Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: 2 pcs VS. 3pcs back  (อ่าน 3544 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ฉลามขาว'29

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,072
  • เพศ: ชาย
2 pcs VS. 3pcs back
« เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 08:43:44 »
 ::) ::) ::) ร่วมแสดงความคิดเห็นกันครับ ว่ากีต้าร์ที่ใช้ไม้หลัง2-3ชิ้นทำ........เป็นงัยบ้าง  :D :D :D
White Shark'29

guitar_import

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,175
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 08:51:44 »
+1 สำหรับ2ชิ้นครับ ถ้าเป็นไปได้อยากได้ชิ้นเดียวด้วยซ้ำ

ฉลามขาว'29

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,072
  • เพศ: ชาย
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 10:39:10 »
 :D  น่าจะเป็นแนวคิดที่ดีนะครับคุณ guitar import .............จึงใคร่ขอเหตุผล+หลักการสนับสนุนด้วยครับจักเป็นพระคุณยิ่ง  ;)
White Shark'29

guitar_import

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,175
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 16:01:00 »
1.ความสวยงามครับ ไม้หลัง2ชิ้นสวยๆได้มาจากการใช้ไม้ชิ้นเดียวเอามาผ่าครึ่งจึงทำให้ได้ไม้2ชิ้นที่มีหน้าตาเหมือนกัน(ชอบbook matchเป็นการส่วนตัว) แต่ผมยังไม่เคยเห็นไม้ชิ้นเดียวเลยครับ ถ้ามีคงแพงน่าดูเพราะต้องใช้ไม้ที่มีขนาดใหญ่มาก
2.เสียงไม่ต่างกันระหว่างไม้2หรือ3ชิ้น เพราะไม้หลังเป็นตัวสะท้อนคลื่นเสียงเท่านั้น เสียงมันเกิดจากการสั่นของสายกีตาร์และการสั่นของหน้าไม้มากกว่า รวมไปถึงการวางbracingและองค์ประกอบอื่นเช่นนัทและsaddleซึ่งมีผลต่อsustainของเสียงครับ
3.ผมให้ความสำคัญกับชนิดของไม้ที่ใช้ทำมากกว่า เพราะจะให้เสียงที่ต่างกันค่อนข้างชัดเจน ตัวอย่างเช่นmartin D28กัD18เป็นต้น จะเห็นได้ว่าทุกอย่างใกล้เคียงกันในเรื่องของspecต่างกันเพียงแค่D28ใช้solid spruceกับrosewood back/side ทำให้ได้เสียงค่อนข้างทุ้ม ส่วนในเป็นD18เป็นmahogany back/sideทำให้เสียงmidกับtribbleจึงค่อนข้างชัดเจนกว่า ถ้าอยากได้เสียงกลางๆระหว่าง2ตัวนี้ก็ต้องD16หรือถ้าจะเอาแหลมนำแบบแห้งๆมาเลยก็ต้องพวกall mahoganyอย่างD17ครับ
4.ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวจากที่ได้ครอบครองและเล่นสลับไปมาในกีตาร์Martinหลายๆซีรี่ย์ ที่ผ่านมาผมเคยมีMartin D35ซึ่งเป็นไม้3ชิ้น และTaylor W10 (ยังใช้อยู่)เป็นไม้3ชิ้นเช่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมไม่เคยคิดว่ามันสวยเลยครับ
5.สวยของผมกับสวยของคนอื่นอาจไม่เหมือนกัน อย่างผมชอบแบบbook matchทั้งไม้หน้า,ข้างและไม้หลัง บางคนอาจชอบแบบไม้หน้าbear crawซึ่งผมมองว่ามันไม่สวยเหมือนไม้เป็นตำหนิ(แต่รับได้ถ้าเป็นbook match) แต่สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นเสียงและover all conditionอยู่ดีครับ(เสียงดีแต่สภาพเน่าก็ทำใจซื้อไม่ไหวเหมือนกัน)

jewaros

  • member
  • ***
  • กระทู้: 695
  • เพศ: ชาย
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 17:08:34 »
ผมว่าไม้หลัง 3 ชิ้นสวยดีนะครับ แต่ยังไม่มีเลยซักตัว ครับ หุหุ

MoMoCow

  • member
  • ***
  • กระทู้: 74
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 17:17:21 »
If three piece backs predictably dialed in more bass/treble/volume/clarity etc, every luthier since Adam would be using it to help dial in that particular nuance and every self proclaimed tone-seeker would be zoning in on the three piece back because of the specific tonal component it predictably contributes.

