Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์  (อ่าน 4464 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

draftdevil

  • member
  • ***
  • กระทู้: 22
การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« เมื่อ: สิงหาคม 25, 2019, 09:38:44 »
สวัสดีครับ ผมได้นั่งอ่านกระทู้เก่าๆย้อนหลังหลายกระทู้เรื่อง วิธีการดูแลกีต้าร์เมื่อไม่ได้เล่นนานๆ เป็นเดือน เป็นปี หรือหลายปี

 ซึ่งพี่ๆแต่ละท่านก็มีวิธีและเทคนิคเฉพาะตัวแตกต่างกันไป  แต่ก็เป็นข้อมูลที่ผ่านมานาน เผื่อบางท่านมีประสบการณ์ใหม่ หรือข้อมูลอัพเดท เลยอยากรบกวนแชร์ประสบการณ์ ไม่ว่าจะเก็บใน  Hard case/Soft case /หรือตั้งทิ้งไว้

 1.กรณีที่ไม่ได้เล่นกีต้าร์นานๆ   เช่นเป็นเดือน เป็นปี พี่ๆ Drop สายลง/ตั้งสายไว้เหมือนเดิม/หย่อนสายเยอะ/หรือไม่ใส่สายกีต้าร์เลยครับ

 2.จากข้อ 2. กีต้าร์พี่ๆมีปัญหามั้ยครับเช่น คอโก่ง/เลื้อย/ท้องป่อง/บริจอ้า  ถ้าเกิดอาการเหล่านั้น ใช้ระยะเวลานานมั้ยครับ

 3.อาการคอเลื้อยนี่เกิดจากสาเหตุอะไรครับ

 4.ตัวดูดความชื้นมีความจำเป็นมากมั้ยครับ
ขอบคุณครับ

sugar block

  • member
  • ***
  • กระทู้: 26
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2019, 15:06:48 »
ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับ แต่ผมมีกีตาร์ตัวหนึงที่ถูกทิ้งให้นอนอยู่ในกล่องหลายปีโดยไม่ได้ย่อนสายมันก็ยังดูปรกติอยู่นะครับ ผมว่ากีตาร์ที่ทำออกมาดีกว่ามันจะเสียหรือมีการเปลี่ยนแปลงจนเห็นได้ชัดคงใช้เวลาหลายปีครับ

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,162
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2019, 16:57:29 »
เรื่องแบบนี้ไม่มีใครฟันธงใด้หรอกครับเพราะกีตาร์แต่ละตัวมันทำมาจากสิ่งที่มีชีวิตคือต้นไม้แล้วเอามาแปรรูปโดยสิ่งที่มีชีวิตคือมนุษย์ดังนั้นจะเอาแน่เอานอนกับมันใด้ยังไง ถ้าผู้ผลิตเขาสามารถควบคุมคุณภาพใด้ 100% คงจะไม่มี defect ต่อไปนี้เกิดขึ้น

Martin ปี 2010-2017 Binding หลุด

Taylor 1999-201? ผิวเคลือบพอง

Taylor GS Mini ปลาย bridge เผยอ

Yamaha ไต้หวัน ฝ้าขึ้นไม้ข้างและไม้หลัง

Takamine ญี่ปุ่น ฝ้าขึ้นบน headstock

เรื่อง finish defect นี่ที่อเมริกาซึ่งเขารับประกันซ่อมฟรีตลอดชีวิตเคยเป็นสาเหตุให้หลายบริษัทขาดทุนยับเยินมาแล้วอย่างเช่น Taylor ในยุคต้น '80s Breedlove ในยุคปลาย '90s และ Tacoma ในยุคต้น 2000s (รายสุดท้ายนี่เจ๊งไปเลย) ถ้าเป็นบ้านเราก็ตัวใครตัวมันครับเพราะผู้ผลิตเขาไม่ต้องรับผิดชอบ

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,162
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2019, 17:13:40 »
พอกลับมาอ่านคำตอบตัวเองแล้วดูเหมือนว่าจะ "ตอบไม่ตรงคำถาม" ต้องขออภัยด้วยครับ

ที่ผมพยายามอธิบายก็คือความจริงที่ว่ากีตาร์โปร่งนั้นมันทำมาจากไม้ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ที่ไม่มีคุณสมบัติแน่นอนผมถึงไม่กล้าแนะนำใครว่าไม่ต้องไปผ่อนสายหรือใช้ตัวดูดความชื้นเพราะถ้าใครเชื่อผมแล้วกีตาร์เกิดพังขึ้นมาผมคงโดนด่าแน่นอน

