การผลิตกีตาร์โปร่งที่ทนทานนั้นสมัยนี้ทำใด้ดีขึ้นเพราะมีเครื่อง CNC machines ที่ทำงานใด้แม่นยำกว่าและรวดเร็วกว่าคนแบบเทียบกันไม่ใด้ โรงงาน Takamine ก็ใช้เครื่อง CNC เป็นเจ้าแรกๆมาตั้งแต่ปี 1993 ลองมาดูบางขั้นตอนที่เขาใช้ CNC กันครับ
1. เครื่องขัดทำ radius เครื่องนี้ขัดไม้ข้างตามแนวโค้งของไม้หน้าและไม้หลัง Takamine ตามที่ผู้ออกแบบกำหนดซึ่งน่าจะเป็นประมาณ 12 เมตรสำหรับไม้หน้าและ 8.5 เมตรสำหรับไม้หลัง
2. เครื่องฝน radius มุมองศาและความหนาของ fretboard โดยการใช้แสงเลเซอร์วัดระยะอย่างละเอียด กีตาร์ Takamine สายเหล็กใช้ fretboard radius = 16" ทุกรุ่นครับ การใช้ CNC นี้ทำให้กีตาร์ Takamine Japan มีองศาคอเป๊ะมากจนเขาไม่ต้องขัน truss rod มาจากโรงงานเลย ใครที่ใด้กีตาร์ใหม่มาอาจตกใจเล็กน้อยถ้าลองขันคอเพราะมันจะหมุนฟรีเป็นรอบเลยกว่าจะเริ่มทำงาน
รูปแรกเป็นการวัดระยะด้วยเลเซอร์สีแดง
รูปสองเป็นการทั้งแบบหยาบและละเอียดโดยเครื่อง CNC
3. การตัด inlay นั้นทำด้วยเครื่อง CNC ล้วนๆทั้งในการผลิตชิ้นส่วนและการเจาะหลุมสำหรับฝัง inlay ซึ่งทำให้ประหยัดเวลาไปใด้เยอะมาก
เครื่องทำ inlay จากวัสดุธรรมชาติ
เครื่องเจาะหลุมฝัง inlay บน fretboard และไม้หน้า
4. การทำ dove tail joint และการเจาะช่องใส่ปรีแอมป์ก็เป็นระบบคอมควบคุมล้วนๆครับ
5. การทำ final setup ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายในไลน์การผลิตก็ใช้ระบบ Plek ของเยอรมันมาตั้งแต่ปี 2011 แล้วครับ
เครื่อง Plek นี่สามารถทำงานใด้รวดเร็วและแม่นยำกว่าตาคนหลายสิบเท่าครับ
6. ข้อสุดท้ายนี่เป็นขั้นตอนที่ทำให้กีตาร์ Takamine Japan ทนทายาดและเพิ่งมีการเปิดเผยโดยนาย Tom Watters เป็นครั้งแรกในคลิปชมโรงงานนาทีที่ 20.25
Tom เขาบอกว่ากีตาร์ Takamine ไม่ต้องทำ neck reset เพราะคอจะไม่ยกตลอดชีวิตการใช้งาน ความลับของเขาก็คือการฝัง dowel ไม้ maple สองชิ้นเพื่อเสริมความแข็งแกร่งตรงรอยต่อระหว่างคอกับบอดี้จนแข็งแรงเหมือนเป็นโครงสร้างเดียวกันอย่างในรูปครับ
ผมดูคลิปแล้วก็ยังข้องใจว่ามันเป็นไปใด้หรือเพราะไม่เคยเห็นกีตาร์อเมริกันทำ พอเอากีตาร์มาส่องดูด้วยกระจกเลยเห็นว่าด้านล่างของไม้หน้าใต้ fretboard เขาเสริมด้วยบล้อคไม้ mahogany และตัว dowel bar เองก็เจาะผังอยู่กับ tranverse brace ที่มีขนาดใหญ่โตมากด้วย
แบบนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ เดี๋ยวมาต่อเรื่องงานฝีมือ