They don't because it doesn't. Three pieces is usually because the pieces are not big enough for two pieces.


โดย gtr4me http://www.acousticguitarforum.com/forums/showthread.php?t=121622&page=2

นายgtr4me กล่าวไว้ได้น่าสนใจและน่าคิดมาก แปลได้ประมาณว่า
ถ้าหากไม้หลัง3ชิ้นสามารถทำให้มีbass,treble,volume,clarity มากขึ้นช่างกีต้าร์ทุกคนตั่งแต่นายAdam (เป็นการเปรียบเปรยประมาณช่างทำกีต้าร์คนแรกของโลกแบบAdam กับ Eve) คงใช้ไม้3ชิ้นทำกีต้าร์กันหมด และคงจะเป็นที่หมายปองของเหล่าบรรดานักล่าเสียง (เค้าใช้คำว่าtone-seeker)

แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น การใช้ไม้3ชิ้นโดยมากเป็นเพราะไม่สามารถหาไม้ใหญ่พอที่จะทำกีต้ารโดยใช้ไม้2ชิ้นได้


ผมก็ชอบไม้2ชิ้นมากกว่าครับ classic กว่าและยิ่งนานเข้าไม้ใหญ่ก็ยิ่งหายากขึ้น ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจได้เห็นกีตาร์ที่ใช้ไม้3ชิ้นมากขึ้นและไม้2ชิ้นน้อยลงก็เป็นได้


MoMoCow

  • member
  • ***
  • กระทู้: 74
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 17:19:41 »
2.เสียงไม่ต่างกันระหว่างไม้2หรือ3ชิ้น เพราะไม้หลังเป็นตัวสะท้อนคลื่นเสียงเท่านั้น เสียงมันเกิดจากการสั่นของสายกีตาร์และการสั่นของหน้าไม้มากกว่า รวมไปถึงการวางbracingและองค์ประกอบอื่นเช่นนัทและsaddleซึ่งมีผลต่อsustainของเสียงครับ


เพิ่มอีกนิดเห็นด้วยกับน้า guitar_importครับว่า กีต้าร์นั้นไม้หน้ากับ bracing มีผลต่อเสียงมากกว่าไม้หลังเยอะมากครับ

ปล การที่ Martin D35 ให้เสียงที่ต่างจาก D28 แล้วไปอนุมานเอาว่าเกิดจาก ไม้2ชิ้น vs ไม้3ชิ้น อาจไม่ถูกนักเพราะไม้หน้ามีความหนาไม่เท่ากันและ bracing ที่ต่างกันระหว่าง2 รุ่นนี้

1900

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,632
  • เพศ: ชาย
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 17:40:07 »
ความเห็นส่วนตัว 2 ชิ้น กับ  3 ชิ้น ผมว่าไม่น่าจะมีผลครับ ถ้าติดในรูปแบบแนวตั้งปกติเป็นเรื่องของความสวยงามและไม้เหลือเศษมากกว่า

ไม้หลังจะมีผลได้ยินชัดก็ต่อเมื่อมีการดุนไม้้โป่งนูน ติดโครงอะไรเข้าไป หรือดัดงอรูปทรงให้เปลี่ยนไปแต่อาจจะไม่ดีเลยยังแบนๆอยู่จนทุกวันนี้

มีคนลองดัดแปลงส่วนหลังกีตาร์แล้ว โอเวชั่นไงครับแต่เป็นไฟเบอร์กลาสทําให้เกิดเสียงเฉพาะตัวเพราะรูปทรงด้านหลังเปลี่ยนไปครับ

กีตาร์เล็ก 3/4 ที่โป่งหลังมีผลช่วยให้เบสเพิ่มเพราะมันโป่งขึ้นโพรงเสียงก็ใหญ่ขึ้นนิดนึงทําให้เสียงดังขึ้นเบสก็นิดหน่อยเป็นข้อจํากัดของขนาดด้วยครับ

