Squier OLARN Signature Strat Series II
กีตาร์ถือเป็นของคู่กันกับโอฬาร พรหมใจ มาโดยตลอดและเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่ง ที่คอยสานต่อผลงาน
และอุดมการณ์ตลอดจนพัฒนาฝีมือของเขา ตั้งแต่ เขาเริ่มเป็นมือกีตาร์อาชีพตั้งแต่ ปี 1984 อีกทั้งกีตาร์ยังเป็น
ส่วนสำคัญในการต่อยอดเส้นทางสายดนตรีของเขามาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
เป็นเวลาเกือบ 8 ปีเต็มก่อนที่ กีตาร์ Squier OLARN Signature Strat จะมีวางจำหน่าย ที่ โอฬารเลือกใช้กีตาร์ยี่ห้อ Squier
โดยเคยให้เหตุผลที่เลือกใช้กีตาร์ Squier ง่าย ๆ ว่า “Squier เป็นกีตาร์ที่ผลิตจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพและที่สำคัญกีตาร์ที่ดี
ไม่จำเป็นต้องเป็นกีตาร์ราคาแพงเสมอไป” สิ่งเหล่านี้ประกอบกับความสามารถที่มี เอกลัษณ์ที่แสดงออกให้เป็นถึงตัวตนอย่างชัดเจน
ของ โอฬาร ก็ได้ถูกถ่ายทอดไปสู่บริษัทผู้ผลิตกีตาร์ (Fender) และจึงเป็น ที่มาของการให้เกียรติเชิญให้ร่วมเซ็นต์สัญญาเพื่อออกแบบ
และผลิตกีตาร์รุ่น Squier Signature Olarn Strat ซึ่งการเซ็นต์สัญญาในวันนั้น ถือได้ว่าเป็น หน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ของวงการดนตรี
ในประเทศไทย เนื่องจากว่าโอฬาร พรหมใจเป็น มือกีตาร์คนแรกในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับเกียรติในการเซ็นต์สัญญา
เพื่อผลิตกีตาร์ Signature กับบริษัท ยักษ์ใหญ่ในวงการกีตาร์ อย่าง Fender
ซึ่งสัญญาที่โอฬารได้ลงนามไว้กับ Fender เป็นสัญญาที่ Fender ใช้ ลงนามกับศิลปินระดับโลกท่านอื่น ๆ ในการผลิตกีตาร์ Signature รุ่นต่าง ๆ
อย่างเช่น Eric Clapton, John Myers, Jeff Beck และ Eric Johnson
และแน่นอนว่า Squier OLARN Signature Strat นั้น โอฬารก็ ได้มีส่วนร่วมกับ Fender ในการกำหนด Spec อย่างใกล้ชิด
โดยขั้นตอนการออกแบบนั้น ได้มีการส่งกีตาร์ไป – มา ระหว่างประเทศไทยและประเทศ สหรัฐอเมริกา หลายครั้งเพื่อที่จะให้กีตาร์รุ่นนี้
เป็นไปตาม Spec ที่เขาต้องการมากที่สุด ซึ่งเขาก็ได้ถ่ายทอดความตั้งใจและความสนใจในรายละเอียดปลีกย่อยในกีตาร์เป็นอย่างมาก
โดยคาดหวังให้กีตาร์ Signature ของเขาเป็นไปดั่งที่คาดหวังมากที่สุดและที่สำคัญสามารถบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเขาได้ชัดเจนที่สุด
โอฬาร พรหมใจและ Fender ได้ลงนามในสัญญาร่วมกันและได้ร่วมลงมือในการร่วมออกแบบกีตาร์
รุ่น Signature ของเขา มาตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2005
กีตาร์ Squier OLARN Signature Strat รุ่นแรกนั้นก็ ได้ มีวางจำหน่ายมาตั้งแต่ ปี 2006 ซึ่ง มี Spec เด่นๆ อย่างเช่น Pickup ที่ เป็นแบบ
