ขอยืมภาพของน้ากฤษณ์ มานะครับ (ความเห็นส่วนตัว) ไม้อายุน้อย resin ยังไม่แห้งมาก ความแข็งแรงของเนื้อไม้น่าจะยังมีสูงอยู่ แต่พอนานๆหลายปี ความชื้นระเหยออกไป ความแข็งแรงน่าจะลดลง ให้มองถึงอิฐบล็อค มันจะมีรูอยู่ เราถมปูนลงไปในรูเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ถ้านานๆสมมุติปูนหายไปเหลือแต่ส่วนของอิฐ ที่เป็นรู ความแข็งแรงย่อมหายไปตาม ดังน้ันที่น้า5150ed บอกไว้ว่า"กีตาร์ที่ท้องป่องแทบทุกตัว ส่วนเสียงจะดี (กีต้าร์ตัวที่มาตรฐานดี)" ก็น่าจะเป็นไปได้ครับ เพราะ resin มันแห้งไปแล้ว
ผมสนใจเรื่องกีตาร์เสียงเปลี่ยน(เสียงเปิด)มาเป็นระยะเวลาหนึง
โดยส่วนตัวผมมองไปที่เรื่องคุณสมบัติของการตอบสนองการสั่นสะเทือน(vibration) และการสลายการสั่นมากกว่าครับ ไม้แห้งก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ แต่ เท่าที่เคยเจอมา ไม่ยังไม่แห้งสนิดเสียงก็เปิดได้ครับ
ผมเคยเจอกีตาร์อายุน้อย 2-3 ปี ที่เสียงเปิด หรือ กีตาร์ใหม่ที่เสียงเปิดมาตั้งแต่ในร้านเลยหลายตัวอยู่
ผมมองอย่างนี้ครับ หากเรามองไม้หน้าของกีตาร์เป็นสปริง
สมมุติว่าสปริงใหม่ๆยังแข็งอยู่ไม่สามารถยืดหดได้เต็มที่
A. พอผ่านการใช้งานไปเรื่อยๆสปริงตัวเดิมอ่อนตัวขึ้น
สามารถขยับตัวได้อิสระขึ้น ยืดๆ หดๆ ได้เต็มที่
สามารถสะท้อนแรงกระทำได้ใกล้เคียง 100%
B. พอผ่านการใช้งานไปถึงอีกจุดหนึ่ง สปริงอ่อนตัวลงอีก
ความสามารถสะท้อนแรงที่โดนกระทำจะลดลง
แต่สามารถสลายแรงกระทำส่วนเกินได้เพิ่มขึ้น
(แรงกระทำส่วนเกิน ผมหมายถึงแรงที่เกินกว่าระบบจะรับได้ใน 1 cycle)
A กับ B ต่างกันตรงที่
A. รับแรงทั้งหมดมาและสะท้อนกลับ แรงบางส่วนยังคงสั่นค้างอยู่ในระบบ
B. รับแรงทั้งหมดมาและสะท้อนกลับบางส่วน สลายทิ้งไปบางส่วน
ผลคือแรงสั่นที่เหลือค้างอยู่ในระบบน้อยมาก
กลับมาที่กีตาร์ครับ
A. คือกีตาร์ที่ผ่านการใช้งานมาพอสมควร เสียงจะดังขึ้นกว่าเดิม สั่นมากขึ้น แต่ยังอ้นๆ อู้ๆ อยู่บ้าง
B. คือกีตาร์เสียงเปิด ในความคิดของผม คือ เสียงโปร่ง ใส คม ชัด ย่านเสียงต่ำสะอาด ลึก
Attack Decay Sustain แยกกันชัดเจน เนื้องจากไม่มีการสั่นที่ค้างอยู่ไปกวน
ดังนั้นที่อยากจะบอกคือ
1. บางยี่ห้อสามารถทำกีตาร์ให้ ไปถึงจุด B ได้เลย ตั้งแต่ออกจากโรงงาน
2. การขึงสายทิ้งใว้ให้เกิดแรงกระทำกับกีตาร์อยู่ตลอดเวลาก็น่าจะสามารถทำให้ไปถึงจุด B ได้เหมือนกันครับ