Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: สนใจ guitar ตัวเล็กแบบ yamaha guitalele gl-1 ครับ แต่ติดตรงที่้การตั้งสายครับ  (อ่าน 11017 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

bank09

  • member
  • ***
  • กระทู้: 8
สวัสดีครับ ผมสนใจกีต้าร์ตัวเล็กอ่ะครับ ตอนนี้ มี Crafter trv23  ซึ่งก็เป็นกีต้าร์ตัวเล็กอ่ะครับ

แต่ตอนนี้สนใจตัวที่เล็กกว่า Crafter trv23 ครับ  เลยมอง  guitalele gl-1  แต่ติดที่มันจูนเสียงไม่เหมือนกีตาร์ทั่วไปครับ

ตอนแรกเล็ง yamaha jr2 ไว้ครับ เพราะเห็นมันตังสายแบบปกติได้
แต่ดูแล้วขนาดมันพอ ๆ กับ crafter ที่ผมมีอยู่แล้วครับ

แล้ว GL-1 พอจะมีทางให้ตั้งสายแบบ E A D G B e แล้วเล่นได้ปกติมั้ยครับ  
หรือ มี guitar ที่เล็กกว่า  Crafter trv23 ที่ตั้งเสียงเหมือน guitar ปกติ พอจะแนะนำบ้างมั้ยครับ


ขอบคุณครับ

guitar fat

  • member
  • ***
  • กระทู้: 41
สามารถ ตั้งแบบ สแตนดาร์ด ได้ครับ แต่สายมันจะหย่อนมากกว่าเดิมหน่อย แต่ก็สามารถเล่นได้ตามปกติครับผม
สะใจจริงกรู กรูโดนหลอก

totti_wt

  • member
  • ***
  • กระทู้: 258
  • ^_^

แล้ว GL-1 พอจะมีทางให้ตั้งสายแบบ E A D G B e แล้วเล่นได้ปกติมั้ยครับ 
หรือ มี guitar ที่เล็กกว่า  Crafter trv23 ที่ตั้งเสียงเหมือน guitar ปกติ พอจะแนะนำบ้างมั้ยครับ


ตั้งแบบปกติได้ครับ.. แต่เสียงที่ได้จะชอบหรือไม่.. ก็แล้วแต่บุคคลครับ.. ^_^
ลองดูกระทู้นี้ >>>  http://www.acousticthai.net/webboard/index.php?topic=13378.0
มีน้าท่านนึงเคยถามไว้เช่นกันครับ.. ^_^

ชอบตัวเล็กๆ ลองดู G sharp Guitar ด้านล่างครับ
http://www.g-sharpguitar.com/?catid=1412
แต่ตั้งสายเหมือนปกติหรือไม่อย่างไร ลองศึกษาดูครับ... ^_^

jomarnjamorn

  • member
  • ***
  • กระทู้: 551
  • เพศ: ชาย
แนะนำซื้อเป็น taylor baby  หรือ veelah baby ดีกว่าครับ  เล่นง่ายดี น้ำหนักเบา  พกพาง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องกาตั้งสาย
S.Yairi
K.Yairi
Dove

bank09

  • member
  • ***
  • กระทู้: 8

แล้ว GL-1 พอจะมีทางให้ตั้งสายแบบ E A D G B e แล้วเล่นได้ปกติมั้ยครับ  
หรือ มี guitar ที่เล็กกว่า  Crafter trv23 ที่ตั้งเสียงเหมือน guitar ปกติ พอจะแนะนำบ้างมั้ยครับ


ตั้งแบบปกติได้ครับ.. แต่เสียงที่ได้จะชอบหรือไม่.. ก็แล้วแต่บุคคลครับ.. ^_^
ลองดูกระทู้นี้ >>>  http://www.acousticthai.net/webboard/index.php?topic=13378.0
มีน้าท่านนึงเคยถามไว้เช่นกันครับ.. ^_^

ชอบตัวเล็กๆ ลองดู G sharp Guitar ด้านล่างครับ
http://www.g-sharpguitar.com/?catid=1412
แต่ตั้งสายเหมือนปกติหรือไม่อย่างไร ลองศึกษาดูครับ... ^_^


ถ้าซื้อมาแล้ว เวลาเล่นต้องทดคอร์ด ไม่รู้จะรอดรึป่าวครับ
g sharp คงไม่ไหวอ่ะครับ เกินงบอ่ะครับ

