Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: ใครพอรู้วิธีหิ้วกีต้าจากเมกาไหมครับ ถ้าไม่อยากload กีต้าลงใต้เครื่อง  (อ่าน 3963 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

earngiznarak1

  • member
  • ***
  • กระทู้: 8
ตามหัวข้อเลยตรับหรือใครมีประสบการณ์หิ้วกีต้า แชร์หน่อยน่ะครับ พอดีผมจะหิ้วกีต้าโปร่งสักตัวหนึ่ง ขอบคุณครับบ

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,166


มีทางเดียวคือซื้อตั๋วให้กีตาร์อีกหนึ่งที่นั่งครับ

guitar_import

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,175
หมดสิทธิ์ครับ ต้องโหลดใต้เครื่องสถานเดียว แล้วก็ต้องหิ้วแบบใส่hard caseเปล่าๆด้วยนะเพื่อโชว์ว่าเราถือกีตาร์ไปจริง ถ้าใส่กล่องกระดาษจะโดนชาร์จเป็นของoversizedทันที ซึ่งมีค่าใช่จ่ายเพิ่มราวๆ$150แล้วแต่policyของแต่ละสายการบิน

แต่ถึงแม้จะโหลดใต้เครื่องก็ไม่มีอะไรน่าห่วงครับ ผมถามกราวน์มาเค้าบอกว่าของพวกกีตาร์มันจะถูกแยกไปรวมพวกกับที่เป็นของเฉพาะ ไม่ได้รวมปะปนกับbaggagesทั่วๆไปครับ

ถ้าเป็นกีตาร์มือหนึ่งจะโดนภาษีครับ แต่ถ้าเป็นของมือสองก็จะไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นหากได้ของมือสองสภาพเหมือนใหม่เอกสารครบมา ควรทำให้มันอยู่ในสภาพที่มันใช้การไม่ได้ครับ เช่นถอดสายออก ถอดลูกบิดออกสัก2-3อัน เอกสารคู่ตัวนี่แยกไปเก็บใส่กระเป๋าเดินทางเราครับ อย่าทิ้งไว้ในเคส

เมื่อถึงสุวรรณภูมิแล้ว พอผ่านด่านตม.ออกมากีตาร์เราจะถูกแยกนะครับ ต้องไปรับที่แผนกของoversized มันจะไม่ไหลออกมารวมกับพวกกระเป๋าเดินทาง แผนกนี้เค้าเป็นห้องอยู่ตรงข้ามกับสายพานกระเป๋าเดินทางที่มันไหลออกมาแหละครับ พอออกมาถึงด่านสุดท้ายคือด่านศุลกากร หากเขาถามก็บอกไปว่าของมือสองซื้อมาซ่อม ถ้าเค้าอยากเปิดก็ให้เค้าเปิดดูครับ เมื่อตอนปีใหม่ผมหิ้วMartinไป2ตัว Gibsonอีกหนึ่งก็ผ่านฉลุยครับ(หนึ่งในนั้นเป็นBrazilian rosewoodด้วย)

earngiznarak1

  • member
  • ***
  • กระทู้: 8
หมดสิทธิ์ครับ ต้องโหลดใต้เครื่องสถานเดียว แล้วก็ต้องหิ้วแบบใส่hard caseเปล่าๆด้วยนะเพื่อโชว์ว่าเราถือกีตาร์ไปจริง ถ้าใส่กล่องกระดาษจะโดนชาร์จเป็นของoversizedทันที ซึ่งมีค่าใช่จ่ายเพิ่มราวๆ$150แล้วแต่policyของแต่ละสายการบิน

แต่ถึงแม้จะโหลดใต้เครื่องก็ไม่มีอะไรน่าห่วงครับ ผมถามกราวน์มาเค้าบอกว่าของพวกกีตาร์มันจะถูกแยกไปรวมพวกกับที่เป็นของเฉพาะ ไม่ได้รวมปะปนกับbaggagesทั่วๆไปครับ

ถ้าเป็นกีตาร์มือหนึ่งจะโดนภาษีครับ แต่ถ้าเป็นของมือสองก็จะไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นหากได้ของมือสองสภาพเหมือนใหม่เอกสารครบมา ควรทำให้มันอยู่ในสภาพที่มันใช้การไม่ได้ครับ เช่นถอดสายออก ถอดลูกบิดออกสัก2-3อัน เอกสารคู่ตัวนี่แยกไปเก็บใส่กระเป๋าเดินทางเราครับ อย่าทิ้งไว้ในเคส

