หัวข้อ: Furch กับ Blueridge

[jazzinblue]

- ถ้ามีงบประมาณ 50000 +- น้าๆ จะเลือกยี่ห้ออะไรระหว่าง 2 ยี่ห้อนี้ครับ
- Furch ถ้าต้องเล่นทรง D เสียงเป็นไงบ้างครับ
- เพิ่มเติม Furch om กับ Blueridge om เทียบกันเป็นไงบ้างครับ

[melody22]

ผมก็สนใจ Furch ทรง d อยู่เหมือนกัน เพราะทางตัวแทนจำหน่ายก็ไม่มีของให้ลองก่อน แล้วส่วนใหญ่ ใช้ om กับทรง g กันเยอะ

[pomguitar]

Furch ยังสู้ Blueridge ไม่ได้ครับ ยังห่างพอสมควรครับ

งบนี้ผมเล่น Blueridge รุ่น BR-180A เป็น all solid  รุ่นนี้เป็น ทรง D อีกตัว ที่เสียงดีมาก

Blueridge BR-180A Review from Acoustic Guitar

[melody22]

คือถ้า Furch นี่ ทรง d สู้ทรงอื่นๆ ในแบรด์ตัวเอง อย่าง g om ไม่ได้หรอครับ

[Seraph]

อยากทราบเป็นวิทยาทานว่าทำไม Furch (Made in Czech) ถึงสู้ Blueridge (Made in China) ไม่ได้เหรอครับ ทั้งๆที่ List price ของรุ่นต่ำที่สุดใน Line ปกติของยี่ห้อ Furch ที่เป็น All Solid (20 Series - Solid Cedar top, Solid Mahogany Back & Sides) อยู่ที่ $1,699 (อ้างอิง http://www.guitarsplususa.com/stonebridge.shtml ปล. ยี่ห้อตามลิ้งค์เป็น Stonebridge ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าในประเทศสหรัฐอเมริกาของ Furch) ส่วน List price ของรุ่นต่ำที่สุดใน Line ปกติของยี่ห้อ Blueridge ที่เป็น All Solid (BR-14x Series - Solid Spruce top, Solid Mahogany Back & Sides) อยู่ที่เพียง $850 เท่านั้น (อ้างอิง http://www.sagamusic.com/search.aspx?QueryExpr=BR-140) ซึ่งแตกต่างกันถึง 2 เท่าตัว

[guitar hunter]

ผมว่าแล้วแต่สไตล์ ที่เราเล่นคร้าบ ส่วนตัวชอบ furch มากกว่า

[ieaw]

แล้วแต่สไตล์จริงๆ ครับ กีตาร์ดีทั้งคู่ (ผมมีทั้ง 2 ยี่ห้อ Furch G23CRCT และ Blueridge BR163A)  ถ้าชอบ finger style เสียงแนวโมเดิร์นกรุ๊งกริ๊ง ทรง G หรือ S ของ Furch จะเด่นมากๆ ครับ ซึ่งถ้าลองไป search ดูจะเห็นว่าคนใช้ G23CR กันเยอะเป็นรุ่นนิยมของเค้าเพราะไม้หน้าเป็น Cedar เพลงแนว Masaaki หรือแนวดีดตบศิลปินยุโรปจะใช้เยอะ  ส่วน OM ถ้าชอบเสียงแบบวินเทจจริงๆ OM ของ Furch อาจจะให้โทนที่ไม่วินเทจจ๋าอย่าง Blueridge ซึ่งพยายามทำออกไปทางมาติน แต่ Furch จะให้เสียง OM ที่สว่างกว่าครับ ซึ่งสำหรับผมแล้ว OM ตอนนี้ Blueridge ก็พอใจมากแล้วครับ (แต่พยายามไปลอง OM34sr บ่อยๆ จนอยากได้เหมือนกัน) ส่วน Dreadnought  ของ Furch ไม่เคยลองแต่เคยอ่านเวบเมืองนอกก็ได้รับคำชมที่ดีมากๆ (ถึงขั้นที่ว่าเสียงดีพอจะเทียบกับมาตินได้ครับ)

