หัวข้อ: ข้อเสียของTaylorในความเห็นน้าๆมีไรบ้างครับ

[Cool44]

ผมชอบ้สียงของมันแต่ราคาแพงโดยเฉพาะ
Made in USA.
เลยอยากฟังcommentไว้ประกอบการตัดสินใจ
ควรจะลงทุนซื้อมั้ย
1แลกเกอร์ชอบลอก
2.ราคาแพง
3มีข้ออื่นๆอีกมั้ยครับ

[กฤษณ์]

กระทู้นี้คงหาคนตอบยากเพราะหัวข้อของกระทู้ถามถึง "ข้อเสีย" อย่างเดียวเลย ผมจะพยายามตอบให้แต่อาจจะไม่ตรงคำถามนักเพราะมันก็เป็นแค่ความเห็นและประสพการณ์ส่วนตัวครับ

ก่อนอื่นเรื่องแลกเกอร์ชอบลอกนั้น Taylor เขาไม่ใด้เคลือบด้วยแลกเกอร์แต่เขาเคลือบด้วย UV polyester ที่แข็งกว่า ใสกว่าและแห้งสนิทภายใน 60 วินาทีในขณะที่แลกเกอร์ต้องใช้เวลาเกิน 10 วันถึงจะแห้ง

ถ้าการเคลือบด้วย UV polyester มันดีกว่าและเร็วกว่าการเคลือบแลกเกอร์หลายสิบเท่าก็คงไม่มีกีตาร์ยี่ห้อไหนเลือกที่จะใช้วิธีเคลือบแบบโบราณแน่นอนครับ ดังนั้นการเคลือบแบบนี้จึงนับเป็น "ข้อเสีย" ก็ใด้เพราะถ้ามีความชื้นแทรกเข้าไประหว่างผิวไม้กับผิวเคลือบไอน้ำจะไม่สามารถระเหยออกใด้ทำให้ผิวพอง กีตาร์ยี่ห้อนี้ของผมก็เป็นอยู่หลายตัวตามรูปข้างล่างครับ





ข้อเสียนี้ถ้ารับไม่ใด้ก็ไม่ต้องซื้อ Taylor เหมือนกับที่ถ้ารับเรื่อง binding หลุดไม่ใด้ก็ไม่ต้องซื้อ Martin รับเรื่องผิวแตกลายงาไม่ใด้ก็อย่าซื้อ Gibson ครับ

เดี๋ยวมาต่อครับ

[Pa]

ถ้าเป็นรุ่นที่เคลือบด้าน (Satin) จะมีปัญหาแบบนี้มั๊ยครับ

[fungi321]

รอภาคต่อน้ากฤษณ์ครับ

[TOM1869]

แลคเกอร์พอง ครับ  จะถูก จะแพง ต้อง เจอ แถมด้วย ระบบไฟฟ้า  หาก พัง หาซื้อไม่ได้ ส่งศูนย์ อย่าง เดียว หาก  Taylor  ออกแบบมาให้ใช้  fishman  หรือ Lr.bagg ที่มีขายทั่วไป น่าจะดีมาก ครับ

[กฤษณ์]

ถ้าเป็นรุ่นที่เคลือบด้าน (Satin) จะมีปัญหาแบบนี้มั๊ยครับ

ผมเคยมี Taylor ที่เคลือบด้านเพียงสองตัวเลยไม่เคยเจอปัญหานี้แต่ตามหลักการแล้วเขาลง base coat ด้วย polyester UV เหมือนกันก็น่าจะมีปัญหาเหมือนกันครับ

ขอสรุปเรื่องนี้เลยนะครับว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรเลยเพราะมันเป็นแค่ตำหนิที่ซ่อมใด้ถ้าอยากซ่อมครับ

[กฤษณ์]

ระบบไฟฟ้าจากนรก!!!

