ประวิติครับ
ช่วงเริ่มต้นของศตวรรษที่ 20 กีต้าร์เป็นสิ่งที่ไม่มีคนญี่ปุ่นรู้จัก จนกระทั่งมีนักท่องเที่ยวได้ซื้อกีต้าร์สายเหล็กกลับบ้านมาด้วย เมื่อเซกโกเวียไปแสดงที่ญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1929 กีต้าร์แบบสเปนและเพลงของกีต้าร์คลาสสิคจึงเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยม เมื่อเซกโกเวียกลับมาอีกครั้งในปี 1959 เขาได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่งจากนักกีต้าร์และผู้ที่ชื่นชอบมันเป็นจำนวนมาก
ในช่วงทศวรรษที่ 1960s การทำกีต้าร์จึงเริ่มต้นอย่างเป็นรูปเป็นร่าง Shiro Arai ซึ่งทำโดยใช้ยี่ห้อ Aria ได้เริ่มทำกีต้าร์คุณภาพดีจำนวนมากในรูปแบบโรงงานเป็นคนแรก ตามมาด้วยบริษัทต่างๆ เช่น Yairi, Yamaha, Suzuki, และ Takamine และแล้วยุคแห่งการครองตลาดของสเปนในตลาดกีต้าร์ในระดับราคาถูกก็ได้สิ้นสุดลงตลอดกาล
มาซารุ โคโน่ เกิดที่เมืองมิโตะ ในปี 1926 เขาได้ไต่บันไดสู่จุดสุดยอดของช่างทำกีต้าร์คนหนึ่งของโลกในยุคปัจจุบัน โคโน่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชิบะในปี 1948 และเข้าสู่วงการทำกีต้าร์ในปีเดียวกัน ในหนังสือ "My Fifty Fretting Years" โดย Ivor Mairants ได้บันทึกว่าในปี 1960 โคโน่ได้เรียนรู้การทำคอนเสิร์ตกีต้าร์ระดับสูงจาก Arcangel Fernandez ไว้ว่า
"เขาไปกรุงแมดริด และแนะนำตัวกับ Arcangel Fernandez โดยผ่านเพื่อนที่พูดภาษาสเปนได้ เขาขออนุญาตดูการทำกีต้าร์ของ Arcangel, Arcangel ผู้ที่เป็นคนใจดีและตรงไปตรงมา ก็ไม่คัดข้อง" "โคโน่มักจะพา Arcangel ไปเลี้ยงข้าวเที่ยงหรือข้าวเย็นบ่อยๆ และให้ความสนิทสนมอย่างมาก ซึ่ง Arcangel ก็ตอบแทนน้ำใจ หลังจากที่ไดัสังเกตและบันทึกการทำกีต้าร์อย่างละเอียดทุกๆ วันเป็นเวลาหกเดือน โคโน่ก็ได้เดินทางกลับมาตั้งร้านทำกีต้าร์ของตนเองที่กรุงโตเกียว"
ปัจจุบันโคโน่ได้พัฒนากีต้าร์ในแบบ Torres ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งแตกต่างจากแบบของสเปนที่เขาได้ศึกษามา ในหนังสือ "The Development of the Modern Guitar" ของ Join Huber ได้อธิบายถึงแบบของโคโน่ว่า "มีคอที่เล่นง่ายกว่าสำหรับมือขนาดเล็กและมีกำลังน้อยกว่ามือของเซกโกเวีย, แต่ก็ยังมีเสียงที่เต็มไปด้วยพลัง เสียงแหลมที่ใสชัดและเบสที่สะอาดชัดเจน"
