Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: Shape and Solidity impact to sound?  (อ่าน 1435 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

oomsin

  • member
  • ***
  • กระทู้: 860
Shape and Solidity impact to sound?
« เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2019, 18:52:21 »

ผมรู้สึกว่าทรง ของกีตาร์มีผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งทุกระบบเว้นMagneticกับไมล์จ่อนะครับ
เช่นที่ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังเเบบชัดๆเลย
กีตาร์4ตัวเเรกนี้เป็นกีตาร์ที่ติดเปียโซ่ยี่ห้อเดียวกันคือ K&K Fantastic Passive  เเต่เสียงที่ออกจากตู้เเอมป็ตู้เดียวกันเปิดความดังและgainเข้ากันใช้ไมล์จ่อตำแหน่งเดียวกัน EQ12.00 เท่ากัน  !!!!!ชัดเจนครับทรงเล็กเเละเเข็งสัญญาณออกมาเต็มดังกว่า เพราะอีกสามตัวที่เหลือเป็นทรง”D”หมด  ก็เลยเข้าใจว่าแบบประมาณว่า”พอกีตาร์ทรงมันตัวเล็กแรงกระพือมันเลยน้อยเลยเสียงส่งไปที่เปียโซ่ได้ชัดกว่า” ประมาณเสียงวิ่งผ่านของเเข็งได้ดีกว่าของนิ่มอ่ะคับ
ส่วนตัวที่5เเถมครับขี้เกียจตัดต่อ5555 ตัวที่5เป็นactiveนะเเต่!!เบากว่าpassiveอีกถ้าเปิดเท่าๆกัน
      เเบบSBTพวกที่แป่ะใต้bridgeก็เช่นกันผมเคยติดกับกีตาร์เสียงเปล่าเเบบดีมากออกมาเสียงไม่ค่อยจะดังเท่าไร เเต่พอติดกับกีตาร์เสียงเปล่าเเข็งๆกลับสัญญานout put ดังกว่าเเบบครึ่งๆเลย
     ส่วนแรงกดของsaddelก็อาจจะมีผลต่อเสียงบ้างเเต่ผมไม่รู้สึก เช่นถ้าsaddelสูงเเรงกดจะเยอะกว่าsaddelเตี้ยๆมันจึงไปกดทับที่เปียโซ่ได้ดีกว่า เเต่ขอบอกนะครับตัวที่4saddelเตี้ยสุดคับยังดังกว่า3ตัวเเรกเลยคับ
        เพราะฉะนั้นผมคิดว่าส่งและความแข็งของไม้มีผลต่อกระทบกับระบบไฟฟ้ามากกว่าความสูงต่ำของsaddel(ความคิดและความรู้สึกส่วนตัวนะครับ)
https://youtu.be/8QFifse683E

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,166
Re: Shape and Solidity impact to sound?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2019, 16:51:12 »
ดูกีตาร์สวยๆเพลินจนลืมเทียบเสียงครับ

<a href="http://youtu.be/8QFifse683E" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/8QFifse683E</a>


เรื่องทรงและความแข็งของไม้หน้ามีผลแค่ไหนต่อความดังของสัญญานจาก under saddle transducer นั้นตามทฤษฏีแล้วความแรงของสัญญาณจะแปรผันตามแรงสองแรงนี้คือ

1. แรงกดด้านบนของpickup จาก saddle ซึ่งเกิดจากการสั่น (หรือการยืดหด) ของสายเมื่อถูกดีดและ
2. แรงกดด้านล่างจาก bridge ตามการสั่นของไม้หน้าตามรูปข้างล่าง




ดังนั้นตามหลักการวิศวกรรมแล้วความแข็งของไม้หน้าก็มีส่วนที่ทำให้สัญญาณจาก UST ดังมากหรือน้อยตามผลการทดลองของน้า oomsin แต่มีผลแค่ไหนนั้นยังไม่มีใครพิสูจน์นอกจากนาย David Hosler ซึ่งเป็น chief designer ของระบบปิคอัพ Taylor ES2 ซึ่งทาง Taylor Guitarsเขาโม้ไว้ดังนี้




เขาบอกว่าความคิดเดิมๆที่เอา piezo ไปติดไว้ใต้ saddle นั้นมันผิดหลักการมากเพราะเขาทดลองแล้วว่าต้ว saddle นั้นมันโยกด้านหน้าหลังมากกว่าการสั่นขึ้นลงเยอะ เขาก็เลยเอาตัว piezo ไปแปะไว้ด้านหลังของ saddle แทนในระบบ ES2