ตอนที่ผมซื้อกีตาร์โปร่งตัวแรกในเดือนกันยายน พศ.2515 นั้นผมไม่เคยผ่อนสายเพราะหยิบมันมาเล่นเกือบทุกวัน อีก 7 เดือนต่อมา bridge มันเริ่มเผยอนิดๆผมก็ส่งไปโรงงานให้เขาใส่กาวให้ใหม่ฟรี (ค่าส่งร้านที่ขายจัดการให้) อีกสามปีต่อมาผมเอากีตาร์กลับเมืองไทยแลัวตัวเองก็กลับไปเรียนต่อที่อเมริกา ผมทิ้งกีตาร์ตัวนี้ในห้องเก็บของจนถึงปี พศ.2531 โดยไม่ใด้ผ่อนสายเลย

วันหนึ่งผมเข้าไปค้นห้องเก็บของก็เจอกล่องกีตาร์ตัวนี้ที่หนังไวนิลลอกออกมาเพราะความร้อนก็คิดว่ามันคงพังแล้วแต่พอเปิดกล่องมาดูมันกลับไม่เป็นอะไรเลยนอกจากสีเคลือบด้านหลังและด้านข้างที่เข้มขึ้นเล็กน้อย สายยังอยู่ครบและแทบจะไม่เพื้ยนด้วยซ้ำ ตอนนี้มันก็ยังมีสภาพสมบูรณ์อยู่โดยที่ไม่เคยถูกผ่อนสายมา 47 ปี (กล่องมีร้านแถวบ้านซ่อมให้ครับ)







สภาพกีตาร์ตอนอายุหนึ่งปี (พศ. 2516)




<a href="http://youtu.be/jtiqpXRSZ2o" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/jtiqpXRSZ2o</a>


ตัวในคลิปนี้เป็นรุ่นเดียวกันแต่ไม้หน้าแตกลายงาแล้ว ปีใหม่กว่าของผมหลายปี (ดูจากคอเมเปิ้ลและอินเลย์ที่หัว) แต่เจ้าของยังเอามาออกงานใด้

<a href="http://youtu.be/IEkyWhvS1mA" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/IEkyWhvS1mA</a>


จากประสพการณ์ครั้งนั้นผมก็เลยไม่เคยผ่อนสายกีตาร์อีกเลยเพราะผมเชื่อว่ากีตาร์ที่นอนอยู่ในกล่องก็ยังมีการพัฒนาของเสียงถ้าคุณไม่ไปลดแรงดึงจากสายตอนเก็บมันเข้ากล่อง สำหรับการควบคุมความชื้นนั้นผมใช้เครื่องดูดความชื้นซึ่งผมก็ไม่ใด้เปิดตลอดเวลาแต่จะดึงความชื้นในห้องลงให้ต่ำกว่า 55% ในวันที่จะอัดเสียงกีตาร์เพราะความชื้นยิ่งน้อยยิ่งดีครับ



Kwang @ Uttaradit

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,470
  • Kwang @ Uttaradit
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 02, 2019, 18:03:49 »

      เมื่อเดือนสิงหาคม  ปี 57  ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน Workshop ของ Taylor Guitars Road Show ที่เซนทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่

      ในช่วงตอบคำถามปัญหาคาใจ  ได้มีผู้เข้าร่วมงาน ได้สอบถาม ว่า ควรหย่อนสายกีตาร์ สำหรับกีตาร์ ที่ไม่ได้ใช้งานนาน ๆ หรือใช้นาน ๆ ครั้ง

      เพื่อป้องกัน การบิดงอ ของคอกีตาร์  ซึ่งอาจมีผลเสียหายต่อตัวกีตาร์ ในระยะยาว  ควรจะทำได้ หรือไม่ อย่างไร ?

      ทางหัวหน้าฝ่ายเทคนิคฯ ของ Taylor อเมริกา  ได้ตอบข้อสงสัย  โดย ยกตัวอย่าง และ คำอธิบายให้เข้าใจ ว่า

      ในวันหนึ่ง เข้าได้เดินทางโดยเครื่องบิน และนำกีตาร์ ติดตัวร่วมเดินทางไปด้วย  ในขณะที่ทำการโหลดกีตาร์

      ทางพนักงานสายการบิน ได้สอบถามว่า  กีตาร์ ได้ทำการ ผ่อนสายกีตาร์ เพื่อหลักเลี่ยงการขนส่ง ที่อาจทำให้ส่วนคอ หักได้

      เนื่องจาก  อาจมีผลกระทบกับ อุณหภูมิ  ความชื้่น ความกดอากาศ ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงกระทันหัน ในขณะทำการบิน

      ทางหัวหน้าฝ่ายเทคนิคฯ Taylor ได้ชี้แจง เชิงแนะนำ ให้แก่พนักงาน ว่า  ต่อไปห้ามบอกให้ผู้โดยสาร เจ้าของกีตาร์ ทุกคน

      ที่นำกีตาร์ มาโหลด ให้ผ่อนสายกีตาร์ ฌดยเด็ดขาด  เพราะ จะเป็นผลเสียอย่างมาก  กับสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