ยังไงแล้วถ้าจะเล่น OM ต้องไปลองดูก่อนน่ะครับแต่ละคนชอบโทนชอบเสียงไม่เหมือนกัน แต่ในงบที่ตั้งไว้ถ้าเอาสเปคไม้ที่ได้ Blueridge จะได้ถึง Adirondrack เลยครับซึ่งอาจจะคุ้มตังค์กว่าครับ

[poopoo@]

งบนี้ต้องไปลองครับBlueridge br183A รับลองไม่ผิดหวังแน่ ลองดูงานครับ

[PichPo]

เรื่องเสียงแล้วแต่คนชอบจริงๆ
แต่เรื่องความพิถีพิถันการออกแบบการคัดไม้และงานประกอบ
ผมว่าFurchเนียนทุกตัวครับ เสียงก็มาตรฐานใกล้เคียงกันทุกตัว
แต่ต้องเอาราคามาวัดด้วยครับ เพราะราคาก็สูงกว่าพอสมควร

ปล.Blueridgeก็เสียงดีแต่รักFurchเป็นการส่วนตัว

[sonic]

นอกจากการดูสเปคแล้ว ที่สำคัญคือ ฝีมือ ทักษะ ความสามารถในการทำกีตาร์ ครับ
สเปคไม่ใช่คำตอบเดียวที่บอกว่า อันไหนดีไม่ดี

สำหรับ 2 ยี่ห้อนี้ ผมให้คะแนน Blueridge ที่เหนือกว่าทั้งงาน และคุณภาพของเสียงที่เหนือกว่า
โดยเฉพาะ Blueridge รุ่นสูงๆ ราคาประมาณ 30,000up ยอมรับเลยว่า ทำได้ดีมาก

FURCH ยังเทียบไม่ได้กับ Blueridge ครับ
เทียบได้แค่ Crafter ในรุ่นสูงๆ เช่น Crafter GLXE ต่างๆ เช่น
CRAFTER GLXE-1500 RS หรือ CRAFTER รุ่น TMC-045/N , CRAFTER GLXE-3000/OV

ถ้าจะเทียบ ต้องเทียบระหว่าง Blueridge กับ Eastman ครับ
แต่ Blueridge งานดีกว่า Eastman (คุณภาพเสียงเทียบกันได้)

ถ้าชอบ Blueridge ทรง D ส่วนตัวผมแนะนำ BR180A ครับ

[aek_of]

   จากที่เคยเล่นทั้งสองตัว (ของคนอื่นซึ่งเป็น Furch ทรง G ส่วน Blueridge เป้น OM) ผมเน้นสไตล์ฟิงเกอร์ ผมชอบ Furch มากกว่า Blueridge ในฟิลลิ่งตอนที่เล่นผมว่า Furch เล่นง่ายกว่า และสนุกกว่าคงเป็นเพราะมันเข้ากับมือผม ส่วนเรื่องความละเอียดในงานประกอบผมว่าพอ ๆ กัน ผมว่าคงเป็นที่ประสบการณ์ของเราด้วยเพราะปกติผมใช้ Taylor 414ce อยู่เลยค่อนข้างพอใจใน Furch ที่ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กันจนตอนนี้สั่งจองไปเรียบร้อยแล้วครับ ยังรู้สึกเลยว่าหากใครอยากได้ Taylor แต่งบยังไม่ถึงแต่ต้องการคุณภาพกีตาร์เสียงดี สเปคดี Fuch จะเป็นตัวเลือกนึงที่น่าสนใจครับ แต่ถ้าคนชอบเสียงแนว vintage ให้ไป blueridge เลยครับ
    แต่หากต้องการทรง D อันนี้ผมไม่แน่ใจเหมือนกันแต่หากชอบแนวเสียงอย่างมาตินก็ต้องไป blueridge เช่นกันครับ

[gttle]