ฝันร้ายของแฟน Taylor เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆเพียงสี่ปีกว่า (จาก 2003-2007) เมื่อ Taylor ซึ่งเป็นกีตาร์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของอเมริกาในตอนนั้นใด้คิดค้นระบบไฟฟ้าของตัวเองมาใช้แทนระบบของ Fishman ที่เคยใช้อยู่ ระบบนี้เขาเรียกว่าระบบ ES ซึ่งเอามาติดตั้งกับโปร่งไฟฟ้าทุกรุ่นตั้งแต่ series 5 ขึ้นไปในปีแรก แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องแปลกใหม่ของวงการที่ผู้ผลิตกีตาร์โปร่งกล้าผลิตระบบไฟฟ้าด้วยตัวเองทั้งๆที่ไม่มีประสพการณ์มาก่อนแต่สมัยนั้น Taylor ทำอะไรก็ไม่ผิดหรอกเพราะเขาเป็นเจ้าตลาด

ในปี 2004 Bob Taylor ก็นำไม้ walnut พิเศษที่เกิดจากการเอา walnut สองสายพันธุ์มาต่อลำต้นกันมาทำกีตาร์ที่เปิดให้สั่งซื้อใด้เป็นจำนวนจำกัด พอผมใด้ไปลองตัวจริงเสียงจริงก็ซื้อทันที่ในราคาแสนสี่หมื่นบาทพร้อมระบบไฟฟ้า ES1 ที่ติดมาจากโรงงาน







พอซื้อมาใด้ไม่ถึงปีระบบไฟฟ้ามันก็รวนแล้วก็พัง ตอนนั้นมีของเพื่อนๆที่ใช้ระบบ ES1 เหมือนกันก็มีปัญหากันหลายคน สมัยนั้นยังไม่มีที่ไหนซ่อมหรือเปลี่ยนใด้ในเอเชียก็เลยมีหลายคนที่ถอดทิ้งแล้วใส่ระบบ piezo ที่มีคนหัวใสทำออกมาขายแบบถอดเปลี่ยนใด้เลย ในปี 2007 Taylor ก็แก้ปัญหาใด้สำเร็จโดยโยนเซนเซอร์ทิ้งไป 1 ตัวและเปลี่ยนมาใช้ไฟ 9V แต่ใครจะเปลี่ยนก็ต้องส่งกีตาร์ไปเปลี่ยนที่อเมริกาซึ่งก็มีรุ่นน้องคนนึงที่ซื้อรุ่น PS14CE Brazilian ราคาเกือบสามแสนมายอมส่งไปเปลี่ยนหมดเงินไปเกือบครึ่งแสน

ปัญหานี้เกิดกับ Taylor ES1 Version แรกที่ใช้ถ่าน AA สองก้อนเท่านั้นแต่รุ่นหลังๆที่เปลี่ยนมาใช้แบต 9V มีปัญหาน้อยกว่าเยอะส่วนระบบ ES2 นั้นไม่มีปัญหาเพราะมันก็แค่ระบบ piezo ธรรมดาที่ถอดเปลี่ยนใด้ง่ายและมีอาหลั่ยขายด้วย

ดังนั้นเรื่องราวของ "ระบบไฟฟ้าจากนรก" จึงเป็นแค่เรื่องในอดีตที่ผมเอามาเล่าให้ฟัง ตอนนี้ถ้าระบบไฟฟ้า ES1 ของใครมีปัญหาก็สามารถเปลี่ยนเป็น ES2 ใด้อย่างง่ายดายแล้วครับ

[THAWAT JAITHIANG]

ราคาไม่แพงนะในความเห็นของผม ราคาสูงนะใช่ ยังมีอีกหลายยีห้อที่ก็ราคาสูงแต่ก็สมราคาอยู่ เช่น martin gibson guild yamha k.yairi takamine ฯลฯ

[samaklen]

แลคเกอร์พอง ครับ  จะถูก จะแพง ต้อง เจอ แถมด้วย ระบบไฟฟ้า  หาก พัง หาซื้อไม่ได้ ส่งศูนย์ อย่าง เดียว หาก  Taylor  ออกแบบมาให้ใช้  fishman  หรือ Lr.bagg ที่มีขายทั่วไป น่าจะดีมาก ครับ

รุ่นเก่านั่นล่ะครับ น้าทอม

[กฤษณ์]

