ลักษณะเสียงไม้หลัง/ไม้ข้าง "Back & Side Toonwoods" จุดเด่น/จุดด้อย 

:

เมื่อเทียบกับประเภทของไม้ที่ถูกนำมาใช้ด้านหน้าของกีต้าร์แล้ว ไม้ที่ถูกนำมาใช้เป็นแผ่นหลัง และข้างนั้น
มีมากมายหลายชนิดกว่า อาจแบ่งออกกว้างๆ เป็นตระกูล Rosewood, Walnut, Maple, Koa, Mahogany
รวมไปถึงไม้แปลกๆ ใหม่ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยม และพวกที่ยังไม่ค่อยแพร่หลายนัก เพื่อความสะดวกและเข้าใจได้ง่าย
ผู้เขียน จะแบ่งประเภทของไม้ออกเป็นจำพวกๆ ดังนี้

:

(Rosewood) เฉพาะตระกูล นี้ผู้เขียนพบว่าในปัจจุบันมีเกือบ 10 ชนิด ที่ถูกนำมาใช้เป็นด้านหลัง
และข้างของกีต้าร์ ที่ถูกใช้มาก และเห็นบ่อยที่สุดก็คือ "Indian Rosewood" ส่วนที่หายาก
และแพงที่สุดก็คงจะเป็น "Brazilian Rosewood" เรามาเร่ิมกันเลย...

:

1.1 Indian Rosewood (Dalbergia Latifolia) 
มีชื่อเต็มว่า East Indian Rosewood จุดกำเนิดจากประเทศอินเดีย ถูกใช้อย่างแพร่หลาย ตั้งแต่กลาง 
ปี ค.ศ. 1960 ในขณะที่ Brazilian Rosewood หายากขึ้น. East Indian Rosewood เป็นไม้มีสีน้ำตาล 
ลายตรง หาง่ายราคาจึงไม่แพงนัก แต่ที่เป็นไม้คัดลายถี่ก็ค่อนข้างหายาก และมีราคาสูงพอควร 
ไม้นี้ให้เสียงต่ำทุ้มดังกังวาล โดยเฉพาะเมื่อใช้ประกอบกีต้าร์ขนาดใหญ่ บางท่านวิจารณ์ว่าเสียงสูง
ที่ได้จากไม้มีความคมชัดใสเหมือนโลหะ ด้วยความครบเครื่องของมัน จึงขึ้นเป็นไม้ยอดนิยมอันดับ 1.

:

1.2 Brazilian Rosewood (Dalbergia Nigra)
บางทีอาจถูกเรียกว่า “Jacaranda” เป็นไม้ที่มีปริมาณจำกัดเพราะถูกตัดโค่นมากเกินไปในอดีต 
ปัจจุบันจึงมีราคาแพงมาก ต้นกำเนิดมาจากประเทศบราซิล มีสีน้ำตาลเข้มออกม่วง โดยมากจะมี
ลวดลายไม้เหมือนใยแมงมุม เนื้อไม้มีกลิ่นหอม หลายท่านยอมรับว่าเป็นไม้ที่ให้เสียงดีที่สุดในตระกูลนี้
แต่...ก็มีหลายท่านที่เชื่อว่าเสียงไม่แตกต่างไปจาก Indian Rosewood สักเท่าไหร่  ไม้นี้ยังมีจุดอ่อน 
คือ ปริแตกได้ง่ายถ้าถูกเก็บในที่ๆ ความชื้นไม่พอเพียงหรือ ที่ๆ อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป

:

1.3 Cocobolo Rosewood (Dalbergia Restusa)
ต้นกำเนิดมาจาก Mexico เป็นหนึ่งในไม้ที่ใช้ใน "กีตาร์ระดับไฮเอ็นด์” (กีตาร์มีราคาสูง)
ไม้ Cocobolo มีสีส้มแดงตอนถูกตัดใหม่ๆ แต่จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลแดงลายดำ ตามกาลเวลา
ไม้ Cocobolo เป็นไม้ที่ "ให้เสียงใกล้เคียงกับ Brazilian Rosewood" แต่ราคาไม่แพงเท่า
จุดเด่น...ที่สุดในแง่เสียง คือให้เสียงที่มีประกายมาก ใสกังวานเป็นประกายเหมือนเคาะแก้วไวน์
ซึ่งในแง่ความใสนั้น มีว่ามากกว่า Indian Rosewood แต่ Low น้อยกว่า

