อย่างที่น้าๆว่ากัน ผมว่านานาจิตตัง
แต่ผมว่าในเคสที่คุณ จขกท เล่ามา ถ้าจะติได้ก็มี 2 เรื่องนะครับ คือ
1) พนักงานไม่มีความจำเป็นต้องติดตามตลอดขนาดนั้นเสมอไป แต่อย่างน้อยควรมีการทักทายลูกค้า
2) คุณ จขกท ไม่ควรไปหยิบกีตาร์มาโดยไม่ได้รับอนุญาตินะครับ แล้วตั้งสายเองอีก ผมรู้ว่าคุณ จขกท อาจมีประสบการณ์มาก
แต่เราควรให้เกียรติร้านด้วยการไปสอบถามเค้า ว่าขอลองอะไรให้เรียบร้อยก่อนจะดีกว่าครับ เพราะท่านยังไม่ได้รับอนุญาติเสียจริงๆ
หลายๆตัวในหลายๆร้านจะมีป้ายบอกว่า สนใจสินค้ากรุณาเรียกพนักงาน แต่ป้ายอาจจะไม่พอก็เป็นได้ครับ
อีกอย่างถ้าเกิดตั้งสายผิด สายขาด หรือเล่นแล้วสายขาด หากเล่นเองโดยที่เจ้าของร้านยังไม่ได้ให้อนุญาติจะลำบากเรา เพราะเค้าไม่ได้ดู
เพื่อผมเลยเล่นกีตาร์สายขาดต่อหน้าพนง ที่ MC สาขานึงย่านปทุมวัน นี่แหล่ะ เค้าบอกว่าไม่เป็นไรนะครับ เค้าจัดการเอง แต่เพื่อนผมขออนุญาติจ่ายตังชดเชยต่างหาก
ต้องเข้าใจว่า ลูกค้าแต่ละท่านมี Standard ที่ไม่เหมือนกัน บางท่านคิดว่าร้านต้องมาบริการอย่างดี เหมือนเวลาเดินไปซื้อของเเบรนเนม
1 พนักงานต่อ 1 ลูกค้า ลูกค้ามากกว่าพนักงาน = ปิดป้ายร้าน ให้ต่อคิวเพื่อให้ได้รับการบริการอย่างเต็มที่
บางท่านอยากแค่ให้แนะนำ และเลือกดูเอง ผมว่าก็ขึ้นอยู่แล้วแต่ร้าน แล้วแต่ลูกค้าครับ เอาใจเขาใส่ใจเรา
ผมว่าประเด็นคือ ถ้าเราเรียกร้องขอการบริการแล้วเค้าให้ได้อย่างไม่น่าพอใจ นี่ก็ควรจะตำหนิแน่นอนครับ
แต่ยกตัวอย่างเคสให้ฟังละกัน ผมไปลองกีตาร์ที่ นครหลวง ฟอร์จูน หลายๆครั้ง พี่พนักงานผู้หญิงจะกล่าวทุกครั้งเสมอ
สวัสดีค่ะ มาดูกีตาร์หรอคะ เชิญดูแล้วหยิบลองได้ตามสบายเลยค่ะ แล้วเขาก็จะนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์เขา
แต่แน่นอนครับ ทุกร้านเขาจะมองอยู่ห่างๆครับ เค้าต้องระวังของเค้าเป็นธรรมดา
ตอนนั้นผมยืนดู Takamine อยู่ เค้าเดินเอา stand มาให้ผม 3 อัน + เก้าอี้กลมนั่งลอง อีก 1 ตัว เต็มมือเลย ประทับใจมาก
ในขณะที่พาราก้อน ผมเดินเข้าไป บางครั้งก็มี บางครั้งก็ไม่มี แต่มักจะไม่มี แต่อาจจะเดินมาดูล่อมๆ
แต่เมื่อไหร่ที่ผมถาม พี่ๆพนักงานจะให้คำแนะนำเต็มที่นะครับ อันนี้ก็ดีไปคนละสสไตล์ครับ เน้นลองเงียบๆ
แต่ถ้าคุณ จขกท คิดว่า มันควรจะมี Standard มากกว่านี้ ผมว่าลองบอกทาง สนง MC ดูก็ได้ครับ เผื่อจะมีการเปลี่ยนแปลง
ขอให้ได้กีตาร์ที่ถูกใจนะครับ