      เพราะ กีตาร์ระดับคุณภาพ แทบทุกแบรนด์  จะมีการออกแบบโครงสร้างอย่างแข็งแรง เผื่อปัญหาดังกล่าวอยู่แล้ว

      ซึ่งกีตาร์ จะมีความเสียหายในการเดินทางด้วยสายการบิน จริง ๆ คือ  การวางของหนัก ๆ กดทับมากเกินไป 

      หรือ กีตาร์หล่นกระแทก อย่างรุนแรง จากการขนถ่ายสินค้า ในระหว่างนำขึ้น หรือ นำลง จากเครื่องฯ

      กีตาร์ ทุกตัว โครงสร้างจะถูกออกแบบมาเผื่อ ให้รับแรงดึงจากสายกีตาร์ อยู่แล้ว และจะช่วยให้คอกีตาร์ มีความนิ่งมากที่สุด

      การผ่อนสายกีตาร์ ให้ตึง ๆ หย่อน ๆ บ่อย ๆ ก็ไม่ต่างอะไร กับการโยกคลอน คอกีตาร์ ไปมา  ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหาย

      โดยเฉพาะองศาคอ และระบบการยึดคอ กับตัวกีตาร์ ให้ผิดเพี้ยนไปอย่างแรง จนอาจต้องแก้ไขโดยช่างฯ ผู้เชี่ยวชาญ

      และมีเครื่องมือ ปรับซ่อม  ปรับแต่ง  ปรับตั้ง  เท่านั้น  หรืออาจแก้ไขให้กลับมาดีเหมือนเดิม ไม่ได้เลย

      และกีตาร์ ระดับคุณภาพ  (โดยเฉพาะ Taylor Guitar)  ทุกตัว ที่ออกจากโรงงานสายการผลิต

      จะถูกตั้งสายเสียงมาตรฐาน ให้เรียบร้อย ก่อนการบรรจุ ส่งให้กับคู่ค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก

      และยังมีมาตรการบังคับให้ ตัวแทนจำหน่ายฯ ในแต่ละประเทศ  ที่มีการวางกีตาร์ หรือ แขวนโชว์ ทุกตัว ภายในร้าน

      จะต้องตั้งสายเสียงกีตาร์มาตรฐานทุกตัว (รวมทั้งในสต๊อคสินค้า ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ หรือไม่) ตลอดเวลา 

      หากลูกค้าถูกใจ ยินดีที่ซื้อ ทางพนักงานผู้ขาย ก็สามารถนำกีตาร์ตัวนั้น บรรจุใน ฮาร์ดเคส  หรือ กระเป๋าหนัง

      ส่งมอบให้ลูกค้าได้ทันที  โดยไม่ต้องมาตั้งสายกีตาร์เสียงมาตรฐานใหม่

      สรุป ก็คือ ไม่มีความจำเป็นต้องผ่อนสายกีตาร์ แม้จะไม่ได้ใช้งาน และควรตรวจสอบให้สายกีตาร์ตรงเสียงมาตรฐาน

      เพื่อเป็นการรักษาแรงดึงจากสายกีตาร์ กับส่วนต่าง ๆ   ให้อยู่ในมาตรฐาน ที่ทางผู้ผลิตกีตารฺ์ ได้ออกแบบกำหนดไว้แล้ว

      ***  เป็นคำแนะนำ จาก หัวหน้าฝ่ายเทคนิค และการพัฒนาฯ ของ Taylor Guitar อเมริกา ที่ทำ Workshop ทั่วโลก



       
       
       
       








     
Finger Picking Style

draftdevil

  • member
  • ***
  • กระทู้: 22
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 02, 2019, 19:17:53 »
ขอขอบคุณ พี่ กฤษณ์ และพี่ Kwang @ Uttaradit มากๆครับ

PacSlowRider

  • member
  • ***
  • กระทู้: 6
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 02, 2019, 22:30:03 »
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับผม

Moo_008

  • member
  • ***
  • กระทู้: 143
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 04, 2019, 10:44:55 »
สุดยอดความรู้ครับ น้าทั้งสองท่าน

radhanasiri

  • member
  • ***
  • กระทู้: 65
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 05, 2019, 17:26:29 »

      เพราะ กีตาร์ระดับคุณภาพ แทบทุกแบรนด์  จะมีการออกแบบโครงสร้างอย่างแข็งแรง เผื่อปัญหาดังกล่าวอยู่แล้ว

      ......
   

