Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องของสายกีตาร์  (อ่าน 16807 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Mook :)

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,295
  • เพศ: หญิง
เรื่องของสายกีตาร์
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 20:33:17 »
สายกีตาร์
ชนิดของสายกีตาร์ ส่วนใหญ่ก็แบ่งออกเป็นสองชนิด ก็คือสายเหล็ก กับสายเอ็น (nylon)

สายกีตาร์เหล็ก เป็นการจับคู่กันของ ลวดเหล็กเรียบ และลวดเหล็กที่มีลวดพันรอบ สายที่เรียบมักจะเรียกว่า Plain (เช่นสาย 1,2 ของกีตาร์โปร่ง) สายที่มีลวดพันรอบ เรียกว่า wound (เช่นสาย 4-6) สายที่เป็น Plain นั้น ผู้ผลิตบางรายก็เคลือบด้วยดีบุก เพื่อป้องกันสนิม ผู้ผลิตอย่างเช่น มาร์ติน (ซีรี่ย์ sp) และ daddario (ซีรี่ exp) เคลือบสายด้วย ทองเหลือง
ลวดที่เป็นแกนกลางของสายชนิด wound นั้น มีทั้งลวดกลม และลวดทรงหกเหลี่ยม แกนลวดทรงกลมนั้น จะทำให้ลวดที่พันรอบ สามารถพันสัมผัสกับผิวได้แน่นที่สุด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ เพราะความกลมนั้นทำให้ลวดที่พันรอบ สามารถเลื่อนจากตำแหน่งที่พันได้ ถ้าคุณภาพการผลิตไม่ดีพอ จึงเป็นที่มาของลวดแกนกลางทรง 6 เหลี่ยม เหลี่ยมที่เกิดขึ้น จะเป็นตัวช่วยยึดให้ลวดที่พันรอบ สามารถเกาะกับแกนกลางได้แน่น ผู้ผลิตอย่าง DR ยังคงทำสายกีตาร์โปร่ง ที่ใช้ลวดแกนกลางทรงกลม ในขณะที่ผู้ผลิตรายอื่น ๆ อย่าง dad, GHS, Dean Markley หรือพวกยุโรปอย่าง Pyramid ก็ใช้ลวดทรง 6 เหลี่ยมทั้งนั้น
บริษัท โทมาสติค ของออสเตรีย ใช้ลวดแกนกลางเป็นลวดหลายเส้นถักเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นกรรมวิธีของการผลิตสายไวโอลิน (โทมาสติค มีชื่อเรื่องสายเครื่องสายตระกูลวิโอล) สายของโทมาสติคนั้นยืดหยุ่นคล้ายสายเอ็น แต่ยังมีเสียงที่คมชัดแบบสายเหล็ก โลหะที่ใช้เป็นส่วนผสมของสายกีตาร์นั้น ก็มีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับคุณภาพเสียงของโลหะนั้นเช่น นิเกิล, ชุบเงินทับ, ทองเหลือง หรือ ทอง

สาย Bronze หรือ 80/20
80/20 คืออัตราส่วนผสมของโลหะ ทองแดง 80 % ดีบุก 20 % สีที่ได้เป็นสีทอง เสียงที่ได้แหบท คมชัด และใส ส่วนชนิด 85/15 ก็จะให้เสียงที่อุ่นขึ้นจาก 80/20 และสีของลวดก็จะเข้มขึ้น
สายชนิด 80/20 เป็นสายที่ติดมากับกีตาร์จากโรงงานโดยส่วนใหญ่

สาย Brass
ส่วนผสมของสายชนิดนี้ เริ่มจาก ทองแดง 80 % และ สังกะสี 20 % จนไปถึง 60/40 ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต สายชนิดนี้ เสียงจะแหลมใสกรุ๊งกริ๊งที่สุด ผู้ผลิตหลายรายมักจะเรียกสายชนิดนี้ว่า Bright bronze

