Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: saddle มีสอบแบบทีเห็น  (อ่าน 1720 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

lowpro

  • member
  • ***
  • กระทู้: 102
saddle มีสอบแบบทีเห็น
« เมื่อ: มกราคม 21, 2021, 11:42:44 »



saddle มีขอบหยัก และแบบไม่หยัก
สองแบบต่างกันอย่างไง แบบไหนน่าจะดีกว่า

Ods16339

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,450
Re: saddle มีสอบแบบทีเห็น
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 21, 2021, 15:31:43 »
มีแบบเรียบที่ไม่มีหยักอีกแบบครับ
อันล่างเป็นแบบที่อยู่ในกีตาร์martin

ทั้งสองอันในรูปก็เป็นcompensate saddle เหมือนกัน
แต่ทำออกมาคนละรูปแบบเท่านั้น

sden1982

  • member
  • ***
  • กระทู้: 24
Re: saddle มีสอบแบบทีเห็น
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2021, 17:08:10 »
เอาไว้ปรับให้โน๊ตตรงนี่ครับ ทั้งสองแบบตำแหน่งที่สายพาดเหมือนกัน แค่รูปทรงต่างกันเฉยๆ

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,166
Re: saddle มีสอบแบบทีเห็น
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2021, 22:23:43 »
Saddle ของกีตาร์ไฟฟ้านั้นสามารถปรับขึ้นลงและหน้าหลังใด้เป็นส่วนใหญ่เพื่อตั้ง intonation แต่ saddle กีตาร์โปร่งส่วนใหญ่ผู้ใช้ไม่สามารถปรับเองใด้ครับ

COMPENSATION คืออะไร

ตามทฤษฏีแล้วถ้าเราดีดสายเปล่าหรือกดสายที่เฟร็ต 12 แล้วดีดก็ควรจะใด้ note เดียวกันที่ความถี่ต่างกันสองเท่าแต่ความจริงแล้วทุกครั้งที่เรากดสายก็จะมีความเพี้ยนเกิดขึ้นเพราะความยาวสายต้องเพิ่มขึ้นจากแรงกดโดยมีองค์ประกอบดังนี้

1. ขนาดของสาย....สายขนาดยิ่งใหญ่ยิ้งเพี้ยน ขนาดที่ว่าคือขนาดของสายแกนไม่นับเปลือกหุ้ม ตัวอย่างเช่นสาย 3 (G) มีแกนเล็กกว่าสาย 2 (B) เป็นต้น

2. ความสูงของสาย....ยิ่งสูงยิ่งเพิ้ยนเยอะ

3. Scale.... ยิ่งสั้นยิ่งเพี้ยน

4. แรงดีด...ยิ่งดีดแรงยิ่งเพี้ยน

การทำ compensation ที่ saddle นั้นเขาใช้การวางเป็นมุมเฉียงให้สายที่ใหญ่มี span ยาวกว่าสายที่เล็กแต่ก็ยังมีปัญหาตรงสาย G ที่มีแกนเล็กกว่าสาย B จึงต้องทำรอยหยักที่ตัว saddle ให้ span สาย B ยาวกว่าสาย G ด้วย




เส้นสีเขียวคือเส้น nut ถึงเฟร็ต 12x2 saddle รูป A คือการเซาะบ่ารับสาย B ส่วนรูป B คือการทำแกนสองแกนหรือทำเป็น split saddle






ความจริงแล้วผมคิดว่าสมัยก่อนที่ไม่มีใครทำ compensated saddle ก็เพราะในยุคนั้นยังไม่มีเครื่องตั้งสายแบบอีเล็กโทรนิคให้ใช้ ลองดูใด้จาก saddle ของกีตาร์ Martin เป็นตัวอย่างว่า compensated saddle นั้นเขาไม่ใช้ในรุ่นเรือธงของเขา




ปัญหาการตั้ง intonation โดยใช้เครื่องตั้งสาย

1 octave ของเสียงดนตรีแบ่งออกเป็น 12 semitones, 1 semitone แบ่งออกเป็น 100 cents, หูคนเราสามารถจับความเพิ้ยนใด้ที่ ±12 cents

เครื่องตั้งสายราคาถูกมีความละเอียดที่ ±1.0 cent ถ้าราคาแพงมีความละเอียดที่ ±0.1 cent ซึ่งไวกว่าหูคน 12-120 เท่า