เมื่อถึงสุวรรณภูมิแล้ว พอผ่านด่านตม.ออกมากีตาร์เราจะถูกแยกนะครับ ต้องไปรับที่แผนกของoversized มันจะไม่ไหลออกมารวมกับพวกกระเป๋าเดินทาง แผนกนี้เค้าเป็นห้องอยู่ตรงข้ามกับสายพานกระเป๋าเดินทางที่มันไหลออกมาแหละครับ พอออกมาถึงด่านสุดท้ายคือด่านศุลกากร หากเขาถามก็บอกไปว่าของมือสองซื้อมาซ่อม ถ้าเค้าอยากเปิดก็ให้เค้าเปิดดูครับ เมื่อตอนปีใหม่ผมหิ้วMartinไป2ตัว Gibsonอีกหนึ่งก็ผ่านฉลุยครับ(หนึ่งในนั้นเป็นBrazilian rosewoodด้วย)

ถ้าโดนภาษีแพงไหมครับ แล้วถ้าซื้อมือหนึ่งแล้วถอดสาย ทำให้สภาพเหมือนมือสอง แล้วบอกด่านศุลกากร ว่ามือสองซื้อจากเพื่อน จะได้ไหมฮ่ะ 5555

ปล. อ้ออ อีกอย่างก่อนกลับไทย ผมต้องแว่ะเข้านิวยอร์ค แบบนี้จะยุ่งยากมีปัญหาเยอะไหมฮ่ะ. รบกวนด้วยครับพี่ ๆ พึ่งครั้งแรกเลยย -3-

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,166
ผมหิ้วกีตาร์ใส่ท้องเครื่องบินกลับเมืองไทยมาเป็นเวลาเกือบห้าสิบปีน่าจะหลายสิบตัวก็ไม่เคยต้องเปิดกล่องให้ศุลกากรดู (มีโดนผ่านเครื่อง x-ray บางครั้ง) และไม่เคยเกืดความเสียหายดังนั้นผมว่าคุณไม่ต้องวิตกอะไรครับ

เรื่องการเดินทางถ้าคุณซื้อตั๋วที่เป็น connecting flight มาคุณก็ต้องเช็คอินกระเป๋าครั้งเดียวเท่านั้น ทางสายการบินเขาจะรับผิดชอบเองว่ากระเป๋าของคุณจะมาถึงเมืองไทยพร้อมกับตัวคุณ ตัวอย่างเช่นถ้าคุณบินจาก Pittsburgh มาต่อเครื่องที่ New York และ Doha คุณก็เช็คกระเป๋าที่สนามบิน Pittsburgh แล้วตัวคุณจะไปเดินเล่นที่ไหนระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องก็ตามใจคุณ




ถ้าเอากีตาร์มาตัวเดียวก็แค่แพ็คให้แน่นหนาแล้วใส่กุญแจล้อค ทางสายการบินเขาจะติด bag tag ที่มีรายละเอียดว่าเจ้ากระเป๋าของคุณจะต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ไหนบ้าง โอกาสผิดพลาดก็มีบ้างเป็นธรรมดาแต่ผมยังไม่เคยโดนกับกีตาร์ครับ




ถ้าทริปใหนผมจะเอากีตาร์กลับมาหลายตัวผมจะจะเอาใส่ถุงกอล์ฟมา เมืองไทยเป็นประเทศที่มีคนมาเล่นกอล์ฟมากมายจนศุลกากรเขาชินแล้วครับ ถ้าใสถุงกอล์ฟมานี่ต้องเอาไปเช็คอินและไปรับที่เคาเตอร์ oversized luggage นะครับ


earngiznarak1

  • member
  • ***
  • กระทู้: 8
พี่กฤษณ์ครับนี้หมายถึง มือ 1 ใช่ไหมครับ และก้bagagesปกติ สามารถโหลดได้ 2 ใบ ต่อ 1 ผู้โดยสาร ถ้าเป็นกีต้านับอยู่ใน 2 ใบนี้หรือต้องจ่ายแยกเป็น oversized อะไรทำนองนั้นไหมครับพี่