ในปี 1967 โคโน่ชนะเลิศในการแข่งขันทำกีต้าร์ที่ the Concours National de Guitares in Liege, ประเทศเบลเยี่ยม มีผู้เข้าแข่งขันถึง 31 คน มีคณะกรรมการคือ Ingnacio Fleta, Robert Bouchet, Joaquin Rodrigo, และ Alirio Diaz, โดยมี Fleta เป็นประธาน [ผู้แปล - โดยผู้ที่รางวัลที่สองคือ Daneil Friederich สุดยอดช่างทำกีต้าร์ของฝรั่งเศสซึ่งปัจจุบันมีอายุมากแล้ว] ในทศวรรษถัดมากีต้าร์ของโคโน่ก็เป็นที่นิยมและขายได้เป็นจำนวนมากทั่วโลก ในปี 1975 โคโน่ เปิดโรงงานทำกีต้าร์ โดยมี มาซากิ ซากุไร (Masaki Sakurai) หลานชายของเขาเป็นผู้ช่วย [ผู้แปล โดยทั้งหมดมีช่างทำกีต้าร์รวม 5 คน] และได้ผลิตกีต้าร์คุณภาพสูงเป็นจำนวนมากป้อนตลาดโลก โดย โคโน่ เป็นตราที่ใช้กับรุ่นที่แพงกว่า และ ซากุไร ในรุ่นที่ถูกกว่า
สรุปจาก บทสัมภาษณ์โคโน่ โดยแอนเดีย แทคชี่ (Andrea Tacchi) ในเดือนกันยายน 1998
มาซารุ โคโน่ เกิดในปี 1926 ที่เมืองมิโตะ จังหวะอิบารากิ ทางเหนือของกรุงโตเกียวไป 200 กิโลเมตร ในครอบครัวที่ยากจน มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน โคโน่เป็นคนกลาง ในปี 1937 บิดาของโคโน่ได้ย้ายมาใกล้ๆ เมืองนิปอนริชานกรุงโตเกียว โดยเปิดร้านขายข้าวสาร แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนบิดาของโคโน่จึงได้เปลี่ยนอาชีพเป็นช่างไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ในปี 1940 โดยมีน้องชายของโคโน่และโคโน่เป็นผู้ช่วย ต่อมาโคโน่ หัดเล่นกีต้าร์และได้ซ่อมกีต้าร์ตัวแรกของเขาพร้อมกับก๊อปปี้มัน โคโน่ศึกษาการทำกีต้าร์โดยศึกษาจากกีต้าร์ของ Nakade Sakazou ซึ่งเป็นช่างกีต้าร์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของญี่ปุ่น แต่ไม่เคยไปที่เวิร์คช๊อปของนากาเดะ, นอกจากนี้โคโน่ได้ศึกษาวิธีการเล่นกีต้าร์ ตั้งแต่อายุ 23 ปี และบอกว่าเขาไม่เคยหยุดเรียนเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำให้เขาสามารถทดสอบและตัดสินกีต้าร์ที่เขาทำเองได้ เขาไปสเปนเพื่อเข้าเรียนในชั้นเรียนที่ Santiago de Compostela ซึ่งเซกโกเวียเป็นผู้สอน นอกจากนี้เขายังได้ไปที่กรุงเมดริด กรานาด้าและบาร์เซโลน่า เพื่อเยี่ยมชมเวิร์คช็อปของช่างทำกีต้าร์เช่น Fleta เขาไปที่เวิร์คช๊อปของ Arcangel Fernandez บ่อยมากนอกจากเพื่อเรียนรู้แล้วยังได้เป็นเพื่อนที่ดี โคโน่สมรสกับเทรูโกะ และมีลูกสาวคนเดียวคือเคโกะ , โคโน่ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในเดือนธันวาคมปี 1999 รวมอายุได้ 73 ปี
