึ้น ลองดูตัวอย่างในรูปครับ
2. ทำให้ไม้หลังแข็ง (rigid) ขึ้นและไม่สั่นซึ่งทำให้เสียพลังงานโดยใช่เหตุ กีตาร์หลังนูนหรือหลังแบนถ้าโครงสร้างอย่างอื่นเหมือนกันก็ต้องดังเท่ากันแต่กีตาร์หลังนูนจะส่งพลังงานไปในมุมที่แคบกว่าและไม่ส่งกลับมาด้านหลังเพราะไม้หลังแข็งกว่า
ดังนั้นคนเล่นจะไม่รู้สึกว่าเสียงดังกว่าแต่คนฟังจะใด้ยินเสียงชัดเจนกว่าเยอะครับ
วิธีการทำกีตาร์หลังนูนนั้นมีสามวิธี วิธีแรกคือการเอาไม้ชิ้นหนาๆ (ประมาณ 2") มาปาดขึ้นรูป วิธีนี้ใช้กับกีตาร์ archtop ราคาแพงๆเท่านั้นครับ
วิธีที่สองก็คือเอาไม้สามถึงห้าชิ้นมาวางในแนวสลับเกรนกันแล้วอัดขึ้นรูปโดยใช้ความร้อนช่วย วิธีนี้จะใด้ไม่แผ่นโค้งที่แข็งแรกมากจนไม่ต้องมี bracing เพราะมันเป็นโครงสร้างแบบเปลือกไข่ครับ
วิธีนี้นิยมใช้กับกีตาร์โปร่ง flat top เพื่อทำให้เสียง project ดีขึ้น ใช้กันตั้งแต่กีตาร์ตัวเล็กราคาไม่กี่พันบาทจนถึงกีตาร์คลาสสิค Redgate ตัวละห้าแสนกว่าบาท
วิธีสุดท้ายนี่เขาใช้ไม้แผ่นบางมาอัดขึ้นรูปแบบไม่ใช้ความร้อนโดยใช้ bracing เป็นรูปโค้งแทน วิธีนี้ใช้กับกีตาร์ยิปซีแจ้ซอย่าง Selmer มาแปดสิบปีแล้ว กีตาร์สมัยใหม่ที่ใช้วิธีนี้โดยการวาง back braces เป็นรูปตัว X ก็เห็นมี Morris S Series อยู่เจ้าเดียวครับ วิธีนี้ใช้กับ solid back กันเป็นส่วนใหญ่เพราะไม้แท้มันดัดขึ้นรูปไม่ใด้
Gypsy Jazz guitar ใช้สายเบอร์เล็ก (.010-.044") แต่เสียงดังมากครับ
Morris S series เป็นกีตาร์ fingerstyle ที่ใช้ solid archback เพื่อเพิ่ม projection เหมือนกัน
ข้อด้อยของกีตาร์ archback ก็คือมันจะมีเสียงจากไม้หลังมาผสมกับเสียงของไม้หน้าน้อยมาก ถ้าเล่นโน้ตที่ละตัวมันจะให้เสียงที่คมชัดกว่าแต่ถ้าเอามาตีคอร์ดจะมี harmonic น้อยกว่าทำให้เสียงห้วนกว่ากีตาร์หลังแบนครับ