มันแล้วแต่ style ครับอย่าง furch นี่แนวเสียงเค้าเด่นในเรื่อง fingerstyle ครับดังนั้นทรง D ที่เน้น strum ก็จะทำไม่เด่นเท่า G ด้วยเอกสักษณ์แนวเสียง OM ของ furch ก็จะต่างจาก martin ไปมีความ mordern กว่า...ส่วน blueridge นี่ลอก martin มาตรงๆซึ่งทรง D และ OM ของ martin เค้าคือต้นแบบดังนั้นมันก็จะถ่ายทอดความเป็น D และ OM ได้ดีกว่า ....blueridge นี่ถ้าบอกอย่างไม่เกรงใจสปอนเซอร์นี่ถ้าราคาเท่ากันผมให้เหนือกว่า martin นะครับ (ย้ำว่าถ้าจ่ายเท่ากันนะครับ blureridge 3หมื่นกับ martin 3 หมื่นเป็นต้น) ..ถ้าชอบ D กับ OM ในแบบ martin vintage แท้ๆผมว่า blueridge ทำได้ใกล้กว่าครับ

ส่วนเรื่องราคาต่ำสูงนี่กีตาร์ราคาสูงกว่าไม่ได้รับประกันว่าเสียงจะดีกว่าครับอาจจะสูงกว่าด้วยต้นทุนค่าแรงหรือปัจจัยอื่นๆได้ 

[Seraph]

นอกจากการดูสเปคแล้ว ที่สำคัญคือ ฝีมือ ทักษะ ความสามารถในการทำกีตาร์ ครับ
สเปคไม่ใช่คำตอบเดียวที่บอกว่า อันไหนดีไม่ดี

สำหรับ 2 ยี่ห้อนี้ ผมให้คะแนน Blueridge ที่เหนือกว่าทั้งงาน และคุณภาพของเสียงที่เหนือกว่า
โดยเฉพาะ Blueridge รุ่นสูงๆ ราคาประมาณ 30,000up ยอมรับเลยว่า ทำได้ดีมาก

FURCH ยังเทียบไม่ได้กับ Blueridge ครับ
เทียบได้แค่ Crafter ในรุ่นสูงๆ เช่น Crafter GLXE ต่างๆ เช่น
CRAFTER GLXE-1500 RS หรือ CRAFTER รุ่น TMC-045/N , CRAFTER GLXE-3000/OV

ถ้าจะเทียบ ต้องเทียบระหว่าง Blueridge กับ Eastman ครับ
แต่ Blueridge งานดีกว่า Eastman (คุณภาพเสียงเทียบกันได้)

ถ้าชอบ Blueridge ทรง D ส่วนตัวผมแนะนำ BR180A ครับ

นานาจิตตังครับ ผมเคารพทุกความเห็น เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องรสนิยมและความเชื่อของแต่ละบุคคล เราย่อมเอาความเชื่อของเราไปบอกให้คนอื่นเชื่อตามไม่ได้หรอกครับ ถ้าท่านคิดว่า Furch เทียบได้กับแค่ Crafter ก็เป็นความเชื่อของท่านที่ผมต้องเคารพ เพียงแต่ผมประหลาดใจกับความเชื่อนี้มากๆ เพราะโรงงาน Crafter นั้นผลิตกีต้าร์ได้ปีละ 60,000 ตัว (อ้างอิง http://crafterguitars.com/about/greeting.php ย่อหน้าก่อนสุดท้าย) ในขณะที่ Furch เพิ่งผลิตกีต้าร์ที่มี Serial number เลขที่ 30,000 ไปเมื่อปี 2007 นี้เอง (อ้างอิง www.furch.cz/?stranka=story) ทั้งๆที่ตั้งโรงงานมาตั้งแต่ปี 1981 เฉลี่ยแล้ว Furch ผลิตกีต้าร์ได้ปีละ 1,100 กว่าตัวเท่านั้นในระหว่างปี 1981-2007 ซึ่งผมก็ไม่ทราบจริงๆว่าในปัจจุบันนี้ Furch ผลิตกีต้าร์ได้ปีละกี่ตัว (โรงงาน Furch มีช่างทั้งหมด 40 คน อ้างอิง www.stonebridgeguitars.com/factory-tour/) แต่ถ้าสมมติเป็นตัวเลขกลมๆว่าผลิตได้ปีละ 5,000-10,000 ตัว ก็ยังเทียบไม่ได้กับปริมาณการผลิตของ Crafter ที่เป็น Mass production การที่ Crafter ผลิตกีต้าร์จำนวนมากกว่าในระยะเวลาเท่ากันย่อมแสดงให้เห็นว่าเวลาที่ใช้ในการผลิตกีต้าร์แต่ละตัวนั้นย่อมใช้น้อยกว่า เช่นนี้แล้วความพิถีพิถันรวมถึงความใส่ใจในกระบวนการผลิตจะสู้ Furch ได้หรือ