ตัวนี้ มีใครเคยลองมั้ยครับ ว่าเป็นไงบ้าง  http://www.firstactdiscovery.com/products/guitars/guitarsacoustic/acoustic-guitar/
ขอบคุณมากนะครับ

bank09

  • member
  • ***
  • กระทู้: 8
แนะนำซื้อเป็น taylor baby  หรือ veelah baby ดีกว่าครับ  เล่นง่ายดี น้ำหนักเบา  พกพาง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องกาตั้งสาย

ขอบคุณครับ แต่ดูแล้วมัน พอ ๆ กับ crafter ที่มีอยู่แล้วเลยครับ
สงสัย คงต้องเอา gl-1 ซะแล้ว

แต่กลัวแล้ว เล่น งง จังเลย หุหุ

sontaya

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,653
  • เพศ: ชาย
    • Thai Fingerstyle Guitar Lover
ก็เล่น GL-1 ก็ได้ครับ ถ้าเล่นฟิงเกอร์สไตล์ ไม่ต้องสนใจเลยตั้งสายตามเค้าแหละครับ แล้วเล่นไปตาม TAB ปกติ แค่เสียงมันจะต่างกัน 5 ตัวโน๊ต ไม่มีปัญหาอะไรครับ แต่ถ้าจะมาเล่นตีคอร์ดตามหนังสือเพลง หรือเล่นกับเพลงร้องก็อาจจะต้องแปลงคอร์ดนิดหน่อยครับ แต่ถ้าร้องคลอได้ก็ไม่ต้องเปลี่ยน จริง ๆ ตั้งสายให้สุงเท่ากับเสียงกีตาร์ปกติก็น่าจะได้ แต่ด้วยสเกลที่สั้นอาจจะทำให้สายตึงมากเกินไป แต่ไม่น่าขาดเพราะ มันใช้สายกีตาร์คลาสิก ที่ออกแบบมารับแรงดึงที่การตั้งสายแบบมาตรฐานอยู่แล้ว

ถ้าอยากลองดูก็ได้ครับ ลองเลือกซื้อสายคลาสสิกแบบ light tension หรือแรงดึงต่ำมาลองดูได้ครับ


ปล. ถ้าจะตั้งสายให้ตามมาตรฐาน ต้องตั้งสายให้เสียงสูงขึ้นทุกสาย เช่นสาย 6 จาก A->B->C->D->E ซึ่งแรงดึงจะสูงขึ้น อาจจะเลือกใช้สายแบบ light tension มาช่วยลดแรงดึง ส่วนแรงดึงที่สูงขึ้นจะกระทบกับกีตาร์หรือไม่ ผมคิดว่าอาจจะมีบ้างแต่น้อยมาก เพราะสายเอ็นแรงดึงมันต่ำกว่าสายเหล็กมากครับ

หรือจะเลือกหย่อนสายลง เช่นที่สาย 6 จาก A->G->F->E สายจะหย่อนลงมาก กรณีผมว่าถึงจะใช้สายแบบ hard tension สายก็น่าจะหย่อนเกินไป แต่ก็ลองดูได้ครับ

สายกีตาร์คลาสสิก โดยทั่วไปจะมี light normal และ hard rension ซึ่งขึ้นกับขนาดของสายนั่นเองครับ ลองดูจากสายของ D Addario ครับ http://www.daddario.com/DADProductFamily.Page?ActiveID=3768&familyid=26

bank09

  • member
  • ***
  • กระทู้: 8
ขอ
ก็เล่น GL-1 ก็ได้ครับ ถ้าเล่นฟิงเกอร์สไตล์ ไม่ต้องสนใจเลยตั้งสายตามเค้าแหละครับ แล้วเล่นไปตาม TAB ปกติ แค่เสียงมันจะต่างกัน 5 ตัวโน๊ต ไม่มีปัญหาอะไรครับ แต่ถ้าจะมาเล่นตีคอร์ดตามหนังสือเพลง หรือเล่นกับเพลงร้องก็อาจจะต้องแปลงคอร์ดนิดหน่อยครับ แต่ถ้าร้องคลอได้ก็ไม่ต้องเปลี่ยน จริง ๆ ตั้งสายให้สุงเท่ากับเสียงกีตาร์ปกติก็น่าจะได้ แต่ด้วยสเกลที่สั้นอาจจะทำให้สายตึงมากเกินไป แต่ไม่น่าขาดเพราะ มันใช้สายกีตาร์คลาสิก ที่ออกแบบมารับแรงดึงที่การตั้งสายแบบมาตรฐานอยู่แล้ว

