ขอตอบยาวตั้งแต่เรื่องแตกลายงา เรื่องการขัดเงาและน้ำยาที่ต้องใช้แบบละเอียดด้วย
สาเหตุของการแตกลายงาการแตกลายงานั้นมีชื่อเป็นทางการหลายชื่อใด้แก่ 1. Weather Checking, 2. Cold checking 3. Spider webbing ซึ่งฝรั่งเขาเชื่อกันว่ามีสาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแบบกระทันหันโดยมีหลักการดังต่อไปนี้
1. ของแข็งทุกชนิดจะขยายตัวเมื่อร้อนและหดตัวเมื่อเย็น สัมประสิทธิ์ของการขยายหรือหดตัวตามอุณหภูมินี้เขาเรียกว่า "Coefficient of thermal expansion" ใน chart ข้างล่างคือสัมประสิทธิ์การขยายตัวของท่อที่ทำจากวัสดุต่างๆ (ในเมืองหนาวอุณหภูมิสูงสุดกับต่ำสุดต่างกันประมาณ 100 องศา F ซึ่งมีผลต่อการเดินท่อส่งน้ำและก๊าซธรรมชาติ)
2. ไม้กับ polyurethane หรือ catalyzed polymer นั้นมีสัมประสิทธิ์การขยายตัวใกล้เคียงกันแต่ nitrocellulose lacquer นั้นขยายตัวน้อยกว่าไม้เยอะ ถ้ากีตาร์ถูกเก็บใว้ในที่เย็นแล้วมาเปิดกล่องในที่อากาศร้อนตัวเคลือบ lacquer ก็ขยายตัวใด้น้อยกว่าไม้จึงเกิดการแตกลายงาขึ้น
อย่าง Fender custom shop เวลาทำ relic เขาก็เอา body ไปใส่ freezer แล้วเอาออกมาเจอความร้อนเพื่อให้เกิดการแตกลายงา
3. การแตกลายงาไม่น่าเกิดใด้ในประเทศไทยที่อากาศมีแต่ร้อนและร้อนมากดังนั้นกีตาร์ใหม่ที่ซื้อในเมืองไทยจึงไม่น่าจะแตกลายงา เรื่องนี้ผมก็เชื่อมาตลอดเพราะกีตาร์ที่แตกลายงานั้นผมก็ซื้อมาจากเมืองหนาวทุกตัว
แต่ผมคิดผิดครับ เมื่อห้าปีที่แล้วผมซื้อเบส Music Man มาจากญี่ปุ่น กีตาร์รุ่นนี้หายากและเสียงดีเพราะใช้ active pickup แต่ตัวนี้ผิวเคลือบ polyurethane มันลอกหลุดไปจุดหนึ่งตามรูป
ตอนที่ใด้มาก็เจอว่าผิวมันพองอยู่หลายจุดก็เลยให้ช่างลอกออก พอลอกหมดก็เจอว่า body เป็น swamp ash ชิ้นเดียวที่สวยมาก คราวนี้ผมก็เลยให้ช่างเคลือบด้วยไนโตรซะเลยจะใด้เสียงดีขึ้น
กีตาร์ตัวนี้นอนอยู่ในกล่องในห้องแอร์มาสี่ปีกว่าโดยผมไม่ใด้เปิดดู วันก่อนเพิ่งเปิดมาดูว่าสายเก่าหรือยังเลยเห็นว่าผิวมันแตกลายงาทั้งตัวเลย
แสดงว่าการแตกลายงานั้นไม่ใด้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเสมอไปแต่สาเหตุคืออะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน (แต่ผมชอบนะครับ)
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อเรื่องอื่นๆครับ