นอกจากนี้ที่ท่านกล่าวว่า "นอกจากการดูสเปคแล้ว ที่สำคัญคือ ฝีมือ ทักษะ ความสามารถในการทำกีตาร์ ครับ สเปคไม่ใช่คำตอบเดียวที่บอกว่า อันไหนดีไม่ดี" นั้นผมเห็นด้วยเป็นที่สุดครับ แต่ก็ยังสงสัยว่าท่านใช้มาตรฐานอะไรมาวัดว่า "ฝีมือ ทักษะ ความสามารถในการทำกีตาร์" ของช่างในโรงงาน Blueridge จะเหนือกว่าช่างในโรงงาน Furch

ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมกล่าวมานั้นผมไม่มีเจตนาจะเถียงหรือทะเลาะกับใครว่าความคิดของใครถูกหรือผิด ผมเพียงแต่ต้องการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความเห็นของผมกับทุกๆท่านก็เท่านั้น และผมไม่มีส่วนได้เสียใดๆกับกีต้าร์ยี่ห้อใดเป็นการเฉพาะเจาะจง

[Seraph]

ส่วนเรื่องราคาต่ำสูงนี่กีตาร์ราคาสูงกว่าไม่ได้รับประกันว่าเสียงจะดีกว่าครับอาจจะสูงกว่าด้วยต้นทุนค่าแรงหรือปัจจัยอื่นๆได้ 

ผมเห็นด้วยกับคำกล่าวดังกล่าวของท่านนะครับ เพียงแต่อยากจะตั้งข้อสังเกตสักเล็กน้อยว่าโดยปกติแล้ว เมื่อคำนึงถึงลูกค้าแล้ว ผู้ผลิตสินค้าเขาจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพต่ำออกมาจำหน่ายในราคาสูงหรือครับ หากเป็นเช่นนั้นแล้วสินค้านั้นจะมีคนซื้อไปใช้หรือครับ และที่ท่านว่าเสียงดีหรือไม่ดีนั้น ท่านเอาอะไรมาเป็นมาตรในการวัดหรือครับ เพราะความชอบในเสียงแบบใดนั้นย่อมเป็นรสนิยม (Taste) ของแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ ดังนั้นย่อมไม่อาจเอาราคามาเป็นเครื่องชี้วัดได้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วนะครับ

[loh]

เล่น blueridge ดีกว่าครับ

[gttle]

ส่วนเรื่องราคาต่ำสูงนี่กีตาร์ราคาสูงกว่าไม่ได้รับประกันว่าเสียงจะดีกว่าครับอาจจะสูงกว่าด้วยต้นทุนค่าแรงหรือปัจจัยอื่นๆได้ 

 ผู้ผลิตสินค้าเขาจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพต่ำออกมาจำหน่ายในราคาสูงหรือครับ หากเป็นเช่นนั้นแล้วสินค้านั้นจะมีคนซื้อไปใช้หรือครับ และที่ท่านว่าเสียงดีหรือไม่ดีนั้น ท่านเอาอะไรมาเป็นมาตรในการวัดหรือครับ เพราะความชอบในเสียงแบบใดนั้นย่อมเป็นรสนิยม (Taste) ของแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ ดังนั้นย่อมไม่อาจเอาราคามาเป็นเครื่องชี้วัดได้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วนะครับ

 
"ผู้ผลิตสินค้าเขาจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพต่ำออกมาจำหน่ายในราคาสูงหรือครับ" .... อันนี้คงไม่ครับแต่ว่าแต่ละ brand เค้ามีมาตรฐานในระดับราคานั้นอยู่ครับอย่ง martin ในระดับ $1000 นี่เค้าก็ต้องรวมค่าแรง + ค่า brand + ค่าโฆษณา เข้าไปด้วยครับ ดังนั้นกีตาร์ $1000 ของ martin กับกีตาร์ $1000 ของ brand เลียนแบบอย่าง blueridge จึงได้คุณภาพที่ต่างกันครับ