ถ้าอยากลองดูก็ได้ครับ ลองเลือกซื้อสายคลาสสิกแบบ light tension หรือแรงดึงต่ำมาลองดูได้ครับ


ปล. ถ้าจะตั้งสายให้ตามมาตรฐาน ต้องตั้งสายให้เสียงสูงขึ้นทุกสาย เช่นสาย 6 จาก A->B->C->D->E ซึ่งแรงดึงจะสูงขึ้น อาจจะเลือกใช้สายแบบ light tension มาช่วยลดแรงดึง ส่วนแรงดึงที่สูงขึ้นจะกระทบกับกีตาร์หรือไม่ ผมคิดว่าอาจจะมีบ้างแต่น้อยมาก เพราะสายเอ็นแรงดึงมันต่ำกว่าสายเหล็กมากครับ

หรือจะเลือกหย่อนสายลง เช่นที่สาย 6 จาก A->G->F->E สายจะหย่อนลงมาก กรณีผมว่าถึงจะใช้สายแบบ hard tension สายก็น่าจะหย่อนเกินไป แต่ก็ลองดูได้ครับ

สายกีตาร์คลาสสิก โดยทั่วไปจะมี light normal และ hard rension ซึ่งขึ้นกับขนาดของสายนั่นเองครับ ลองดูจากสายของ D Addario ครับ http://www.daddario.com/DADProductFamily.Page?ActiveID=3768&familyid=26[/urlบค
ก็เล่น GL-1 ก็ได้ครับ ถ้าเล่นฟิงเกอร์สไตล์ ไม่ต้องสนใจเลยตั้งสายตามเค้าแหละครับ แล้วเล่นไปตาม TAB ปกติ แค่เสียงมันจะต่างกัน 5 ตัวโน๊ต ไม่มีปัญหาอะไรครับ แต่ถ้าจะมาเล่นตีคอร์ดตามหนังสือเพลง หรือเล่นกับเพลงร้องก็อาจจะต้องแปลงคอร์ดนิดหน่อยครับ แต่ถ้าร้องคลอได้ก็ไม่ต้องเปลี่ยน จริง ๆ ตั้งสายให้สุงเท่ากับเสียงกีตาร์ปกติก็น่าจะได้ แต่ด้วยสเกลที่สั้นอาจจะทำให้สายตึงมากเกินไป แต่ไม่น่าขาดเพราะ มันใช้สายกีตาร์คลาสิก ที่ออกแบบมารับแรงดึงที่การตั้งสายแบบมาตรฐานอยู่แล้ว

ถ้าอยากลองดูก็ได้ครับ ลองเลือกซื้อสายคลาสสิกแบบ light tension หรือแรงดึงต่ำมาลองดูได้ครับ


ปล. ถ้าจะตั้งสายให้ตามมาตรฐาน ต้องตั้งสายให้เสียงสูงขึ้นทุกสาย เช่นสาย 6 จาก A->B->C->D->E ซึ่งแรงดึงจะสูงขึ้น อาจจะเลือกใช้สายแบบ light tension มาช่วยลดแรงดึง ส่วนแรงดึงที่สูงขึ้นจะกระทบกับกีตาร์หรือไม่ ผมคิดว่าอาจจะมีบ้างแต่น้อยมาก เพราะสายเอ็นแรงดึงมันต่ำกว่าสายเหล็กมากครับ

หรือจะเลือกหย่อนสายลง เช่นที่สาย 6 จาก A->G->F->E สายจะหย่อนลงมาก กรณีผมว่าถึงจะใช้สายแบบ hard tension สายก็น่าจะหย่อนเกินไป แต่ก็ลองดูได้ครับ

สายกีตาร์คลาสสิก โดยทั่วไปจะมี light normal และ hard rension ซึ่งขึ้นกับขนาดของสายนั่นเองครับ ลองดูจากสายของ D Addario ครับ [url=http://www.daddario.com/DADProductFamily.Page?ActiveID=3768&familyid=26]http://www.daddario.com/DADProductFamily.Page?ActiveID=3768&familyid=26[/url]
]



