คงเป็นไปตามกรรมหรือเรื่องของทุนนิยมที่เข้ามามีบทบาทขึ้นเรื่อย ๆ จนเรื่องของ เงินทอง มีความสำคัญกว่าคุณค่าของวิถีชีวิต ก็เข้าใจอยู่นะครับว่าทุกสิ่งมันต้องเปลี่ยนไปตามการเวลา ให้เหมาะให้สมกับยุคสมัย แต่ถ้าบ้านเมืองถูกเปลี่ยนสภาพไปหมด กรุงเทพฯมีแต่ตึกสูง มีแต่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ผมว่ามันทำให้ขาดอะไรไปเหมือนกันนครับ สถานที่สำคัญในกรุงเทพฯไม่ได้มีแต่วัดพระแก้วนะครับ ผมว่าการอนุรักษ์ชุมชนหรือจุดที่มีประวัติเก่าแก่มาช้านานจนเป็นสัญลักษณ์ มันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ ผมไม่ได้ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงอะไรเพียงแต่ผมไม่แน่ใจว่าบ้านเรามันเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เหมาะที่ควรแล้วหรือยังในหลาย ๆ เรื่อง (รวมทั้งเรื่องนี้ด้วย)
อ่านในข่าวเห็นว่าชาวชุมชนพยายามรวบรวมเงินเพื่อจะเสนอให้นายทุนเพื่อคงสภาพชุมชนเดิมไว้อ่านแล้วก็รู้สึกเศร้า ๆ เหมือนกันครับ บ้านผมเองก็เคยถูกเวนคืนจนต้องไปหาบ้านใหม่เหมือนกันความผูกพันมันมีอยู่ ยิ่งทำมาหากินอยู่กันมาหลายรุ่นแล้วยิ่งผูกพันมาก
แล้วที่เค้าจะเอาพื้นที่ไปทำ ก็แค่จะทำเป็นตลาดค้าส่งเหมือนคลองถม....แล้วคลองถมเดิมล่ะ อยู่ห่างกันแค่ร้อยเมตรเอง จะส่งอะไรกันนักหนา....พวกนายทุนบางทีมองแค่เรื่องผลประโยชน์ กำไร ไม่ได้มองถึงเรื่องคุณค่าทางจิตใจ ชีวิต วัฒนธรรมใด ๆ เลย
ไปอ่านเจอมาน่ะครับเลยเอามาฝากกัน ล่าสุดที่ไปเวิ้งฯมา ก็เห็นขึ้นป้ายต่อต้านกันอยู่เหมือนกัน แต่ผมคิดว่าคงต้านกระแสนายทุนได้ไม่นานหรอกครับ นอกเรื่องกีตาร์หน่อยนะครับกระทู้นี้ เอ๊ะ แต่จริง ๆ ก็ไม่ได้นอกไปไกลเพราะคนกีตาร์เกือบทุกคนน่าจะได้มีความเกี่ยวข้องกับเวิ้งนาครเขษมบ้างอยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
พวกเราก็รอลุ้นกันต่อไปแล้วกันครับว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงกันบ้างกับแหล่งค้าขายเก่าแก่แหล่งนี้
ที่มาครับ ลองไปอ่านรายละเอียดดู :
http://www.thairath.co.th/content/life/189296