ในยุคปัจจุบัน การนำเครื่องจักรสมัยใหม่มาช่วยในขั้นตอนการสร้าง Gibson J45 จะทำให้เสียงและเอกลักษณ์ของ Gibson J45 เปลี่ยนไปจากยุคเก่าๆที่ตามผมเข้าใจคืออาศัยทักษะและความชำนาญของคนเป็นหลัก (ยุคที่สร้างจากKalamazoo) นั้นหายไปหรือไม่ครับงานสร้างกีตาร์สมัยนี้อาศัยหุ่นยนตร์มาช่วยทำงานทำให้ใด้ความแม่นยำสูงขึ้นและประหยัดเวลามากขึ้นเยอะ เครื่อง CDC machine ถูกนำมาใช้ขึ้นรูปคอกีตาร์โปร่งเป็นครั้งแรกโดย Bob Taylor ในปี 1989 และ Gibson ก็เริ่มใช้ในยุคกลาง 90s สมัยโรงงาน Kalamazoo (1902-1983) นั้นยังไม่มีเครื่อง computer มาช่วยทำงานแต่เครื่องกลึงแบบอัตโนมัตินั้นมีใช้มานานแล้วนะครับ
เครื่องตัด dovetail คอกีตาร์ที่โรงงาน Bozeman นั้นถูกใช้ในโรงงาน Kalamazoo มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เครื่องนี้ใช้หลักการเดียวกับเครื่องตัดดอกกุญแจที่เราเห็นตามห้างแต่ขนาดใหญ่กว่าเยอะครับ
เครื่องตัด dovetail ที่บอดี้ก็ใช้ระบบ mechanical เหมือนกันแต่เป็นเครื่องใหม่เพราะเครื่องเก่าจาก Kalamazoo พังไปแล้ว
เครื่อง CNC ของโรงงานกีตาร์อเมริกันทุกโรงใช้ยี่ห้อ Fadal ของคานาดา การทำคอกีตาร์นั้นใช้ CNC ทุกขั้นตอนโดยไม่มีการมาเหลาด้วยมือในขั้นตอนสุดท้ายเหมือนสมัยก่อนแล้ว
การตัดชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดเขาก็ใช้ 2-D และ 3-D router
การตัด X-brace
Brace ทุกชิ้นถูกตัดขึ้นรูปจาก router และไม่มีการเหลาด้วยมือเหมือนสมัยก่อน
ส่วนปลายของ brace ที่ยื่นออกมาก็ถูก trim ด้วยเครื่อง nibbler
เรื่องความแตกต่างเรื่องเสียงและเอกลักษณ์นี่เปรียบเทียบยากหน่อยเพราะกีตาร์เก่านั้นไม้แห้งกว่าและเสียงเปิดกว่ากีตาร์ใหม่ที่ไมใด้ใช้ torrefied top แน่นอน ที่ผมสังเกตุใด้จากการมุดเข้าไปดูข้างในก็คือกีตาร์ยุคที่ทำด้วยมืองานเนียนกว่าเยอะครับ
งานใช้มือทำ (1926-1992)
งาน router (1993-2020)
ลองเทียบกับงานของช่างญี่ปุ่นครับ (ตามปกติข้างในไม่มีใครเห็นหรอกครับแต่ผมถอดสายออกแล้วใช้มือถือถ่าย)