แต่งเนื้อร้องผมว่า สุดยอดแล้วครับ
ส่วนตัวผมๆว่า มันยากมากกว่า แต่งทำนองหลายเท่าเลย
ทำนองเพลง แค่ ตอนอารมณ์ดีๆ นึกสนุก ฮัมๆ ออกมา ก็ได้ทำนองเพลงแล้ว
หรือ ฟังเพลงมากๆ ก็ จับทำนองมาผสมกันได้
แต่ คำร้องนี่ซิ ที่ต้องมีสัมผัส แล้วยัง ต้องมีเสียงสูงเสียงต่ำอีก
ผมว่า อักขระไทย สมมุติว่า เสียงกลาง เวลาเอาเข้าไปในทำนอง ถ้าร้องเป็นเสียงสูง บางที ผมก็รับไม่ได้
เพลงไทยสมัยนี้ เอาหน้า หล่อ หน้าสวย
หน้าหล่อเสียงไม่ดี ก็ จับมาเทรนมาฝึกเสียงซักแป๊บนึง แล้วก็ แต่ง คีย์ให้ เป็นคีย์เหมือนกับเสียงพูดของนักร้องคนนั้น
นักร้องจะได้ไม่ต้องออกแรงเค้นเสียงมากเสียงก้ไม่เพี้ยน
ทำนองไหนกำลัง ติด เทรน ค่ายเทปแต่ล๊ะค่ายก็เหมือน ก็อปๆกันมา
ทำเพลงก็แสนง่าย เอา คอม มา ทำเป็นจังหวะ
บริษัทเทป ก็ รวยเอารวยเอา
ค่าใช้จ่าย มากจริงไม่เถียง
ผมว่า เพลงไทย หรือ เพลงไหนๆในโลกนี้ จะมีคุณ ค่า ต้องอยู่ที่คนฟังครับ
อันนี้ ตราบใดที่ เด็กวัยรุ่น หรือ ผู้เสพ ยังฟังเพลง ไม่หลากหลาย และ ไม่เปิดโลกกว้าง
เพลงมันก็จะไปตามกระแส
เพราะ ถ้าผมเป็น เจ้าของบริษัทเทป ผมก็ ต้องการเงิน อันไหน ทำ ทำนองออกมาแล้ว ตรงใจวัยรุ่น ก็ เอาทำนองนั้น
เนื้อ ร้อง แบบไหนกำลังดลใจ ก็ เอาแบบนั้น
แต่ถ้า เด็กวัยรุ่นมีการพัฒณา ในการฟัง
ผมก็ยังเชื่ออีกว่า บริษัทเทปมีเงินมหาศาล เขาทำเพลง แบบไหนได้ทั้งนั้น
ผมเชื่อว่า เพลงจะมีคุณค่าก็อยู่ที่คนฟัง ซึ่งคนฟัง มี หลายกลุ่ม มีหลายแนวหลากหลาย
บริษัทเทป สมัยนี้ เจาะทุกกลุ่ม ตั้งแต่ เด็ก ม ยันมหาลัย ยัน คนทำงาน ยัน ชาวไร่ชาวสวน ยัน สาวโรงงาน ยัน มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ยันคนขับรถแท๊กซี่
อัลบั้มชุดนึง บางทีก็มีเพลง หลากแนวจับฉ่ายผสมอยู่ เจาะแยกแต่ล๊ะภาค ของ คนฟัง แยกย่อยออกไปอีก ให้เป็นสำเนียง ภาคนั้นๆ เอาแค่เพื่อ ชวิตนี่ ก้ มี สำเนียงทุกภาคแล้ว
บริษัทเทปอยู่ได้ด้วย คนฟังคนอุดหนุน
จะว่าไปแล้ว คนฟังนี่แหละ ที่บางทีไม่ได้คิดอะไรก็คือเด็กวันรุ่น เงินไม่ได้หาเอง ซื้อ แผ่นซีดี แผ่นนึง ก็ไม่ได้ทำให้ ค่าเช่าหอพักลดลงเพราะอยู่กินกันเป็นผัวเมียกับผัวกับเมีย เงินก็ยังอยู่เท่าเดิม เพราะราคาไม่กี่บาท