ตามที่น้า Kwang @ Uttaradit แนะนำ

ประมาณว่าเพื่อความเสถียรของคอกีตาร์กับบอดี้ ให้น้ำหนักแรงดึงฟิกซ์พอดีอยู่ที่ระดับเสียงมาตรฐาน .
..ไม่ให้ Range ของแรงดึงขยายกว้างมากไป และไม่ให้กระเพื่อมเข้าออกหลายๆครั้ง

นั่นอาจรวมถึง แม้แต่การเปลี่ยนสายกีตาร์ ก็ควรเปลี่ยนสาย 6 แล้วขึ้นสายให้ได้แรงดึงไกล้เคียงสายเดิมให้จบๆไปทีละเส้น ไล่เปลี่ยนมาจนสาย 5, 4, 3
เพื่อคุมให้ Range ของ แรงดึงระหว่างการเปลี่ยนสายอยู่ในช่วงแคบที่สุดเท่าที่จะทำได้
ส่วนสาย 2, 1 แรงดึงไม่เยอะ อาจทำพร้อมกันได้

แต่สายใหม่ๆใช้แรงดึงน้อยลงก็ได้เสียงระดับเดิมแล้ว *แถมเพี้ยนง่ายเพี้ยนบ่อยด้วย
ดังนั้นถ้าตั้งสายใหม่ๆให้เกินมาตรฐานไปสักครึ่งเสียงแล้วปล่อยทิ้งใว้สี่ห้าวัน ค่อยจูนใหม่แบบนี้น่าจะดีกว่าจูนไปเล่นไปทุกสองเพลง
:)
(ดีต่อกีตาร์  แต่ไม่ดีต่อกระเป๋าตังค์ 555)

อ้อคนเล่นจูนสายไปมาบ่อยๆคงมีความเสี่ยงเยอะกว่ามือสมัครเล่นอย่างผม

ถ้าคิดตามหลักการนี้ การปลดสายพร้อมกันหมดทุกเส้นเพื่อเปลี่ยนสายแบบที่มือสมัครเล่นอย่างผมรวมถึงนักดนตรีบางท่านทำกัน
แทบจะขยาย Range ของแรงดึงที่ทำให้คอกีตาร์อาจโยกได้กว้างมากสุดอยู่แล้ว (ถ้าไม่ขันคอเล่นหรือวางของทับคอเพิ่มอะนะ)
อันนี้ส่งผลด้าน คุณภาพ อย่างจังๆ

เรื่อง การยืดหดของสาย หากยืดได้มาก  ส่งผลด้านปริมาณ
คือคอกีตาร์อาจถูกโยกซ้ำหลายหนในการปรับครั้งเดียว กว่าจะได้ต้องหมุนเข้าออกอยู่หลายครั้ง

ส่วน เรื่องหย่อนสายในช่วงที่ไม่เล่น จะส่งผลมากในด้าน ความถี่... คือยิ่งทำซ้ำบ่อยครั้งกีตาร์ยิ่งช้ำ

:)
ขอบคุณน้าๆครับ

Treerat004

  • member
  • ***
  • กระทู้: 284
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 05, 2019, 21:29:19 »

      เพราะ กีตาร์ระดับคุณภาพ แทบทุกแบรนด์  จะมีการออกแบบโครงสร้างอย่างแข็งแรง เผื่อปัญหาดังกล่าวอยู่แล้ว

      ......
   

ตามที่น้า Kwang @ Uttaradit แนะนำ

เพื่อความเสถียรของคอกีตาร์กับบอดี้ ให้น้ำหนักแรงดึงฟิกซ์พอดีอยู่ที่ระดับเสียงมาตรฐาน .
..ไม่ให้ Range ของแรงดึงขยายกว้างมากไป และไม่ให้กระเพื่อมเข้าออกหลายๆครั้ง

นั่นอาจรวมถึง แม้แต่การเปลี่ยนสายกีตาร์ ก็ควรเปลี่ยนสาย 6 แล้วขึ้นสายให้ได้แรงดึงไกล้เคียงสายเดิมให้จบๆไปทีละเส้น ไล่เปลี่ยนมาจนสาย 5, 4, 3
เพื่อคุมให้ Range ของ แรงดึงระหว่างการเปลี่ยนสายอยู่ในช่วงแคบที่สุดเท่าที่จะทำได้
ส่วนสาย 2, 1 แรงดึงไม่เยอะ อาจทำพร้อมกันได้

แต่สายใหม่ๆใช้แรงดึงน้อยลงก็ได้เสียงระดับเดิมแล้ว *แถมเพี้ยนง่ายเพี้ยนบ่อยด้วย
ดังนั้นถ้าตั้งสายใหม่ๆให้เกินมาตรฐานไปสักครึ่งเสียงแล้วปล่อยทิ้งใว้สี่ห้าวัน ค่อยจูนใหม่แบบนี้น่าจะดีกว่าจูนไปเล่นไปทุกสองเพลง
:)
(ดีต่อกีตาร์  แต่ไม่ดีต่อกระเป๋าตังค์ 555)