กีตาร์ Taylor ของผมที่มีปัญหาเรื่องผิวพองเป็นปี 2012 และผมไม่ใด้ซื้อรุ่นใหม่ๆมาหลายปีแล้ว ผมคิดว่าเรื่องผิวพองนี่เขาน่าจะแก้ไขจบเพราะ Taylor เป็นบรีษัทที่ไม่เคยหยุดอยู่กับที่ในเรื่องนวตกรรม ตอนนี้เขาสามารถพ่นผิวเคลือบใด้บางแค่ 3.5 mil gloss finish ในรุ่น 600,800 และ 900 ซึ่งน่าจะทำให้เสียงของกีตาร์มี resonance และ sustain ดีขึ้นกว่าสมัยก่อนที่ใช้ความหนา 6 mil หรือ 0.006 นิ้ว

ก่อนจะกล่าวถึงข้อเสียอย่างสุดท้าย (ซึ่งเป็นเรื่องความรู้สึกล้วนๆ) ผมขอยกตัวอย่างข้อดีของ Taylor ก่อนคือ

1. Taylor ไม่เคยหยุดพัฒนากีตาร์ทั้งในด้านโครงสร้าง เสียง ระบบอิเล็คโทรนิคและความสะดวกในการรักษาซ่อมแซม ด้วยเหตุเหล่านี้เขาจึงกลายเป็นยี่ห้อยอดนิยมของอเมริกามา 20 ปีแล้ว

2. ไม่มีกีตาร์ยี่ห้อไหนนอกจาก Taylor ที่สามารถทำกีตาร์เสียงสุดยอดใด้ทุกทรงจากไม้ทุกประเภท (ตั้งแต่ซีรี่ 5 ขึ้นไปเท่านั้น) ลองฟังตัวอย่างครับ

ทรง 12, florentine cutaway ไม้ maple,

<a href="http://youtu.be/diGVMPKhc2c" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/diGVMPKhc2c</a>

ทรง 12 venetian cutaway ไม้ mahogany, สายไนล่อน

<a href="http://youtu.be/qPVWs0doyys" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/qPVWs0doyys</a>

ทรง Grand Auditorium ไม้ quilted sapele.

<a href="http://youtu.be/BMQYRCYwIEE" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/BMQYRCYwIEE</a>

ทรง Grand Symphony ไม้ rosewood, 12 สาย

<a href="http://youtu.be/am2Cp0yO0mI" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/am2Cp0yO0mI</a>

ทรง 10 (dreadnought) ไม้ figured walnut

<a href="http://youtu.be/a3qIioWwGw0" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/a3qIioWwGw0</a>

ทรง 14C ไม้ figured walnut.

<a href="http://youtu.be/ZTsDkdTWjYY" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/ZTsDkdTWjYY</a>

ทรง Grand Concert, venetian cutaway ไม้ jacaranda, สายไนล่อน

<a href="http://youtu.be/ltbOA5uAFUQ" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/ltbOA5uAFUQ</a>

ทรง 15C (jumbo)ไม้ rosewood, florentine cutaway, moustache bridge.

<a href="http://youtu.be/JsYahuuURKw" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/JsYahuuURKw</a>

ทรง 10 (dreadnought) ไม้ mahogany, short scale (24.9")

<a href="http://youtu.be/yBWa9L_GrEg" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/yBWa9L_GrEg</a>

ทรง Grand Concert, ไม้ rosewood, short scale, slotted head.

<a href="http://youtu.be/bZNW8CBps_4" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/bZNW8CBps_4</a>

เดี๋ยวมาต่อครับ

[Cool44]

ถ้าเป็นรุ่นที่เคลือบด้าน (Satin) จะมีปัญหาแบบนี้มั๊ยครับ

ข้อดีด้วยก็ดีครับ. ผมเกรงว่าถ้าฟังข้อดี้ยอะจะอดใจไม่ไหว

[กฤษณ์]

จุดเสียของ Taylor สำหรับคนที่ชอบสะสมกีตาร์ก็คือการพัฒนาแบบไม่หยุดยั้งทำให้กีตาร์ยี่ห้อนี้กลายเป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่รุ่นใหม่ต้องดีกว่ารุ่นเก่าเหมือนกับพวกกล้องถ่ายรูปหรือโทรศัพท์มือถือ กีตาร์ยี่ห้อนี้รุ่นทั่วๆไปจึงไม่น่าเก็บสะสมเพราะอายุที่มากขึ้นไม่ทำให้เสียงเปิดขึ้นและราคาสูงขึ้น (เขาว่าไม้หน้าที่เคลือบด้วยโพลี่เสียงจะไม่เปิดตามอายุเหมือนไม้เคลือบผิวไนโตรที่สามารถหายใจใด้) อย่างตอนนี้ผมจะเก็บใว้แต่รุ่นที่ใช้ไม้ลายพิเศษหรือมีจุดเด่นอื่นๆที่รุ่นใหม่ๆไม่มีเท่านั้น

