ถ้าพูดถึงการอัดลงเทประบบอนาล็อคในการบันทึกเสียงจริง ๆ ผมขออนุญาตตีความไปถึงระบบเทปรีล 24 Tracks ในห้องอัดนะครับ
การอัดลงเทปรีล (ระบบอนาล็อค) ย่อมให้ความอิ่มเอมที่เหนือกว่า ได้ Dynamic ของเสียง ได้ความอุ่น และความหนักแน่น มีเนื้อมีหนังของสุ้มเสียงที่มากมายกว่าระบบดิจิตอลมากมายหลายขุมครับ เปิดเทียบกันนี่คนละเรื่องเลย กล่าวคือ .. คืองานที่ได้จากการอัดด้วยดิจิตอลทั้งระบบนั้นจะบางจ้อย ( ถ้าไม่มีตัวเทียบ ชาวบ้าน ๆ ก็คงฟังไม่ออกครับ ) แต่มีข้อดีที่ความสะดวกและรวดเร็ว ประหยัดขั้นตอนการทำงานและงบประมาณนั่นเอง ส่วนคุณภาพงานที่ได้ออกมาจะแตกต่างกับงานที่ได้จากห้องอัดที่มีเทปอนาล็อคอย่างฟ้ากับเหวครับ
ดังนั้นกระบวนการในการบันทึกเสียงสำหรับห้องอัดที่เป็นมาตรฐานจริง ๆ นั้น จะบันทึกด้วยระบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกรวดเร็ว แล้วนำมา EDIT (ตัดต่อ) จนพอใจ แล้วจึงนำไปยิงลงเทปรีล 24 Tracks อีกครั้งนึง เพื่อเพิ่มความอิ่มอุ่นและมวลเสียงที่หนาแน่นจากระบบเทปอนาล็อคก่อนที่จะทำการมิกซ์ดาวน์ เพื่อให้ได้มาสเตอร์ที่สมบูรณ์เป็น 2 Tracks แล้วจึงนำไปเผยแพร่ต่อไปครับ หรือในบางห้องอัดเค้าจะแยกยิงบางชิ้นดนตรีที่ต้องการไดนามิคสูง ๆ เช่น กระเดือง เบส เสียงร้อง หรืออะไรที่ให้ความสำคัญในอัลบัมนั้น ๆ ยิงลงเทป ส่วนบางชิ้นที่เป็นเสียงเล็กเสียงน้อยที่ไม่ต้องการไดนามิคมากนัก ค่อยลากมิกซ์เป็นดิจิตอลเอา แล้วค่อย final mixdown เพื่อความรวดเร็วในการทำงานครับ
ในกรณีที่อัดเล่น ๆ ที่บ้าน ก็อัดดิจิตอลไปครับ ถ้าอยากได้ความอุ่น ความหนา ก็ใช้กระบวนการ process ไปก็พอกล้อมแกล้มได้ครับ หรือมีตังมากหน่อย ก็มีอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อีกมากมายที่ช่วยได้ เช่น Preamp Compressor แบบ Tube ยี่ห้อต่าง ๆ มากมาย ก็ทำให้การอัดแบบดิจิตอลของคุณไม่บี้แบนจนน่าเกลียด และมีความหนาแน่นอุ่นใกล้เคียงระบบเทปอนาล็อคขึ้นอีกระดับนึงครับ