ผมว่ามันเหมือนกันทั่วโลก ผมฟังเพลงจากประเทศที่เจริญแล้ว เพลงยุคใหม่ของเขา ผมก็รับไม่ได้ อะไรมันจะแต่งทำนองได้ง่ายปานนั้น
เพลง นี่ไม่ต้องอะไรมาก เอา 3 ช่าเข้าว่า เชี๊ยะบึ้ม จังหวะง่ายๆ กี่ยุดก็ติดตลาดทั้งนั้นเพราะฟังง่าย เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ทางดนตรี
ง่ายๆแต่ ดันดนใจวัยรุ่น และคนหลายฤดูได้อีก
เกิน 90 % ผมว่า บริษัทเทปอยู่ได้ก็ด้วยวัยร่นนี่แหละ ที่อุดหนุน แผ่น ซีดี เขา
ไอ้เรา ก็ เกิน แบบว่า ฉี่เพิ่งเริ่มฉุนแล้ว เป็น คนหลายฤดูแล้ว
เรื่อง แบบนี้ ผมว่า บางที ดนตรีนั้น สำคัญอยู่ที่ใจ และ ช่วงจังหวะของชวิตที่เกิด มาอยู่ยุคไหน
ผมเอาเพลง เก่าๆ ยุค 60-70 ให้น้องที่ออฟฟิตฟัง บางเพลงเขาก็ชอบบางเพลงเขาก็บอกฟังเพลงอะไรไม่เห็นจะเพราะเลย
ผมเล่นกีต้าร์คลาสสิคให้น้องฟังน้อง หัวเราะใหญ่ เล่นเพลงอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง ฮากันทั้งออฟฟิตเลย
พอให้น้องอีกคนเล่นเพลงร้องแล้ว ร้องเพลงให้ฟัง น้องผู้หญิงกลับบอกว่า โอ้โห้ เพราะ มาก น่าจะตั้งวง
ฟังเพลงมามาก เราก็วิเคราห์ออก ว่ายุคสมัยของ คนฟังมันจะเป็นช่วงๆของชวิต ที่จะรับ สิ่งต่างๆแตกต่างกันออกไป
จริงๆถ้าเราไม่ปิดกั้นตัวเองจนมากไป ฟังมันทุกแนวไปเลยแหละดี เอาความสุขใส่ตัว
ผมว่า เพลงมันก็เหมือน นกร้องในป่าใหญ่ ซึ่งเรา ก็ไม่จำเป็นว่า จะต้องไปสนใจว่า นกมัน พูออะไรของมัน
ผมฟังเพลง บางทีเขาแต่งมา สดใสแต่ทำไมเราฟังแล้วกลับเศ้รา
ผมฟังเพลง ยุค 70 เอ้า เนื้อ ร้องและทำนอง มันคึกคัก สดใส เหมือน แรกรัก สดชื่นไปหมด
แต่ทำไมผมฟังเพลงจังหวะ มันส์ๆในเพลงนี้ ผมกลับ หดหู่ คิดถึง ความหลังตอนที่เราอกหัก ตอนที่เราอยู่กับแฟนด้วยกันแล้วฟังเพลงนี้ ซึ่งตอนนั้นสดชื่น
แต่เวลาผ่านมา เราไม่ได้อยู่กับ เธอ มาฟังเพลงนี้ทีไรก็ คิดถึงความหลัง เพลงมันส์ฟังให้เป็นเพลงเศร้าไปได้
ผมว่าดนตรี มันเป็น อะไรที่จินตนาการได้หลากหลาย