ถ้าคุณซื้อกีตาร์มาเล่นเพราะชอบเสียงแต่ไม่สนใจเรื่องการสะสมเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ข้อเสียหรอกครับ กีตาร์ Taylor เขาขายดีเพราะเขาเซ็ทอัพมาให้เล่นง่ายมากและมีเสียงย่านกลางแหลมที่ฟรุ้งฟริ้งน่าหลงไหลตอนที่ลองในร้าน เสียงของกีตาร์รุ่นเดียวก็ใกล้เคียงกันทุกตัวเพราะมันเป็นงานที่ผลิตด้วยเครื่อง CNC machine ที่ไม่เคยง่วงนอน ไม่เคยเมาค้าง ไม่เคยทะเลาะกับแฟนและไม่เคยทำงานแบบไม่ใส่ใจ

ถ้าให้ผมเปรียบเทียบกีตาร์ Taylor กับ Gibson ผมก็ต้องขอยกตัวอย่างเป็นสาวสองคนนี้




Taylor ก็เหมือนสาวคนขวามือ (Brooke Shield) ที่สวยแบบไม่มีที่ติส่วน Gibson ก็เหมือนสาวคนซ้ายมือ (Phoebe Cate) ที่ไม่ใด้สวยเลอเลิศแต่มีเสน่ย์เหลือเฟือ คุณจะเลือกคนไหนก็ไม่ผิดหรอกครับแต่ถ้าคิดจะอยู่ด้วยกันทั้งชีวิตก็ลองมาดูรูปต่อไปที่ถ่าย 31 ปีหลังรูปบนกันครับ




ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบติ Gibson เรื่องงานที่หยาบ (ถ้าเอามือไปลูบ bracing ด้านในแล้วไม่โดนเสี้ยนตำแสดงว่าเป็นของปลอม) เสียงที่ต้องลองก่อนซื้อ (เดี๋ยวนี้ดีขึ้นเยอะ) งานเซ็ทอัพจากโรงงานที่ไม่มีมาตรฐาน (เรื่องนี้ตัวแทนในบ้านเราบ่นให้ผมฟังเอง) และแลกเกอร์ที่ชอบแตกลายงา ถ้าใครมองข้ามข้อเสียพวกนี้ไปใด้และใด้อยู่กับมันซักพักก็จะเริ่มหลงเสน่ย์กับเสียงของมันไปตลอดชีวิต

ผมเคยมี Taylor ตั้งแต่รุ่น Big Baby ยันซีรี่ย์ 9 ซึ่งในตอนแรกๆเสียงน่าประทับใจทุกตัว (แต่พอเล่นใด้ซักพักผมก็จับใด้ว่ารุ่นที่ต่ำกว่าซีรี่ย์ 5 ไม่ค่อยมีรายละเอียดของเสียงก็เลยเลิกซื้อรุ่นต่ำๆ) แต่เสียงของมันที่เพราะแสนเพราะกลับไม่ทำให้ผมเกิดอารมณ์ที่จะเล่นและร้องเพลงไปกับมันใด้นานๆ อย่างในห้องนั่งเล่นผมมีที่แขวนกีตาร์สามตัวเพื่อจะหยิบมาเล่นใด้ง่ายๆแต่ผมไม่เคยเอากีตาร์ Taylor ออกมาแขวนเลย

 


เรื่องที่บ่นมาทั้งหมดอาจเป็นความบ้าของผมคนเดียวแต่ผมว่าไม่ใช่เพราะผมไม่เคยเห็นศิลปินที่ใช้ Gibson เปลี่ยนไปใช้ Taylor แต่ศิลปินคนดังของ Taylor นั้นเขาเปลี่ยนไปใช้ Gibson มาหลายปีแล้วแต่ไม่เห็นมีใครพูดถึง




ถ้าสนใจเดี๋ยวมาเล่าต่อว่าทำไม Taylor Swift ถึงเลิกใข้กีตาร์ Taylor ครับ

<a href="http://youtu.be/FvVnP8G6ITs" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/FvVnP8G6ITs</a>