ปัจจุบัน มาซากิ ซากุไร เป็นผู้รับช่วงธุรกิจและหัวหน้าช่างทำกีต้าร์ต่อจากโคโน่ ซากุไร เกิดเมื่อปี 1944 และเข้าสู่วงการทำกีต้าร์เมื่อปี 1967 หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโซเฟีย เขาชนะเลิศในการแข่งขันทำกีต้าร์ระดับนานาชาติครั้งที่ 4 ที่กรุงปารีสในปี 1988 ซึ่งต่อมาเขาได้ทำกีต้าร์ในแบบรุ่นที่ชนะเลิศโดยใช้ชื่อรุ่นว่า P.C. (Paris Competition) อันถือเป็นรุ่นสูงสุดของมาซากิ ซากุไร และจากการสนทนากับมาซากิ ซากุไรโดยผู้แปล - ซากุไรมีลูกชายเพียงคนเดียว แต่ไม่ได้เป็นช่างทำกีต้าร์ ดังนั้น จึงยังไม่มีผู้ใดเป็นผู้รับช่วงการทำกีต้าร์โคโน่ต่อจากซากุไร เขาบอกว่า คงไม่มีใครมารับช่วงต่อจากเขาอีกแล้ว โคโน่กีต้าร์อาจสิ้นสุดในยุคของเขา
--------------------------------------------------------------------------------
แอนเดีย แทคชี่ (Andrea Tacchi) เป็นช่างทำกีต้าร์ชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียงระดับโลกคนหนึ่ง ได้มีโอกาสเรียนกับ Robert Bouchet หลายครั้ง ปัจจุบันกีต้าร์ของเขามีราคากว่า US$10,000
--------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ: ซากุไร-โคโน่ ได้ระบุชัดเจนใน FAQ ว่า สายกีต้าร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Sakurai-Kohno คือ Augustine Regal Blue (High Tension : แต่เป็น High Tension ของฝั่ง USA ซึ่งต่ำกว่า ฝั่งยุโรป) ใน Festival 2004 ซากุไร บอกว่าถ้าหาไม่ได้ก็ให้ใช้ D'Addario EJ46( High Tension) แทนครับ เช่นเดียวกับ Yuichi Imai ก็บอกว่าสายที่ดีที่สุดสำหรับกีต้าร์ของเขาคือ Augustine Regal Red รองลงมาก็คือ D'Addario EJ46 ดังนั้นถ้าหากใครใช้กีต้าร์ยี่ห้อเหล่านี้อยู่แล้วรู้สึกว่าเสียงไม่ดีหรือไม่ออก น่าจะเปลี่ยนสายดูครับ เพราะส่วนใหญ่ผมเห็นเมืองไทยชอบใช้สาย Hannabach หรือ Savarez ซึ่งเป็นแบรนด์ของฝั่งยุโรป อันมีความแรงดึงของสาย (tension) สูงมาก [หาดูได้จากบทความที่ผมเคยรวบรวมข้อมูลมาลง] และจากประสบการณ์จริงของผมเอง มีนักเรียนหนุ่มน้อย (คุณหมอวัยเกษียณจากเยอร์มัน) ใช้ Masaru Kohno Maestro ปี 1997 ครับแล้วใช้สาย Hannabach รุ่น 20/80 Bronze เป็นรุ่นแพงครับ ผมลองเล่นดูก็รู้สึกว่างั้นๆ แล้วไม่ได้ประทับใจอะไร คิดว่ากีต้าร์โคโน่มีแต่ชื่อ ปีต่อมาผมลองให้เขาเปลี่ยนเป็น EJ46 ดู (หลังจากทราบข้อมูลจาก FAQ ในเวปไซท์และคำบอกของ Yuichi Imai) ต้องบอกว่ามันเป็นกีต้าร์ที่วิเศษมากๆ ครับ Deep Dark และ Mystical Bass และเสียง Trebel ก็ดีมากๆ แต่อาจจะขาดความหวานไปนิดหนึ่ง (จึงต้องใช้ Augustine ไงครับ) ถ้าใช้ Bass Augustine น่าจะได้ Silvery Edge และ Complexity เพิ่มจาก EJ46 ด้วยครับ
ทั้งหมดเป็นเครดิต ของ ครูหยิบ ครับ