บทเพลงผมว่ามันเกิดจากการจินตนาการ
แต่โดยส่วนตัวผมว่า ครูเพลง สมัยก่อน นั้นยอกเยี่ยมมากครับ
แต่ สมัยนี้ ครูเพลงบางคนก็สุดยอดยิ่งกว่าอีกครับ
หากให้ผมวิเคราห์ ถึง ครู เพลง
ผมว่า คำร้อง จะแต่งยาก มากถ้า จังหวะ ไม่สอดคล้อง
เพลง ยิ่ง ช้า ยิ่งต้องระวัง คำที่คล้องจองและ เสียงสูงเสียงต่ำ ถ้า ไม่เข้ากับทำนองเมื่อไหร่ เอาแค่ คำเดียว เพลงนั้น หมดเลย
ผมฟังเพลงของครูเพลง ยุคเก่าๆ ผมฟัง ผมลองเปลี่ยนแค่ คำเดียวในประโยคนั้น ปรากฎว่า ความหมายเปลี่ยนไปแล้ว และ ความสละสะหรวย ก็เปลี่ยนไป
เพลงเร็วๆ ก็ อาจแต่งคำร้อง ง่ายกว่าเพลงช้า ไม่ต้องสนใน คำคล้องจองมาก
ครูเพลงยุคปัจจุบัณ ผมก็ ชื่นชมหลายคนเลย ผมยังแอบคิดว่า ถ้าผมเป็นวัยรุ่นสมัยนี้ เพลงนี้ มันดลใจมากๆ
ผมมีติ เพลงไทย ผมชอบฟังเพลงที่มีการร้องประสานเสียง แต่ ผมเจอไม่กี่อัลบั๊มเอง ที่มีการร้องประสายเสียง
ทั้ง ยุคหินเก่าและในยุคหินใหม่
ในสิ่งที่ผมชอบกลับไม่มี ดังนั้น ผมว่า เราก็เสพไปเรื่อยๆ อันไหน จะจ่ายเงินซื้อ ก็ค่อยตัดสินใจอีกที
จริงๆผมก็ว่าความชอบของคนเราก็เปลี่ยนได้ ให้มันค่อยๆไป ถ้าใจเราเปิดกว้าง
บางทีดู แต่ หนัง บู๊ ออลิวู๊ด ก้ ไม่ได้เรื่อง มีแต่ ภาพกราฟฟิค ทั้งนั้น ภาพก็ไม่เห็นสมจริงเลย
แต่ก่อนดูโรงชอบดู ซาวน์แท๊รก แต่เดี่ยวนี้ ชอบดูเสียงภาพท์ไทยแล้ว เพราะเวลาอ่าน เพราะมัวแต่ไปอ่านตัวหนังสือ เลยไม่ได้ดู สีหน้า ของนักแสดง เลย
มุมมองกลับกันกลับคนอื่น ที่คิดว่ามีการศึกษา ผมกลับกลายเป็น แบบ คนธรรมดา
กลับไปดู หนัง อินเดีย มีร้องมีเต้น สนุกกว่าเป็นไหนๆ
ดูอินเดียมากๆก็เบื่อ มาดูหนังตลก โจซิงฉือ ดีกว่า
หน้งไทยที่แต่ก่อน ผมคิดว่าน้ำเน่า สมัยนี้ ผมก็ดู บางเรื่องที่ผมไปถามคนที่ดูก่อนว่าดีรึเปล่า
ผมไปคลองถม
ผมหันซ้ายหันขวา ดัน ไปคว้า มิยาบิ อกโตๆมาเฉยเลย
แอบถ่ายมาใหม่ พี่ เอาเปล่า
อ๋อ ไอ้ที่มีเด็ก หัวเราะใช่เปล่า
นี่มันก็มาหลอกขายผมอีก มันแค่เปลี่ยนปกใหม่ ผมดูแล้วนี่หว่า
ซ้ำเปลี่ยนได้ พี่
รับประกันภาพชัด
ไปกันใหญ่แล้วครับ
พิมท์ผิดพิมท์ถูก ขอ อภัยด้วน ครับ