"ที่ท่านว่าเสียงดีหรือไม่ดีนั้น ท่านเอาอะไรมาเป็นมาตรในการวัดหรือครับ"  อันนี้ผมพูดถึง brand หลักอย่าง martin กับ brand เลียนแบบอย่าง blueridge นะครับที่ copy กันมาเป๊ะๆทั้งหน้าตารวมถึงลักษณะเสียงด้วยลองในแบบ A/B test เลยครับทรงเดียวกันเแนวเสียงเดียวกันระดับราคาพอๆกัน ถ้าท่านเคยลอง martin กับ blueridge ก็จะพอเข้าใจครับแล้ว comment ในลักษณะนี้ก็เป็นที่ยอมรับกันพอสมควรในหมู่คนที่ได้ลองด้วยครับไม่ได้ discredit แต่อย่างไร

ส่วนที่ถามว่าอย่างนั้นจะมีคนซื้อไหมถ้าทำออกมาอย่างนั้น..ผมก็เห็น martin ขายได้เรื่อยๆนะครับบางทีคนซื้อเค้าก็ไม่ได้ดูแค่เสียงครับ

ผมคิดว่าท่านกำลังว่าผมต่อว่า furch ใช่ไหมครับ..ไม่ใช่ครับเพราะเสียง furch ไม้ได้ลอก martin มาเต็มๆถ้าคนชอบ vintage หรือทรง D และ  OM มันต้องมาทาง martin หรือ blueridge ครับแล้วผมก็เปรียบในส่วนของ blueridge กับ martin มากกว่าเพราะจริงๆ furch เป็นกีตาร์ที่คนละแนวทางเหมาะกับmodern fingerstyle มากกว่าถ้าจะเล่นทรง D หรือ OMยี่ห้อที่ชำนาญด้านนี้น่าจะดีกว่า ....  ลองดูครับตัวที่ดังๆของ furch เป็นตัวไหนทรงอะไร

[nhoy]

- ถ้ามีงบประมาณ 50000 +- น้าๆ จะเลือกยี่ห้ออะไรระหว่าง 2 ยี่ห้อนี้ครับ
- Furch ถ้าต้องเล่นทรง D เสียงเป็นไงบ้างครับ
- เพิ่มเติม Furch om กับ Blueridge om เทียบกันเป็นไงบ้างครับ

ทั้ง Furch และ Blueridge ก็น่าเล่นด้วยกันทั้งคู่ครับ และก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละท่านด้วย
สำหรับผมเอง ผมชอบไปทาง 180A และ 183A ของ Blueridge ครับ

[Seraph]

ส่วนเรื่องราคาต่ำสูงนี่กีตาร์ราคาสูงกว่าไม่ได้รับประกันว่าเสียงจะดีกว่าครับอาจจะสูงกว่าด้วยต้นทุนค่าแรงหรือปัจจัยอื่นๆได้ 

 ผู้ผลิตสินค้าเขาจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพต่ำออกมาจำหน่ายในราคาสูงหรือครับ หากเป็นเช่นนั้นแล้วสินค้านั้นจะมีคนซื้อไปใช้หรือครับ และที่ท่านว่าเสียงดีหรือไม่ดีนั้น ท่านเอาอะไรมาเป็นมาตรในการวัดหรือครับ เพราะความชอบในเสียงแบบใดนั้นย่อมเป็นรสนิยม (Taste) ของแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ ดังนั้นย่อมไม่อาจเอาราคามาเป็นเครื่องชี้วัดได้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วนะครับ