High-out put single coil, คอกีตาร์เป็นแบบ Soft-V และเป็นกีตาร์ที่ไม่มีโทนมีแต่ volume เพียงตัวเดียว มีสี Sunburst, ดำ, ขาว และ Natural
และในเดือนพฤศจิกายน 2008 ก็ได้มีการผลิตสีเพิ่มเติมขึ้นมาอีก 2 สี คือ สีแดง Fiesta Red และสีฟ้า Daphne Blue ซึ่งสองสีนี้ถือได้ว่าเป็น
สีที่อยู่ในตระกูล Vintage ของ Fender และมีการผลิตอย่างจำนวนจำกัดเท่านั้น
และในช่วงต้นปี 2013 โอฬาร พรหมใจก็ ได้ มีความคิดเห็น ส่งไปทาง Fender ว่า เขา อยากที่จะ นำเสนอ กีตาร์ที่ เป็น Maple Fingerboard ในแบบ
ของเขาบ้าง เพราะ เขาเชื่อว่ามือกีตาร์ ทุก ๆ คน มักจะ คอย ค้นหา Sound ที่เหมาะสมกับตัวเองและสนองจินตนาการณ์ ของ ตนเองอยู่เสมอ ๆ และ
โอฬารก็ เป็น หนึ่งในมือกีตาร์ ที่ไม่เคยหยุดนิ่งเรื่องนี้
โดยเขาได้ให้ความเห็น ว่า เขามองหากีตาร์ที่ตอบสนอง ความเป็น Vintage และ นึกย้อนไป หากีตาร์ของยุคปี 50 ซึ่งเป็น Maple Fingerboard แต่ใจที่เต็มเปี่ยม
ไปด้วยความเป็น ROCK ของโอฬาร จึงเลือก ให้ Headstock เป็น แบบ Large Headstock เพราะ เขาเชื่อ ใน Sustain ที่ได้ จาก Headstock ที่มีขนาดใหญ่
พร้อม ทั้ง ปรับ Neck Shape ให้มีขนาดเล็กลง เป็น แบบ Soft “V” Neck และ เคลือบแบบ Satin Finish เพื่อให้มี ความถนัดมือกับมือกีตาร์ชาวไทย ประกอบกับ
เพิ่มเติม ให้มีการ Design Pickup ที่ เป็น Single- Ciol ให้มีความ Hot และ เพิ่ม Push/Pull On/Off Switch เพื่อให้ มือกีตาร์สามารถ ปรับแต่ง รายละเอียด
ของเสียงกีตาร์ให้ ได้ Sound กีตาร์ที่มี ความหลากหลายมากถึง 7 แบบ โอฬารยังเลือกใช้ Fret แบบ Medium Jumbo และมีจำนวน Fret 22 Frets
สำหรับกีตาร์ Squier OLARN Signature Strat Series II นั้น โอฬาร ยังคงต้องการ ให้มี Volume ตัวเดียว เหมือน OLARN Signature รุ่นแรก เพราะ เขา ยังมีความเชื่อ
ว่า Tone นั้น สามารถ เกิดจาก เทคนิคการให้น้ำหนัก หนักเบาของมือ และ ตำแหน่งในการดีดสาย โดยรุ่นนี้มีจะสีให้เลือก 3 สี ดังนี้ Sunburst, White Blonde, Trans Blue
Spec:
– Body : Alder
– Neck : Maple with Maple Fingerboard, Soft “V” Neck Profile (Satin Urethane Finish),
Large Headstock, Black Dot Inlay, 9.5” Radius
– Pickup : 3- Single-Coil High Output with Pole Piece
– Control : 1 Volume, 5-Way Switch with push/pull on/off Switch
Available in Trans Blue, White Blonde and 2-Color Sunburst
– Price 14,500 Bath Discount 10% = 13,050 Baht
รายละเอียดเพิ่มเติม สอบถามที่ร้าน Music Concept
เวบไซด์ : http://www.musicconcept.co.th/ แฟนเพจ : https://www.facebook.com/MusicConceptThailand