หลักๆถ้าดูเอาจากโครงสร้างภายในก็เห็นแต่การพัฒนาไม้หน้ากันทั้งนั้น ติดโน่นแต่งนี่เข้าไปเพื่อที่จะให้เสียงที่ดีที่สุดหรือที่ต้องการก็ปรับแต่งไม้หน้าทั้งนั้นครับ น้าหลาม ;D
มีอยู่ตัวนึง โซลิดอินเดียนโรสวู๊ด

guitar_import

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,175
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2013, 22:09:02 »
ใครมีไม้หลังชิ้นเดียวของMartin, Taylor ช่วยรบกวนทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วยนะครับ

MoMoCow

  • member
  • ***
  • กระทู้: 74
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2013, 11:32:55 »
ใครมีไม้หลังชิ้นเดียวของMartin, Taylor ช่วยรบกวนทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วยนะครับ

ไม่น่าจะมียี่ห้อไหนทำนะครับ ถ้ามีใครมีกรุณาบอกด้วยอยากเห็นของแปลก

เพิ่มข้อสังเกตุอีกข้อ ถ้าไม้3ชิ้นมีผลเรื่องเสียงทำไมกีต้าร์ของช่างทำกีต้าร์ชื่อดังไม่ว่าของไทยและเทศ ล้วนแล้วแต่ใช้ไม้2ชิ้นทั้งสิ้นซึ่งกีต้าร์ของช่างดังๆหล่าวนี้ราคาหลายพันเหรียญบางตัวราคาเป็นหมื่นเหรียญ!! น่าคิด เหมือนกับที่นายgtr4me กล่าวไว้เลย

ฉลามขาว'29

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,072
  • เพศ: ชาย
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2013, 16:46:58 »
>>>>>แนวคิดพื้นฐานของหลักการสังเขปเกี่ยวกับ Curved Style Back(ที่มาของกีต้าร์ไม้หลัง๓ชิ้น)<<<<<
            ความนูนโค้งของBack(ที่ป่องออกมา)เช่นเดียวกับส่วน Top ของกีต้าโปร่ง   แม้ Flattop ยังถูกสร้างด้วยความนูนโค้งน้อยๆ เช่นเดียวกันกับ การสร้างนูนโค้งละเอียดที่บน Arch top ของกีต้าร์แจ็ส    ความนูนโค้งของ Curved Style Back ด้วยที่ให้ความรู้สึกสัมผัสเสมือนความสะดวกมือที่จับคอกีต้าร์เช่นเดียวกับที่ใช้บน Flattop
            กล่าวสั้นๆว่า Sound Properties ที่เล่นแล้วได้เสียงแน่นที่เกิดขึ้นอย่างมี Projection ที่ดีกว่า  สร้าง Negative Phase เสียงซ้อนกับ ส่วน Top     กล่าวคือถ้ากีต้าร์หลังยิ่งแบน ก็จะส่งผล กระทบต่อ Projection และ Volume เสียงได้
            ดังนั้น Back & Side จำเป็นต้องคำนึงถึงการเพิ่ม Colorเสียงสำหรับ Primary Tone ที่ Generate ขึ้นโดยเช่นเดียวกันกับเปียโน กับ
Resonance(การกำธรเสียง)ของกีต้าร์ชั้นนำ.......นี่เองเป็นเหตุให้มีการมุ่งหน้าวิวัฒนาการแผ่นหลังกีต้าร์........(เพียงเล็กน้อยส่วนใหญ่ๆได้เคยกล่าวไว้นานแล้ว ไม่ต้องการนำมากล่าวซํ้าอีก)
       
           
White Shark'29

MoMoCow

  • member
  • ***
  • กระทู้: 74
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2013, 17:31:21 »
ที่มาของกีต้าร์ไม้หลัง3ชิ้น นั้นน่าจะเกิดมาจากการ save cost ของบริษัทผู้ผลิตมากกว่านะครับ ที่เอาเศษไม้ชิ้นเล็กเกินกว่าจะทำกีต้าร์ได้มาสร้างมูลค่าเพิ่ม (ดีกว่าโยนทิ้ง)