อ้อคนเล่นจูนสายไปมาบ่อยๆคงมีความเสี่ยงเยอะกว่ามือสมัครเล่นอย่างผม

ถ้าคิดตามหลักการนี้ การปลดสายพร้อมกันหมดทุกเส้นเพื่อเปลี่ยนสายแบบที่มือสมัครเล่นอย่างผมรวมถึงนักดนตรีบางท่านทำกัน
แทบจะขยาย Range ของแรงดึงที่ทำให้คอกีตาร์อาจโยกได้กว้างมากสุดอยู่แล้ว (ถ้าไม่ขันคอเล่นหรือวางของทับคอเพิ่มอะนะ)
อันนี้ส่งผลด้าน คุณภาพ อย่างจังๆ

เรื่อง การยืดหดของสาย หากยืดได้มาก  ส่งผลด้านปริมาณ
คือคอกีตาร์อาจถูกโยกซ้ำหลายหนในการปรับครั้งเดียว กว่าจะได้ต้องหมุนเข้าออกอยู่หลายครั้ง

ส่วน เรื่องหย่อนสายในช่วงที่ไม่เล่น จะส่งผลมากในด้าน ความถี่... คือยิ่งทำซ้ำบ่อยครั้งกีตาร์ยิ่งช้ำ

:)
ขอบคุณน้าๆครับ

ทางเทย์เลอร์เค้าเปลี่ยนสายให้ดูในคลิปครับ ก็เห็นถอดทิ้งทั้ง 6 สายพร้อมกันแล้วค่อยๆใส่ใหม่ทั้ง 6 สายพร้อมกันทีเดียวครับ

https://www.youtube.com/watch?v=80EuGOXgoOo

radhanasiri

  • member
  • ***
  • กระทู้: 65
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 05, 2019, 23:05:57 »

ทางเทย์เลอร์เค้าเปลี่ยนสายให้ดูในคลิปครับ ก็เห็นถอดทิ้งทั้ง 6 สายพร้อมกันแล้วค่อยๆใส่ใหม่ทั้ง 6 สายพร้อมกันทีเดียวครับ


ถ้าการตั้งสายใว้ให้มีแรงดึงเสมอสำคัญต่อกีตาร์ Taylor ถึงขนาดมีกฏบังคับ


      และกีตาร์ ระดับคุณภาพ  (โดยเฉพาะ Taylor Guitar)  ทุกตัว ที่ออกจากโรงงานสายการผลิต

      จะถูกตั้งสายเสียงมาตรฐาน ให้เรียบร้อย ก่อนการบรรจุ ส่งให้กับคู่ค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก

      และยังมีมาตรการบังคับให้ ตัวแทนจำหน่ายฯ ในแต่ละประเทศ  ที่มีการวางกีตาร์ หรือ แขวนโชว์ ทุกตัว ภายในร้าน

      จะต้องตั้งสายเสียงกีตาร์มาตรฐานทุกตัว (รวมทั้งในสต๊อคสินค้า ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ หรือไม่) ตลอดเวลา


วิธีการเปลี่ยนสาย อาจจะเป็น gap ของ Best Practice ที่ยังไม่ถูกเติมเต็มก็ได้ครับ
อันนี้เดี๋ยวผมลองถาม  Taylor (ไม่รู้เขาสนใจจะตอบหรือเปล่า 555)

:)

Treerat004

  • member
  • ***
  • กระทู้: 284
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 06, 2019, 03:03:19 »

ทางเทย์เลอร์เค้าเปลี่ยนสายให้ดูในคลิปครับ ก็เห็นถอดทิ้งทั้ง 6 สายพร้อมกันแล้วค่อยๆใส่ใหม่ทั้ง 6 สายพร้อมกันทีเดียวครับ


ถ้าการตั้งสายใว้ให้มีแรงดึงเสมอสำคัญต่อกีตาร์ Taylor ถึงขนาดมีกฏบังคับ


      และกีตาร์ ระดับคุณภาพ  (โดยเฉพาะ Taylor Guitar)  ทุกตัว ที่ออกจากโรงงานสายการผลิต

      จะถูกตั้งสายเสียงมาตรฐาน ให้เรียบร้อย ก่อนการบรรจุ ส่งให้กับคู่ค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก

      และยังมีมาตรการบังคับให้ ตัวแทนจำหน่ายฯ ในแต่ละประเทศ  ที่มีการวางกีตาร์ หรือ แขวนโชว์ ทุกตัว ภายในร้าน

      จะต้องตั้งสายเสียงกีตาร์มาตรฐานทุกตัว (รวมทั้งในสต๊อคสินค้า ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ หรือไม่) ตลอดเวลา