 
"ผู้ผลิตสินค้าเขาจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพต่ำออกมาจำหน่ายในราคาสูงหรือครับ" .... อันนี้คงไม่ครับแต่ว่าแต่ละ brand เค้ามีมาตรฐานในระดับราคานั้นอยู่ครับอย่ง martin ในระดับ $1000 นี่เค้าก็ต้องรวมค่าแรง + ค่า brand + ค่าโฆษณา เข้าไปด้วยครับ ดังนั้นกีตาร์ $1000 ของ martin กับกีตาร์ $1000 ของ brand เลียนแบบอย่าง blueridge จึงได้คุณภาพที่ต่างกันครับ

"ที่ท่านว่าเสียงดีหรือไม่ดีนั้น ท่านเอาอะไรมาเป็นมาตรในการวัดหรือครับ"  อันนี้ผมพูดถึง brand หลักอย่าง martin กับ brand เลียนแบบอย่าง blueridge นะครับที่ copy กันมาเป๊ะๆทั้งหน้าตารวมถึงลักษณะเสียงด้วยลองในแบบ A/B test เลยครับทรงเดียวกันเแนวเสียงเดียวกันระดับราคาพอๆกัน ถ้าท่านเคยลอง martin กับ blueridge ก็จะพอเข้าใจครับแล้ว comment ในลักษณะนี้ก็เป็นที่ยอมรับกันพอสมควรในหมู่คนที่ได้ลองด้วยครับไม่ได้ discredit แต่อย่างไร

ส่วนที่ถามว่าอย่างนั้นจะมีคนซื้อไหมถ้าทำออกมาอย่างนั้น..ผมก็เห็น martin ขายได้เรื่อยๆนะครับบางทีคนซื้อเค้าก็ไม่ได้ดูแค่เสียงครับ

ผมคิดว่าท่านกำลังว่าผมต่อว่า furch ใช่ไหมครับ..ไม่ใช่ครับเพราะเสียง furch ไม้ได้ลอก martin มาเต็มๆถ้าคนชอบ vintage หรือทรง D และ  OM มันต้องมาทาง martin หรือ blueridge ครับแล้วผมก็เปรียบในส่วนของ blueridge กับ martin มากกว่าเพราะจริงๆ furch เป็นกีตาร์ที่คนละแนวทางเหมาะกับmodern fingerstyle มากกว่าถ้าจะเล่นทรง D หรือ OMยี่ห้อที่ชำนาญด้านนี้น่าจะดีกว่า ....  ลองดูครับตัวที่ดังๆของ furch เป็นตัวไหนทรงอะไร

ผมว่าท่านกำลังหลงประเด็นนะครับ เจ้าของกระทู้นี้ไม่เคยพูดถึงกีต้าร์ยี่ห้อ Martin เลยนะครับ และการที่เจ้าของกระทู้ถามถึงกีต้าร์ทรง Dreadnought หรือ OM ที่แม้จะเป็น Original design ของ Martin แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องการแนวเสียงแบบของ Martin นี่ครับ หากเจ้าของกระทู้ต้องการแนวเสียงแบบ Martin จริงๆแล้วก็ไม่เห็นจะต้องมามองหายี่ห้ออื่นนอกจาก Martin เลยนี่ครับ เพราะงบประมาณของเจ้าของกระทู้ก็สามารถหาซื้อ Martin ได้อยู่แล้ว

การที่ท่านกำลังต่อว่ากีต้าร์ยี่ห้อ Furch อยู่หรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องที่ผมสนใจครับ มันเป็นเรื่องของท่าน และหากแม้ท่านจะกำลังต่อว่ากีต้าร์ยี่ห้อนี้จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องมา Defend หรือแก้ต่างให้แต่อย่างใด เพราะผมไม่มีหน้าที่จะต้องมาแก้ต่างให้กับกีต้าร์ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจงครับ

[sonic]

ผมเสนอว่า ให้เกียร์ติ เจ้าของกระทู้
ด้วยการปิดกระทู้ แลัวไปเปิดกระทู้คุยกันใหม่ ภายใต้หัวข้อที่กำลัง comment กัน

ผมขอดึงทุกๆท่าน กลับมาสู่ "คำถามของเจ้าของกระทู้" ว่า
- ถ้ามีงบประมาณ 50000 +- น้าๆ จะเลือกยี่ห้ออะไรระหว่าง 2 ยี่ห้อนี้ครับ
- Furch ถ้าต้องเล่นทรง D เสียงเป็นไงบ้างครับ
- เพิ่มเติม Furch om กับ Blueridge om เทียบกันเป็นไงบ้างครับ