ปล back profile ของไม้หลังระหว่างไม้ 2ชิ้นกับ 3 ชิ้นไม่มีความแตกต่างครับ

guitar_import

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,175
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2013, 18:01:51 »
ส่วนตัวเเล้วผมคิดว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับไม้2หรือ3ชิ้นเลยนะครับ เนื่องจากเสียงเดินทางเป็นคลื่น ดังนั้นหากไม้หลังหรือวัสดุอื่นใดที่เป็นตัวสะท้อนเสียงมีลักษณะเป็นทรงโค้ง ก็จะทำให้เสียงถูกสะท้อนกลับออกมาทางsound holeได้เร็วขึ้น ผลที่ได้จึงทำให้เรารู้สึกว่าเสียงแน่นโดยเฉพาะย่านความถี่เสียงกลางและต่ำ เพราะเสียงไม่ถูกกั๊กไว้ให้สะท้อนเด้งไปเด้งมาในตัวกีตาร์นานจนเกินไป(จนเกิดเสียงวิ้งๆนั่นแหละ)
ด้วยหลักการสะท้อนของเสียงนี้เอง จึงมีการออกแบบให้เกิดการใช้วัสดุผิวเรียบและโค้งในการทำส่วนหลังและข้างของกีตาร์ เพราะต้องการให้คลื่นเสียงถูกส่งออกจากตัวกีตาร์ให้เร็วกว่าแบบหลังแบน และจากหลักการณ์นี้จึงได้มีการออกแบบวัสดุเป็นไฟเบอร์แทนไม้ในส่วนด้านข้างและหลัง แต่ส่วนหน้ายังคงใช้ไม้อยู่ และนั่นจึงเป็นที่มาของกีตาร์ยี่ห้อหนึ่งที่ชื่อว่า"Ovation"ครับ
ปล.ลองเทียบดูได้ครับว่าOvationจะเกิดเสียงวิ้งๆน้อยกว่ากีตาร์ยี่ห้ออื่นเพราะเม็ดเสียงของเค้านั้นมาเต็มไม่มีกั๊กครับ

ฉลามขาว'29

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,072
  • เพศ: ชาย
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2013, 22:02:31 »
ASSUMPTION>>>>>>>>>ทำไมMartinคิดทำกีต้าร์ไม้๓ชิ้นในรุ่นใหญ่ นอกจากนี้ก็มีYAMAHA รุ่นTOP คิดดูว่าเพียงแค่สวยงามจะคุ้มไหม???หรือเพียงsave costจากการใช้ไม้ชิ้นใหญ่???>>>>>>มาดูความเห็นจากผู้ครอบครองกีตาร์เหล่านั้น...
 :D........All I can say is Martin 3 piece back guitars are known for their deep bass, even against similarly braced dreads, if something else is the cause I am open to hear it.............peace
>>>>>>พอจะอนุมานได้ไหมว่ากีต้าร์ไม้หลัง3ชิ้นเป็นรุ่นใหญ่กว่าธรรมดา<<<<<<<<<<<<<<  โดยผู้ครอบครองนามว่าgtr4meจากสำนักacousticthaiforum............ลงความเห็นว่า
 ;)......................If three piece backs predictably dialed in more bass/treble/volume/clarity etc, every luthier since Adam would be using it to help dial in that particular nuance and every self proclaimed tone-seeker would be zoning in on the three piece back because of the specific tonal component it predictably contributes.
>>>>>>>>>>>>>>>>>หากกระหายเบสจากความใสเด้งของTaylor น่าต้องพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะกีต้าร์ราคากว่าครึ่งแสนจะได้มีไว้ครอบครองนานปี<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
..............โดยผู้ใช้ rforman15 จาก acousticguitarforum...................ให้ความเห็นว่า
 8) That's a fair assumption, but and however, it could be that a three piece back contributes to superior tone, not inferior tone which seems to be the tenor of the question. I owned a 3 piece backed Goodall made from Madagascar Rosewood, great guitar! I think one would be hard pressed to hear a tonal difference between two guitars that are otherwise identical but that one has a two piece back and one has a three piece back.
 ความเห็นผู้ใช้โดย rmyaddison จาก acousticguitarforum..........ให้อนุมานว่าไม้3ชิ้นหลังมีความแตกต่างจริงไหม?
 ;)...............I agree that the vast major of the voicing comes from the top and bracing, but Martin D-35's (3 piece back) are known to have more bottom end pretty much as a rule over the other dreads...............นี่ก็จากMusician friend...................................ที่อ้างว่าเป็นแฟนTaylor>>>>>
 ;D The new expression system has a wide, glassy sound, and the 3-piece back gives the guitar a touch more bass. It has standard-setting playability. I love this intrument. Not cheap, but worth every penny!
...................... ความเห็นของBAXTER จาก acoustic guitar forum.............ให้ท่านพิจารณาดูเองละกันครับ
 ::) Awesome guitar. I actually was able to A / B one with a 3 piece back vs. one with the 2 piece back. I chose the 3 piece back. It seemed to have a more noticable lower end. The 3 piece back is beautiful................

