หัวข้อ: มีเหตุผลอะไรบ้างครับที่บางจุดของกีต้าร์โปร่งยังคงอยู่ที่เดิมนอกจากเรื่องหน้าตา

[aomwai]

ด้วยกลไกของตัวกีต้าร์โปร่งแล้ว (ที่เคยได้ยินประมาณว่ามันคือเสน่ห์ทางหน้าตาบ้าง ภาพลักษณ์บ้าง ฯลฯ) ผมยังรู้สึกว่าการ Setup ยังต้องพึ่งมืออาชีพและเครื่องมือพอสมควร ไม่สามารถ Setup ได้เองง่ายๆเหมือนกีต้าร์ไฟฟ้า และส่วนหนึ่งสำคัญของกีต้าร์โปร่งที่ผมว่าควรพัฒนาก็คือพวกหย่องที่ควรจะพัฒนาให้ปรับความสูง-ต่ำได้สะดวกไม่ต้องมาถอดสายเข้าออกแล้วฝนใหม่อีกมันค่อนข้างเสียเวลา (มันต้องอาศัยความละเอียดและความแม่นยำยิ่งกว่า Pressure Test ของ Masterchef อีกครับ 5555555) แล้วอีกอย่างก็ควรหาทางพัฒนาให้ Piezo กับ Saddle ได้แบบสามารถเซ็ตความแน่นติดกับ Saddle โดยไม่จำเป็นต้องไปวางทิ้งไว้ใน Socket แล้วรอความแน่นจากสายมากดเพื่อให้ Piezo แนบกับ Saddle เสียงแต่ละสายจะได้ออกมา Balance อะไรแบบนี้ คือบางทีปัญหาเดียวกัน แต่ถ้าเป็นกีต้าร์ไฟฟ้ามันสามารถเสร็จได้ไม่ถึงนาที แต่กีต้าร์โปร่งอาจจะกินเวลาไปซะชั่วโมง (เผลอๆไม่มั่นใจก็ส่งช่าง) ส่วนตัวผมคิดว่ากีต้าร์โปร่ง-โปร่งไฟฟ้าควรถึงจุดที่พัฒนาอะไรบางอย่างได้แล้ว เพราะมันฟรีซ มากว่า 30-40 ปีแล้ว มันยังพัฒนาต่อได้นะ (หรือพัฒนาแล้วแต่ผมไม่รู้ 55555) ท่านใดมีความเห็นว่ายังไงกันบ้างครับ ขอบคุณมากครับ

[TOM1869]

ผม setup เอง ตลอด ครับ  ง่ายๆ ไม่ยาก  เพียง ขันคอ ความสูงของ สาย ก็ลดลงมา   การปรับแต่ง โดยการ ฝน saddle  ไม่ จำเป็น จะไม่ทำเด็ด ขาด  หากจะทำ ก็จะหาซื้อ อันใหม่มาฝน  เก็บของเดิมไว้ ครับ  ทำไม่ ดีเสียงออก ไม่เท่ากัน ครับ

[กฤษณ์]

น่าจะไม่รู้เองมากกว่าครับ

1. Adjustable Saddle...ในยุค 1960s กีตาร์โปร่ง Gibson ทุกรุ่นสามารถปรับความสูงของ saddle ใด้โดยการขันสกรูขึ้นลงและบางรุ่นยังสามารถปรับ intonation ใด้ด้วย ระบบนี้กลับไม่ใด้รับความนิยมมากนัก Gibson เลยเลิกทำไปในปี 1970




2. ระบบ ES2 ของ Taylor ออกแบบให้ piezo ที่มีอยู่สามตำแหน่งด้านหลังของ saddle รับแรงสั่นสะเทือนทางด้านข้างและขันยึดกับ saddle แรงดันของ piezo แต่ละตัวสามารถปรับใด้เพื่อให้เสียงบาล้านซ์โดยการขันน้อตด้านหลัง ถ้าจะถอด piezo ก็ต้องคลายน้อตทั้งสามตัวก่อนครับ

[mai_911]

มันพัฒนาเรื่อยๆนะครับ

แต่ถ้าพูดถึงในส่วนของระบบไฟฟ้า ผู้พัฒนาจะเป็นทางระบบ pick up มากกว่าจะไปยุ่งกับโครงสร้างของกีต้าร์โปร่งครับ