ตอบอีกที จะได้กลับมาสู่ประเด็นของเจ้าของกระท้

1. เลือก Blueridge ครับ
2. ถ้า OM พอได้ครับ แต่ถ้า D ไม่ค่อยโดนใจเลยครับ
แต่อย่างไง ถ้างบเท่าๆกัน ผมเลือก Blueridge ทั้งทรง D และ OM ครับ
3. เทียบกันในแบบส่วนตัวของผมนะครับ ผมว่า ทั้งเสียง และงาน Blueridge ดีกว่าครับ

สุดท้าย ท่านเป็นคนไปลอง แล้วเลือกไปตาม ความชอบ ของท่านเองครับ

ทิ้งท้ายอีกที ถ้าไปลองทรง D ของ Blueridge แล้วไม่ชอบ ผมแนะนำไปลองอีกยีห้อ ดังนี้

1. Eastman E10D หรือ E20D ครับ
2. Martin X series (made in mexico) เสียงดีทีเดียวครับ แม้จะไม่ใช่ made in usa แต่ก็ทำได้ดีมากทีเดียวครับ

[gttle]

ส่วนเรื่องราคาต่ำสูงนี่กีตาร์ราคาสูงกว่าไม่ได้รับประกันว่าเสียงจะดีกว่าครับอาจจะสูงกว่าด้วยต้นทุนค่าแรงหรือปัจจัยอื่นๆได้ 

 ผู้ผลิตสินค้าเขาจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพต่ำออกมาจำหน่ายในราคาสูงหรือครับ หากเป็นเช่นนั้นแล้วสินค้านั้นจะมีคนซื้อไปใช้หรือครับ และที่ท่านว่าเสียงดีหรือไม่ดีนั้น ท่านเอาอะไรมาเป็นมาตรในการวัดหรือครับ เพราะความชอบในเสียงแบบใดนั้นย่อมเป็นรสนิยม (Taste) ของแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ ดังนั้นย่อมไม่อาจเอาราคามาเป็นเครื่องชี้วัดได้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วนะครับ

 
"ผู้ผลิตสินค้าเขาจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพต่ำออกมาจำหน่ายในราคาสูงหรือครับ" .... อันนี้คงไม่ครับแต่ว่าแต่ละ brand เค้ามีมาตรฐานในระดับราคานั้นอยู่ครับอย่ง martin ในระดับ $1000 นี่เค้าก็ต้องรวมค่าแรง + ค่า brand + ค่าโฆษณา เข้าไปด้วยครับ ดังนั้นกีตาร์ $1000 ของ martin กับกีตาร์ $1000 ของ brand เลียนแบบอย่าง blueridge จึงได้คุณภาพที่ต่างกันครับ

"ที่ท่านว่าเสียงดีหรือไม่ดีนั้น ท่านเอาอะไรมาเป็นมาตรในการวัดหรือครับ"  อันนี้ผมพูดถึง brand หลักอย่าง martin กับ brand เลียนแบบอย่าง blueridge นะครับที่ copy กันมาเป๊ะๆทั้งหน้าตารวมถึงลักษณะเสียงด้วยลองในแบบ A/B test เลยครับทรงเดียวกันเแนวเสียงเดียวกันระดับราคาพอๆกัน ถ้าท่านเคยลอง martin กับ blueridge ก็จะพอเข้าใจครับแล้ว comment ในลักษณะนี้ก็เป็นที่ยอมรับกันพอสมควรในหมู่คนที่ได้ลองด้วยครับไม่ได้ discredit แต่อย่างไร

ส่วนที่ถามว่าอย่างนั้นจะมีคนซื้อไหมถ้าทำออกมาอย่างนั้น..ผมก็เห็น martin ขายได้เรื่อยๆนะครับบางทีคนซื้อเค้าก็ไม่ได้ดูแค่เสียงครับ