#####################อนุมานได้หรือไม่ตามข้อมูลข้างต้น ไม่เท่าพิสูจน์ของจริงน่ะ#####################
แก้ไขข้อความ
White Shark'29

MoMoCow

  • member
  • ***
  • กระทู้: 74
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2013, 22:12:02 »
ASSUMPTION>>>>>>>>>ทำไมMartinคิดทำกีต้าร์ไม้๓ชิ้นในรุ่นใหญ่ นอกจากนี้ก็มีYAMAHA รุ่นTOP คิดดูว่าเพียงแค่สวยงามจะคุ้มไหม???หรือเพียงsave costจากการใช้ไม้ชิ้นใหญ่???>>>>>>มาดูความเห็นจากผู้ครอบครองกีตาร์เหล่านั้น...
 :D........All I can say is Martin 3 piece back guitars are known for their deep bass, even against similarly braced dreads, if something else is the cause I am open to hear it.............peace
>>>>>>พอจะอนุมานได้ไหมว่ากีต้าร์ไม้หลัง3ชิ้นเป็นรุ่นใหญ่กว่าธรรมดา<<<<<<<<<<<<<<  โดยผู้ครอบครองนามว่าgtr4meจากสำนักacousticthaiforum............ลงความเห็นว่า
 ;)......................If three piece backs predictably dialed in more bass/treble/volume/clarity etc, every luthier since Adam would be using it to help dial in that particular nuance and every self proclaimed tone-seeker would be zoning in on the three piece back because of the specific tonal component it predictably contributes.
>>>>>>>>>>>>>>>>>หากกระหายเบสจากความใสเด้งของTaylor น่าต้องพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะกีต้าร์ราคากว่าครึ่งแสนจะได้มีไว้ครอบครองนานปี<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
..............โดยผู้ใช้ rforman15 จาก acousticguitarforum...................ให้ความเห็นว่า
 8) That's a fair assumption, but and however, it could be that a three piece back contributes to superior tone, not inferior tone which seems to be the tenor of the question. I owned a 3 piece backed Goodall made from Madagascar Rosewood, great guitar! I think one would be hard pressed to hear a tonal difference between two guitars that are otherwise identical but that one has a two piece back and one has a three piece back.
 ความเห็นผู้ใช้โดย rmyaddison จาก acousticguitarforum..........ให้อนุมานว่าไม้3ชิ้นหลังมีความแตกต่างจริงไหม?
 ;)...............I agree that the vast major of the voicing comes from the top and bracing, but Martin D-35's (3 piece back) are known to have more bottom end pretty much as a rule over the other dreads...............นี่ก็จากMusician friend...................................ที่อ้างว่าเป็นแฟนTaylor>>>>>
 ;D The new expression system has a wide, glassy sound, and the 3-piece back gives the guitar a touch more bass. It has standard-setting playability. I love this intrument. Not cheap, but worth every penny!
...................... ความเห็นของBAXTER จาก acoustic guitar forum.............ให้ท่านพิจารณาดูเองละกันครับ
 ::) Awesome guitar. I actually was able to A / B one with a 3 piece back vs. one with the 2 piece back. I chose the 3 piece back. It seemed to have a more noticable lower end. The 3 piece back is beautiful................