ขอคุณมากนะครับ  สรุป ไปโดน GL-1 มาแล้วครับ 


 กำลังงงกับการเล่นแบบทดคอร์ดอยู่เลยครับ

แต่มันเล่นสนุกดีนะครับ 

Sgt Pepper

  • member
  • ***
  • กระทู้: 417
  • เพศ: ชาย
  • เล่นมาสิบปี ตีอยู่สี่คอร์ด!
ลองหาเรื่อง C A G E D system มาศึกษาครับช่วยเรื่องทดคอร์ดไปได้เยอะเลย
อธิบายคร่าวๆก็ประมาณว่า  รูปแบบการจับคอร์ดทั่วไปมันก็มีแค่ 5 แบบ
คือแบบคอร์ดเปิด  C, A, G, E และ D  
ถ้าเราเลื่อนการจับแบบคอร์ดเปิดขึ้นมาตามคอ(จับแบบเดิมแต่เอานิ้วชี้ทาบแทน Frett 0)
ก็จะเปลี่ยนคอร์ดไปเรื่อยๆทีละครึ่งเสียง

หรือถ้าเราจะเล่นคอร์เดิม  แต่เปลี่ยนตำแหน่ง ก็เปลี่ยนรูปแบบการจับตามลำดับฟอร์มของคอร์ดเปิด C A G E D
เช่นจับคอร์ดเปิด C  แล้วจะเปลี่ยนตำแหน่ง  ก็มาจับแบบคอร์ด A  แต่เลื่อนลงมา 3 เฟรต
หรือจับแบบคอร์ด G  แต่เลื่อนลงมา 5 เฟรต
หรือจับแบบคอร์ E  แต่เลื่อนลงมา  8 เฟรต

คอร์อื่นๆก็วนตามลำดับเดิมแต่เปลี่ยนตัวขึ้นต้นเท่านั้นเองครับ
พอจะมาเล่นกับกีต้าร์เลเล  ก็จำไว้ว่ามันเหมือนเล่นกีต้าร์แต่เลื่อนขึ้นมา 5 เฟรต
จับคอร์ด C บนกีต้าร์เลเล  ก็เลยต้องจับแบบคอร์ด G ในกีต้าร์ปกติ
แรกๆก็ยุ่งหน่อย  บ่อยๆก็ลื่นเองครับ  แถมเอาแนวคิดนี้ไปใช้กับอูคูเลเลได้ด้วย
แค่ตัดสาย 5, 6 ออกอย่างอื่นเหมือนเดิมครับ

bank09

  • member
  • ***
  • กระทู้: 8
ลองหาเรื่อง C A G E D system มาศึกษาครับช่วยเรื่องทดคอร์ดไปได้เยอะเลย
อธิบายคร่าวๆก็ประมาณว่า  รูปแบบการจับคอร์ดทั่วไปมันก็มีแค่ 5 แบบ
คือแบบคอร์ดเปิด  C, A, G, E และ D 
ถ้าเราเลื่อนการจับแบบคอร์ดเปิดขึ้นมาตามคอ(จับแบบเดิมแต่เอานิ้วชี้ทาบแทน Frett 0)
ก็จะเปลี่ยนคอร์ดไปเรื่อยๆทีละครึ่งเสียง

หรือถ้าเราจะเล่นคอร์เดิม  แต่เปลี่ยนตำแหน่ง ก็เปลี่ยนรูปแบบการจับตามลำดับฟอร์มของคอร์ดเปิด C A G E D
เช่นจับคอร์ดเปิด C  แล้วจะเปลี่ยนตำแหน่ง  ก็มาจับแบบคอร์ด A  แต่เลื่อนลงมา 3 เฟรต
หรือจับแบบคอร์ด G  แต่เลื่อนลงมา 5 เฟรต
หรือจับแบบคอร์ E  แต่เลื่อนลงมา  8 เฟรต

คอร์อื่นๆก็วนตามลำดับเดิมแต่เปลี่ยนตัวขึ้นต้นเท่านั้นเองครับ
พอจะมาเล่นกับกีต้าร์เลเล  ก็จำไว้ว่ามันเหมือนเล่นกีต้าร์แต่เลื่อนขึ้นมา 5 เฟรต
จับคอร์ด C บนกีต้าร์เลเล  ก็เลยต้องจับแบบคอร์ด G ในกีต้าร์ปกติ
แรกๆก็ยุ่งหน่อย  บ่อยๆก็ลื่นเองครับ  แถมเอาแนวคิดนี้ไปใช้กับอูคูเลเลได้ด้วย
แค่ตัดสาย 5, 6 ออกอย่างอื่นเหมือนเดิมครับ

 ขอบคุณมากนะครับ  ไว้ผมจะลองศึกษาดูนะครับ