ผมคิดว่าท่านกำลังว่าผมต่อว่า furch ใช่ไหมครับ..ไม่ใช่ครับเพราะเสียง furch ไม้ได้ลอก martin มาเต็มๆถ้าคนชอบ vintage หรือทรง D และ  OM มันต้องมาทาง martin หรือ blueridge ครับแล้วผมก็เปรียบในส่วนของ blueridge กับ martin มากกว่าเพราะจริงๆ furch เป็นกีตาร์ที่คนละแนวทางเหมาะกับmodern fingerstyle มากกว่าถ้าจะเล่นทรง D หรือ OMยี่ห้อที่ชำนาญด้านนี้น่าจะดีกว่า ....  ลองดูครับตัวที่ดังๆของ furch เป็นตัวไหนทรงอะไร

ผมว่าท่านกำลังหลงประเด็นนะครับ เจ้าของกระทู้นี้ไม่เคยพูดถึงกีต้าร์ยี่ห้อ Martin เลยนะครับ และการที่เจ้าของกระทู้ถามถึงกีต้าร์ทรง Dreadnought หรือ OM ที่แม้จะเป็น Original design ของ Martin แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องการแนวเสียงแบบของ Martin นี่ครับ หากเจ้าของกระทู้ต้องการแนวเสียงแบบ Martin จริงๆแล้วก็ไม่เห็นจะต้องมามองหายี่ห้ออื่นนอกจาก Martin เลยนี่ครับ เพราะงบประมาณของเจ้าของกระทู้ก็สามารถหาซื้อ Martin ได้อยู่แล้ว

การที่ท่านกำลังต่อว่ากีต้าร์ยี่ห้อ Furch อยู่หรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องที่ผมสนใจครับ มันเป็นเรื่องของท่าน และหากแม้ท่านจะกำลังต่อว่ากีต้าร์ยี่ห้อนี้จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องมา Defend หรือแก้ต่างให้แต่อย่างใด เพราะผมไม่มีหน้าที่จะต้องมาแก้ต่างให้กับกีต้าร์ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจงครับ

เอางี้ละกันครับ... 1. ถ้า 50,000 furch ถามถึงทรง D ไปเล่นยี่ห้ออื่นครับ furch จะไม่จบถ้าท่านชอบเสียงทรง D ที่ผมพูดถึง martin ด้วยเพราะเห็น จขกท. ถามถึงทรง D  furch และ blueridge  ซึ่งตัวทรง D นี่ต้นแบบคือ martin และ blueridge ลอกมาดังนั้นไป blueridge ครับงบ 50,000 ถ้าเอาทรง D ก็ตามท่านอื่นบอกมาครับ blueridge ทำได้ดีกว่าในความเป็นทรง D มาตรฐานจากไหนรากเหง้าของทรง D คือ martin เสียงที่เราคุ้นเคยของทรง D ก็มาจากยี่ห้อนี้เป็นส่วนใหญ่และ blueridge ลอกมา + ก็พิจารณา comment อื่นๆที่ร่วมตอบนะครับผมเชื่อว่าคนที่เข้ามาตอบเข้าใจแคแรคเตอร์ของ furch และ blueridge .. ok นะครับ (แนะนำเพิ่มเติมถ้าไม่จำเพราะว่าต้องมือหนึ่งลองดู D-28 มือสอง หรือ guild ก็ ok นะครับทรงนี้แนวจะเป็นเบสลึกเยอะเสียงนุ่มหรือถ้าชอบ modern เบสไม่เยอะเสียงใสๆชัดหน่อยก็ taylor ไปเลยดีกว่า)
                     
                     2. OM ถ้าอยากได้เสียงแบบ OM ก็ไป blueridge ครับถ้าอยากได้ OM แบบฟุ้งๆกรุ้งกริ๊งแบบ taylor หน่อยถึงเลือก furch ครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้า จขกท. ได้ไปลองเองแล้วเห็นเป็นอย่างอื่นคือชอบ furch ก็แล้วแต่ครับความชอบแต่ละคนอันนี้เป็นเพียง comment ของผมและบางท่านที่ได้ลอง furch และ blueridge มาให้ความเห็นตามที่ จขกท. ถามไว้... ok นะครับ