สมัยนี้สามารถเอา "โปร่งธรรมดา" มาทำให้เป็น "โปร่งไฟฟ้า" ได้ดีกว่าสมัยก่อนครับ

ที่พอจะพูดถึงโปร่งไฟฟ้า ก็จะนึกถึงแค่ Ovation อะไรแบบนั้น

[aomwai]

น่าจะไม่รู้เองมากกว่าครับ

1. Adjustable Saddle...ในยุค 1960s กีตาร์โปร่ง Gibson ทุกรุ่นสามารถปรับความสูงของ saddle ใด้โดยการขันสกรูขึ้นลงและบางรุ่นยังสามารถปรับ intonation ใด้ด้วย ระบบนี้กลับไม่ใด้รับความนิยมมากนัก Gibson เลยเลิกทำไปในปี 1970




2. ระบบ ES2 ของ Taylor ออกแบบให้ piezo ที่มีอยู่สามตำแหน่งด้านหลังของ saddle รับแรงสั่นสะเทือนทางด้านข้างและขันยึดกับ saddle แรงดันของ piezo แต่ละตัวสามารถปรับใด้เพื่อให้เสียงบาล้านซ์โดยการขันน้อตด้านหลัง ถ้าจะถอด piezo ก็ต้องคลายน้อตทั้งสามตัวก่อนครับ

โอ้วว์ อันนี้ไม่รู้เลยจริงๆครับ สำหรับแบบของ Gibson แต่ของ ES2 เคยเห็นแต่ลืม ผมว่าถ้าอย่างสองแบบนี้มันพัฒนามาเป็นอันเดียวกันได้คงดีไม่น้อยครับ เช่นแบบ ES2  ของ Taylor ที่พัฒนาระบบให้สามารถปรับระดับความสูงของ Saddle ได้เลยไม่ต้องฝนอะไรแบบนี้ครับ  555555 (มโนเกินไปละ)

[aomwai]

มันพัฒนาเรื่อยๆนะครับ

แต่ถ้าพูดถึงในส่วนของระบบไฟฟ้า ผู้พัฒนาจะเป็นทางระบบ pick up มากกว่าจะไปยุ่งกับโครงสร้างของกีต้าร์โปร่งครับ

สมัยนี้สามารถเอา "โปร่งธรรมดา" มาทำให้เป็น "โปร่งไฟฟ้า" ได้ดีกว่าสมัยก่อนครับ

ที่พอจะพูดถึงโปร่งไฟฟ้า ก็จะนึกถึงแค่ Ovation อะไรแบบนั้น

ใช่ครับ ส่วนใหญ่ผมว่าเน้นพัฒนาระบบไฟฟ้าแต่ไม่ค่อยไปแตะต้องเรื่งโครงสร้าง คือผมแค่แอบๆฝันไว้ว่าซักวันกีต้าร์โปร่ง(โปร่งไฟฟ้า)จะสามารถเซ็ทอัพอะไรได้ง่ายๆเหมือนที่เราเซ็ทอัพกีต้าร์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องถอดประกอบอะไรโดยไม่จำเป็นนี่ล่ะครับ 555555555555

[aomwai]

ผม setup เอง ตลอด ครับ  ง่ายๆ ไม่ยาก  เพียง ขันคอ ความสูงของ สาย ก็ลดลงมา   การปรับแต่ง โดยการ ฝน saddle  ไม่ จำเป็น จะไม่ทำเด็ด ขาด  หากจะทำ ก็จะหาซื้อ อันใหม่มาฝน  เก็บของเดิมไว้ ครับ  ทำไม่ ดีเสียงออก ไม่เท่ากัน ครับ

เรื่องขันคอผมก็ทำเองครับ แต่เรื่องทำความสูงนี่ผมไม่นิ่งพอครับ (ใจไม่เย็นพอ 5555) บางทีก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ไปยุ่งกับ Saddle เลยจริงๆ คือติดนิสัยจากกีต้าร์ไฟฟ้ามาด้วยแหละครับ ขันน็อต 5 วิฯ ได้ละ 555555555555

