ปิ้คอัพที่นิยมใช้กับกีตาร์โปร่งนั้นแบ่งออกใด้เป็น 2 ประเภท ประเภทละ 2 ชนิด ประเภทแรกนั้นจะแปลงการสั่นสะเทือนของสายกีตาร์ให้เป็นกระแสไฟฟ้าเป็นหลักโดยมีกระแสไฟฟ้าที่เกิดจากการสั่นของไม้หน้ามาเป็นส่วนประกอบ ปิ้คอัพประเภทนี้แบ่งใด้เป็นสองชนิดคือ
1. Under Saddle Transducer เป็นเส้นลวด piezoelectric transducer ที่วางใต้ saddle สัญญาณส่วนใหญ่ที่รับมาจากการสั่นของสายที่กดบน saddle โดยมีสัญญาณจากการสั่นของ bridge ปนอยู่เป็นส่วนน้อย กีตาร์ที่ออกแบบให้เล่นบนเวทีโดยไม่หอนมักใช้ปิ้คอัพประเภทนี้ครับ
Guild Songbird, Fishman Matrix UST,
2. Magnetic pickup จับสัญญาณของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากการสั่นของสายและการสั่นของไม้หน้าที่ตัวปิ้คอัพเกาะอยู่ ปิ้คอัพชนิดนี้จะใด้รับแรงสั่นจากไม้หน้ามากกว่ามากกว่าชนิดแรกเพราะไม้หน้าตรง sound hole สั่นมากกว่าไม้หน้าใต้ bridge ที่มี bridge plate ประกบอยู่ด้านล่างแน่นอน ดังนั้นถ้าออกแบบดีๆ magnetic pickup จะถ่ายทอดเสียงจากไม้หน้าใด้มากกว่า UST pickup พอสมควรแต่ก็หอนง่ายกว่าด้วย
Gibson Keb Mo Bluesmaster, Sunrise pickup,
Gibson J-45 True Vintage, Fishman Black Stack,
ปิ้คอัพประเภทสองนั้นไม่รับสัญญาณจากสายเลยแต่รับจากบอดี้ล้วนๆ ปิ้คอัพประเภทนี้แบ่งใด้เป็นสองชนิดคือ
3. Condenser Microphone. ไมโครโฟนที่ติดกีตาร์นั้นรับคลื่นเสียงที่สะท้อนไปมาอยู่ในตัวกีตาร์และมีการปรับ voicing โดยวงจร active เพื่อจำลองเสียงให้เหมือนเอาไมค์ไปจ่อ แน่นอนว่าปิ้คอัพประเภทนี้ให้เสียงเหมือนเสียงเปล่ามากที่สุดแต่ก็หอนง่ายสุดเหมือนกัน
LR Baggs Lyric
Fishman Condenser Microphone,
4. Bridge Plate Transducer. เป็น piezoelectric transducer ที่ออกแบบให้เกาะอยู่กับ bridge plate ซึ่งแปลงสัญญาณจากการสั่นของไม้หน้า 100% เสียงจะนุ่มกว่าปิ้คอัพสองชนิดแรกแต่หอนง่ายพอๆกับชนิดที่สาม
LR Baggs Ibeam Active,
K&K Pure Mini เป็น bridge plate transducer ซึ่งถ้าเอาไปเล่นตามร้านโดยใช้กีตาร์ all solid ก็อาจมีปัญหาเรื่อง feedback ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ฟัง ตำแหน่งเวที ตำแหน่งลำโพงและเพลงที่เล่น ถ้าคุณจะลองก็ควรมีกีตาร์สำรองที่ใช้ UST หรือเอา magnetic pickup สำรองติดตัวไปด้วยเพราะถ้ามันหอนจะใด้เปลี่ยนกีตาร์หรือเปลี่ยนปิ้คอัพใด้
ถ้าจะใช้ปรีช่วยก็ต้องใช้รุ่นที่มี parametric EQ หรือ notch filter เพื่อช่วยตัด feedback ครับ