สาย Phosphor bronze
ส่วนผสมของสายชนิดนี้คือ copper alloy 90 % และ ดีบุก 10 % และเติม Phosphor ลงไปด้วยในระหว่างกระบวนการผลิต ซึ่งไปเพิ่มความแข็งแรงของสาย และ การต้านสนิม เสียงของสายชนิดนี้ จะนวลกว่าสายชนิด 80/20 และมีอายุยาวนานกว่าเล็กน้อย สีของสายก็จะเข้มกว่า

สาย Nickel
สายชนิดนี้ เป็นการเคลือบสายด้วย nickel ซึ่งแกนของสายจะเป็นสายเหล็ก ซึ่งเหนี่ยวนำได้โดยสนามแม่เหล็ก จึงใช้กับกีตาร์ไฟฟ้า หรือกีตาร์โปร่งที่ติด pu แบบกีตาร์ไฟฟ้า เสียงที่ได้จะทึบกว่าสายกีตาร์โปร่ง สายชนิดนี้ มีทั้งเส้นเล็ก ๆ จนไปถึงเส้นขนาดใหญ่ (เช่นสายกีตาร์แจส) บริษัท DR ทำสายกีตาร์ชนิดนี้โดยใช้ชื่อการค้าว่า Zebras โดยใช้การผสมผสานระหว่าง nickel กับ phosphor bronze เป็นผลทำให้ เสียงที่ได้ชัดเจนแบบสายกีตาร์โปร่ง และยังคงใช้กับกีตาร์ไฟฟ้าได้

สาย Flatwounds
ใช้ลวดทรงแบนพันรอบสาย เพื่อให้ลดเสียงนิ้วที่รูดสายไปมา รวมไปถึงให้เสียงที่ทีบกว่าสายปกติ ใช้กับพวกกีตาร์ jazz ทรง acrhtop หรือในกรณีที่ต้องการเสียงแบบนุ่มนวล

สาย Half-rounds
สายที่พันรอบ เป็นทรงแบบบริเวณผิวสัมผัส แต่บริเวณที่สัมผัสแกนใน เป็นทรงกลม
เสียงอยู่ระหว่างสาย Flat กับ round ใช้ในสตูดิโอ ที่ต้องการลดเสียงรูดนิ้ว แต่ยังคงให้เสียงที่ใสแบบกีตาร์โปร่งอยู่บ้าง

สาย Coated
ใช้เคมีภัณฑ์บางประเภทเคลือบร่องของลวดที่พันรอบแกนกลางสายเหล็ก เช่น Kaman (บริษัทผลิตกีตาร์โอเวชั่น) ใช้ teflon แต่ในยุคแรก ๆ ที่ใช้ ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ให้ teflon ติดกับร่องสายได้อย่างคงทน