#####################อนุมานได้หรือไม่ตามข้อมูลข้างต้น ไม่เท่าพิสูจน์ของจริงน่ะ#####################
แก้ไขข้อความ

???

แล้วไงครับ???

ที่พี่หลามเอามามันก็เป็นเพียงความคิดเห็นของคนจำนวนหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่สามารถใช้เป็นข้อยืนยันหรือสรุปได้ว่ามันต้องเป็นไปตามนั้น

เชื่อไหมว่าผมก็สามารถหาความคิดเห็นที่บอกว่าไม้2ชิ้นเสียงดีกว่าจากgoogleได้เหมือนกัน

"If three piece backs predictably dialed in more bass/treble/volume/clarity etc, every luthier since Adam would be using it to help dial in that particular nuance and every self proclaimed tone-seeker would be zoning in on the three piece back because of the specific tonal component it predictably contributes.

They don't because it doesn't. Three pieces is usually because the pieces are not big enough for two pieces
."

คำแปล
ถ้าหากไม้หลัง3ชิ้นสามารถทำให้มีbass,treble,volume,clarity มากขึ้นช่างกีต้าร์ทุกคนตั่งแต่นายAdam (เป็นการเปรียบเปรยประมาณช่างทำกีต้าร์คนแรกของโลกแบบAdam กับ Eve) คงใช้ไม้3ชิ้นทำกีต้าร์กันหมด และคงจะเป็นที่หมายปองของเหล่าบรรดานักล่าเสียง (เค้าใช้คำว่าtone-seeker)

แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น การใช้ไม้3ชิ้นโดยมากเป็นเพราะไม่สามารถหาไม้ใหญ่พอที่จะทำกีต้ารโดยใช้ไม้2ชิ้นได้

โดย gtr4me http://www.acousticguitarforum.com/forums/showthread.php?t=121622&page=2

ฉลามขาว'29

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,072
  • เพศ: ชาย
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2013, 22:33:02 »
>>>>>>>These are ASSUMPTIONS. The Reality should be proved BY EXPERIMENTS OK.?>>>>>>>>>
White Shark'29

MoMoCow

  • member
  • ***
  • กระทู้: 74
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2013, 22:34:42 »
>>>>>>>These are ASSUMPTIONS. The Reality should be prove BY EXPERIMENT OK.?>>>>>>>>>

OK krub :D :D :D

prateepmc17

  • member
  • ***
  • กระทู้: 467
  • เพศ: ชาย
  • ทางของเรา...ตัวของเรา
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2013, 22:51:20 »
 อันนี้ตามความคิดของผมนะผมว่าเรื่องเสียงไม่ต่างกันหรอก

แต่ที่เห็นเด่นชัดคือความสวยงาม

ทําในในสิ่งที่ใจรัก

Piyawat.H

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,474
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2013, 08:59:41 »
อันนี้ตามความคิดของผมนะผมว่าเรื่องเสียงไม่ต่างกันหรอก
แต่ที่เห็นเด่นชัดคือความสวยงาม
Like! เห็นด้วยครับ
Martin D-35
Taylor 810
Morris W-60
ทั้ง 3 ตัวไม้หลัง 3 ชิ้นซื้อมาเล่น เพราะความสวย และงบประมาณในเวลานั้น
เรื่องเสียงเป็นผลพลอยได้ ตามรุ่นตามราคา แต่ชอบ D-35 ปี 1975 มากที่สุด

