ก่อนจะทำรีลิค ลองเปิดพจนานุกรมดูก่อนครับ
RELICS = กาก ซาก เดน ศพ หรือวัตถุโบราณที่ล้าสมัย ถ้าเป็น "relic" สำหรับกีตาร์ไฟฟ้านั้นเป็นศัพท์เฉพาะของกีตาร์ Fender Custom Shop ที่ใช้กับรุ่น Time Machine Series ที่ทำกีตาร์ใหม่ให้เหมือนกีตาร์เก่าโดยแบ่งออกเป็นสามระดับคือ New Old Stock (NOS), Closet Classic และ Relic ตั้งแต่ปี 1995 (ปัจจุบันเขายังแบ่ง relic ออกเป็นสามระดับใด้แก่ Journeyman Relic, Relic และ Heavy Relic)
หัวใจของการทำรีลิคนั้นคือการทำให้แลกเกอร์แตกลายงา (lacquer checking) ซึ่งในธรรมชาติเกิดจากการหดตัวของ nitrocellulose lacquer ที่พ่นบางเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ การหดตัวนี้เกิดจากการระเหยซึ่งทำให้ผิวเคลือบแข็งขึ้นและเสียงของกีตาร์เปิดมากขึ้น ในเกรด relic นั้นจะเห็นใด้ชัดเจนมากอย่างในตัวอย่างด้านล่าง
สำหรับกีตาร์โปร่งนั้นการแตกลายงาตามอายุขัยเกิดมากสุดกับกีตาร์ Gibson เพราะเขาพ่นไนโตรมาบางมาก อย่าง J-45 ตัวนี้ที่แตกลายงาทั้งตัวเป็นต้น
Huss & Dalton เคยลองทำรีลิคกีตาร์โปร่งและเอามาโชว์ในงาน Winter NAMM 2010 แต่ไม่ทราบว่าขายใด้กี่ตัว
กีตาร์ Takamine นั้นไม่มีวันแตกลายงาเพราะเขาเคลือบด้วย polyurethane ที่ทำใด้ก็คือขัดผิวให้บางลงซึ่งถ้าเป็น Taka รุ่นก่อนปี 2005 รับรองว่าเสียงเปิดขึ้นแน่นอนเพราะเขาเคลือบจากโรงงานมาหนามากเพื่อความทนทาน การทำรีลิคแบบขัดผิวนี่เจ้าแรกที่ทำคือ K. Yairi ตั้งแต่ปี 1989 (เขาเรียก distressed finish) ซึ่งหน้าตาจะออกมาแบบนี้ครับ
K. Yairi เขาทำรีลิคด้วยการใช้แปรงลวดขัดแต่วิธีนี้ใช้ใด้กับไม้ cedar เท่านั้น (ไม้ spruce ไม่มีเสี้ยน)