วิธีการเปลี่ยนสาย อาจจะเป็น gap ของ Best Practice ที่ยังไม่ถูกเติมเต็มก็ได้ครับ
อันนี้เดี๋ยวผมลองถาม  Taylor (ไม่รู้เขาสนใจจะตอบหรือเปล่า 555)

:)

แจ๋วเลยครับ ถ้าได้ข้อมูลเพิ่มก็ถือเป็นความรู้ที่ดีเลยครับ รอฟังเลยครับ

virgoromance

  • member
  • ***
  • กระทู้: 419
  • เพศ: ชาย
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 06, 2019, 08:37:10 »
1.ผมตั้งสายปกติครับ ถ้ากีตาร์จะเจ๊งก็ถือว่า คุณภาพกีตาร์มันให้มาแค่นั้น(กีตาร์ไม่แพงมาก พอทำใจรับข้อนี้ได้-แต่จนบัดนี้ก็ไม่มีปัญหาเรื่องโครงสร้าง)

 2.ผมได้กีตาร์มือไหนไม่รู้มา มีอาการไม้หน้าปูดนิดๆอยู่แล้ว แต่จนบัดนี้มันก็ปูดเท่าเดิมไม่เพิ่ม

 3.อาการนี้ผมนึกสภาพไม่ออก

 4.ตัวดูดความชื้นมันดูดออกจากกีตาร์ได้ มันก็ดูดจากข้างนอกเข้ามาหากีตาร์ได้เหมือนกัน อันนี้ต้องดูกันตามสภาพอากาศเป็นเคสท์ๆไป
จาริกรอบใจตน

Kwang @ Uttaradit

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,470
  • Kwang @ Uttaradit
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 06, 2019, 21:51:51 »


       ในประเด็น เรื่องการเปลี่ยนถอดสายกีตาร์ชุดเก่าออก และการใส่สายกีตาร์ชุดใหม่ทดแทน

       ว่า ควรถอดสายกีตาร์เก่า ออกทีละเส้น และใส่สายกีตาร์เส้นใหม่ ทดแทน  โดยเริ่มจากสายกีตาร์ เส้นที่ 6

       ที่มีแรงดึงสายมากที่สุดก่อน  หรือ ควรถอดสายกีตาร์ชุดเก่า ออกพร้อมกันทีเดียว 6 เส้น แล้วใส่สายกีตาร์ ชุดใหม่ทดแทน

       ควรจะเลือกใช้วิธีใด เหมาะสมที่สุด  ในประเด็นดังกล่าว  ได้เคยสอบถาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคฯ ของ Taylor ที่มา Workshop

       ได้ยืนยัน ว่า  สำหรับกีตาร์ Taylor  และกีตาร์ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำ ที่นิยมใช้งานกันทั่วโลก (แบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ทราบ นะครับ)

       จะใช้วิธีการแบบใด ที่มีความกังวล กล่าวไว้ข้างต้นนั้น  ไม่มีผลต่อกีตาร์ ในแบรนด์ Taylor 

       เพียงแต่เมื่อถอดสายกีตาร์ ชุดเก่าออกแล้ว ควรจะใส่สายกีตาร์ชุดใหม่ ทดแทนในตราวเดียวกัน

       และยังได้แนะนำเพิ่มเติม ว่า  การเปลี่ยนสายกีตาร์ แบบถอดสายกีตาร์เก่าออก ทั้ง 6 เส้น ในคราวเดียวกัน

       จะเป็นการสะดวก ง่ายในการทำความสะอาด และบำรุงรักษา เฟรต, ฟิงเกอร์บอร์ด. ขันน๊อตล็อค และยึดลูกบิด ให้แน่น

       รวมทั้งการตั้งองศาคอ ที่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม หรือ ปรับตั้งองศาคอใหม่ เพื่อให้ได้ทัชชิ่ง ที่เหมาะสมกับตัวเอง

       เพราะ คอกีตาร์ Taylor สามารถถอดแยกออกจากตัว Body กีตาร์ เพื่อแก้ไข ปรับตั้งองศาคอใหม่ ได้

       ส่วนสายกีตาร์ ก็เช่นกัน  ระยะเวลาของการใช้งาน ที่ยอมรับความเพี้ยนเสียง จากการยืดขยายตัว ของสายกีตาร์

       เพื่อให้ได้เสียงกีตาร์ มีคุณภาพ ใสสะอาดชัดเจน โดยทั่วไป อยู่ในระยะเวลาไม่เกิน 2  เดือน

       แม้หากเกินระยะเวลาดังกล่าว และสายกีตาร์ ยังไม่ขาด หรือยังมีสภาพดี  เห็นว่า ยังเล่นได้อยู่ก็จริง

       แต่คุณภาพเสียงที่แท้จริง มันลดทอนคุณภาพลง และจะมีความเพี้ยนของเสียงมากขึ้น

       โดยจะฟังได้ชัดเมื่อใช้ Capo คาด  ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจผิด ว่า เสียงที่เพี้ยน เกิดจาก Intonation ของตัวกีตาร์

