ขอตัดภาคไฟฟ้าออกไปก่อนนะครับเพราะกีตาร์โปร่ง Epiphone นั้นไม่ใด้มีชื่อเสียงในเรื่องของภาคไฟฟ้าอยู่แล้ว ถ้าผมซื้อมือสองปีเก่าๆผมคงจะเลือกที่จะเอามาติดภาคไฟฟ้าเองดีกว่า
Epiphone เป็นยี่ห้อเก่าแก่และเป็นคู่แข่งของ Gibson archtop ตั้งแต่ยุค 1920s จนถูก Gibson เทตโอเวอร์ในปี 1952 และเอามาทำเป็นแบรนด์รองที่ผลิตโรงงานเดียวกันใน Kalamazoo, Michigan ต่อมาเมื่อกีตาร์ญี่ปุ่นที่ราคาถูกอย่าง Yamaha และ Ibanez เริ่มบุกตลาดอเมริกา Gibson จึงไปจ้างโรงงานญี่ปุ่นผลิต Epiphone มาแข่งในยุค '70s พอมาถึงยุค '80s ก็ย้ายฐานการผลิตมาจ้างเกาหลีทำ ต่อมาเมื่อ Gibson ไปสร้างโรงงาน Epiphone ที่จีนในปี 2004 ก็เริ่มย้ายฐานการผลิตไปจีนและเลิกจ้างเกาหลีผลิตทั้งหมดตั้งแต่ปี 2007
กีตาร์ Epiphone ที่ขึ้นทำเนียบสะสมนั้นส่วนใหญ่เป็นกีตาร์ไฟฟ้า ส่วนกีตาร์โปร่งมีอยู่รุ่นเดียวคือรุ่น Texan ที่เป็นคู่แฝดของ Gibson J-45 แต่เป็นกีตาร์สเกลยาว Texan ที่สะสมใด้นั้นเป็นรุ่นที่ผลิตในอเมริกาในยุค '60s รุ่น Reissue ผลิตที่ Bozeman ในยุค '90s และรุ่น Elitist ผลิตที่ญี่ปุ่นในยุค 2000s ส่วนโปร่งรุ่นอื่นๆนั้นเป็นเพียงกีตาร์ที่เลียนแบบหน้าตาของ Gibson แต่ก็คล้ายแค่หน้าตาเท่านั้น
ตอนที่ Gibson เลิกจ้างเกาหลีผลิตและตั้งโรงงานผลิตเองในจีนเมือสิบกว่าปีที่แล้วนั้นราคาของกีตาร์ยี่ห้อนี้ก็ถูกลงมาเกือบครึ่งและคุณภาพก็แย่ลงเยอะด้วย ตอนนี้โปร่งไฟฟ้า Epiphone มือหนึ่งมีราคา 8,550-19,800 บาทเท่านั้นเองนะครับ
ส่วน Epiphone Japan ในงบสองสามหมื่นนั้นมีแน่นอนครับแต่เสียงห่วยกว่าของจีนเพราะสมัยนั้น Gibson ไปซื้อกีตาร์ domestic ของญี่ปุ่นเอามาใส่ซื่อ Epiphone ขายในราคาถูกๆ ผมเลยไม่สนับสนุนให้ซื้อ Epiphone โปร่งไฟฟ้าในงบสองสามหมื่นครับ
ส่วนรุ่น Texan ที่ Paul McCartney ใช้นั้นเสียงชัดกว่า Gibson J-45 เพราะสเกลยาวกว่า ลองฟังเสียงดูครับ
USA,
JAPAN,
CHINA,
สรุปใด้ว่าของ USA และ Japan นั้นเสียงผ่านทั้งคู่แต่ราคาก็ห้าหมื่นถึงแสนกว่าๆ ของจีนนั้นอยู่ในงบแต่เสียงไม่ผ่าน ถ้าคุณโชคดีไปเจอ Texan เกาหลีที่ผลิตโดยโรงงาน Peerless ก็ผ่านทั้งเสียงและราคาที่ไม่น่าเกินสองหมื่นครับ
KOREA