ต่อมา W.L.Gore ได้ผลิตผ้าใบชนิดพิเศษสำหรับทำเต๊นท์แคมปิ้ง โดยผ้าที่เคลือบสารบางชนิดของ gore เรียกว่า goretex ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษคือ น้ำไม่ผ่านผ้านี้ แต่อากาศสามารถผ่านได้ (น้ำที่ไม่ผ่านผ้าเต๊นท์ เช่น ละอองน้ำบนหลังคาเต๊นท์ หรือฝนตกไม่แรงมาก ถ้ายกถังน้ำราดล่ะก็ น้ำก็ผ่านได้นะครับ เพราะมวลน้ำหนักของน้ำจะมากจน สารที่เคลือบไว้ทานแรงไม่ไหว เคยลองแล้ว แฮ่..)
แล้วบริษัทของ Gore ก็นำสารนี้ไปเคลือบบนสายกีตาร์ แล้วก็ใช้ชื่อการค้าว่า Elixirs อันโด่งดังนั่นเอง การเคลือบสารที่ว่านี้ ทำเมื่อกระบวนการพันลวดรอบแกนหลักเสร็จสิ้นแล้ว ชนิดที่เคลือบหนา เรียกว่า Polyweb ชนิดที่เคลือบบางเรียกว่า Nanaoweb สายชนิดนี้ เสียงจะทึบกว่าสายที่ไม่ได้เคลือบ ทึบมากน้อย ก็อยู่ที่ความหนาของการเคลือบ
บริษัท dad ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ก็คิดเทคนิคที่เคลือบสายนี้ แต่ใช้เคลือบในลวดที่จะพันรอบแกนหลัก ก่อนที่จะพันแกนหลัก ไม่เคลือบตามร่องของสายอย่าง Elixirs ซึ่งก็ทำให้เสียงใสขึ้น แต่ก็ยังมีเสียงรูดนิ้วเอี๊ยดอ๊าดอยู่ dad อ้างว่า สาย 1-2 ที่เป็น Plain นั้น Elixirs ไม่ได้เคลือบสายไว้ แต่ dad ได้เคลือบสายไว้ด้วย
เทคนิคนี้ dad ก็ใช้ทั้งสายเหล็ก และสายเอ็น สำหรับกีตาร์คลาสสิค แต่เคลือบเฉพาะสาย 4-6 เท่านั้น โดยที่สาย 1-3 ใช้วิธีใช้วัสดุผสม เป็นวัตถุดิบในการผลิต เช่น สายเอ็นในชุด Ej45c สายสามมีให้เลือกสองเส้น ทั้งชนิดธรรมดา และชนิดวัสดุผสม (composite)
สายชนิด Silk+Steel
สายชนิดนี้ เป็นลูกผสมระหว่างสายเหล็กและสายไนลอน โดยที่แกนหลักเป็นลวดเหล็ก และพันรอบด้วยใยไนลอนและพันลวดเหล็กทับ รวม 3 ชั้น เคลือบทับด้วย Silver Plate
สายชนิดนี้ จะให้แรงดึงน้อยกว่าสายเหล็ก เสียงที่ได้ก็จะนวลและเบากว่าสายเหล็ก เหมาะสำหรับกีตาร์ตัวเล็ก ที่ไม่ได้ต้องการแรงดึงของสายมาก ๆ แต่ไม่สามารถใช้กับกีตาร์คลาสสิคได้

สายที่ใช้กระบวนการ Cryogenically Frozen
เป็นกระบวนการที่ใช้การแช่แข็งที่อุณหภูมิต่ำมาก ๆ โดยใช้ไนโตรเจนเหลวเป็นตัวให้ความเย็น อุณหภูมิที่ใช้ในกระบวนการนี้คือ -320 องศา F สายเหล็กที่โดนแช่ด้วยกระบวนการนี้ใช้เวลา 15 ชั่วโมง และค่อย ๆ ให้คืนอุณหภูมิปกติ โดยเชื่อกันว่า กระบวนการนี้ไปเปลี่ยนแปลงโมเลกุลของสสารนั้น ผู้ใช้สายชนิดนี้หลายรายกล่าวว่า ให้เสียงที่คมชัดขึ้น กังวาลมากขึ้น และอายุยืนยาวขึ้น บริษัทที่ใช้เทคนิคนี้คือ Dean Markley ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชื่อว่า BlueSteel
กระบวนการนี้ใช้ได้เฉพาะสายโลหะเท่านั้น สายไนลอนไม่สามารถทำได้


cradit: http://rattana.org/coe9/mambo/webboard/index.php?showtopic=2496

ปล.พอดีเปิดเจอมา เลยเอามาแบ่งปันค่ะ

kaizer123

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,181
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 20:37:21 »
ว้าววว!!! ขอบคุณมากครับ ผมเป็นพวกเครียดเรื่องสายกีตาร์เลยเข้ามาดู

ต้นแพร

  • member
  • ***
  • กระทู้: 150
  • เพศ: ชาย
    • SMII & Me | บล็อกเล็ก ๆ ของเด็กวิศว์
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 20:40:21 »
น่าจะมีห้องเก็บคลังความรู้หรืออะไรที่เป็น FAQ เพิ่มซักห้องคงจะดีไม่น้อย



Phongphak

  • member
  • ***
  • กระทู้: 112
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 20:44:42 »
คาวมรู้ๆ ^___^

Crucify

  • member
  • ***
  • กระทู้: 359
  • เพศ: ชาย
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 20:45:10 »
โห ป้ามุกมาแบบวิชาการ ผมพึ่งเคยเจอ เจอเครื่่องพ่น DDT ไปผมถึงกับ SHOCK !!!   :o :o :o

Mook :)

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,295
  • เพศ: หญิง
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 20:48:57 »
โห ป้ามุกมาแบบวิชาการ ผมพึ่งเคยเจอ เจอเครื่่องพ่น DDT ไปผมถึงกับ SHOCK !!!   :o :o :o
พูดจาร้ายจิตใจคนสวยจริงๆ 555..