        แท้ที่จริง ส่วนหนึ่งเกิดจาก สายกีตาร์ เสื่อมสภาพ  และสำหรับนักดนตรีอาชีพ จะมีการเปลี่ยนสายกีตาร์ ในระยะเวลาเร็วกว่านี้

        หากเป็นการบันทึกเสียง ใน Studio  ต้องเปลี่ยนสายกีตาร์ ชุดใหม่ ใส่ทดแทน โดยไม่คำนึงถึงระยะเวลาการใช้งาน

        ของสายกีตาร์ชุดเก่า ที่ใช้มาก่อนหน้านี้  และการเปลี่ยนขนาดสายกีตาร์ หลาย ๆ ขนาด ที่ไม่เท่ากัน

        ก็ควร ตั้งทัชชิ่ง ให้เหมาะสมกับขนาดของสายกีตาร์ใหม่ ที่จะใช้งานด้วย เช่นกัน

         ***  เป็นคำแนะนำ จาก หัวหน้าฝ่ายเทคนิค และการพัฒนาฯ ของ Taylor Guitar อเมริกา ที่ทำ Workshop ทั่วโลก


         




Finger Picking Style

Treerat004

  • member
  • ***
  • กระทู้: 284
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 07, 2019, 16:51:57 »


       ในประเด็น เรื่องการเปลี่ยนถอดสายกีตาร์ชุดเก่าออก และการใส่สายกีตาร์ชุดใหม่ทดแทน

       ว่า ควรถอดสายกีตาร์เก่า ออกทีละเส้น และใส่สายกีตาร์เส้นใหม่ ทดแทน  โดยเริ่มจากสายกีตาร์ เส้นที่ 6

       ที่มีแรงดึงสายมากที่สุดก่อน  หรือ ควรถอดสายกีตาร์ชุดเก่า ออกพร้อมกันทีเดียว 6 เส้น แล้วใส่สายกีตาร์ ชุดใหม่ทดแทน

       ควรจะเลือกใช้วิธีใด เหมาะสมที่สุด  ในประเด็นดังกล่าว  ได้เคยสอบถาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคฯ ของ Taylor ที่มา Workshop

       ได้ยืนยัน ว่า  สำหรับกีตาร์ Taylor  และกีตาร์ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำ ที่นิยมใช้งานกันทั่วโลก (แบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ทราบ นะครับ)

       จะใช้วิธีการแบบใด ที่มีความกังวล กล่าวไว้ข้างต้นนั้น  ไม่มีผลต่อกีตาร์ ในแบรนด์ Taylor 

       เพียงแต่เมื่อถอดสายกีตาร์ ชุดเก่าออกแล้ว ควรจะใส่สายกีตาร์ชุดใหม่ ทดแทนในตราวเดียวกัน

       และยังได้แนะนำเพิ่มเติม ว่า  การเปลี่ยนสายกีตาร์ แบบถอดสายกีตาร์เก่าออก ทั้ง 6 เส้น ในคราวเดียวกัน

       จะเป็นการสะดวก ง่ายในการทำความสะอาด และบำรุงรักษา เฟรต, ฟิงเกอร์บอร์ด. ขันน๊อตล็อค และยึดลูกบิด ให้แน่น

       รวมทั้งการตั้งองศาคอ ที่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม หรือ ปรับตั้งองศาคอใหม่ เพื่อให้ได้ทัชชิ่ง ที่เหมาะสมกับตัวเอง

       เพราะ คอกีตาร์ Taylor สามารถถอดแยกออกจากตัว Body กีตาร์ เพื่อแก้ไข ปรับตั้งองศาคอใหม่ ได้

       ส่วนสายกีตาร์ ก็เช่นกัน  ระยะเวลาของการใช้งาน ที่ยอมรับความเพี้ยนเสียง จากการยืดขยายตัว ของสายกีตาร์

       เพื่อให้ได้เสียงกีตาร์ มีคุณภาพ ใสสะอาดชัดเจน โดยทั่วไป อยู่ในระยะเวลาไม่เกิน 2  เดือน

       แม้หากเกินระยะเวลาดังกล่าว และสายกีตาร์ ยังไม่ขาด หรือยังมีสภาพดี  เห็นว่า ยังเล่นได้อยู่ก็จริง

       แต่คุณภาพเสียงที่แท้จริง มันลดทอนคุณภาพลง และจะมีความเพี้ยนของเสียงมากขึ้น

       โดยจะฟังได้ชัดเมื่อใช้ Capo คาด  ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจผิด ว่า เสียงที่เพี้ยน เกิดจาก Intonation ของตัวกีตาร์