เมื่อเล่นแบบ Finger Picking จะมีความชัดเจนในทุกย่านเสียง

จึงกล่าวได้ว่า Cocobolo ให้โทนเสียงระหว่าง Indian Rosewood กับ Brazilian Rosewood
และไม้ Cocobolo ยังมีจุดเด่นตรงกระพี้ ให้เห็นเป็นลายสวยงาม นับเป็นดเสน่ห์ที่ชวนหลงไหล
(แต่บางแผ่นก็อาจจะไม่มีกระพี้ มากน้อยแค่ละแผ่นไม่เท่ากัน)

:

1.4 Madagascar Rosewood (Dalbergia Baroroni) 
ไม้นี้จัดว่าเป็นไม้ที่มีคุณสมบัติคล้าย Brazilian Rosewood สีน้ำตาลแดงปนส้มและม่วง 
และ มีลวดลายสวยงาม ปัจจุบันผู้ผลิตกีต้าร์ Hand Made เริ่มใช้ไม้ชนิดนี้มากขึ้น 
เนื่องจากคุณสมบัติดังกล่าว ราคาจึงสูงพอสมควร ปัจจุบันจะหาได้ไม่ยากนัก

:

1.5 Honduran Rosewood (Dalbergia Stevonsonii) 
ในปัจจุบันไม้ชนิดนี้เริ่มหายากขึ้น เนื้อไม้จะแน่นกว่า Indian Rosewood และให้เสียง Balance 
ดีเทียบเท่า Brazilian Rosewood บางท่านบอกเสียงใสเหมือนกระดิ่ง โทนสีของไม้ค่อนข้างไปทาง
อิฐแดง บางครั้งก็มีลายดำ ไม้บางชิ้นอาจมี Sapwood ตรงกลางทำให้ดูเป็นเอกลักษณ์แปลกตาดี 
ข้อดีอีกอย่างของไม้นี้คือ ไม่เปราะเกินไปง่ายต่อการตัดผลิต

:

(2) Mahogany (Swietenia Macrophylla) 
มาจาก 2 แหล่งด้วยกัน ไม้ที่มาจากบราซิล เรียกว่า Honduran หรือ Genuine Mahogany ส่วนที่มาจากไนจีเรีย 
และ ตามชายฝั่งไอโวลี่ใแอฟริกาใต้ เรียกว่า African Mahogany และ Sapele, ความดีของ
ไม้พันธุ์นี้มักจะถูกมองข้าม ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นไม้หาง่าย ราคาไม่แพงโดยเฉพาะชนิดที่ไม่มี
ลวดลาย อันที่จริงแล้วไม้ชนิดนี้ให้เสียงดังกังวาล คมชัด 

หลายท่านกล่าวว่าเป็นไม้ที่ให้เสียงธรรมชาติ ที่ควรได้จากไม้แทนที่จะเหมือนเสียงโลหะจาก 
Rosewood ไม้ Mahogany นี้ให้เสียง Balance และ Separation ดี
จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับดนตรีประเภท Finger Style หรือ Travis Picking บ่อยครั้งที่เห็นไม้ชนิดนี้ถูกนำ
มาใช้เป็น Soundboard และที่สำคัญกว่านั้นคือ "ถูกใช้เป็นคอกีต้าร์ด้วย" เพราะเป็นไม้ที่มีความแข็งแกร่งสูง 
Mahogany ที่มีลวดลายก็มี แต่ค่อนข้างหายาก และมีราคาแพง ยกตัวอย่างเช่น พวกลายเสือ (Flamed/Beeswing) 
หรือลายผ้า (Quilted) กล่าวกันว่า ลวดลายของไม้ไม่มีผลต่อคุณภาพของเสียงแต่อย่างใด

:

(3.) Koa (Acacia Koa) 
ต้นกำเนิดมาจาก Hawaii เป็นไม้สีน้ำตาลทองออกส้ม มีลายเข้มบางครั้งมีประกายไฟสวยงามมาก 
ราคาของไม้ขึ้นอยู่กับลายของไม้ ให้เสียง Bass น้อยกว่า Rosewood และให้เสียงสูงน้อยกว่า Mahogany 
จุดด้อย... ของไม้ชนิดนี้คือมาตราฐานของเสียงที่ได้มักไม่ค่อยจะคงที่ ความหมายคือ 
ไม้บางแผ่นอาจให้เสียงดีมาก แต่บางแผ่นอาจจะไม่ค่อยได้เรื่อง ถ้าเจอไม้ดีและถูกนำมาประกอบเป็น
กีต้าร์ทั้งตัวจะได้กีต้าร์ที่มีเสียงกลาง Balance ดีที่สุด อีกสายพันธุ์หนึ่งที่คล้ายคลึงกับ Koa 
แต่ราคาถูกกว่ากันมากคือ Black Acacia (Acacia Melanoxylon) บางครั้งเรียกว่า “Australian Blackwood” 
หรือ “Tasmanian Blackwood” เป็นไม้ที่มีสีน้ำผึ้งลายตรง เสียงใกล้เคียงกับ Koa พบที่ประเทศออสเตรเลีย 
แถบแอฟริกาตะวันออก ศรีลังกา และ อินเดีย

