ประวัติ John Mayer(จอห์น เมเยอร์) และผลงานเพลง
หากจะพูดถึงนักดนตรี ที่โดดเด่นในยุคปี 2000 คงไม่มีใครเกินเขาคนนี้… “John Mayer” ด้วยฝีมือในความเป็นนักดนตรีมืออาชีพ
ความสามารถหลากหลายด้าน ทั้งการร้องเพลงที่มีเทคนิค และน้ำเสียงในแบบเฉพาะของต้วเอง ความสามารถในการเขียนเพลง
ผ่านการเรียบเรียงการทำดนตรีที่หลากหลายสไตล์ ในแบบ Pop Rock Blues Folk Country ซึ่งหากได้ฟังและติดตามผลงานเพลง
ของเขามาต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่า John Mayer ทำได้ดีในทุกๆมิติ และโดยเฉพาะ ฝีมือในกาเล่นกีต้าร์ของเขา ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ
เขามีความสามารถในการเล่นกีต้าร์ได้ดีทั้ง กีต้าร์ไฟฟ้า และกีต้าร์โปร่ง เรียกว่าในบรรดานักกีต้าร์ยุคใหม่ ไม่มีใครเทียบได้จริงๆ
John Mayer นักดนตรีชาวอเมริกัน เกิดในเมือง Bridgeport ในรัฐ Connecticut, เขาเคยเรียนที่ Berklee College of Music
ก่อนที่จะย้ายมา Atlanta, Georgia (แอตแลนต้า จอร์เจีย) ในปี ค.ศ. 1997 และเคยทำวงดนตรี ตระเวณเล่นไปทั่ว
กระทั่งไปเข้าตาแมวมอง โดย John Mayer เริ่มเซ็นสัญญา เข้า studio เพื่อทำอัลบั้มกับ Columbia Records ในปี 2001
ภายใต้ชื่ออัลบั้ม “Room for Squares” นั้นนับเป็นก้าวแรกอันสำคัญ ที่เปลียนชีวิตเขาไปตลอดกาล… เรามารู้จักอัลบั้ม/ผลงานเพลงของเขากัน…
“Room for Squares” (2001)
สามารถขึ้นอันดับ best-selling album และยังขึ้นอันดับ 9 บน U.S. Billboard ได้อีกด้วย
ทีสำคัญคือ เขายังได้รับรางวัล Grammy Awards สาขา Best Male Pop Vocal Performance กับบทเพลงฮิต
“Your Body Is a Wonderland” ผลงานเพลงอับบั้มนี้ ขายรวมไปประมาณกว่า 4,484,000 copies เฉพาะใน USA
ในอัลบั้ม “Room for Squares” ทุกๆบทเพลง เขียนเนื้อโดย John Mayer มีเพลง 2-3 เพลงเท่านั้น ทีมีการเขียนเพลงรวมกับคนอื่น
ดนตรีและอัลบั้ม “Room for Squares” มีความเป็น Pop, Rock และมีความเป็น Folk แผงบ้างเล็กน้อย ถือว่าเป็นการเปิดตัวทีดี
คนฟังเพลงเข้าถึงได้ง่าย เพลงโดดเด่นในอัลบั้มนี้ เช่น “No Such Thing”, “Why Georgia” , “Your Body Is a Wonderland”
“Back to You” และบทเพลงอย่ง “Neon” ที่แสดงให้เห็นถึง ฝีมือในการเล่นกีต้าร์ของเค้าแบบถึงพริกถึงขิง เลยทีเดียว
ต่อมาในปี 2003 John Mayer ออกผลงานใหม่อีกครั้ง “Heavier Things”
“Heavier Things” (2003)
อัลบั้มนี้ โชว์ความเป็น Rock มากขึ้น มีกลิ่นความเป็น Pop เล็กน้อย ความเป็นอะคูสติกน้อยลง
หากถามถึงความต่างจากอัลบั้มแรก ถือว่าแตกต่างกันพอสมควร แต่ ในแง่คุณภาพของดนตรี และบทเพลง ยังคงพัฒนา
มีคุณภาพไม่น้อยไปกว่าอัลบั้มชุดแรก , อัลบั้มชุด เปิดตัวได้สวยงาม นั่นคือ สามารถขึ้นอันดับ 1 อัลบั้มที่มียอดขายสูงสุด
ใน U.S. Billboard โดยมียอดจำหน่าย มากกว่า 317,000 copies ใน USA บทเพลงยอดเยี่ยมสำหรับอัลบั้มนี้ ที่ขอแนะนำ
เช่น “Clarity” , “Daughters” , “Something’s Missing” , “Only Heart” และ บทเพลง “Wheel”
“Continuum” (2006)
อัลบั้มที่มีเนื้อหาของเพลง ที่ปลดเรื่องความรักน้อยให้ลงไป แต่ใส่เนื้อหาการเมือง มุมมอง ทัศนคติในการมองโลก
ลงไปมากขึ้น และโดยเฉพาะกลิ่นไอของดนตรี โดย John Mayer บอกว่า เขาตั้งใจทำดนตรีให้หนีความเป็น POP ให้น้อยลง