        แท้ที่จริง ส่วนหนึ่งเกิดจาก สายกีตาร์ เสื่อมสภาพ  และสำหรับนักดนตรีอาชีพ จะมีการเปลี่ยนสายกีตาร์ ในระยะเวลาเร็วกว่านี้

        หากเป็นการบันทึกเสียง ใน Studio  ต้องเปลี่ยนสายกีตาร์ ชุดใหม่ ใส่ทดแทน โดยไม่คำนึงถึงระยะเวลาการใช้งาน

        ของสายกีตาร์ชุดเก่า ที่ใช้มาก่อนหน้านี้  และการเปลี่ยนขนาดสายกีตาร์ หลาย ๆ ขนาด ที่ไม่เท่ากัน

        ก็ควร ตั้งทัชชิ่ง ให้เหมาะสมกับขนาดของสายกีตาร์ใหม่ ที่จะใช้งานด้วย เช่นกัน

         ***  เป็นคำแนะนำ จาก หัวหน้าฝ่ายเทคนิค และการพัฒนาฯ ของ Taylor Guitar อเมริกา ที่ทำ Workshop ทั่วโลก


         


กระจ่างชัดเจน ขอบคุณครับ

radhanasiri

  • member
  • ***
  • กระทู้: 65
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กันยายน 09, 2019, 00:48:29 »
คุณ Glen Wolff, Customer Support Manager, Taylor Guitars
อธิบายมาประมาณว่า

ถอดเปลี่ยนสายพร้อมกัน และทำความสะอาดได้เลยครับแต่อย่าทิ้งใว้นานเป็นวัน

เขาบอกด้วยว่าคำถามแบบนี้ส่วนใหญ่มาจากลูกค้าแถบร้อนชื้น และอธิบายละเอียดเลยครับ

ลืมไปว่าเป็นเมล์ส่วนตัว
ผมเลยถามเพื่อขอเผยแพร่กลับไปอีก
:)
ถ้าเขาอนุญาตค่อยเอา ข้อความตอบกลับมาลงนะครับ


ขอบคุณน้า Kwang ครับ

radhanasiri

  • member
  • ***
  • กระทู้: 65
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 10, 2019, 03:16:41 »
ข้อความตอบกลับจาก Taylor
:)
รายละเอียดคล้ายๆของน้า Kwang ครับ

------------------------------------

Glen Wolff (Taylor Guitars)
Sep 9, 7:49 AM PDT

Hi  :),
I'm glad you found this helpful.
I'm happy to have you share this information with the group and I hope they share with their friends!
Glen Wolff
Customer Service Manager
(800) 943-6782 x437
(619) 258-1207
taylorguitars.com

--------------------------------
   
Glen Wolff (Taylor Guitars)

Sep 6, 10:27 AM PDT

Hi :),
Thanks for writing, I'm happy to set the record straight from Taylor's perspective.

Basically, leave guitars tuned to pitch. Detuning a guitar while not playing it is BAD for the guitar.

When you detune a guitar you decrease the tension on the neck and top. This allows the neck to backbow and the top to relax. The top relaxing isn't such a big deal but the back and forth of constantly detuning and retuning isn't ideal. Leaving the neck backbowed for extended periods of time can do harm. if the neck develops a "memory" of being backbowed, it may not have the relief that it should or did when it was new, causing a major problem.

We hear this question from all over Asia but in other parts of the world it has never been a topic of discussion. I believe the myth was started by people long ago who didn't understand the effects of humidity on acoustic guitars. Since many parts of Asia are extremely humid, a guitar left in natural conditions with high relative humidity (regularly over 60%RH, and often over 80%RH) will absorb excess moisture and the body will swell or blow up like a balloon. This is often misdiagnosed and though to be caused by the string tension pulling on the top, which is completely incorrect. Still, once someone thinks that's true, they tend to be the ones detuning all their guitars.

So, once again, keep them tuned! Control the humidity too.

There is no harm in changing all the strings at once and it's necessary if you plan to clean and condition the fretboard. Just don't leave it that way for days!
The worst thing that would happen is the neck might need a truss rod adjustment if it doesn't come back the the exact same spot after removing all the strings (and tension) and putting new strings on. This was also a precaution for guitars with an undersaddle pickup. Since those pickups are pressure sensitve, the saddle could shift and throw off the balance from string to string when playing amplified. Also not a huge deal but may require a tech to refit the saddle.

Hope this helps!
Glen Wolff
Customer Service Manager
(800) 943-6782 x437
(619) 258-1207
taylorguitars.com

draftdevil

  • member
  • ***
  • กระทู้: 22
Re: การหย่อนสายหรือไม่ใส่สายกีต้าร์
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กันยายน 10, 2019, 17:58:41 »
ขอขอบพระคุณ พี่ๆทุกๆคนที่ช่วยแชร์ข้อมูลด้วยครับ