Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากถามความคิดเห็นว่าการที่usaกับจีนมีปัญหากันจะกระทบวงการกีต้าร์อย่างไรบ้างครับ  (อ่าน 1308 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

comgay55

  • member
  • ***
  • กระทู้: 8
อยากรู้ว่าเเนวโน้มราคากีต้าร์จะสูงขื้นไหม หรือกีต้าร์บางยี่ห้อที่มีโรงงานที่จีนจะเป็นยังไง
อยากได้ความคิดเห็นจากน้าๆครับ

zenkiyaba

  • member
  • ***
  • กระทู้: 396
Error 404 (Not Found)!!1

ไม่รู้เลยคับน้าแต่ผมรู้ว่าไอนี่มีโอกาสกลับมาสักวัน มันฆ่ากันเดือดจริงๆ lol

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,166
ในปี 2018 เมืองจีนผลิตกีตาร์ 30 ล้านตัว คิดเป็น 75% ของกีตาร์ทั้งโลก (ส่งออกไปอเมริกา 6 ล้านตัว) การที่ทางสหรัฐตั้งอัตราภาษีนำเข้า 25% นั้นทางโรงงานจีนบอกว่าไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเพราะเขาก็ขายราคาเดิมแต่ผู้นำเข้านั้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มซึ่งก็คงต้องไปคิดราคาเพิ่มกับผู้บริโภคในอเมริกากันเอาเอง

ในระยะยาวกีตาร์อเมริกันอย่าง Guild, Epiphone, Fender ก็ไปจ้างโรงงานในอินโดนีเซียผลิต OEM ให้แทนเพื่อเลี่ยงกำแพงภาษีซึ่งตอนนี้เขาก็เริ่มทำกันเพราะกีตาร์ญี่ปุ่นอย่าง Yamaha, Ibanez ก็ไปผลิตในอินโดมาหลายปีแล้ว

สำหรับเมืองไทยนั้นเรามี FTA กับจีนซึ่งทำให้กีตาร์ใด้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าอยู่แล้วซึ่งก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โรงงานผลิตกีตาร์ในเมืองไทยไม่มีทางใด้เกิดครับ

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,166
ขอแก้ไขคำตอบเพราะข้อมูลที่ผมใด้มาจากฟอรัมต่างๆในเว็บน่าจะผิดพลาดครับ

ผมเพิ่งเปรียบเทียบราคา Yamaha FG3, FG5 ป้ายแดงรุ่นใหม่ในเมืองไทยและในอเมริกาดังต่อไปนี้

FG3 ผลิตในจีน: ราคาในไทย 30,400 บาท ราคา US 24,800 บาท (799.99 USD)

FG5 ผลิตในญี่ปุ่น: ราคาในไทย 40,800 บาท ราคา US 37,200 บาท (1,199.99 USD)

ดังนั้นในเมืองไทยที่กีตาร์จีนเสียภาษีนำเข้า 0% แต่กีตาร์ญี่ปุ่นเสีย 10% กีตาร์ FG5 จึงแพงกว่า 10,400 บาท
ในอเมริกานั้น FG5 แพงกว่า FG3 = 12,400 บาทจึงเป็นไม่ใด้ที่กีตาร์จากจีนจะโดนภาษี 25%

จากข้อมูลนี้ผมเลยลองค้นต่อจนพบว่ากีตาร์และเครื่องดนตรีอื่นๆจากจีนนั้นขณะนี้ยังไม่โดนกำแพงภาษีแต่จะโดนใน Schedule 4 ซึ่งยังไม่ประกาศใช้เพราะทางอเมริกาใด้เลื่อนออกไปหลังจากการเจรจากับจีนในการประชุม G20 ปลายเดือนที่แล้ว