โดยใส่กลิ่นของดนตรี Blues and Soul อยู่จางๆ ในเกือบทุกๆเพลง
ในด้านเสียงตอบรับจากแฟนเพลง ยังถือว่าทำได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย อัลบั้ม “Continuum”
ขึ้นอันดับสอง ใน U.S. Billboard chart เป็นอัลบั้มที่มียอดจำหน่าย มากกว่า 300,186 copies ใน USA
อัลบั้มชุดนี้ John Mayer ยังคงเขียนเพลงเอง โปรดิวเอง แต่ได้กำลังหนุนอย่าง Steve Jordan โปรดิวเซอรฝีมือดี มาช่วยด้วย
(Steve Jordan โปรดิวเซอรฝีมือดี และยังเป็นมือกลองที่เคยร่วมผลงานกับ Eric Clapton)
บทเพลงที่แนะนำ เช่น “Waiting On The Wold To Change” , “The Heart Of Life” , “Stop This Train”
“Slow Dancing In a Burning Room” นอกจากเพลงที่เขียนขึ้นใหม่ John Mayer ยังนำเพลง Bold As Love
ของ Jimmy Hendrix มา cover ใหม่ โดยใช้เทคนิคการเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า ในแบบที่ Hendrix เล่นไว้
Battle Studies (2009)
ผลงานชุดนี้ ยังคงขึ้น U.S. Billboard chart ได้ แต่ยอดขายลงน้อยลงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ คืออยู่ที่ 286,000 copies ใน USA
แนวดนตรีในอัลบั้มนี้ กลับไปสู่ความเป็น POP ROCK อีกครั้ง ในช่วงอัลบั้มนี้ John Mayer กำลังคบหากับนักน้องหญิง สุด popular อย่าง
Taylor Swift – ทั้ง 2 คนได้ร่วมกันร้องเพลง Half of My Heart ในอัลบั้มนี้ด้วย เป็นบทเพลงรักที่หวานๆๆๆๆ สะฟังแล้วยิ้มตามได้เลย
ส่วนเพลงที่โดดเด่นอีกเพลง และน่าจะเป็นเพลงเดียวในอัลบั้ม ที่มีกลิ่นความเป็นอะคูสติกมากทีสุดกว่าทุกๆเพลง คือเพลง “Who Says”
เขาเล่าให้ฟังว่า เพลงนี้เขียนใน ช่วงเวลาที่เขาอยู่ในห้องพัก (apartment) คนเดียว กับกีต้าร์โปร่งที่วางข้างๆตัว
กลางในเมือง New York , เพลงนี้ ขึ้นอันดับ 17 บน Billboard Hot 100 ในเวลาต่อมา
Born and Raised (2012)
ผลงานที่สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับตัว John Mayer เพื่อจะบอกว่าเขาทำอะไรก็ได้ ถ้าเขาอยากจะทำ ในอัลบั้มนี้ ดนตรีจึงแตกต่างจากเดิมๆ
ทิ้งความเป็น Pop Pop Rock ไปสะเกือบหมดเลยทีเดียว อัลบั้ม “Born and Raised” เน้นดนตรีไปทาง Folk Rock, Country Rock, Southern Rock
เพลงเปิดตัวทีตัดมาเป็นซิงเกิ้ลแรก คือเพลง “Shadow Days” ฟังคลิกเเรกบอกได้เลยว่า โดนมาก ! โดยเฉพาะท่านที่ชอบเพลงในแบบ Folk Rock,
Country Rock หากท่านที่ชอบ POP คงจะต้องผิดหวังนิดๆ John Mayer ให้สัมภาษณ์ว่า อัลบั้มนี้ ได้แรงบันดาลใจจาก ศิลปินที่เป็น Idol ของเขาหลายคน
เช่น Bob Dylan ราชาเพลง Folk และอย่าง Neil Young, David Crosby, และ Graham Nash ทีมีความเป็น Country Rock และ Folk Rock อย่างเต็มเปี่ยม
หากถามว่า ชอบเพลงไหนบ้างในอัลบั้ม “Born and Raised” คงตอบได้อยากจริงๆ แต่อย่างไร อยากจะแนะนำให้ลองฟังเพลง อย่าง
“Queen of California” “Shadow Days” “Speak for Me” “Something Like Olivia” “Born and Raised” “Love Is a Verb”
และเพลง “Whiskey, Whiskey, Whiskey” อัลบั้ม “Born and Raised” ขึ้นสู่อันดับ 1 อัลบั้มขายดีในหลายๆ ประเทศ รวมถึงใน US Billboard ด้วย
Paradise Valley (2013)
หลังจากประสบความสำเร็จในแนวดนตรี Folk Rock, Country Rock, Southern Rock จากอัลบั้มก่อนหน้านี้