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,166
ทั้งมือหนึ่งและมือสองครับ ถ้าเป็นประเทศใกล้ๆอย่างสิงค์โปร์บางครั้งผมบินไปเช้าเย็นกลับเพื่อซื้อกีตาร์อย่างเดียวด้วยซ้ำ การเช็คอินก็ควรช้่งเองก่อนว่ากระเป๋าทั้งหมดน้ำหนักไม่เกินที่เขากำหนดซึ่งแตกต่างกันกันออกไป ถ้าเกินไปเยอะก็ขอซื้อน้ำหนักเพิ่มก่อนเดินทางจะดีกว่าไปโดนปรับตอนชั่งที่สนามบิน

guitar_import

  • member
  • ***
  • กระทู้: 2,175
ถ้าจากอเมริกามาไทย เค้าให้โหลดได้2ใบ ใบละ50ปอนด์หรือราวๆ22.67กิโลกรัม+carry-onที่ไม่เกิน17ปอนด์อีก1ใบ แล้วยังจำกัดขนาดด้วยครับ วัดเอากว้าง+ยาว+สูงต้องไม่เกินเท่าไหร่ อันนี้แล้วแต่policyแต่ละสายการบิน แต่เท่าที่ผมดูมาทุกสายการบินจะยกเว้นถุงกอล์ฟและเครื่องดนตรีอย่างกีตาร์ครับ ที่อนุโลมให้เกินขนาดปกติได้เพราะเค้าถือว่าน้ำหนักไม่มาก

hotbigcat

  • member
  • ***
  • กระทู้: 429
  • เพศ: ชาย




รบกวนหน่อยครับ พี่กฤษณ์ ตัวล็อคแบบนี้ซื้อได้ที่ไหนครับ ถ้าไม่มีสายล็อค ใช้เทปกาวพันเคสหลายๆรอบ จะถือว่า oversized  ไหมครับ
ขอบคุณครับ

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,166
สายล้อคผมซื้อที่ฮ่องกงแต่บ้านเราก็น่าจะมีขายครับ ถ้าจะใช้เทปกาวพันก็ต้องแน่ใจว่าสามารถแกะเทปออกโดยใช้มือใด้เพราะศุลกากรเขาอาจขอให้คุณเปิดให้ดู

earngiznarak1

  • member
  • ***
  • กระทู้: 8
สายล้อคผมซื้อที่ฮ่องกงแต่บ้านเราก็น่าจะมีขายครับ ถ้าจะใช้เทปกาวพันก็ต้องแน่ใจว่าสามารถแกะเทปออกโดยใช้มือใด้เพราะศุลกากรเขาอาจขอให้คุณเปิดให้ดู
i

พี่กฤษณ์. พอรู้เรื่องกฏหมายห้ามขนส่งกีต้าข้ามประเทศที่เป็นไม้จำเพาะ rosewood อะไรทำนองนี้ไหมครับ ผมจะโดนสแกนแล้วยึดไหมฮ้ะถ้ามีจิง ๆ

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,166
เคยตอบไปแล้วครับ ถ้าเป็นของใช้ส่วนตัวไม่ถูกยึดแน่นอนครับ

hotbigcat

  • member
  • ***
  • กระทู้: 429
  • เพศ: ชาย
สายล้อคผมซื้อที่ฮ่องกงแต่บ้านเราก็น่าจะมีขายครับ ถ้าจะใช้เทปกาวพันก็ต้องแน่ใจว่าสามารถแกะเทปออกโดยใช้มือใด้เพราะศุลกากรเขาอาจขอให้คุณเปิดให้ดู

ขอบคุณครับ

Like-a-Rolling.Stone

  • member
  • ***
  • กระทู้: 53
ได้ประโยชน์มากเลยครับน้ากฤษณ์และพี่อั้ม คลายความสงสัยผมเกือบหมดเลยครับ  8) 8) 8) ผมอยู่อังกฤษและกำลังจะบินกลับไทยช่วงปลายเดือนสิงหาคมพอดี ...

แต่มีอีกคำถามอีกนิดนึงครับ การที่เราโหลดใต้เครื่อง เราควรใส่ถุงควบคุมความชื้นใน Soundhole ด้วยไหมครับ และ การแพคกีต้าร์ใน Hardcase แบบที่ปลอดภัยที่สุด ควรทำอย่างไรครับน้า .... ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความรู้และคำแนะนำดีๆครับน้า  8) 8) 8)

กฤษณ์

  • member
  • ***
  • กระทู้: 4,166
ได้ประโยชน์มากเลยครับน้ากฤษณ์และพี่อั้ม คลายความสงสัยผมเกือบหมดเลยครับ  8) 8) 8) ผมอยู่อังกฤษและกำลังจะบินกลับไทยช่วงปลายเดือนสิงหาคมพอดี ...