ลองมาดูความแตกต่างของการทำงานระหว่างระบบปกติและระบบ ES2 ครับ




จากรูปข้างบนจะเห็นใด้ว่าระบบ behind the saddle ของ Taylor นั้นไม่รับสัญญานจากไม้หน้าเลย เรื่องนี้ใครผิดใครถูกผมไม่ทราบแต่ขออ้างอิงระดับการศึกษาของผู้บุกเบิกระบบ piezo pickup ในกีตาร์โปร่งให้ดูแล้วกัน

Charles Kaman (Ovation Guitars) ผู้คิดค้นระบบ UST (under saddle transducer) แบบติดตั้งจากโรงงานจบ B.S. Aeronautical Engineering

Larry Fishman (Fishman Transducer) ผู้คิดค้นระบบ UST แบบติดตั้งทีหลัง (after market) จบ B.S. Mechanical Engineering

David Hosler ผู้คิดค้นระบบ BST (behind saddle transducer) Taylor ES2 System จบการศึกษาขั้นบังคับ (ชั้นมัธยมปลาย) เท่านั้น


ใครที่เรียนป.ตรีอยู่เลิกเรียนใด้แล้วครับเพราะดูเหมือนยิ่งเรียนก็ยิ่งโง่


oomsin

  • member
  • ***
  • กระทู้: 860
Re: Shape and Solidity impact to sound?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 31, 2019, 18:17:24 »
ดูกีตาร์สวยๆเพลินจนลืมเทียบเสียงครับ

<a href="http://youtu.be/8QFifse683E" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://youtu.be/8QFifse683E</a>


เรื่องทรงและความแข็งของไม้หน้ามีผลแค่ไหนต่อความดังของสัญญานจาก under saddle transducer นั้นตามทฤษฏีแล้วความแรงของสัญญาณจะแปรผันตามแรงสองแรงนี้คือ

1. แรงกดด้านบนของpickup จาก saddle ซึ่งเกิดจากการสั่น (หรือการยืดหด) ของสายเมื่อถูกดีดและ
2. แรงกดด้านล่างจาก bridge ตามการสั่นของไม้หน้าตามรูปข้างล่าง




ดังนั้นตามหลักการวิศวกรรมแล้วความแข็งของไม้หน้าก็มีส่วนที่ทำให้สัญญาณจาก UST ดังมากหรือน้อยตามผลการทดลองของน้า oomsin แต่มีผลแค่ไหนนั้นยังไม่มีใครพิสูจน์นอกจากนาย David Hosler ซึ่งเป็น chief designer ของระบบปิคอัพ Taylor ES2 ซึ่งทาง Taylor Guitarsเขาโม้ไว้ดังนี้




เขาบอกว่าความคิดเดิมๆที่เอา piezo ไปติดไว้ใต้ saddle นั้นมันผิดหลักการมากเพราะเขาทดลองแล้วว่าต้ว saddle นั้นมันโยกด้านหน้าหลังมากกว่าการสั่นขึ้นลงเยอะ เขาก็เลยเอาตัว piezo ไปแปะไว้ด้านหลังของ saddle แทนในระบบ ES2

ลองมาดูความแตกต่างของการทำงานระหว่างระบบปกติและระบบ ES2 ครับ




จากรูปข้างบนจะเห็นใด้ว่าระบบ behind the saddle ของ Taylor นั้นไม่รับสัญญานจากไม้หน้าเลย เรื่องนี้ใครผิดใครถูกผมไม่ทราบแต่ขออ้างอิงระดับการศึกษาของผู้บุกเบิกระบบ piezo pickup ในกีตาร์โปร่งให้ดูแล้วกัน

Charles Kaman (Ovation Guitars) ผู้คิดค้นระบบ UST (under saddle transducer) แบบติดตั้งจากโรงงานจบ B.S. Aeronautical Engineering

Larry Fishman (Fishman Transducer) ผู้คิดค้นระบบ UST แบบติดตั้งทีหลัง (after market) จบ B.S. Mechanical Engineering

David Hosler ผู้คิดค้นระบบ BST (behind saddle transducer) Taylor ES2 System จบการศึกษาขั้นบังคับ (ชั้นมัธยมปลาย) เท่านั้น


ใครที่เรียนป.ตรีอยู่เลิกเรียนใด้แล้วครับเพราะดูเหมือนยิ่งเรียนก็ยิ่งโง่


ขอบคุณครับความรู้ล้วนๆ เเต่ผมรู้สึกจิงๆว่ามันเเตกต่างครับ