แน่นอนว่า John Mayer กำลังหลงไหลกับการทำผลงานเพลงในสไตล์นี้ ในปี 2013 เขาได้ออกอัลบั้ม “Paradise Valley” อีกครั้ง
กับดนตรี Folk Rock, Country Rock, Southern Rock ฟังแล้วมีความสุข ดนตรีแบบง่ายๆ มีความสวยงาม เช่นเพลง Wildfire,
Dear Marie, Waitin’ On the Day, Paper Doll, Who You Love เพลงที่ร่วมร้องกับแฟนสาวคนใหม่(ล่าสุด) Katy Perry (นักร้องสาวสวยเสียงดี)
และ เพลง You’re No One ‘Til Someone Lets You Down ที่มีกลิ่นของความเป็น Southern Rock ชัดเจนมาก
John Mayer ถือได้ว่า เป็นทั้งนักร้อง นักเขียนเพลง และโดยเฉพาะความเป็นมือกีต้าร์ ที่มีฝีมือไม่ธรรมดา เล่นได้ดีทั้งกีต้าร์ไฟฟ้า และกีต้าร์โปร่ง
ในยุคนี้ต้องยกให้เป็นที 1 เขาเคยแจมกับศิลปินรุ่นพ่อ(มือระดับเทพ/ตำนาน) มาแล้วทั้งนั้น เช่น แจมกับ Buddy Guy, B.B. King, John Scofield
หรืออย่าง Eric Clapton ก็แจมกันให้เห็นบ่อยๆ ครั้ง เหล่านักกีต้าร์ระดับตำนานต่างบอกเสียงเดียวกันว่า …. หมอนี้มันเด็ดจริงๆ !
นอกจากความเก่งกาจในเรื่องดนตรีแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นข่าวได้ตลอด คือ เรื่องสาวๆ ที่เขาเคยได้ควงมาแล้วหลายคน แต่ละคนถือว่าเป็น
ระดับ super star ทั้งนั้น เช่น…
– Jessica Simpson นักร้องคนดัง
– Jennifer Love Hewitt นักแสดงคนสวย ชื่อเสียงระดับแนวหน้า
– Vanessa Carlton น้องร้องคนดัง
– Kate Winslet นักแสดง นางเอกหนังเรื่องไททานิค
– Taylor Swift น้องร้องสาวสวยสุด Hot สุด Poppular อันนี้เป็นข่าวฮือฮามาก ในช่วงที่คบกันใหม่ ๆ หรือ ในตอนทีเลิกลากันไป
หลังเลิกลากัน มีการสร้างวิวาทะกันไปมา ให้ข่าวพาดพิงกันไปมาอยู่ระยะหนึ่ง
ขนาดว่า Taylor Swift แต่งเพลงให้กับ John Mayer เพื่อเอาไว้ฟังต่างหน้า (เพลง Dear John)
– และ ล่าสุด John Mayer กำลังคอหาดูใจกับ Katheryn Elizabeth Hudson
หรือ เคที เพอร์รี (Katy Perry เป็นชื่อในวงการ) สาวสวย Sexy, Katy Perry เป็นนักร้องคุณภาพอีกคนหนึ่งของวงการเพลง
ผลงานเพลงของเธอไม่ธรรมดา สามารถติดอันดับ 1 Billboard ถึง 5 เพลง (เท่ากับ ไมเคิล แจ็กสัน)
พูดถึงแฟนคนล่าสุด Katy Perry ก่อนจะมาพบกับ John Mayer เธอผ่านชีวิตการแต่งงานมาแล้ว
กับนักแสดงตลก ชาวอังกฤษ รัสเซลล์ แบรนด์ (Russell Brand) คบหากันอยู่ 2 ปี ก่อนที่จะเลิกลา กันไป
John Mayer บอกว่า ผมไม่แคร์ เธอคือคนที่ผมคิดว่าใช่ที่สุด ณ ตอนนี้ เราเข้ากันได้ดี
Taylor Swift เคยพูดออกแนวเตือน Katy Perry ว่า ระวัง…น้ำตาเธอจะเช็ดหัวเขา
เพราะ John Mayer เจ้าชู้ เขาไม่เคยจริงจังกับใคร ให้ระวังตัวให้ดี
แต่…Katy Perry พูดกลับไปว่า ไม่หรอก ฉันว่าตอนนี้ John Mayer เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าก่อนมา คงไม่คิดแค่สนุกๆ ไปวันๆ !
สุดท้าย John Mayer จะจบที่ Katy Perry หรือไม่ ต้องให้เวลา เป็นคำตอบ…
ไม่ว่าชีวิตส่วนตัวของเขาจะ play boy ขนาดไหน แต่สำหรับในมุมของความเป็นนักดนตรีแล้ว ต้องยกให้เขาเป็นต้นแบบ
และอัลบั้มก้าวต่อไปของ John Mayer จะทำงานเพลงสไตล์ไหนให้เราได้ฟังกันอีก ติดตามผลงานของเขากันต่อไป
ช่องทางติดตามผลงาน John Mayer
เวบไซด์ http://johnmayer.com/
แฟนเพจ https://www.facebook.com/johnmayer