แต่มีอีกคำถามอีกนิดนึงครับ การที่เราโหลดใต้เครื่อง เราควรใส่ถุงควบคุมความชื้นใน Soundhole ด้วยไหมครับ และ การแพคกีต้าร์ใน Hardcase แบบที่ปลอดภัยที่สุด ควรทำอย่างไรครับน้า .... ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความรู้และคำแนะนำดีๆครับน้า  8) 8) 8)

Relative Humidity (RH) ในห้องเก็บสัมภาระ

ในห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่องนั้นจะมีการควบคุมอุณหภูมิและความดันอยู่แล้วเพราะเขาต้องขนสิ่งมีชีวิตอย่างพวกสัตว์เลี้ยง ที่เขาไม่บอกก็คือเขาต้องคุม RH ไม่ให้เกิน 4% เพื่อไม่ให้ air frame ที่เป็นอาลูมีเนี่ยมขึ้นสนิมใด้ (ถ้าเป็นเครื่องรุ่นใหม่อย่าง Boeing 787 หีิอ Airbus A-350 ที่ใช้ composite air frame ซึ่งไม่ขึ้นสนิมเขาจะเพิ่ม RH เป็น 15%)

ดังนั้นถ้ากลัวกีตาร์เสียหายก็ควรใส่ humidifier เพื่อเพิ่มความชื้นใว้ในกล่องแต่ผมไม่เคยใส่เพราะกีตาร์มันอยู่ใต้ท้องเครื่องอย่างมากก็แค่สิบกว่าชั่วโมงครับ ส่วนเรื่องกล่องนั้นถ้าเป็นกล่องตรงรุ่นก็ไม่ต้องทำอะไรแต่ถ้ากล่องหลวมก็เอา bubble wrap มายัดด้านข้างใว้ดีกว่าครับ




Like-a-Rolling.Stone

  • member
  • ***
  • กระทู้: 53
ได้ประโยชน์มากเลยครับน้ากฤษณ์และพี่อั้ม คลายความสงสัยผมเกือบหมดเลยครับ  8) 8) 8) ผมอยู่อังกฤษและกำลังจะบินกลับไทยช่วงปลายเดือนสิงหาคมพอดี ...

แต่มีอีกคำถามอีกนิดนึงครับ การที่เราโหลดใต้เครื่อง เราควรใส่ถุงควบคุมความชื้นใน Soundhole ด้วยไหมครับ และ การแพคกีต้าร์ใน Hardcase แบบที่ปลอดภัยที่สุด ควรทำอย่างไรครับน้า .... ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความรู้และคำแนะนำดีๆครับน้า  8) 8) 8)

Relative Humidity (RH) ในห้องเก็บสัมภาระ

ในห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่องนั้นจะมีการควบคุมอุณหภูมิและความดันอยู่แล้วเพราะเขาต้องขนสิ่งมีชีวิตอย่างพวกสัตว์เลี้ยง ที่เขาไม่บอกก็คือเขาต้องคุม RH ไม่ให้เกิน 4% เพื่อไม่ให้ air frame ที่เป็นอาลูมีเนี่ยมขึ้นสนิมใด้ (ถ้าเป็นเครื่องรุ่นใหม่อย่าง Boeing 787 หีิอ Airbus A-350 ที่ใช้ composite air frame ซึ่งไม่ขึ้นสนิมเขาจะเพิ่ม RH เป็น 15%)

ดังนั้นถ้ากลัวกีตาร์เสียหายก็ควรใส่ humidifier เพื่อเพิ่มความชื้นใว้ในกล่องแต่ผมไม่เคยใส่เพราะกีตาร์มันอยู่ใต้ท้องเครื่องอย่างมากก็แค่สิบกว่าชั่วโมงครับ ส่วนเรื่องกล่องนั้นถ้าเป็นกล่องตรงรุ่นก็ไม่ต้องทำอะไรแต่ถ้ากล่องหลวมก็เอา bubble wrap มายัดด้านข้างใว้ดีกว่าครับ






ขอบคุณมากๆนะครับน้ากฤษณ์ที่ช่วยตอบคำถามผม และเพื่อความสบายใจ เดวผมซื้อถุงควบคุมความชื้นใส่ใน Soundhole แล้วกันครับ ... ส่วน Hardcase ของผมมันยังใหม่ๆอยู่เลยครับ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่เพื่อความมั่นใจ เดวผมจะใส่ Bubble Wrap ยัดไว้ตามช่องว่างก็ดีครับ  8) 8) 8)