[aomwai]

goldenslot online น่าสนใจครับ 

บางทีมันอาจจะมีแล้วแต่อาจจะยังไม่รู้ก็ได้ครับ อารมณ์ว่ามาแปปๆแล้วหายไป  5555

[TOM1869]

goldenslot online น่าสนใจครับ 

บางทีมันอาจจะมีแล้วแต่อาจจะยังไม่รู้ก็ได้ครับ อารมณ์ว่ามาแปปๆแล้วหายไป  5555

อันนี้ แกสนใจ slot on line ท่าเดียวครับ

[gttle]

ส่วนตัวผมว่ามันยังไปได้อีกครับ....น่าปรับปรุงเรื่อง bridge และคอ ให้มันปรับแต่ง set up ง่ายพวกนี้ใช้ไปนานๆต้อง set bridge นี่ถ้าหลุดนี่ยุ่งเลย...ตอนนี้คอมีเป็นขันน๊อตแล้ว figer board แบบลอยจากตัวกีตาร์ก็น่าทำ ... ยังมีเรื่อง intonation อีก .... จริงๆเรื่องพวกนี้มันมีคนทดลองทำมาเรื่อยๆแต่มันไม่ mass อย่าง bevel ที่สะโพกให้มันสบายเวลาเล่นก็เห็นมาเป็น 10 ปีกว่าจะเริ่มเห็นใน mass 

[aomwai]

ส่วนตัวผมว่ามันยังไปได้อีกครับ....น่าปรับปรุงเรื่อง bridge และคอ ให้มันปรับแต่ง set up ง่ายพวกนี้ใช้ไปนานๆต้อง set bridge นี่ถ้าหลุดนี่ยุ่งเลย...ตอนนี้คอมีเป็นขันน๊อตแล้ว figer board แบบลอยจากตัวกีตาร์ก็น่าทำ ... ยังมีเรื่อง intonation อีก .... จริงๆเรื่องพวกนี้มันมีคนทดลองทำมาเรื่อยๆแต่มันไม่ mass อย่าง bevel ที่สะโพกให้มันสบายเวลาเล่นก็เห็นมาเป็น 10 ปีกว่าจะเริ่มเห็นใน mass

จริงๆผมว่าตัว Bridge ลงกาวเหมือนเดิมไม่ต้องไปยุ่งมันก็ได้ แต่ส่วนของ Saddle น่าจะมีวิธีทำให้ Adjust ได้ง่ายๆกว่านี้นี่ล่ะครับ 5555

[jewaros]

ความรู้และฝีมืือแบบผมได้แค่ขันคอครับ อยากกว่านี้ส่งช่างทุกตัว 555+
ยอมรับเลยว่ายากจริงเคยขันไปขันมา ปรับ saddle โน่นนี่นั่นตอนจบ เละ
ก่อนทำยังพอเล่นได้ หลังทำ buzz กระจาย เบื่อตอนถอดสายใส่สายด้วยครับ

[guitar_import]

ส่วนตัวผมว่ามันยังไปได้อีกครับ....น่าปรับปรุงเรื่อง bridge และคอ ให้มันปรับแต่ง set up ง่ายพวกนี้ใช้ไปนานๆต้อง set bridge นี่ถ้าหลุดนี่ยุ่งเลย...ตอนนี้คอมีเป็นขันน๊อตแล้ว figer board แบบลอยจากตัวกีตาร์ก็น่าทำ ... ยังมีเรื่อง intonation อีก .... จริงๆเรื่องพวกนี้มันมีคนทดลองทำมาเรื่อยๆแต่มันไม่ mass อย่าง bevel ที่สะโพกให้มันสบายเวลาเล่นก็เห็นมาเป็น 10 ปีกว่าจะเริ่มเห็นใน mass

จัดไปครับ...จะเอาปรับแอคชั่นหรือintonationได้หมดครับ



หรือจะให้มันตั้งสายเองก็ยังได้ จะเอาแบบstandard, drop D,Alternate tuningได้หมดครับ


ปล.เสียงออกแอมป์อย่างแจ่ม แต่เสียงเปล่า...นึกว่ากีตาร์ไม้อัดตัวละสามพันบาทครับ

[gttle]