ฉลามขาว'29

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,072
  • เพศ: ชาย
Re: 2 pcs VS. 3pcs back
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2013, 15:50:21 »
>>>>>>System's Energy Transfer Efficiency(มาให้ได้สดับพอสังเขป หากได้โอกาสเลือกกีต้าร์ก็ต้องเลือกให้ดีที่สุด)<<<<<<<<
                        Soundboardของอะคูสติคกีต้าร์(Top)ที่ส่งผลอย่างมากต่อความดังของกีต้าร์โปร่ง โดยเปรียบเสมือนเป็นภาคขยายของ Processโดยปราศจากการใช้พลังงานจากภายนอกในการเพิ่มความดังของเสียง(อย่างในElectronic Amplifiers)
                        พลังงานทั้งปวงโดยแหล่งกำเนิดจากสายกีต้าร์จากSound Boardที่พื้นที่เพิ่มสำหรับการแกว่ง(Mechanical Impedance
Matching)  Soundboardสามารถขยับตัวได้ง่ายมากกว่าสายกีต้าร์เดี่ยวๆ  เนื่องจากความกว้าง และความแบน    นี่เองที่ทำให้เข้าระบบที่ว่า
System's Energy Transfer Efficiency ที่แผ่ขยายความดังให้ได้ยิน
                        ในทางบวกอะคูสติคกีต้าร์ที่ลำตัวกลวง ผนวกกับ ตัวแปรอื่น และผลResonance ที่เพิ่มขึ้นด้วยจากการส่งผ่านพลังงานความถี่ตํ่าทั้งมวล   ปริมาณอากาศที่บีบอัดตัวจากการกำธร และรูแบบบปการสั่นสะเทือนของสายกีต้าร์ และSound Board  ในความถี่ย่านตํ่าที่ขึ้นอยู่กับกีต้าร์ขนาดของกีต้าร์ประกอบเข้าด้วยกันเป็นเสียงเสมือน ที่เรียกว่า Helmholtz Resonance จะเพิ่ม หรือลดความดังเสียงได้จากค่าอากาศที่เคลื่อนที่ด้วยPhase in หรือ Phase outโดยตัวสายกีต้าร์   เมื่อPhase in ระดับเสียงจะเพิ่มขึ้น 3 เดซิเบลส์(dbs.)  แต่เมื่อ Phase out ระดับเสียงลดลง3dbs.(ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สร้างกีต้าร์ว่าจะใช้เทคนิคการสร้างอย่างไร)จาก Helmholtz Resonance อากาศที่กำลังเปิดโดยการสั่นในหรือนอก Phaseด้วยAir Box และสายกีต้าร์   การกำธรทั้งมวลจากการกระทำภายในอย่างยิ่งยวดเสมือนamplifierขยายเสียงย่านต่างๆ
                       ด้วยการเพิ่ม หรือเค้นความหลากหลายของ Harmonic Tones  ปรากฏกาณ์สูงสุดของการขยาย และอัดอากาศเชิงซ้อนออกภายนอกสู่ Sound Hole ได้เสียงเสมือนหนึ่งไวโอลินหมู่ตามขวนการเชิงซ้อนของ Matching in Impedance สัมบูรณ์ในอากาศ
                       ด้านหลักการเสียงเชิงซ้อนที่Modulateในอะคูสติคกีต้าร์ เช่นสายสู่ Sound Boardเพื่อบีบอัดพร้อมกันออกสู่อากาศ  สำหรับไม้หลังกีต้าร์ที่ขยับสั่น และผลักดัน แผ่ขยายการขยับมวลอากาศขับสู่ภายนอก  ด้วยFunctionsภายในตัวเองของระบบอะคูสติคไปสู่การColor the Sound และการขยายของ Harmonics และการGenerate ไปเพิ่มความซับซ้อนของพลังสู่อากาศอย่างสูงสุดแล้วทำให้เราสามารถรับรู้ระดับความดังเสียงที่ได้ยิน
                       ดังนั้น แนวทางการปรับความซับซ้อนของไม้หลังกีต้าร์จึงเกิดขึ้นด้วยไม้3ชิ้นที่ก่อเกิดการDecay Timesขึ้น   เนื่องมาจากขณะที่พลังจากสายกีต้าร์ถูกส่งผ่านด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ(ที่ปราศจากการขยาย)ความดังที่กีต้าร์จำกัดเวลาความสั่นสะเทือนเสมือนซ่อม(เสียง)สั่นตัวนั่นเอง

>>>>>>>>>>เกร็ดเล็กน้อย สำหรับที่มาการ Research ไม้หลัง3ชิ้น(ยังมีหลักPhysicอีกมาก)<<<<<<<<<<<<<<
White Shark'29