บุคคลทั่วไป

  • member
  • ***
  • กระทู้: 119
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 20:55:41 »
ขอบคุณพี่Mookครับ กำลังหาข้อมูลพอดีเลย ;)

kaizer123

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,181
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 20:56:52 »
ทำไมเห็นเรียกป้ากันหมดเลยล่ะครับ :D ????

Mook :)

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,295
  • เพศ: หญิง
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 21:03:20 »
ทำไมเห็นเรียกป้ากันหมดเลยล่ะครับ :D ????
นี่แหละ การไม่เท่าเทียมกันของสตรีและบุรุษเพศ บอร์ดนี้นิยมเรียกผู้ชายว่าน้า ถึงแม้จะเฒ่าแล้วก็ตาม แต่มักจะเรียกผู้หญิงว่าป้า
ถึงแม้จะยังอ่อนเยาว์ วัยกระเต๊าะ หน้าขบเผาะ อย่างเรา ก็ยังไม่เว้นถูกเรียกป้า   ;D ;D ;D

Crucify

  • member
  • ***
  • กระทู้: 359
  • เพศ: ชาย
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 21:15:26 »
แหม ดีไม่เรียกยาย 55+

Nightbarons

  • member
  • ***
  • กระทู้: 325
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 21:17:08 »
ใช้มาตั้งนาน เพิ่งจะรู็ว่ามันทำมาจากอะไร ขอบคุณครับ  เจ๊มุก (เจ๊น่าจะดีกว่าป้านะ อิอิ)

kaizer123

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,181
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 21:25:41 »
พี่มุกดีกว่าครับ :D

Mook :)

  • member
  • ***
  • กระทู้: 1,295
  • เพศ: หญิง
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 21:29:03 »
แหม ดีไม่เรียกยาย 55+

ใจร้ายๆ .. เดวจับตีตูด

aofaf

  • member
  • ***
  • กระทู้: 39
  • เพศ: ชาย
  • BBT
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 21:35:57 »
ใจจ้าป้ามุก
A journey of thousan

thongskk

  • member
  • ***
  • กระทู้: 122
  • เพศ: ชาย
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 22:21:32 »
ขอบคุณครับ

FOTOBEER

  • member
  • ***
  • กระทู้: 5,404
  • เพศ: ชาย
  • fotobeer2516แอ๊ดgmail.com
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2011, 00:18:46 »
WoW....ทีเด็ด ป้ามุก

*o.NicKy.o*

  • member
  • ***
  • กระทู้: 117
  • เพศ: ชาย
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2011, 01:06:42 »
โอ่ว . . . ป้ามุก มาในแนววิชาการ ^..^

FOTOBEER

  • member
  • ***
  • กระทู้: 5,404
  • เพศ: ชาย
  • fotobeer2516แอ๊ดgmail.com
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2011, 11:55:07 »
ดันไว้ครับ ความรู้ดีๆ

npas

  • member
  • ***
  • กระทู้: 251
  • เพศ: ชาย
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2011, 12:14:54 »
น่าเรียบเรียง ลงพ็อคเกตบุ๊ค ซักเล่มนะน้า เก็บให้ลูกหลานที่เริ่มเล่นกีตาร์ ได้ศึกษากัน

redtopup

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,240
Re: เรื่องของสายกีตาร์
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2011, 12:30:44 »
ขอบคุณครับ
ฝึกอย่างถูกวิธี แล้วเราจะไปถึงความสามารถอันสูงสุดข