ตอนนี้ลองเอากีตาร์ของคุณมาตั้งสายโดยใช้เครื่องให้ตรงเป๊ะทุกสายแล้วกดที่เฟร็ต 12 ดูเพื่อเช็ค intonation ผมว่ามีโอกาสสูงที่เครื่องมันจะฟ้องว่า intonation ของกีตาร์คุณมันเพี้ยนไปในบางสาย (ถ้ามันยังตรงเป๊ะทุกสายก็เลิกอ่านใด้เลยครับ)





เคยมีมือกีตาร์รุ่นใหญ่บอกผมว่าถ้าจะเล่นเพลงยุค '60s-'70s ให้ใด้อารมณ์ของต้นฉบับก็ให้ตั้งสายโดยใช้หูอย่างเดียวเพราะเครื่องตั้งสายมันตั้งตรงเกินไปทำให้ฮาโมนิกเพี้ยนตอนเล่น เรื่องนี้ก็มี James Taylor มายืนยันในตอนหลังว่าต้องตั้งสายให้เพี้ยนต่ำเล็กน้อยกีตาร์ถึงจะเสียงเพราะครับ

<a href="http://youtu.be/V2xnXArjPts" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/V2xnXArjPts</a>


ลุง James แกก็แนะนำจากประสพการณ์ว่าควรตั้งสายเปล่าให้ flat เพื่อให้กีตาร์ไม่เพี้ยนสูงตอนเรากดสาย ความจริงแล้วผมคิดว่าการตั้งสายเปล่าให้ flat เป็นการ compensate ไม่ให้ fretted note เพี้ยนสูงจนฟังออกครับ

อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าเราฟังความเพี้ยนไม่ออกถ้ามันต่ำกว่า ±12 cents ถ้ากีตาร์มันเพิ้ยนไป +16 cents ที่เฟร็ต 12 สาย 5 นี่ฟังออกแน่นอนแต่ถ้าตั้งสายเปล่าเพี้ยนต่ำใว้ -9 cents ความเพี้ยนที่เฟร็ต 12 ก็เหลือแค่ 16-9 =+7 cents ที่ฟังไม่ออกครับ

ถ้าเครื่องตั้งสายของคุณไม่มีหน่วย cent ก็ไปดาวน์โหลดแอปฟรี Pro Guitar Tuner มาลองใช้ใด้เลยครับ




แอปนี้เขาให้ margin ไฟเขียวที่ 10 cents ถ้าสายไหนหลุด margin ที่เฟร็ต 12 ก็ตั้งสายเปล่าใหม่ให้มันไม่หลุด แค่นี้ก็หมดปัญหาแล้วครับ










lowpro

  • member
  • ***
  • กระทู้: 102
Re: saddle มีสอบแบบทีเห็น
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2021, 20:35:12 »
Saddle ของกีตาร์ไฟฟ้านั้นสามารถปรับขึ้นลงและหน้าหลังใด้เป็นส่วนใหญ่เพื่อตั้ง intonation แต่ saddle กีตาร์โปร่งส่วนใหญ่ผู้ใช้ไม่สามารถปรับเองใด้ครับ

COMPENSATION คืออะไร

ตามทฤษฏีแล้วถ้าเราดีดสายเปล่าหรือกดสายที่เฟร็ต 12 แล้วดีดก็ควรจะใด้ note เดียวกันที่ความถี่ต่างกันสองเท่าแต่ความจริงแล้วทุกครั้งที่เรากดสายก็จะมีความเพี้ยนเกิดขึ้นเพราะความยาวสายต้องเพิ่มขึ้นจากแรงกดโดยมีองค์ประกอบดังนี้

1. ขนาดของสาย....สายขนาดยิ่งใหญ่ยิ้งเพี้ยน ขนาดที่ว่าคือขนาดของสายแกนไม่นับเปลือกหุ้ม ตัวอย่างเช่นสาย 3 (G) มีแกนเล็กกว่าสาย 2 (B) เป็นต้น