[Bua]

ต้องขอบคุณทั้งข้อมูลและสาระที่ตั้งใจมาให้ความรู้ค่ะ น้ากฤษณ์เข้าใจเปรียบเทียบกับสองสาวขวัญใจให้เห็นภาพแบบ Virtual ทีเดียว ชอบค่ะ
ขอรอติดตามอ่านในภาคต่อไปนะคะ

[PichPo]

อ่านเพลินมากครับ ขอบพระคุณน้ากฤษณ์ครับ

[TOM1869]

 Brooke Shield กับ  Phoebe Cate  สองคนนี่ ใครรู้จักนี่ เดาอายุได้เลย ดังขนาดมี Poster แผ่นใหญ่ ขนาด A0 วางขายทั่วบ้านทั่วเมือง

[poo3605]

ต่อเลยครับพี่กฤษณ์ ผมก็เห็น Taylor Swift มาเล่น Gibson เหมือนกัน

[Like-a-Rolling.Stone]

สุดยอดความรู้ครับน้ากฤษณ์, ชอบ Phoebe Cate แววตา รอยยิ้ม ใช่เลยครับ อิอิ มีเสน่ห์ดูแล้วไม่เบื่อเลยฮะ   

[กฤษณ์]

Taylor Swift ใด้รับการโหวตให้เป็น Most Influential Person ในทศวรรษนี้โดย Twitter และมีคนติดตามใน Instagram ถึง 131 ล้านคน เธอคือศิลปินคนสำคัญทีทำให้ยอดขายกีตาร์โปร่งสูงขึ้นทุกปีในขณะที่ยอดขายกีตาร์ไฟฟ้าหดตัวลงทุกปีเหมือนกัน เหตุผลที่ยอดขายเพิ่มก็เพราะเมื่อสิบปีก่อนคนที่ซื้อกีตาร์โปร่งตัวแรก 80% เป็นผู้ชายแต่ในปีที่แล้วในอเมริกามีสัดส่วนของผู้หญิงเพิ่มขึ้นมาเป็น 50% แล้ว

ในหนังสือชีวประวัติของเขา Bob Taylor เล่าว่าเขาใด้ช่วยสนับสนุนและโปรโมท Taylor Swift มาตั้งแต่เธออายุ 12 ขวบซึ่งทำให้ผมคิดว่าเธอคงเป็นศิลปินในสังกัดของกีตาร์ Taylor เพราะสมัยก่อนผมไม่เคยเห็นเธอเล่นกีตาร์ยี่ห้ออื่นเลย ตอนที่เห็นเธอเล่น Gibson Hummingbird ใน Ellen Show เมื่อปี 2012 ผมก็ยังนึกว่าคงเป็นกีตาร์ที่ทางรายการจัดมาให้ (ความจริงแล้วเป็นกีตาร์ของเธอ) ในตอนนั้นผมเริ่มเห็นเธอใช้ Gibson เป็นครั้งคราวถึงใด้รู้ว่าเธอไม่ใช่ endorser ของ Taylor เพราะถ้าเป็นก็คงเป็นเรื่องเหมือนคดี John Mayer vs Fender แน่นอน




ตามเรื่องราวเท่าทีปรากฏในสื่อ Taylor Swift ใด้รับ Gibson J-180 เป็นของขวัญจาก Madonna ตอนที่เธอขึ้นไปเล่นกีตาร์ให้ในงานแจกรางวัลงานหนึ่งในปี 2015 ซึ่งกีตาร์ตัวนี้เองทำให้เธอเริ่มหลงไหลในเสน่ย์ของกีตาร์ Gibson




ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ใช้ Gibson ตลอดโดยรุ่นโปรดคือ J-180 ครับ





ถ้าเป็นกีตาร์ไฟฟ้าก็ใช้ Les Paul เป็นส่วนใหญ่




ขนาดในห้องซ้อมเธอก็ใช้ Gibson

[nessie]

เป็นเรื่องราวที่อ่านสนุกและได้สาระมากๆครับ ขอบคุณน้ากฤษณ์เป็นอย่างยิ่ง

[Cool44]

นั่งฟังเพลินเลยครับ