ราคา vs โทนเสียงปัจจัยที่กำหนดราคาของไม้ bigleaf mahogany, brazilian rosewood และ indian rosewood นั้นคือ
1. Supply ที่แหล่งกำเนิด: Bigleaf mahogany เป็นไม้ที่โตเร็วกว่า rosewood จึงหาง่ายกว่าและราคาถูกกว่าส่วน brazilian rosewood นั้นหายากเพราะโดนตัดไปทำน้ำหอม Chanel No. 5 จนหมดป่า
2. ค่าขนส่ง: เมื่อก่อนนี้กีตาร์อเมริกันใช้ cuban mahogany จนหมดป่า ในยุคหลัง WWII เลยเปลี่ยนมาใช้ honduran mahogany ถ้าเป็น rosewood นั้นเขาใช้ brazilian rosewood ที่ค่าขนส่งถูกกว่า indian rosewood หลายเท่าแต่เลิกใช้ในปี 1969 เมื่อ Brazil ห้ามส่งออกไม้ซุงและขึ้นราคาไม้แปรรูปทำให้ต้นทุนสูงกว่าไม้ rosewood จากอินเดีย
3. CITES (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora): CITES คือข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อห้ามส่งออกและนำเข้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์เพราะโดนล่าหรือโดนลักลอบตัด
CITES แบ่งการห้ามออกเป็นสามกลุ่มคือ Appendix 1, 2 และ 3 แต่สำหรับไม้ tone wood ที่มีผลกระทบต่อราคาคือกลุ่ม 1 ที่ห้ามส่งออกนำเข้าโดยเด็ดขาดและกลุ่ม 2 ที่มีข้อยกเว้นให้สำหรับไม้แปรรูปที่ปลูกในสวนป่า
ไม้ใน appendix 1 มีอยู่ชนิดเดียวคือ brazilian rosewood ที่ห้ามส่งออกนำเข้ามาตั้งแต่ปี 1992 โดยมีข้อยกเว้นอย่างเดียวคือผู้ส่งออกต้องมีหลักฐานยืนยันว่าไม้ชิ้นนั้นถูกตัดก่อนปี 1992 ถ้าคุณมีกีตาร์ไม้ brazilian rosewood ก็อย่าเสี่ยงหิ้วมันข้ามพรมแดนเพราะโทษมีสถานเดียวคือถูกยึดไปทำลาย
ปัญหาของเจ้าหน้าที่ก็คือการแยกแยะประเภทของ rosewood เพราะหน้าตามันคล้ายกัน ดังนั้น CITES จึงนำ rosewood ทุกชนิดขึ้นบัญชีดำ (appendix 2) เมื่อวันที่ 1/01/2017 สร้างความวุ่นวายให้กับผู้ผลิตกีตาร์ไปทั่งโลกเพราะต้องไปขอเอกสารกำกับว่าไม้ที่ใช้นั้นมาจากสวนที่ปลูกทดแทนหรือตัดมาใช้ก่อนปี 2017
ฺBigleaf mahogany นั้นโดนขึ้น appendix 2 มาตั้งแต่ 26/11/2003 แต่มีข้อยกเว้นสำหรับไม้แปรรูปจึงไม่มีผลกระทบยกเว้นราคาที่แพงขึ้นเป็นเท่าตัวเพราะมันกลายเป็นไม้หายากไปแล้ว
ไม้ rosewood (ยกเว้น brazilian) นั้นใด้รับการอภัยโทษตั้งแต่วันที่ 23/11/2019 ที่ CITES กำหนดว่าไม้แปรรูปที่น้ำหนักน้อยกว่า 10 กิโลกรัมสามารถส่งออกใด้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาติ
ในปัจจุบันไม้ mahogany แท้ราคาสูงขึ้นเยอะ ถ้ามีลวดลายราคาแพงกว่า indian rosewood ด้วยซ้ำ
ส่วนคนที่รอซื้อไม้ brazilian rosewood ที่ปลูกทดแทนในป่าอุตสาหกรรมนั้นก็ตงต้องรอไปอีกประมาณ 80 ปีเพราะประเทศในโลกที่สามอย่างบราซิลและประเทศไทยเคยมีกฏหมายโง่ๆที่ห้ามซื้อขายไม้ brazilian rosewood หรือ siamese rosewood (ขิงชัน พะยุง) ทั้งไม้ซุงและไม้แปรรูปโดยเด็ดขาดทำให้ไม่มีใครกล้าปลูกทดแทนทั้งๆที่ไม้เหล่านี้ราคาสูงกว่าไม้สักหลายเท่า
ตอนนี้กฏหมายถูกแก้แล้วแต่เราคงต้องรอต่อไป ลองดูสภาพสวนไม้ brazilian rosewood ในบราซิลตอนปลายปีที่แล้วครับ
แต่คนไทยนั้นคิดการไกลกว่าเพราะมีคนที่เริ่มปลูกเพื่อรอกฏหมายเปลี่ยน (หรือไม่รู้ว่าเขาห้ามตัด) มาเป็นสิบปีแล้ว
เดี๋ยวมาต่อครับ