2. ความสูงของสาย....ยิ่งสูงยิ่งเพิ้ยนเยอะ

3. Scale.... ยิ่งสั้นยิ่งเพี้ยน

4. แรงดีด...ยิ่งดีดแรงยิ่งเพี้ยน

การทำ compensation ที่ saddle นั้นเขาใช้การวางเป็นมุมเฉียงให้สายที่ใหญ่มี span ยาวกว่าสายที่เล็กแต่ก็ยังมีปัญหาตรงสาย G ที่มีแกนเล็กกว่าสาย B จึงต้องทำรอยหยักที่ตัว saddle ให้ span สาย B ยาวกว่าสาย G ด้วย




เส้นสีเขียวคือเส้น nut ถึงเฟร็ต 12x2 saddle รูป A คือการเซาะบ่ารับสาย B ส่วนรูป B คือการทำแกนสองแกนหรือทำเป็น split saddle






ความจริงแล้วผมคิดว่าสมัยก่อนที่ไม่มีใครทำ compensated saddle ก็เพราะในยุคนั้นยังไม่มีเครื่องตั้งสายแบบอีเล็กโทรนิคให้ใช้ ลองดูใด้จาก saddle ของกีตาร์ Martin เป็นตัวอย่างว่า compensated saddle นั้นเขาไม่ใช้ในรุ่นเรือธงของเขา




ปัญหาการตั้ง intonation โดยใช้เครื่องตั้งสาย

1 octave ของเสียงดนตรีแบ่งออกเป็น 12 semitones, 1 semitone แบ่งออกเป็น 100 cents, หูคนเราสามารถจับความเพิ้ยนใด้ที่ ±12 cents

เครื่องตั้งสายราคาถูกมีความละเอียดที่ ±1.0 cent ถ้าราคาแพงมีความละเอียดที่ ±0.1 cent ซึ่งไวกว่าหูคน 12-120 เท่า

ตอนนี้ลองเอากีตาร์ของคุณมาตั้งสายโดยใช้เครื่องให้ตรงเป๊ะทุกสายแล้วกดที่เฟร็ต 12 ดูเพื่อเช็ค intonation ผมว่ามีโอกาสสูงที่เครื่องมันจะฟ้องว่า intonation ของกีตาร์คุณมันเพี้ยนไปในบางสาย (ถ้ามันยังตรงเป๊ะทุกสายก็เลิกอ่านใด้เลยครับ)





เคยมีมือกีตาร์รุ่นใหญ่บอกผมว่าถ้าจะเล่นเพลงยุค '60s-'70s ให้ใด้อารมณ์ของต้นฉบับก็ให้ตั้งสายโดยใช้หูอย่างเดียวเพราะเครื่องตั้งสายมันตั้งตรงเกินไปทำให้ฮาโมนิกเพี้ยนตอนเล่น เรื่องนี้ก็มี James Taylor มายืนยันในตอนหลังว่าต้องตั้งสายให้เพี้ยนต่ำเล็กน้อยกีตาร์ถึงจะเสียงเพราะครับ

<a href="http://youtu.be/V2xnXArjPts" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/V2xnXArjPts</a>


ลุง James แกก็แนะนำจากประสพการณ์ว่าควรตั้งสายเปล่าให้ flat เพื่อให้กีตาร์ไม่เพี้ยนสูงตอนเรากดสาย ความจริงแล้วผมคิดว่าการตั้งสายเปล่าให้ flat เป็นการ compensate ไม่ให้ fretted note เพี้ยนสูงจนฟังออกครับ

อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าเราฟังความเพี้ยนไม่ออกถ้ามันต่ำกว่า ±12 cents ถ้ากีตาร์มันเพิ้ยนไป +16 cents ที่เฟร็ต 12 สาย 5 นี่ฟังออกแน่นอนแต่ถ้าตั้งสายเปล่าเพี้ยนต่ำใว้ -9 cents ความเพี้ยนที่เฟร็ต 12 ก็เหลือแค่ 16-9 =+7 cents ที่ฟังไม่ออกครับ

ถ้าเครื่องตั้งสายของคุณไม่มีหน่วย cent ก็ไปดาวน์โหลดแอปฟรี Pro Guitar Tuner มาลองใช้ใด้เลยครับ




แอปนี้เขาให้ margin ไฟเขียวที่ 10 cents ถ้าสายไหนหลุด margin ที่เฟร็ต 12 ก็ตั้งสายเปล่าใหม่ให้มันไม่หลุด แค่นี้ก็หมดปัญหาแล้วครับ


ขอบพระคุณมากๆครับ ที่ให้ข้อกระจ่างชัดเจน