ส่วนตัวผมว่ามันยังไปได้อีกครับ....น่าปรับปรุงเรื่อง bridge และคอ ให้มันปรับแต่ง set up ง่ายพวกนี้ใช้ไปนานๆต้อง set bridge นี่ถ้าหลุดนี่ยุ่งเลย...ตอนนี้คอมีเป็นขันน๊อตแล้ว figer board แบบลอยจากตัวกีตาร์ก็น่าทำ ... ยังมีเรื่อง intonation อีก .... จริงๆเรื่องพวกนี้มันมีคนทดลองทำมาเรื่อยๆแต่มันไม่ mass อย่าง bevel ที่สะโพกให้มันสบายเวลาเล่นก็เห็นมาเป็น 10 ปีกว่าจะเริ่มเห็นใน mass

จัดไปครับ...จะเอาปรับแอคชั่นหรือintonationได้หมดครับ



หรือจะให้มันตั้งสายเองก็ยังได้ จะเอาแบบstandard, drop D,Alternate tuningได้หมดครับ


ปล.เสียงออกแอมป์อย่างแจ่ม แต่เสียงเปล่า...นึกว่ากีตาร์ไม้อัดตัวละสามพันบาทครับ

ตัวตั้งสายนี่ผมสนใจมากเพราะถ้าเล่นเพลงที่ต้องจูนสายติดๆกันนี่เสียเวลามากครับและสายมันจะเพี้ยนด้วยถ้าหมุนขึ้นลงบ่อยๆเสียเวลามาก...แต่มันยังไม่ทำออกมาขายแบบแพร่หลาย....เรื่อง intonation นี่ยังพอมองข้ามได้ .... อีกอันที่ผมมองว่าจะเป็นทิศทางของตัว acoustic electric คือ effect ในตัวแบบที่เล่นกีตาร์ไม่เสียบแอมป์ก็ได้ซึ่งสะดวกมากเวลาเล่นซ้อมอยู่บ้านไม่ต้องมานั่งเสียบแอมป์มันตอบโจทย์มาก ....ถ้ามีสองอย่างนี่สวรรค์ของสาย fingerstyle

[guitar_import]

ส่วนตัวผมว่ามันยังไปได้อีกครับ....น่าปรับปรุงเรื่อง bridge และคอ ให้มันปรับแต่ง set up ง่ายพวกนี้ใช้ไปนานๆต้อง set bridge นี่ถ้าหลุดนี่ยุ่งเลย...ตอนนี้คอมีเป็นขันน๊อตแล้ว figer board แบบลอยจากตัวกีตาร์ก็น่าทำ ... ยังมีเรื่อง intonation อีก .... จริงๆเรื่องพวกนี้มันมีคนทดลองทำมาเรื่อยๆแต่มันไม่ mass อย่าง bevel ที่สะโพกให้มันสบายเวลาเล่นก็เห็นมาเป็น 10 ปีกว่าจะเริ่มเห็นใน mass

จัดไปครับ...จะเอาปรับแอคชั่นหรือintonationได้หมดครับ



หรือจะให้มันตั้งสายเองก็ยังได้ จะเอาแบบstandard, drop D,Alternate tuningได้หมดครับ


ปล.เสียงออกแอมป์อย่างแจ่ม แต่เสียงเปล่า...นึกว่ากีตาร์ไม้อัดตัวละสามพันบาทครับ

ตัวตั้งสายนี่ผมสนใจมากเพราะถ้าเล่นเพลงที่ต้องจูนสายติดๆกันนี่เสียเวลามากครับและสายมันจะเพี้ยนด้วยถ้าหมุนขึ้นลงบ่อยๆเสียเวลามาก...แต่มันยังไม่ทำออกมาขายแบบแพร่หลาย....เรื่อง intonation นี่ยังพอมองข้ามได้ .... อีกอันที่ผมมองว่าจะเป็นทิศทางของตัว acoustic electric คือ effect ในตัวแบบที่เล่นกีตาร์ไม่เสียบแอมป์ก็ได้ซึ่งสะดวกมากเวลาเล่นซ้อมอยู่บ้านไม่ต้องมานั่งเสียบแอมป์มันตอบโจทย์มาก ....ถ้ามีสองอย่างนี่สวรรค์ของสาย fingerstyle

จัดไปครับ แบบYamaha LL Series เลยครับ สามารถย้ายไปติดกีตาร์ตัวอื่นได้ ลองเอาชื่อ"Tonewood amp"ไปเสริชดูรีวิวในYouTubeดูครับ