3. ยุค Acoustic Guitar Revival (1989-)...เมื่อกีตาร์โปร่งใด้กลับมารับความนิยมอีกครั้งจากกระแสของรายการ MTV Unplugged ที่เริ่มออกอากาศในปี 1989 ก็เลยมีคนคิดทำแอมป์กีตาร์โปร่งออกมาขายโดยมีจุดประสงค์ดังนี้
3.1..ทำหน้าที่เป็นระบบ PA ที่ใช่ใด้กับไมค์และกีตาร์แต่มีขนาดที่หิ้วสะดวกแบบตัวเดียวจบ
3.2 ทำหน้าที่เป็น preamp, effect และ stage monitor สำหรับนักดนตรี นักร้องที่เล่นตาม pub โดยที่คุณสามารถตั้งเสียงและ effect อย่างที่ต้องการใด้และต่อ line ไปออก mixer ของร้านที่ตั้ง flat หมดทำให้ไม่ต้องเอาชื่อเสียงของคุณไปแขวนใว้กับระบบ PA ของร้านอีกต่อไป
เจ้าที่ออกแอมป์อาคูสติกเป็นเจ้าแรกก็คือ Trace Elliot ซึ่งแก้ปัญหาเรื่องของลำโพงกีตาร์ที่ถ่ายทอดเสียงร้องไม่ใด้โดยการใช้ลำโพงขนาดเล็ก (5") หลายๆตัวแทนลำโพงขนาด 12" ลำโพงยิ่งตัวเล็กก็ยิ่งถ่ายทอดเสัยงแหลมใด้ดี๘ึ้นครับ
ในยุค '90s นั้นก็มีหลายเจ้าที่ออกแอมป์อาคูสติกมาแต่ส่วนใหญ่ใช้ลำโพง 2-way โดยมี woofer ขนาด 10"-12"
แอมป์ยุคแรกนี้ใช้ power amp class AB มี line-out และ effect loop ทุกรุ่นและราคาค่อนข้างสูงครับ
แอมป์ในยุคนี้แข่งกันเรื่องความอลังการของเสียงกีตาร์และเสียงร้องโดยไมสนใจเรื่องความเที่ยงตรงของการขยายเสียง (บางยี่ห้ออย่าง Rivera Sedona ใช้หลอดล้วนด้วยซ้ำ) แต่ก็มีวิศวกรชาวเยอรมันกลุ่มหนึ่งที่ตั้งใจออกแบบให้แอมป์ของเขาเสียงเที่ยงตรงเหมือนต้นฉบับที่สุดและเริ่มต้นผลิตตั้งแต่ปี 1992 ลองมาดูกันครับว่าแอมป์เขามีอะไรดีบ้าง
ตัว power amp เขาใช้ DMOS FET หรือ double diffused metal oxide semiconductor field effect transistor ซึ่งแพงแต่เที่ยงตรงมาก
สำหรับลำโพงนั้นแทนที่จะใช้ลำโพงสองทางเหมือนคนอื่นเขากลับเลือกใช้ลำโพงทางเดียวที่มี whizzer cone เพื่อเพิ่มเสียงแหลม ตามปกติแล้วลำโพง hi-fi จะไม่ใช้ระบบนี้เพราะย่านเสียงแหลมจะไม่ smooth เท่าลำโพงสองทางแต่ AER เขาทำใด้โดยการ EQ ไปถึง 8,000 hz. เท่านั้นแล้ว filter ทิ้งเลย จนถึงทุกวันนี้แอมป์ AER ก็ยังใด้รับความนิยมอย่างมากแม้ราคาจะแพงกว่าขาวบ้านก็ตาม
4. ยุค Digital Power Amp (2004-)...Digital amp หรือแอมป์คลาสดีนั้นเมื่อก่อนใช้กับแอมซับวูฟเฟอร์เท่านั้นเพราะขยายด้านเสียงแหลมใด้ไม่ดี ต่อมาในปี 2004 ก็มีการพัฒนา full range class-D amp จนสามารถวางขายใด้ (B&O) สมัยนี้ AV receiver, portable PA sytem และ acoustic guitar amp รุ่นใหม่ก็เอาแอมป์คลาส D ที่น้ำหนักเบากว่า ประสิทธิภาพสูงกว่า ร้อนน้อยกว่าและราคาถูกกว่าคลาส AB มาใช้หมดแล้วครับแต่แอมป์กีตาร์ไฟฟ้านั้นยังติดอยู่ในอดีตเมื่อ 60 ปีที่แล้วคือแอมป์หลอดล้วนๆเท่านั้นถึงจะดี
สรุปว่าความแตกต่างที่เป็นนัยสำคํญระหว่างแอมป์กีตาร์โปร่งกับแอมป์กีตาร์ไฟฟ้าก็คือ
1. แอมป์กีตาร์ไฟฟ้าใช้กับไมค์ไม่ใด้
2.แอมป์กีตาร์โปร่งไม่มีเสียงแตก (ต้องซื้อเพิ่ม)
3. แอมป์กีตาร์ไฟฟ้าเสียงดังกว่าถ้าวัตต์พอๆกันเพราะลำโพงใหญ่กว่าและประสิทธิภาพสูงกว่า
4. ถ้าเป็นแอมป์หลอดแอมป์กีตาร์ไฟฟ้าหนักกว่าเยอะครับ
ส่วนเรื่องเสียงนั้นผมว่าใกล้เคียงกัน อย่างในสองคลิปนี้คือกีตาร์ตัวเดียวกันเล่นผ่านแอมป์กีตาร์ไฟฟ้า (Fender VM Deluxe, 40 W.) และแอมป์อาคูสติก (Fender Acoustasonic Ultralight, 250 W.) ลองฟังดูครับว่าฟังออกไหม
แอมป์กีตาร์โปร่งก็ใช้เสียงแตกก้อนใด้ รับรองว่าไม่พังหรอกครับ