:

(4.) Maple (Acer Pseudoplatanus) 
มีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศเยอรมัน เป็นไม้สีครีม แบ่งออกเป็น 2 ลาย คือ Quilted และ Flamed 
ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของการตัด ประเภทของ Maple ยังถูกแบ่งออกเป็น Western Bigleaf กับ Eastern Hard 
พวก Bigleaf จะมีเนื้ออ่อนกว่า ง่ายต่อการตัดผลิต จึงนิยมถูกนำมาใช้มากขึ้น กีต้าร์ที่ทำจาก Maple 
จะให้เสียงสูงแหลมคมและไว แต่ Bass น้อย และ Sustain ต่ำ นักดนตรีบางท่านจึงชอบใช้เครื่องขยายเสียง
กับกีต้าร์ Maple เพราะจะได้ไม่มี Feedback หรือ ที่เราเรียกว่าเสียงฮัม

:

(5.) Walnut (Juglans California) 
รู้จักกันแพร่หลายในนามของ Claro Walnut กำเนิดจากรัฐแคลลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นไม้
สีน้ำตาลเทาลายดำ เป็นไม้เนื้อแข็งมีกลิ่นหอมจุดเด่นคือ เสียงจะคล้ายกับไม้ Mahogany ถ้าเล่นเบา 
แต่หากถ้าเล่นหนักๆ จะคล้าย Rosewood ในปัจจุบันมีไม้ Walnut อีก 3 ชนิด จาก อเมริกา
ที่เริ่มถูกแนะนำมาใช้ ได้แก่ Black Walnut (Juglans Nigra), Mayan Walnut (Lysiloma Bahamensis) 
และ Peruvian Walnut (Juglans Neotropica)

:

(6.) Ziricote (Cordia Dodecandra) 
เป็นไม้สีเขียวเทาปนดำ และมีลายเหมือนใยแมงมุมดูสวยงามมาก แหล่งกำเนิดจากอเมริกากลาง 
ให้เสียงคล้าย Rosewood ถึงแม้จะมีน้ำหนักมากกว่า จัดได้ว่าเป็นไม้ค่อนข้างหายากและมีราคาแพง 
ข้อเสียคือ "เป็นไม้เปราะแตกหักง่าย" อีกพันธุ์หนึ่งที่อยู่ในจำพวกเดียวกัน
คือ Bocote (Cordia Gerascanthus) ไม้มีสีน้ำตาล และลายดำตรง ราคาถูกกว่า และข้อสำคัญคือ
ไม่เปราะเท่า Ziricote

:

(7.) Macassar Ebony (Diospyrus Celebica) 
เป็นไม้พื้นสีดำ และมีลายสีครีมตามแนวยาว แหล่งกำเนิดจากประเทศอินโดนีเซีย 
เป็นไม้ที่มีความ ทนทาน แข็งแรง นิยมมากโดยเฉพาะ Breedlove Guitars 
เชื่อว่าจะให้เสียงดีเยี่ยมถ้าใช้ Englemann Spruce เป็นไม้แผ่นหน้า

:

(8) African Blackwood (Dalbergia Melanoxylon) 
ไม้นี้มีปริมาณจำกัด ราคาจึงสูงมาก เนี้อไม้สีดำ และมี Sapwood แซม เสียงที่ได้ดีคล้าย Brazilian Rosewood
ข้อเสียคือ การผลิตกีต้าร์ที่ทำยาก เพราะว่าเป็นไม้เนื้อแข็ง และมีน้ำหนักมาก
:

:

การเลือกไม้ชนิดไหนนั้น อยู่ที่งบ(เงินในกระเป๋า) และความชอบของแต่ละท่าน 
แต่ถ้าเราเข้าใจลักษณะของเสียง ข้อเด่น ข้อด้อย รวมถึงความทน ความอ่อนไหวต่ออากาศ
ก็จะทำให้เราตัดสินใจได้ถูกต้อง 

:

เรียบเรียงโดย ทีมงานอะคูสติกไทย (Aspenglow)
สงวนสิทธิ์เนื้อหา+ภาพประกอบบนเวบไซด์ กรุณาแจ้งกับทีมงานอะคูสติกไทย ก่อนนำไปเผยแพร่